พาเที่ยว เอี่ยวธรรม - ฉบับที่ ๙๒

วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวที่ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ (วัดเล่งเน่ยยี่ ๒) ซึ่งเป็นวัดมหายานจีนที่ตั้งอยู่ย่านบางบัวทองครับ ด้วยความยิ่งใหญ่ทางสถาปัตยกรรมที่ว่ากันว่าจำลองแบบมาจากพระราชวังต้องห้ามของประเทศจีน บวกกับงานจิตรกรรม ประติมากรรม พุทธศิลป์ตามแบบจีนโบราณ โดยทุกๆชิ้นส่วนล้วนแล้วแต่เป็นงานฝีมือของช่างศิลป์จีนต้นตำหรับแท้ ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศจีนครับ พุทธศิลป์จีนโบราณต้นตำหรับแท้ๆตั้งอยู่ที่เมืองไทยเรานี้เอง

พระประธานจะมี ๓ องค์ ตามคติของนิกายมหายานสายนี้ครับ

ได้แก่ พระศรีศากยะมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) พระอมิตตาภพุทธเจ้า และพระไภษ์คุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถยังมีภาพพระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าแกะสลักอยู่รอบพระอุโบสถด้วย

หลังพระอุโบสถเป็นที่ตั้งของ "วิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ" หรือ "บ่วงฮุกโต่ย"

ภายในวิหารแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานองค์พระอมิตาภพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวร และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์

ห้องนี้เป็นส่วนที่ผมรู้สึกชอบที่สุดในวัดครับ เป็นส่วนที่แนะนำเลยครับว่าถ้ามาเที่ยวที่นี่ห้ามพลาดเข้ามาชม "วิหารหมื่นพุทธ" เพราะเมื่อเดินเข้ามาในห้องนี้แล้วรู้สึกสงบร่มเย็นอย่างบอกไม่ถูก ห้องนี้จะมีลักษณะเป็นห้องโถงใหญ่พอสมควร ผนังห้องเป็นสีทองอร่าม เต็มไปด้วยพระพุทธรูปพิมพ์นูน ที่ติดอยู่บนผนังห้องในทุกๆด้าน ดูแล้วละลานตาไปหมดครับ ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างในห้องนี้ ทำให้บรรยากาศเหมาะแก่การนั่งสมาธิเป็นอย่างยิ่งครับ ผมจึงถือโอกาสเดินไปนั่งที่มุมห้อง หลับตาสงบจิต สงบใจอยู่ครู่หนึ่ง ลืมตาขึ้นมาอีกทีจิตใจสดชื่นขึ้นเยอะเลยครับ

ลองมาดูส่วนต่างๆของวัดกันครับ

ภาพจากเว็บ http://hilight.kapook.com/view/28409

ซุ้มประตูทางเข้าวัด

วิหารจตุโลกบาล

พระอุโบสถ

วิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ

พระโพธิสัตว์กวนอิมพันกร

พระอุโบสถ

บานหน้าต่างไม้สักแกะสลักลวดลายจีน

ผมลองเดินดูมุมต่างๆทั้งในและนอกวิหารแล้ว บอกได้คำเดียวครับ ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ นอกจากนี้แล้วยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ผมคงจะกล่าวไม่หมดแน่เพราะทุกๆส่วนล้วนเต็มไปด้วยรายละเอียดที่สวยงาม แสดงให้เห็นถึงความตั้งอกตั้งใจของช่างผู้ที่รังสรรค์งานพุทธศิลป์เหล่านี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระศาสดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยจิตใจที่เคารพนบนอบ

ครั้งหนึ่งในรายการ "ชีพจรโลก" คุณสุทธิชัย หยุ่นเคยมาสัมภาษณ์ท่านพระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (เย็นเชี้ยว) ซึ่งเป็น เจ้าอาวาสวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ว่า "ทำไมถึงต้องสร้างให้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้" ท่านเจ้าอาวาสท่านตอบว่า "เพื่อให้สมพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดช" เพราะวัดแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวาระที่เฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉะนั้นการสร้างวัดแห่งนี้ถวายพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี กตัญญูกตเวทิตา แด่พระมหาบูรพกษัตริย์ไทย ที่คณะสงฆ์จีนนิกายได้เข้ามาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตกาล

เย็นวันนั้นเวลาประมาณห้าโมงกว่าๆ เสียงสวดมนต์ทำวัตรเย็นของเหล่าพระภิกษุแว่วออกมาจากพระอุโบสถ ผมจึงเดินตามเสียงนั้นไปเดินเข้าไปในพระบุโอสถ แม้จะเป็นภาษาจีนแต่ผมก็นั่งฟังอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานสองนานทีเดียวครับ ฟังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจแต่มันเย็นใจดี คำแปลของบทสวดเหล่านั้นก็คงจะประมาณว่าเป็นพระสูตรทางฝ่ายมหายานเพราะเห็นมีพระนามของพระโพธิสัตว์มากมายที่พอจะจับใจความในถ้อยคำภาษาจีนได้ครับ

ถ้าหากศาสนาพุทธเปรียบเสมือนต้นไม้ต้นหนึ่งแน่นอนว่าวันเวลาที่ผ่านไปยาวนานย่อมทำให้ต้นไม้ต้นนี้เติบโตขึ้น แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปมากมายหลากหลายแขนง ตามแต่เหตุปัจจัยให้เป็นไป แม้จะแผ่กิ่งก้านใบออกไปเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วใบไม้เหล่านั้นย่อมต้องร่วงลงมาที่โคนต้นให้ได้

พุทธบารมีแผ่ไปกว้างใหญ่ไพศาลจริงๆครับ

วัดบรมราชาฯเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ ๐๘.๐๐ น. วันจันทร์ ถึง ศุกร์ ปิด ๕ โมงเย็น

ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เปิดถึง ๖ โมงเย็น

แต่ถ้าใครไปไม่ถูก

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดบรมราชาฯ

โทร. ๐-๒๕๗๑-๑๑๕๕

ในวันหยุดสงกรานต์นี้ หากยังไม่ทราบว่าจะพาครอบครัวไปไหน

ผมว่าพาครอบครัวมาชมความงามของพุทธศิลป์จีนโบราณ

โดยที่ไม่จำเป็นต้องบินลัดฟ้าไปถึงประเทศจีนก็ไม่เลวนะครับ

และนี้คือ