Print

สัพเพเหระธรรม - ฉบับที่ ๗๗

?ขี้เกียจสิ สบายดีนะ?
fullMind

?โอ๊ยยยยย ขี้เกียจจัง ขี้เกียจตื่นเช้าจังเลย วันนี้วันอาทิตย์นะ?
ส้มในวัย 17 ปี ที่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ บ่นกับตัวเอง แล้วส้มก็ตัดสินใจ.........
ยอมแพ้ความขี้เกียจ นอนต่อดีกว่า กว่าจะสอบเอ็นทรานส์อีกตั้งเดือนนึงแน่ะ ส้มให้ข้ออ้างกับตัวเอง

ในที่สุด เหลือเวลาสัปดาห์สุดท้ายก่อนสอบ ส้มจึงลุกมาอ่านหนังสือได้สำเร็จ
?ว้า เสียดายจัง พลาดจากอันดับหนึ่งแค่ 5 คะแนนเอง
นี่ถ้าอ่านตั้งแต่แรกคงได้เป็นนิสิตรั้วจามจุรีกับเพื่อน ๆ แล้ว ไม่น่ายอมแพ้ความขี้เกียจเลย?
ส้มบ่นกับตัวเองหลังจากรู้ผล

"โอ๊ย ขี้เกียจจัง ไปเที่ยวพักผ่อนสมองดีกว่า" ส้มในวัย 20 ปี ชวนเพื่อนไปดูหนังกินข้าวก่อนสอบ
คิดว่าเดี๋ยวคืนนี้ค่อยกลับมาอ่าน แล้วส้มก็อ่านหนังสือจนสว่างคาตาในคืนก่อนสอบ ยังโชคดีที่สอบผ่าน

เมื่อมีวิชาที่น่าสนใจ ใจของส้มก็แพ้ความขี้เกียจในการค้นคว้าเพิ่มเติม จึงเรียนพอผ่าน ๆ ไปอย่างนั้น
ในการทำงานส่งอาจารย์ เมื่อพบปัญหา ก็แก้ไขพอให้ส่งได้คะแนน เพื่อหนีปัญหาไปแค่นั้น
ส้มเรียนแบบนี้จนจบปริญญา

เริ่มต้นทำงาน ส้มเลือกงานสบายเงินเดือนน้อยกว่าเพื่อนนิดหน่อย แต่อย่างน้อยก็เลิกงานตรงเวลา
ไม่มีภาระต้องกลับมาคิดต่อที่บ้าน
เวลาอยู่ที่บ้านแม่เห็นว่าส้มโตแล้วจึงให้ส้มช่วยตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในบ้าน แต่ส้มไม่อยากเจอปัญหา
ขี้เกียจที่จะต้องคิดสู้ จึงปล่อยให้แม่กับพี่ชายรับผิดชอบไปเรื่อย ๆ

ส้มในวัย 30 ปีต้องทำงานที่ไม่ก้าวหน้า เงินเดือนไม่ขึ้น เพราะที่ผ่านมาขี้เกียจที่จะทำงานเพื่อพัฒนาตัวเอง
และเมื่ออายุมากขึ้นมีประสบการณ์มากขึ้น งานก็เริ่มเยอะขึ้น ส้มก็ลาออก เพราะท้อแท้ใจที่จะต้องทำงาน
เจอปัญหานิดหน่อยก็คิดหนีด้วยการลาออก


ตอนนี้ส้มต้องอยู่บ้านในสภาพที่ตัวเองไม่ชอบ ในห้องของส้มก็รกรุงรัง น่าอึดอัดเพราะขี้เกียจคิด
และจัดการของใช้ส่วนตัวทั้ง ๆ ที่ไม่พอใจในสภาพเช่นนี้


ที่แย่ที่สุดคือ ส้มเลือกแต่งงานกับคนที่มีนิสัยเฉื่อยชา เพราะตอนคบกันเค้าไม่เคยขัดใจส้มเลย
และเมื่อมีเรื่องอะไรต้องคิดตัดสินใจ เค้าก็ทำแทนส้มทุกอย่าง ส้มรู้สึกสบายเวลาที่อยู่กับเค้า
มีปัญหาบ้างส้มก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะขี้เกียจที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา แต่เมื่อแต่งงานแล้วส้มถึงรู้ว่า
นิสัยของเค้าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตนเองมากทีเดียว

แต่ส้มก็ไม่โทษเค้าหรอก เพราะตัวส้มเองก็เป็นเหมือนกัน

บุญของส้มยังมี ส้มไม่รู้หรอกว่าเป็นบุญจากเรื่องไหน แต่วันนี้ส้มได้พบธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
พระธรรม สอนการพัฒนาจิต พัฒนาตนเอง ส้มมองตัวเองแล้วก็เห็นว่า ที่ผ่านมาส้มตัดสินใจทุกอย่างด้วยความขี้เกียจ จิตใจอ่อนแอ ยอมแพ้กิเลสมาตลอด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปส้มคงเดินไปไม่ถึงจุดหมายแน่

