Print

สัพเพเหระธรรม - ฉบับที่ ๗๕

เกิดเป็นสัตว์?
กล่องไม้

สมัยก่อนเคยคิดว่า เกิดเป็นสัตว์นี่ดีจัง? วันๆไม่ต้องทำอะไรนอกจากกินกับนอน?

แต่ตั้งแต่เรียนรู้ธรรมะมากขึ้นก็พบว่าเกิดเป็นสัตว์นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักนิด?
และที่ยิ่งกว่านั้น คือ การเกิดไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดีเลย ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม?
การไม่เกิดอีกสิ ที่ดีที่สุด?

ฉันสังเกตดูสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ก็พบว่าวันๆมันไม่มีอะไรทำ? ไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบ?
วันๆมันก็เลยเอาแต่นอนเล่น ดูท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรไปเรื่อยๆ?
บางทีมันก็นอนฝันกลางวัน ก็ฟุ้งซ่านต่อไปอีก?

เห็นแล้วก็สะท้อนใจ ...การเกิดในภพเดรัจฉานนี้ช่างเอื้อให้เกิดในภพภูมิต่ำไปเรื่อยๆเสียจริง เพราะนอกจากจะไม่มีโอกาสสร้างกรรมดีที่มีแรงเหวี่ยงพอจะเกิดในภพภูมิสูงแล้ว การที่วันๆสั่งสมความฟุ้งซ่าน และความหลงไปเรื่อยๆก็ยิ่งปิดโอกาสให้ไม่ได้เกิดเป็นสิ่งที่สูงกว่าสัตว์เดรัจฉานด้วย?

ในขณะที่ฉันกำลังรู้สึกสังเวชใจแทนเจ้าสัตว์เลี้ยงของตัวเองอยู่นั้น พลันก็นึกย้อนมาดูตัวเอง?
?แล้วเราล่ะ???

แม้จะได้เกิดในกายมนุษย์ แต่มนุษย์ส่วนมากก็สั่งสมจิตหลงเอาไว้ต่างกับสัตว์ตรงไหน ถ้าเราไม่หัด ?ตื่น? ให้เป็น และจมอยู่กับจิตหลงไปนานๆ พอตายไปจะไปเกิดเป็นอะไรไม่น่าจะเดายาก...?

คิดได้อย่างนั้นฉันก็ใจหายวาบ??

...จะมัวประมาทอยู่ไม่ได้?
มีโอกาสอันดีได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตให้ดีขึ้นได้ด้วยกรรมปัจจุบันแล้ว?
กระทั่งมีโอกาสจะไม่ต้องเกิดมาเสวยทุกข์สุขเวียนไปเวียนมาอย่างน่าเบื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการภาวนา?
จะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายงั้นหรือ?

พลันฉันก็นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ขึ้นมา?
?หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้?
ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป?
เพราะถึงวันนั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทางไปอีกนานแสนนาน?