งดงาม
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ผลกรรมของการทารุณสัตว์
ในช่วงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๗ นี้ หลายท่านคงได้พบข่าวสะเทือนใจ
เรื่องสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีเพศเมียชื่อหมวยเล็ก ซึ่งกำลังท้อง
ได้ถูกเจ้าของลงโทษโดยการผูกด้วยเชือกไว้ในห้องน้ำ แล้วใช้น้ำร้อนราดลงบนตัว
และถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วย โดยในคลิปวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่า
น้องหมวยเล็กร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าของให้เหตุผลว่าเป็นการลงโทษที่สุนัขตัวดังกล่าวไปขโมยขนมกิน
หลังเกิดเหตุ น้องหมวยเล็กได้มีเจ้าของใหม่รับไปเลี้ยงในบ้านแห่งใหม่
โดยได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ และได้รับการดูแลจากเจ้าของใหม่เป็นอย่างดี
ในปัจจุบัน น้องได้คลอดลูกออกมาแล้ว 3 ตัว และแข็งแรงปลอดภัยดีทั้งแม่และลูก
ต่อมาเจ้าของเดิมได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษ
พร้อมทั้งยอมรับว่าเป็นคนทำเรื่องดังกล่าวจริง
พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ทำไป ไม่ได้เป็นการประชดสามี
แต่เพราะต้องการให้น้องไปอยู่บ้านใหม่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
ประกอบกับมีความเครียดและความกดดันส่วนตัว
แต่ปฏิกิริยาส่วนใหญ่ของผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์
ต่างก็รุมตำหนิเจ้าของเดิมด้วยความรู้สึกโกรธต่อการกระทำดังกล่าว
ซึ่งในเวลาต่อมา สามีของเจ้าของเดิมได้ออกมาให้ข่าวว่า
ตนเองได้ทำการเลิกกับภรรยาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ตัวแทนจากมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ได้เข้าแจ้งความ
เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของเดิมในข้อหาทารุณกรรมสัตว์
ซึ่งเจ้าของเดิมได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
และพร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4614508
https://www.sanook.com/news/9424186/
ในเรื่องของพฤติกรรมการทำร้ายหรือทารุณสัตว์นี้ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว
ยังถือว่าเป็นการผิดศีลปาณาติบาตอีกด้วย และย่อมจะส่งผลกรรมให้แก่ผู้กระทำ
ตาม “จูฬกัมมวิภังคสูตร” (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์)
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสอนว่า
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ เป็นคนหยาบช้า มีมือเปื้อนเลือด ฝักใฝ่ในการประหัตประหาร
ไม่มีความกรุณาในสัตว์ทั้งหลาย เพราะกรรมนั้นที่เขาให้บริบูรณ์ ยึดมั่นไว้อย่างนั้น
