Print

สัพเพเหระธรรม - ฉบับที่ ๑๐๑

แผนสอง
(inochi no poka-yoke)

malimalimalimali



อ่านย้อนหลังได้ที่นี่

ตอนที่ ๑
ตอนที่ ๒
ตอนที่ ๔
ตอนที่ ๕
ตอนที่ ๖
ตอนที่ ๖ ช่วงที่ ๒
ตอนที่ ๖ ช่วงที่ ๓
ตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๑ (กำลังอ่านอยู่ตอนนี้)
ตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๒ (ติดตามได้ในตอนต่อต่อไป)
ตอนที่ ๘ (ติดตามได้ในตอนต่อต่อไป)

chap07-00

ตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๑
แผนปฏิบัติ ขั้นที่ ๒
- ฝึกที่จะ"รู้เรา"

การที่จะจัดการกับ "เรา"
เพื่อไม่ให้มันมาทำความเดือดเนื้อร้อนใจได้
การ "เห็นเรา"ขึ้นมาได้ เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสุดสุด

แต่แค่ "เห็นเรา" เท่านั้น มันไม่ยังไม่จบขั้นตอน

ถ้าเพิ่งเริ่ม "เห็นเรา" ก็อาจจะงง-งง
เพราะ "เห็นเรา" ก็ว่าเป็นเรื่องใหม่มากแล้ว
นี่"เห็นเรา" ก็ยังไม่พอ ยังไม่จบวิธีการอีก

การ "เห็นเรา"
เป็นเหมือนการที่เราจะเห็นทิศทางไปสู่เป้าหมาย
แต่เรายังไม่เห็นวิธีการไปสู่เป้าหมาย
เป็นเหมือนการที่เราเห็นวุ้นใบเตยและแม่พิมพ์แล้ว
แต่เรายังไม่เห็นวิธีทำเพื่อจะให้ได้วุ้นใบเตยมากลั้วคอ

ขั้นตอนต่อไปที่จำเป็นต้องมีก็คือ
มันต้อง "รู้เรา" ด้วย
เพื่อจะได้ "จัดการ" กับ "เรา" ได้อย่างถูกต้อง

เมื่อคราวกองทัพจะจับศึก
ตำราพิชัยยุทธยังมีสอนเลยว่า
"รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง"

การที่เห็นข้าศึกปุ๊บ ก็เอะอะจะวิ่งเข้าไปฟันปั๊บ
มันจะดูเป็นการต่อสู้แบบหลับหูหลับตาเอามันกันเกินไป

ถ้าเรามีแต่ดาบ แต่ไม่รู้ว่าอีกข้างมีปืนกล
บุกเข้าไปดุ่ยๆ นึกว่าจะฟันต่อฟัน
ก็คงจะโดนปืนกลตายเรียบร้อยโรงเรียนจีนซินไฉฮั้วแหงแก๋

เราต้องเรียนรู้ข้าศึกในทุกๆด้าน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี ความรู้ ยุทโธปกรณ์ ที่เขามี
วัฒนธรรม แผนการรบ แม่ทัพ กองกำลัง กำลังใจ
รวมไปถึงสรุปจุดแข็งจุดอ่อนที่ข้าศึกมี

chap07-01

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อเราเห็นทิศทางไปสู่เป้าหมาย
เราก็ต้องศึกษาเรียนรู้เส้นทางนั้นๆ
ไม่ใช่เอารถไปโดยที่ไม่รู้ว่าบนเส้นทางนั้นมีทะเลคั่นอยู่

เมื่อเราเห็นวุ้นใบเตยและแม่พิมพ์แล้ว
เราก็ต้องเรียนรู้ว่าวุ้นใบเตยทำมาจากวัตถุดิบอะไร แม่พิมพ์ใช้อย่างไร

เราจึงจะทำวุ้นใบเตยได้

 

หลังจากที่เราผ่านการฝึก เห็น "เรา" มาแล้ว
เพื่อให้เห็นว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อ "เรา" เกิด
ก็ต้องลงมือศึกษากัน เพื่อจะได้รู้ "เรา"
โดยอาศัยการรู้ "เรา" 4 ช่องทางนั้นแหละ

chap07-02

 

การฝึกให้รู้ "เรา" ทางร่างกาย

 

 

เราได้เรียนรู้ที่จะ "เห็นเรา" จากการตามสังเกตดูทางร่างกายไปแล้ว

เราก็มาเรียนรู้สิ่งที่เราเห็นจากร่างกายกันต่อไปดีกว่า

 

