ตราบใดที่ยังมีกิเลส ตราบนั้นไม่มีใครหลีกพ้นอาการฟูบ้างแฟบบ้างครับ
เคยฟังเทศน์มาแค่ไหน ปฏิบัติธรรมมามากมายปานใด
ถ้าอารมณ์กระทบมันชนะกำลังใจและปัญญาธรรมของเรา มันก็เอาไปกินอยู่วันยังค่ำ
สำคัญคือเมื่อจิตตก เรา "ทำ" อย่างไรออกมาจากภายใน
ถ้าจิตตกแล้วคิดต่อว่าเราไม่ดี เราไม่เอาไหน จิตที่ตกนั้นก็จะถูกยึดมั่นว่าเป็นจิตเราไปเรื่อยๆ
ต่อเมื่อจิตตกแล้วรู้ว่านั่นก็อาการหนึ่งของจิต นั่นเป็นแค่สภาวะหนึ่งที่เกิดจากเหตุ
ก็จะเริ่มแปรพฤติกรรมเป็นการมองเฉยๆมาจากเบื้องหลัง
พอเริ่มสบายใจว่านั่นไม่ใช่จิตเรา ความคิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่ใช่เรา
ก็พร้อมจะเอาใจไปจ่อกับกรรมฐานที่เคยคุ้น
ก็เห็นเหตุ เห็นปัจจัยของจิตอีก ว่าเพราะจับอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่เป็นโทษ
จิตจึงตั้งมั่น และลืมเรื่องเก่าเรื่องหลังได้
ทำได้เมื่อไหร่ ก็พ้นทุกข์ขณะนั้นๆไปที
ทำไม่ได้เมื่อไหร่ ก็จมอยู่กับทุกข์ขณะนั้นๆร่ำไป
ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/003855.htm?1#1