หลังจากตายแล้ว เขาจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
หลังจากตายแล้ว ถ้าไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในที่ใด ๆ เขาก็จะเป็นคนมีอายุสั้น
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม
เป็นผู้เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายด้วยฝ่ามือบ้าง ด้วยก้อนดินบ้าง ด้วยท่อนไม้บ้าง
ด้วยศัสตราบ้าง เพราะกรรมนั้นที่เขาให้บริบูรณ์ ยึดมั่นไว้อย่างนั้น
หลังจากตายแล้ว เขาจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
หลังจากตายแล้ว ถ้าไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในที่ใด ๆ เขาก็จะเป็นผู้มีโรคมาก
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=14&siri=35
ในความตอนหนึ่งของ อรรถกถา “มัณฑัพยชาดก”
(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก) ได้เล่าเรื่องหนึ่งว่า
ในอดีตกาล ณ นิคมแห่งหนึ่ง มีพราหมณ์สองคน
ชื่อทีปายนดาบสและมัณฑัพยะดาบส เป็นเพื่อนรักกัน
เที่ยวจาริกไปถึงเมืองพาราณสี อาศัยอยู่ในอธิมุตติกสุสาน
ทีปายนดาบสอยู่ ณ ที่นั้นพอควรแก่อัธยาศัยแล้ว ก็ออกเดินทางไปที่อื่น
แต่มัณฑัพยะดาบสยังอยู่ที่ป่าช้านั้นเอง
อยู่มาวันหนึ่ง โจรคนหนึ่งขโมยของภายในเมือง ถือเอาทรัพย์ออกไป
เมื่อเจ้าของเรือนและเจ้าหน้าที่ตื่นขึ้นรู้ว่าขโมย ก็พากันตามจับ
จึงหนีออกทางท่อน้ำ รีบวิ่งเข้าป่าช้า ทิ้งห่อทรัพย์ไว้ที่ประตูบรรณศาลาแห่งพระดาบสแล้วหนีไป
พวกมนุษย์ที่ตามจับเห็นห่อทรัพย์เข้าจึงคุกคามว่า
ไอ้ชฎิลร้าย กลางคืนเจ้าเที่ยวขโมยเขา กลางวันทำถือเพศดาบสอยู่
ทุบตีแล้วจับตัวนำส่งพระราชา พระราชาไม่ทรงพิจารณาก่อน
รับสั่งให้ราชบุรุษเอาตัวไปเสียบหลาวเสีย
พวกราชบุรุษนำตัวไปเสียบหลาวไม้ตะเคียนที่ป่าช้านั้น แต่เสียบหลาวไม่เข้า
จึงเปลี่ยนเอาหลาวไม้สะเดาเสียบ ก็ไม่เข้าอีก เอาหลาวเหล็กเสียบ ก็ไม่เข้า
ดาบสจึงใคร่ครวญดูบุพกรรมของตน
ลำดับนั้น ท่านก็เกิดญาณเครื่องระลึกชาติได้ ใช้ญาณนั้นใคร่ครวญดูก็ได้รู้แล้ว
ถามว่า ก็อะไรเป็นบุพกรรมของท่าน
ตอบว่า การเอาหนามไม้ทองหลางเสียบแมลงวัน เป็นบุพกรรมของท่าน
กล่าวคือ ในภพก่อนท่านเกิดเป็นบุตรนายช่างไม้ ไปถากไม้กับบิดา
จับแมลงวันมาตัวหนึ่งแล้วเอาหนามไม้ทองหลางมาเสียบ บาปกรรมนั้นเองมาถึงเข้า
ท่านรู้ตัวว่า ไม่อาจพ้นบาปกรรมนี้ได้ จึงได้กล่าวกะราชบุรุษว่า
ถ้าท่านต้องการจะเอาหลาวเสียบเรา จงเอาหลาวไม้ทองหลาง
พวกราชบุรุษก็กระทำตาม เสียบเข้า แล้วก็วางคนซุ่มรักษาอยู่แล้วหลีกไป
พวกที่ซุ่มรักษาอยู่ได้คอยดูผู้ที่จะมาหาดาบส
ครั้งนั้น ทีปายนดาบสคิดว่า เราไม่ได้พบสหายนานแล้วจึงมาสำนักของท่านมัณฑัพยะดาบส
ได้ฟังข่าวในระหว่างทางในวันนั้นเองว่า มัณฑัพยะดาบสถูกหลาวเสียบ
ก็ไป ณ ที่นั้นแล้วยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง
