Print

สัพเพเหระธรรม - ฉบับที่ ๑๐๒

แผนสอง
(inochi no poka-yoke)

malimalimalimali



อ่านย้อนหลังได้ที่นี่

ตอนที่ ๑
ตอนที่ ๒
ตอนที่ ๔
ตอนที่ ๕
ตอนที่ ๖
ตอนที่ ๖ ช่วงที่ ๒
ตอนที่ ๖ ช่วงที่ ๓
ตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๑
ตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๒ (กำลังอ่านอยู่ตอนนี้)
ตอนที่ ๘ (ติดตามได้ในตอนต่อต่อไป)

chap07-00

ตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๒
แผนปฏิบัติ ขั้นที่ ๒
- 'ฝึกให้รู้เรา'

 


ประโยชน์จากการรู้
เรา


ทำให้เห็นได้ว่า จริงๆแล้วอะไรที่เราคิดว่าเป็น ของเราน่ะ
เราเลือกให้เกิดแต่สิ่งที่ต้องการไม่ได้
ห้ามไม่ให้เกิดสิ่งที่เราต้องการไม่ได้ 


ทำให้เห็นได้ว่า จริงๆแล้วอะไรที่เราคิดว่าเป็น ของเราน่ะ
พอมันเกิดขึ้น มันก็ไม่เคยอยู่ยงคงกระพันตลอดไป
ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอด เปลี่ยนจากไม่มี เป็นมี จากมีกลายเป็นไม่มี
ตอนที่มีอยู่ก็แปรสภาพไปตลอด ใหญ่ขึ้น เล็กลง เหี่ยวลง เก่าลง แก่ลง
เปลี่ยนแปลงไปตลอดในแบบที่สั่งไม่ได้ ห้ามไม่ได้ 


ทำให้เห็นได้ว่า เราคิดไปเองว่า เรา มีอยู่ และเรามีนั่นนี่เป็น ของเรา
จริงแล้ว ไม่มีอะไรเป็น ของเรา ซักกะอย่าง
มีแต่หลักฐาน “เท็จ ที่เอามาแสดงว่ามี เรา อยู่
เมื่อไม่มีหลักฐานที่ แท้จริง
ที่จะยืนยันแสดงได้ว่า เรา มีตัวตน
แล้วจะไปหาสาระหลักยึดอะไรกับ เรา กันดีล่ะทีนี้?



ตอนนี้ เราอาจจะยอมรับด้วยเหตุผลแล้วว่า

“เรา”นี่ มันขี้ตู่แท้ๆน้อ

แต่ความงง-งง ที่ยังติดอยู่ในใจ ยังไม่ยอมรับสักทีเดียว

มันก็เป็นเพราะว่า ใจเรายังไม่เห็นตามไปด้วย



เพราะถ้ามันง่ายดายขนาดแค่อ่านแล้วก็เห็นทะลุปรุโปร่ง

จับ “เรา” ไปจัดการง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

มันก็จะชิลมากๆ กับการที่จะป้องกันดูแลจิตใจ

ไม่ให้ “เรา” มาบงการชีวิตจิตใจ อย่างทุกวัน ทุกเวลานี้

 

จึงเป็นที่มาว่า
ทำไมแผนสองต้องมีการฝึก“เห็นเรา”
ทำไมแผนสองต้องมีการฝึก “เรียนรู้เรา”

เพื่อให้ “จิตใจ” ได้ฝึกฝนในการเห็นตามจริง

โดยที่ไม่ต้องท่องจำจากสมอง

ไม่ต้องโต้แย้งประลองปัญญากับใครที่ไหน

ในเมื่อเห็นเองแล้ว พิสูจน์เองแล้ว ตามนั้น






เคล็ดไม่ลับในการฝึกรู้ เราให้เก่งขึ้น

รู้ไปเฉยๆ ไม่ต้องดัก ไม่ต้องเดา

รู้ไปเฉยๆแล้วจะเห็นง่ายกว่า
เหมือนเวลาถ้าดูหนังแล้วคอยนั่งเดา นั่งดักมุขว่ามันจะไปทางไหน
มันก็ผิดบ้าง ถูกบ้าง เฉียดถูกบ้าง
พอมีที่เดาถูกก็นึกว่าเก่ง ที่ไหนได้
พลาดสังเกตช็อตเด็ดไปตั้งเยอะ เพราะมัวแต่นั่งดักสิ่งที่คาดเดาไว้
ควรจะดูตามที่มันเป็นไปก่อน
ถ้าฉากไหนเกิดความพยายามจะเดาขึ้นมา ก็ให้รู้ทันไว้
ความพยายามจะเดามันจะจ๋อยๆไป ไม่กล้ารบกวนการดูหนังฉากนั้น
ถึงแม้ตอนฝึกรู้แรกๆจะมองไม่ค่อยเห็น เพราะเราไม่ชินที่จะดู
ไม่ต้องพยายามเร่งสีเร่งวุ้น นอกจากพยายามฝึกให้บ่อยๆก็พอ



chap07-07



รู้ไปทีละอย่าง
อาจจะมีหลายๆอย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
เช่น โกรธ เท้ากระทืบ ใจที่เหมือนเป็นลูกไฟ ปากที่เตรียมพ่นคำด่า
ไม่ต้องไปซีเรียสว่าจะเก็บทุกอย่างให้ได้ทุกเม็ดในเวลาเดียวกัน
โฟกัสไปที่อย่างใดอย่างหนึ่งที่เห็นได้ เช่น อารมณ์โกรธ
เข้าใจและสังเกตให้รู้เรื่องก็พอ
เหมือนทีวีที่แสดงภาพทีได้หลายๆช่อง
เราก็ต้องนั่งดูช่องใดช่องหนึ่งเป็นหลักอยู่ดี ไม่งั้นก็ดูไม่รู้เรื่อง