 

อยากรู้นักว่า

เรื่องเกี่ยวกับร่างกาย 4 เรื่องต่อไปนี้

ร่างกาย

อิริยาบถ

สิ่งที่ผ่านร่างกายเข้ามา

สิ่งที่ผ่านออกจากร่างกาย

ที่เราเห็นว่าเป็นของไอ้เจ้า "เรา" เนี่ย

มันมีความน่าเกรงขามอะไรอยู่บ้าง

เราถึงได้ต้องทำตามคำสั่งเพื่อร่างกายของ "เรา" อยู่เรื่อย

เราถึงคิดว่า ไม่มีเหตุผลจะขัดคำสั่งของ "เรา"

 

 


ตัวร่างกาย ที่เราเห็นซ้ำเห็นซาก ว่าเป็นของเรา
แขน ขา หน้า หนัง เอ ทำไมมันเหี่ยวลงอีกแล้ว ไม่อ๊าววว
เดี๋ยวหน้ามัน เดี๋ยวเป็นสิว เดี๋ยวฝ้ามา เดี๋ยวกระบุก ไม่ได้เชิญสักนิด!
ถึงแม้จะมีเทคโนโลยี IPL เอย ฉีดยาทำให้ตัวซีดเผือกเอย ศัลยกรรมเอย
มันก็ไม่ได้ถือเป็นการป้องกันให้เกิดขึ้นอีกสักหน่อย
แถมมันก็ไม่ได้เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกด้วย

โพสท่าร่างกาย ที่เราเห็นว่า เราเป็นคนยืน เป็นคนนั่ง เป็นคนเดิน
อยากอยู่ท่าไหนนานๆ ก็ไม่ได้ ปวดเมื่อยตายชัก
ขี้เกียจเปลี่ยนท่าก็ไม่ได้ เดี๋ยวเหน็บกิน ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

ลมหายใจ น้ำ อาหาร ที่ผ่านร่างกายเข้ามา
พอผ่านเข้ามามันก็แปรสภาพ แล้วก็ออกไปทางใดทางหนึ่ง
อ็อกซิเจนเข้ามา กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ตอนออกไป
อยากปล่อยลมหายใจอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องสูดเข้า
แม้ว่าจะมีใครแอบตดอยู่แถวนั้น
อาหารจะหรูเหลาหรือเคล้าควันรถ ก็ต้องถูกย่อย แล้วก็กลายเป็นอุนจิหึ่งๆ
อยากจะเก็บอาหารแพงๆให้คงสภาพเดิมนานๆในตัวก็ไม่ได้อีก ว้า!

เหงื่อไคล ขี้มูก อุนจิ ที่ผ่านร่างกายออกไป
จะห้ามไม่ให้ผลิตก็ไม่ได้ จะห้ามไม่ให้ปล่อยออกก็ไม่ได้
ชาติตระกูลไฮโซอย่างไร ก็สั่งเปลี่ยนสีอุนจิ ไม่ได้
มันขยะแขยงเหม็นตุ่ยอย่างไร มันก็ต้องเป็นไปแบบนั้น

เอ...ดูไปดูมา

ทั้ง 4 เรื่อง ที่เกี่ยวกับร่างกายนี่

ก็ไม่เห็นมีเรื่องไหนที่เจ้า "เรา" มันจะเข้าไปบังคับได้เลย

มันเป็นของ "เรา" ภาษาอะไรกัน

ไม่เชื่อฟัง "เรา" สักอย่าง

เปลี่ยนแปลงอะไรไปตามเรื่องของมันไม่ปรึกษาใคร

ไม่เห็นจะแคร์ "เรา" สักนิด

 

งานนี้ เห็นที่ "เรา" จะขี้ตู่ว่าร่างกายเป็นของมัน!

 

 

 

chap07-03

การฝึกให้รู้ "เรา" ทางความรู้สึก

 

 

เราได้เรียนรู้ที่จะ "เห็นเรา" จากการตามสังเกตดูความรู้สึกไปแล้ว

ทีนี้ลองมาทำความรู้จักกับความรู้สึกกันดู

 

ความรู้สึกเป็นสุข

ดูไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่า เดี๋ยวก็สุขมาก เดี๋ยวก็สุขน้อย เดี๋ยวก็น้อยกว่าเมื่อกี๊

เดี๋ยวอยู่ๆก็หายแว้บไปเลย บางทีก็หายไปน้านนาน

"เรา"อยากมีความสุขมากๆ ก็ไม่มากอย่างที่อยากได้สักที

"เรา"อยากให้ความสุขที่มีมันไม่หายไปไหน ก็ไม่เห็นจะบังคับได้ เฮ้อ!