ถามว่า เพื่อน ท่านได้ทำผิดอย่างไรหรือ
เมื่อดาบสนั้นตอบว่า เราไม่ได้ทำผิด
จึงถามว่า ท่านอาจจะรักษาใจตนไม่ให้มีความขุ่นเคืองได้หรือไม่
มัณฑัพยะดาบสตอบว่า เพื่อน ผู้ที่จับเรามาส่งพระราชา เรามิได้มีใจขุ่นเคืองเลย
ทีปายนดาบสกล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ร่มเงาของผู้มีศีลเช่นท่านเป็นความสุขสำหรับเรา
แล้วเข้าไปนั่งพิงหลาวอยู่ หยาดโลหิตที่ออกจากตัวมัณฑัพยะดาบสก็หยดลงต้องทีปายนดาบส
หยาดโลหิตเหล่านั้นหยดลงที่สรีระอันมีสีดุจทอง แห้งดำไปทั้งตัว
ตั้งแต่นั้นมา ท่านจึงได้นามเติมต้นว่ากัณหทิปายนะ ท่านนั่งพิงหลาวนั้นเองตลอดคืนยังรุ่ง
วันรุ่งขึ้น พวกคนรักษาจึงไปกราบทูลเหตุการณ์นั้นแด่พระราชา
พระราชาทรงพระดำริว่า เรื่องนี้เราทำลงไปโดยไม่พิจารณา จึงรีบเสด็จไปที่นั้นแล้ว
ตรัสถามทีปายนดาบสว่า ดูก่อนบรรพชิต เหตุไรท่านจึงนั่งพิงหลาวอยู่
ทีปายนดาบสตอบว่า มหาบพิตร อาตมภาพนั่งรักษาดาบสนี้อยู่
ก็มหาบพิตรทรงทราบแล้วหรือว่า ดาบสนี้ทำผิดหรือไม่ได้ทำผิด จึงได้ลงพระราชอาญาอย่างนี้
พระราชาตรัสบอกว่า ลงโทษไปโดยไม่พิจารณา
พระดาบสจึงกล่าวแก่พระราชาว่า มหาบพิตร
ธรรมดาพระราชาควรจะพิจารณาก่อนแล้วจึงกระทำดังนี้
แล้วแสดงธรรมว่า คฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ถ้าเป็นคนเกียจคร้านแล้วไม่ดีดังนี้เป็นต้น
พระราชาทรงทราบว่า มัณฑัพยะดาบสไม่มีความผิด จึงรับสั่งให้ถอนหลาวออก
พวกราชบุรุษไม่สามารถจะถอนหลาวออกได้
มัณฑัพยะดาบสทูลพระราชาว่า มหาบพิตร
อาตมภาพถึงความพินาศย่อยยับอย่างนี้ก็ด้วยอำนาจกรรมที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน
ไม่มีใครอาจถอนหลาวออกจากตัวอาตมภาพได้
ถ้าพระองค์มีพระราชประสงค์จะพระราชทานชีวิตแก่อาตมภาพไซร้
ก็จงโปรดให้เอาเลื่อยมาตัดหลาวนี้ให้เสมอหนัง
พระราชารับสั่งให้กระทำตามนั้น ภายในร่างกายได้มีหลาวอยู่ภายในเรื่อยมา
ได้ยินว่า ครั้งนั้น ดาบสนั้นเอาหนามทองหลางเรียว ๆ เสียบก้นแมลงวัน
หนามทองหลางติดอยู่ในตัวแมลงวัน แต่แมลงวันไม่ตายเพราะถูกเสียบ
ตายเมื่อหมดอายุของตน ฉะนั้น ดาบสนี้จึงไม่ตาย
พระราชาทรงนมัสการพระดาบสทั้งสองให้ขมาโทษแล้ว
นิมนต์ให้อยู่ในพระราชอุทยาน ทรงบำรุงแล้ว
โดยมัณฑัพยะดาบสในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระสารีบุตรในพุทธกาล
และทีปายนดาบสในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้าในพุทธกาล
https://84000.org/tipitaka/attha/jataka.php?i=271380
จากอรรถกถา “มัณฑัพยชาดก” ข้างต้น ย่อมจะเห็นได้ว่า
แม้บุพกรรมของมัณฑัพยะดาบสในอดีตชาติ
ที่ได้จับแมลงวันมาตัวหนึ่งแล้วเอาหนามไม้ทองหลางมาเสียบ
ยังส่งผลกรรมร้ายแรงถึงเพียงนี้ ดังนั้นแล้ว การทำร้ายหรือทารุณสัตว์
ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำครับ
ในช่วงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๗ นี้ หลายท่านคงได้พบข่าวสะเทือนใจ
เรื่องสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีเพศเมียชื่อหมวยเล็ก ซึ่งกำลังท้อง
ได้ถูกเจ้าของลงโทษโดยการผูกด้วยเชือกไว้ในห้องน้ำ แล้วใช้น้ำร้อนราดลงบนตัว
และถ่ายคลิปวิดีโอไว้ด้วย โดยในคลิปวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่า
น้องหมวยเล็กร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ซึ่งในเรื่องนี้เจ้าของให้เหตุผลว่าเป็นการลงโทษที่สุนัขตัวดังกล่าวไปขโมยขนมกิน
หลังเกิดเหตุ น้องหมวยเล็กได้มีเจ้าของใหม่รับไปเลี้ยงในบ้านแห่งใหม่
โดยได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ และได้รับการดูแลจากเจ้าของใหม่เป็นอย่างดี
ในปัจจุบัน น้องได้คลอดลูกออกมาแล้ว 3 ตัว และแข็งแรงปลอดภัยดีทั้งแม่และลูก
ต่อมาเจ้าของเดิมได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษ
พร้อมทั้งยอมรับว่าเป็นคนทำเรื่องดังกล่าวจริง
พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ทำไป ไม่ได้เป็นการประชดสามี
แต่เพราะต้องการให้น้องไปอยู่บ้านใหม่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
ประกอบกับมีความเครียดและความกดดันส่วนตัว
แต่ปฏิกิริยาส่วนใหญ่ของผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์
ต่างก็รุมตำหนิเจ้าของเดิมด้วยความรู้สึกโกรธต่อการกระทำดังกล่าว
ซึ่งในเวลาต่อมา สามีของเจ้าของเดิมได้ออกมาให้ข่าวว่า
ตนเองได้ทำการเลิกกับภรรยาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ตัวแทนจากมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ได้เข้าแจ้งความ
เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของเดิมในข้อหาทารุณกรรมสัตว์
ซึ่งเจ้าของเดิมได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
และพร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4614508
https://www.sanook.com/news/9424186/
ในเรื่องของพฤติกรรมการทำร้ายหรือทารุณสัตว์นี้ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว
ยังถือว่าเป็นการผิดศีลปาณาติบาตอีกด้วย และย่อมจะส่งผลกรรมให้แก่ผู้กระทำ
ตาม “จูฬกัมมวิภังคสูตร” (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์)
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสอนว่า
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ เป็นคนหยาบช้า มีมือเปื้อนเลือด ฝักใฝ่ในการประหัตประหาร
ไม่มีความกรุณาในสัตว์ทั้งหลาย เพราะกรรมนั้นที่เขาให้บริบูรณ์ ยึดมั่นไว้อย่างนั้น
หลังจากตายแล้ว เขาจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