chap07-08



รู้แล้วก็อย่าไปอิน
อินเมื่อไหร่ แปลว่าเราเผลอวิ่งไปตามคำสั่งบัญชาของ เรา อีกแล้ว
แต่หลายๆครั้งก็ห้ามไม่ได้
แหม...ก็เรื่องนู้นเรื่องนี้มันน่าเข้าไปอินจริงๆนี่นะ
นางเอกก็โง่ซะจนอยากช่วยนางร้ายตบด้วยหนามทุเรียน
สิ่งแรกที่จะทำให้ออกจากการอินได้
นั่นก็คือ รู้ตัวว่า อิน เข้าไปแล้ว
ก็จะทำให้กระโดดกลับออกมาเป็นคนสังเกตการณ์ได้เหมือนเดิม
พอรู้ตัวได้ว่า อิน บ่อยๆ ก็จะ เผลออิน น้อยลงเอง
ถ้ามันไม่ค่อยมีพัฒนาการในการรู้เท่ากันการอิน
ให้เพิ่มพลังในการรู้ทันตามแบบที่ถนัด
เช่น นั่งสมาธิ ถักโครเชต์ เดินจงกรม ปั้นหม้อ ฯลฯ

chap07-09



ขยันไว้ก่อน แผนสองสอนไว้
เพราะยิ่งขยันดู ก็จะยิ่งเห็นชัด เห็นเร็ว รู้ชัด รู้เร็ว
ไม่ต่างอะไรกับการขยันเรียน ขยันทำงาน
ที่ยิ่งทำมาก ก็ยิ่งทำได้อย่างคล่องแคล่ว แม่นยำ
อาจจะดูผิด ดูพลาด ไปบ้าง ซึ่งก็เป็นธรรมชาติ
การบ้านเลขเรายังเคยทำผิดมาเลย
งบดุลเอย ป้ายราคาสินค้า เราก็ดูพลาดมาแล้ว
การเรียนรู้เราก็มีผิดมีพลาด หลงผิด เผลอผิด ได้เหมือนกัน
อาจจะใช้เวลานานในการจะเห็นความแตกต่างบีฟอร์แอนด์อาฟเตอร์
หรืออาจจะใช้เวลาไม่เกินสัปดาห์ก็เริ่มเห็นผลแล้ว
แค่ขอให้เริ่มทำ และขยันเข้านะ กัมบัตเตะ!

chap07-10



การรู้
เรา ไม่ได้ทำให้บินได้!
อาการที่อาจจะเกิดกับใครหลายๆคน
เมื่อเรียนรู้ที่จะดู เห็น สังเกต รู้ เรา ไปเรื่อยๆ
นั่นก็คือ อาการที่รู้สึกว่า แผนสองมันเวิร์คจริงๆด้วยวุ้ย!
และนั่นอาจจะทำให้เรารู้สึกว่า
เราเหนือกว่าคนที่เขาไม่มีแผนสอง หรือเพิ่งเริ่มใช้แผนสอง
เราโชคดีกว่าคนอื่น เราดีกว่าคนอื่น มีอะไรมากกว่าคนอื่น
ซึ่งอาจจะออกมาในรูปแบบที่ ทำให้อยากช่วยคนอื่นให้ขึ้นมาได้เท่าเรา

หรือเลิกเสวนาเลิกคบกับคนที่อยู่คนละชั้นกับเรา
ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นมา
ก็ขอบอกว่า โถ่... พี่โดน เรา หลอกใช้อีกแล้วล่ะ
นับตั้งแต่เกิดความคิดว่า เราเป็นงั้น คนอื่น เป็นงี้
มันแปลว่าเรากำลังช่วย เรา มันยืนยันว่ามันมีตัวตน อีกแล้ว!
กลับมาที่สภาพโต๊ะโล่งๆ ไม่มีเทียนแก้วประดับ แจกันหรูๆ ด่วนเลย!

chap07-11



เคว้งคว้างอย่างน่ากลัว ไม่อยากทำต่อเลย
การที่ตามดู เรา ตามรู้ “เราไปสักพัก
อาจจะทำให้เกิดอาการเคว้งคว้าง
รู้สึกน่ากลัว เมื่อได้เห็นว่า แม้แต่ตัว เรา ที่จะยืนบนโลกนี้ ยังไม่มี!
ให้นึกถึงหนังผีไทยๆ
เวลาจะไล่ผีไปผุดไปเกิด ก็เอาข้าวสารเสกปาใส่
ผีก็จะกรีดร้องกรี๊ดๆ ดิ้นทุรนทุราย ไม่อ๊าววว ชั้นไม่ป๊ายยย
เรา ก็เช่นกัน
จะให้มันยอมรับว่ามันไม่มีสาระง่ายๆ
ทั้งๆที่มันควบคุมเราได้มาตลอดน่ะเหรอ?
ไม่มีท้างงง กรี๊ดๆๆ ชั้นมีตัวโต๊นนนน
วิธีแก้ก็คือ พอเคว้งคว้าง ก็ให้รู้ตัวว่า ความรู้สึกเคว้งคว้างมันเกิดขึ้นแล้ว
เดี๋ยวก็หายเคว้งคว้างเองไปตามธรรมชาติของมัน

chap07-12

chap07-13