ส้มไม่อยากเดินหลงทางในความทุกข์ความสุขที่ไม่จบสิ้นอีกแล้ว
ส้มจะพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ท่านสอนไว้เรื่องวิธีคิดที่นำไปสู่ความเจริญ และวิธีคิดที่นำไปสู่ความเสื่อม*
ส้มสรุปให้ตัวเองจำง่ายคือ เมื่อจะมีข้ออ้างให้ความขี้เกียจเมื่อใด ก็ทำความเพียรเสียก่อน

ส้มหัดภาวนาตามวิธีที่เรียกว่า ตามรู้ดูจิต ทำให้ส้มเห็นความขี้เกียจเกิดขึ้นในใจบ่อย ๆ
หลายครั้งที่เกิดขึ้นระหว่างทำงาน เมื่อก่อน ส้มไม่ทันรู้ตัว พอขี้เกียจแป๊บเดียว ความเบื่องานการที่ทำอยู่ก็เกิดขึ้นทันที พาลทำให้ใจส้มอ่อนแอ อยากเลิกทำงานเสียตอนนั้น
แต่ตอนนี้เมื่อส้มเห็นมันเกิดขึ้น แล้วก็แค่รู้ไปเฉย ๆ กลับมาทำงานต่อ ไม่ไปหลงตามมันอย่างเคย
ส้มก็ทำงานไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นับจากวันที่ส้มหัดดูจิตก็ผ่านมานานแล้ว ส้มก็ยังพบหน้าเจ้าตัวขี้เกียจอยู่เสมอ บางครั้งก็แพ้มันบ้าง
ถ้าแพ้มันครั้งหนึ่ง ก็จะเห็นตัวมันใหญ่ขึ้นทันที
ส้มต้องรวบรวมกำลังใจใหม่ด้วยการระลึกถึงคำสอนของครูอาจารย์
ระลึกถึงความน่ากลัวที่ว่า ถ้าเกิดตายไปแบบคนนิสัยขี้เกียจ ก็จะเป็นการสะสมนิสัยและพฤติกรรมแบบเดิม ๆ
ยอมแพ้มันครั้งแล้วครั้งเล่าอีก และส้มจะมีบุญพอให้เจอเส้นทางการภาวนาอีกรึเปล่าก็ไม่รู้
ก็พอช่วยให้มีกำลังใจพากเพียรขึ้นมาได้ พอชนะมันได้ครั้งหนึ่ง ครั้งต่อไปก็ไม่ยากที่จะไม่ไหลตามมันอีก

สิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากส้มจะเอาชนะนิสัยขี้เกียจได้แล้ว ยังทำให้ส้มได้รู้จักตัวเองดีขึ้นอีกด้วย
รู้จักว่า ความรู้สึกของคนเรานี้มันไม่เที่ยง มันไม่คงที่หรอก บังคับมันก็ไม่ได้อีก
ส้มไม่อยากให้เกิดความขี้เกียจ มันก็ยังจะขี้เกียจ ส้มไม่อยากที่จะไม่ชอบใจเจ้าตัวขี้เกียจ มันก็ยังคงไม่ชอบอยู่แบบนั้น แต่เผลอ ๆ ความไม่ชอบก็หายไป ความขี้เกียจก็หายไป มันก็ไม่คงที่ บังคับไม่ได้อยู่แบบนี้ แล้วมันจะยังเป็นเรา เป็นของเราอยู่อีกหรือ
(ส้มยังไม่เข้าใจลึกซึ้งถึงขั้นนี้หรอกนะ นี่ว่าตามครูอาจารย์ที่สอนมา)
ทำให้ส้มเข้าใจความเป็นจริงของธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย

ในวันนี้ ส้มก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนขยัน แต่ก็สัญญากับตัวเองว่า ส้มจะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อีก เพื่อน ๆ คนไหนที่เคยเจอเจ้าความขี้เกียจเหมือนส้ม เรามารู้ทันมันไปพร้อม ๆ กันนะคะ สู้ ๆ ค่ะ

------------------------------------------------------------------------
ขอขอบพระคุณแรงบันดาลใจจาก คุณ morning_glory จากกระทู้
http://larndham.net/index.php?showtopic=11759&st=0
และลานธรรมเสวนาค่ะ _/||\_

*พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 15
อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ ยมกวรรค
กุสีตวัตถุสูตร

http://larndham.net/cgi-bin/stshow.pl?book=23&lstart=7089&lend=7127

พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 15
อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ ยมกวรรค
อารัพภวัตถุสูตร

http://larndham.net/cgi-bin/stshow.pl?book=23&lstart=7128&lend=7170