Print

สัพเพเหระธรรม - ฉบับที่ ๑๕๐

ปมเชือก

นฤพาน

misc-150

วันนี้มาอ่านนิทานกันสักเรื่อง
นิทานเรื่องนี้แต่งขึ้นสักอาทิตย์ที่ผ่านมา
เป็นสัปดาห์ที่ต้องพาพ่อไปบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จ.ระนอง

ปกติแล้วเวลาบ่ายสองโมง เป็นเวลาที่มีการประชุมสายธรรมะผ่านโทรศัพท์
มีผู้ร่วมสาย 4 คน เพียงเวลา 1 ชม.ในแต่ละวันทำให้จิตใจของเรามีความละเอียดมากขึ้น
เราไม่ทุกข์อย่างที่ควรจะเป็น เราเริ่มรู้จักจิตใจและความเป็นตัวตนของเราได้มากขึ้น
สิ่งที่เน้นเสมอก่อนวางสายคือให้เรามีสติรู้เท่าทันตัวเองอยู่เสมอ

ค่ำคืนนั้นนั่งทบทวนสิ่งที่ได้ยินมาบนลานชมวิวของอุทยานแห่งชาติหงาว
นี่จึงเป็นต้นเรื่องให้เกิดนิทานเรื่องนี้ขึ้น...

“หญิงบ้าคนหนึ่ง นั่งเอาเชือกมัดตัวเอง
เริ่มจากมัดที่ข้อเท้า มัดขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงคอ
มัดแน่นขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก
หญิงบ้าคนนั้นก็ยังไม่คิดหยุดมัดตัวเอง
เพราะเธอคิดว่านี่คือสิ่งที่ควรทำ
ปมแล้วปมเล่าทำให้เธอแสนทรมาน

กระทั่งหญิงผู้หนึ่งผ่านมาและบอกให้หยุด
หยุดเอาเชือกมัดตัวเองเพราะมันทำให้ทรมานและตายได้
หญิงบ้าหันมองด้วยน้ำตาคลอเบ้า
ใครกันหนอมาบอกให้เราหยุดทำในสิ่งที่เราทำอยู่ เขารู้ได้อย่างไรว่ามันทรมาน
หญิงบ้าเริ่มหยุดมัดตัวเอง
แล้วอย่างไรล่ะ แม้หยุดมัดก็ยังหายใจไม่ออก มันแน่นเหลือเกิน
ไม่มีคนสนใจมานานแล้ว หญิงปรานีผู้นี้มาบอกให้หยุดทำไม หญิงบ้าคิด
เธอบอกเรา เราก็หยุดมัดตัวเองแล้ว แต่ยังไม่เป็นอิสระ เพราะยังไม่สามารถแก้ปมเชือกเหล่านี้ได้

หญิงปราณีได้ยินเช่นนั้นจึงเดินเข้ามาบอกวิธีแก้มัดให้ดู
แต่เธอให้เราแก้มัดด้วยตัวเอง เธอได้แต่เพียงยืนดูนิ่งๆโดยไม่เข้ามาช่วย
เธอบอกเพียงว่าการแก้มัดปมแต่ละปมออกได้ ต้องมีสติและความเพียร เพียรในการมีสติ
หญิงบ้าผู้นั้นคิด แค่เพียงสติเท่านั้นหรือที่จะทำให้เราแก้ปมเหล่านี้ได้
นับแต่วันนั้นหญิงบ้าผู้เคยเอาเชือกมัดตัวเอง เริ่มแกะปมแต่ละปมออก
แต่มันยาก ยากจนเริ่มท้อ ในใจเฝ้าแต่บอกให้ตัวเองมีสติ สติเท่านั้นที่จะแก้ปมนี้ออกได้

แล้วในวันหนึ่งด้วยความเพียร เชือกปมแรกก็ถูกคลายออก
สิ่งแรกที่สัมผัสได้ไม่ใช่ความดีใจ แต่เป็นอากาศที่อยู่ภายนอก
อากาศเย็นสดชื่นถึงเพียงนี้ เสียงนกร้องช่างไพเราะ
โลกกระจ่างใสขึ้น หญิงบ้าเริ่มคิดได้ จะมานั่งเอาเชือกมัดตัวเองไปทำไม มันทรมาน
ความอิสระหลุดพ้นจากปมเชือกเหล่านี้สิ คือความสุขที่แท้จริง

จากปมแรกที่แก้ได้ หญิงบ้าผู้นั้นพยายามไม่สร้างปมใหม่ให้เกิดขึ้น
และเฝ้าคอยแก้มัดแต่ละปมออกด้วยความเพียรและมีสติ...”

อ่านแล้วเห็นอะไรบ้างไหม
คิดไปแล้วหญิงบ้าผู้นั้นคือตัวของเรานั่นเอง
ทุกสิ่งที่เป็นอยู่ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของใคร แต่เป็นปมที่เราสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น
มัดจนทำให้หายใจไม่ออก ทุกข์และทรมาน
รู้แล้วหนอการเกิดเป็นทุกข์เช่นนี้ เกิดไม่ได้หมายถึงแค่ภพชาติ
แต่รวมไปถึงทุกครั้งที่เกิดอยากได้ อยากเป็น อยากกิน เกิดโมโห
ทุกอย่างที่เกิดก็เหมือนการผูกปมใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งปม
เมื่อคิดได้เช่นนี้ความอยากก็คลาย เห็นโทษภัยของการผูกปมใหม่ขึ้นมา
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้นเพื่อที่จะไม่หลงผูกปมเชือกปมใหม่อีก
ในเวลาเดียวกันก็เพียรพยายามแก้ปมเก่าที่เคยผูกไว้
แล้วคุณล่ะจะมานั่งผูกปมเชือกใหม่ไปอีกทำไม