หลังจากตายแล้ว ถ้าไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในที่ใด ๆ เขาก็จะเป็นคนมีอายุสั้น
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม
เป็นผู้เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายด้วยฝ่ามือบ้าง ด้วยก้อนดินบ้าง ด้วยท่อนไม้บ้าง
ด้วยศัสตราบ้าง เพราะกรรมนั้นที่เขาให้บริบูรณ์ ยึดมั่นไว้อย่างนั้น
หลังจากตายแล้ว เขาจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
หลังจากตายแล้ว ถ้าไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ในที่ใด ๆ เขาก็จะเป็นผู้มีโรคมาก
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=14&siri=35
ในความตอนหนึ่งของ อรรถกถา “มัณฑัพยชาดก”
(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก) ได้เล่าเรื่องหนึ่งว่า
ในอดีตกาล ณ นิคมแห่งหนึ่ง มีพราหมณ์สองคน
ชื่อทีปายนดาบสและมัณฑัพยะดาบส เป็นเพื่อนรักกัน
เที่ยวจาริกไปถึงเมืองพาราณสี อาศัยอยู่ในอธิมุตติกสุสาน
ทีปายนดาบสอยู่ ณ ที่นั้นพอควรแก่อัธยาศัยแล้ว ก็ออกเดินทางไปที่อื่น
แต่มัณฑัพยะดาบสยังอยู่ที่ป่าช้านั้นเอง
อยู่มาวันหนึ่ง โจรคนหนึ่งขโมยของภายในเมือง ถือเอาทรัพย์ออกไป
เมื่อเจ้าของเรือนและเจ้าหน้าที่ตื่นขึ้นรู้ว่าขโมย ก็พากันตามจับ
จึงหนีออกทางท่อน้ำ รีบวิ่งเข้าป่าช้า ทิ้งห่อทรัพย์ไว้ที่ประตูบรรณศาลาแห่งพระดาบสแล้วหนีไป
พวกมนุษย์ที่ตามจับเห็นห่อทรัพย์เข้าจึงคุกคามว่า
ไอ้ชฎิลร้าย กลางคืนเจ้าเที่ยวขโมยเขา กลางวันทำถือเพศดาบสอยู่
ทุบตีแล้วจับตัวนำส่งพระราชา พระราชาไม่ทรงพิจารณาก่อน
รับสั่งให้ราชบุรุษเอาตัวไปเสียบหลาวเสีย
พวกราชบุรุษนำตัวไปเสียบหลาวไม้ตะเคียนที่ป่าช้านั้น แต่เสียบหลาวไม่เข้า
จึงเปลี่ยนเอาหลาวไม้สะเดาเสียบ ก็ไม่เข้าอีก เอาหลาวเหล็กเสียบ ก็ไม่เข้า
ดาบสจึงใคร่ครวญดูบุพกรรมของตน
ลำดับนั้น ท่านก็เกิดญาณเครื่องระลึกชาติได้ ใช้ญาณนั้นใคร่ครวญดูก็ได้รู้แล้ว
ถามว่า ก็อะไรเป็นบุพกรรมของท่าน
ตอบว่า การเอาหนามไม้ทองหลางเสียบแมลงวัน เป็นบุพกรรมของท่าน
กล่าวคือ ในภพก่อนท่านเกิดเป็นบุตรนายช่างไม้ ไปถากไม้กับบิดา
จับแมลงวันมาตัวหนึ่งแล้วเอาหนามไม้ทองหลางมาเสียบ บาปกรรมนั้นเองมาถึงเข้า
ท่านรู้ตัวว่า ไม่อาจพ้นบาปกรรมนี้ได้ จึงได้กล่าวกะราชบุรุษว่า
ถ้าท่านต้องการจะเอาหลาวเสียบเรา จงเอาหลาวไม้ทองหลาง
พวกราชบุรุษก็กระทำตาม เสียบเข้า แล้วก็วางคนซุ่มรักษาอยู่แล้วหลีกไป
พวกที่ซุ่มรักษาอยู่ได้คอยดูผู้ที่จะมาหาดาบส
ครั้งนั้น ทีปายนดาบสคิดว่า เราไม่ได้พบสหายนานแล้วจึงมาสำนักของท่านมัณฑัพยะดาบส
ได้ฟังข่าวในระหว่างทางในวันนั้นเองว่า มัณฑัพยะดาบสถูกหลาวเสียบ
ก็ไป ณ ที่นั้นแล้วยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง
ถามว่า เพื่อน ท่านได้ทำผิดอย่างไรหรือ
เมื่อดาบสนั้นตอบว่า เราไม่ได้ทำผิด
จึงถามว่า ท่านอาจจะรักษาใจตนไม่ให้มีความขุ่นเคืองได้หรือไม่
มัณฑัพยะดาบสตอบว่า เพื่อน ผู้ที่จับเรามาส่งพระราชา เรามิได้มีใจขุ่นเคืองเลย
ทีปายนดาบสกล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ร่มเงาของผู้มีศีลเช่นท่านเป็นความสุขสำหรับเรา
แล้วเข้าไปนั่งพิงหลาวอยู่ หยาดโลหิตที่ออกจากตัวมัณฑัพยะดาบสก็หยดลงต้องทีปายนดาบส
หยาดโลหิตเหล่านั้นหยดลงที่สรีระอันมีสีดุจทอง แห้งดำไปทั้งตัว
ตั้งแต่นั้นมา ท่านจึงได้นามเติมต้นว่ากัณหทิปายนะ ท่านนั่งพิงหลาวนั้นเองตลอดคืนยังรุ่ง
วันรุ่งขึ้น พวกคนรักษาจึงไปกราบทูลเหตุการณ์นั้นแด่พระราชา
พระราชาทรงพระดำริว่า เรื่องนี้เราทำลงไปโดยไม่พิจารณา จึงรีบเสด็จไปที่นั้นแล้ว
ตรัสถามทีปายนดาบสว่า ดูก่อนบรรพชิต เหตุไรท่านจึงนั่งพิงหลาวอยู่
ทีปายนดาบสตอบว่า มหาบพิตร อาตมภาพนั่งรักษาดาบสนี้อยู่
ก็มหาบพิตรทรงทราบแล้วหรือว่า ดาบสนี้ทำผิดหรือไม่ได้ทำผิด จึงได้ลงพระราชอาญาอย่างนี้
พระราชาตรัสบอกว่า ลงโทษไปโดยไม่พิจารณา
พระดาบสจึงกล่าวแก่พระราชาว่า มหาบพิตร
ธรรมดาพระราชาควรจะพิจารณาก่อนแล้วจึงกระทำดังนี้
แล้วแสดงธรรมว่า คฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ถ้าเป็นคนเกียจคร้านแล้วไม่ดีดังนี้เป็นต้น
พระราชาทรงทราบว่า มัณฑัพยะดาบสไม่มีความผิด จึงรับสั่งให้ถอนหลาวออก
พวกราชบุรุษไม่สามารถจะถอนหลาวออกได้
มัณฑัพยะดาบสทูลพระราชาว่า มหาบพิตร
อาตมภาพถึงความพินาศย่อยยับอย่างนี้ก็ด้วยอำนาจกรรมที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน
ไม่มีใครอาจถอนหลาวออกจากตัวอาตมภาพได้
ถ้าพระองค์มีพระราชประสงค์จะพระราชทานชีวิตแก่อาตมภาพไซร้
ก็จงโปรดให้เอาเลื่อยมาตัดหลาวนี้ให้เสมอหนัง
พระราชารับสั่งให้กระทำตามนั้น ภายในร่างกายได้มีหลาวอยู่ภายในเรื่อยมา
ได้ยินว่า ครั้งนั้น ดาบสนั้นเอาหนามทองหลางเรียว ๆ เสียบก้นแมลงวัน
หนามทองหลางติดอยู่ในตัวแมลงวัน แต่แมลงวันไม่ตายเพราะถูกเสียบ
ตายเมื่อหมดอายุของตน ฉะนั้น ดาบสนี้จึงไม่ตาย
พระราชาทรงนมัสการพระดาบสทั้งสองให้ขมาโทษแล้ว
นิมนต์ให้อยู่ในพระราชอุทยาน ทรงบำรุงแล้ว
โดยมัณฑัพยะดาบสในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระสารีบุตรในพุทธกาล
และทีปายนดาบสในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระผู้มีพระภาคเจ้าในพุทธกาล
https://84000.org/tipitaka/attha/jataka.php?i=271380
จากอรรถกถา “มัณฑัพยชาดก” ข้างต้น ย่อมจะเห็นได้ว่า
แม้บุพกรรมของมัณฑัพยะดาบสในอดีตชาติ
ที่ได้จับแมลงวันมาตัวหนึ่งแล้วเอาหนามไม้ทองหลางมาเสียบ
ยังส่งผลกรรมร้ายแรงถึงเพียงนี้ ดังนั้นแล้ว การทำร้ายหรือทารุณสัตว์
ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำครับ