สายใยแห่งบุญและบาป
พลังอธิษฐาน ‘ขอไม่เจอกันอีก’ ของคู่รักส่วนใหญ่อ่อนแอ
แพ้พลังผูกมัดอันเกิดจากแรงแค้นเข้มข้นที่ช่วยกันก่อ
คู่รักที่จบไม่สวย มักสาปส่ง
อยากทำพิธีกรวดน้ำคว่ำขัน ขอรักกันชาติเดียว
ไม่ต้องมาเหลียวแลกันอีก
ประเภทนี้มักเอาแต่จ้องไปในอนาคตด้วยความเชื่อว่า
จะไม่มีภาพ ‘ชาติหน้า’ ร่วมกันอีก
แต่หาได้สำรวจเข้ามาข้างในว่าขณะนี้
‘ชาตินี้’ ยังมีความคาใจอยู่แค่ไหน
ถ้าชาตินี้ เดี๋ยวนี้ ยังคงขุ่นข้องคาใจ
จะกรวดน้ำคว่ำขัน หรือบอกเทวดาว่า
‘จะไม่ขอเจออีก’ ให้ดังลั่นฟ้าแค่ไหน
อย่างไรก็ต้องเจออีกอยู่วันยังค่ำ เพราะสายใยมันยังอยู่ชัดๆ
กรรมที่ร่วมกันอยู่ ร่วมกันกิน
ก่อพลังผูกพันขึ้นมาเสมอ
และพลังผูกพันอันลี้ลับก็มีอยู่หลายรูปแบบ
จับต้องไม่ได้ แต่ยึดเหนี่ยวใจไว้ต่อกันให้รู้สึกได้
พลังอธิษฐานเดี๋ยวเดียว
อย่างไรก็แพ้พลังทะเลาะทุกวัน
แพ้พลังเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันแรมปี
แพ้พลังที่เคยทำดีทำร้ายใส่กันมาตลอดเส้นทาง
แต่ความไม่รู้ทำให้ตั้งใจคิดอธิษฐานขอไม่เจออีกเลย
ซึ่งก็จะทำให้รูปแบบความสัมพันธ์
ทั้งปัจจุบันและอนาคต เกิดความซับซ้อนขึ้นไปอีก
เจอกันแล้วรู้สึกผูกพัน คุ้นเคย เดี๋ยวนึกรัก เดี๋ยวนึกเกลียด
เดี๋ยวอยากอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวเหม็นขี้หน้าไม่อยากเจอ
เดี๋ยวอบอุ่นใจ เดี๋ยวหนาวสันหลัง เอายังไงแน่บอกไม่ถูก
ความไม่รู้ว่าคิด พูด ทำ อย่างไร จะได้ผลอย่างไรตามมา
คืออวิชชาชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งที่น่ากลัว
พระผู้รู้แจ้งในกฎแห่งกรรมวิบากท่านตรัสไว้ว่า
จะล้างกรรมเป็นอโหสิบริสุทธิ์มีทางเดียว
คือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งคู่ ดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน
มิฉะนั้นแล้ว ถ้าเคยสร้างบุญสร้างบาปไว้ด้วยกัน
อย่างไรก็ต้องพบต้องเจอกันอีกแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว
ส่วนจะเจอดีหรือเจอร้าย
ก็สุดแท้แต่สายใยบุญบาปจะบันดาล!
ดังตฤณ
มิถุนายน ๖๗