 

ความรู้สึกทุกข์

ทุกข์ก็เช่นกัน เดี๋ยวก็น้อย เดี๋ยวก็มาก เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็มา

"เรา"อยากไม่มีความทุกข์ ก็ทำไม่ได้ ห้ามยังไงมันก็ยังจะมา

"เรา"อยากให้ความทุกข์ที่เกิดมันรีบๆหายไป

มันก็เอ้อระเหยลอยชาย ติดหนึบอยู่กับ"เรา" ไม่ไปไหนสักที

 

ความรู้สึกเฉยๆ

บางทีก็ชินชาซะอย่างงั้น บางทีก็เอียงไปทุกข์บ้าง สุขบ้าง

"เรา"กำกับไม่ได้ว่าให้มันไปทิศทางไหน มันไปของมันเอง

"เรา"อยากจะรู้สึกเฉยๆในเรื่องที่ไม่อยากทุกข์ ก็ทำไม่ได้

 

 

 

 

เอ...ดูไปดูมา

ความรู้สึกทั้งหลายที่เกิดขึ้นเนี่ย

ก็ไม่เห็นมีเรื่องไหนที่เจ้า "เรา" มันจะเข้าไปบังคับได้เลย

"เรา" อยากจะสุข สุขมันก็ไม่รู้ไม่ชี้ อยากมาก็มา อยากไปก็ไป

"เรา" อยากไม่ทุกข์ ทุกข์ก็ไม่รู้ไม่ชี้ อยากมาก็มา อยากไปก็ไป

"เรา" อยากเฉยๆ เฉยๆก็ไม่รู้ไม่ชี้

อยากแปรเป็นสุขก็แปร อยากแปรเป็นทุกข์ก็แปร

เปลี่ยนแปลงอะไรไปตามเรื่องของมันไม่ปรึกษาใคร

ไม่เห็นจะมาบอกบท "เรา" ก่อนสักนิด สคริปท์ก็ไม่มีให้!

 

"เรา" ขี้ตู่ว่าความรู้สึกเป็นของมัน...อีกแล้ว!

 

 

chap07-04

 

 

 

 

 


การฝึกให้รู้ "เรา" ทางลักษณะของใจ

 

 

ตายแล้ว มาครึ่งทางแล้ว ผิดหวังกับเจ้า "เรา" จริงๆเล้ย

ขี้ตู่ว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นของมัน หวังว่ามันจะไม่ขี้ตู่อีกนะ!

 

ลักษณะใจเป็นสุข

เดี๋ยวมันก็พองโต สดใส  เดี๋ยวมันก็หายไป

"เรา" อยากให้อยู่นานๆกว่านี้ก็ไม่ได้

"เรา" อยากให้เป็นสามเวลาหลังอาหารก็ไม่ได้

 

ลักษณะใจที่อยาก

ไม่เคยจะบอกได้ว่าให้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่

อยู่ๆก็นึกอยากหม่ำจิ้มจุ่มขึ้นมา แล้วเดี๋ยวก็อยากหม่ำพิซซ่าแทน

เดี๋ยวก็เห็นใจที่อยากก็เกิดขึ้น เดี๋ยวก็จุ้มปุ๊ก เดี๋ยวก็หายไปซะงั้น

บท "เรา" จะอยากให้ความอยากไม่เกิด มันก็อยาก ใครจะทำไม?

 

ลักษณะใจที่โกรธ

เดี๋ยวก็ร้อนวูบวาบ เดี๋ยวก็ร้อนนานเป็นซาวน่า เดี๋ยวก็ดับไปไม่เหลือซาก

"เรา" คิดว่าจะทำให้เย็นลงได้ด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่น

แล้วเราก็พบว่า "เรา" ทำไม่ได้หรอก ต้องให้ไฟมันดับไปเอง

แล้วไฟจะลุกพรึ่บพรั่บอีกเมื่อไหร่ก็บอกไม่ได้ จะมาก็มา น้ำท่าไม่ได้เตรียม

 

 

 

ไม่ต้องจาระไนลักษณะใจทั้งร้อยแปดพันเก้า

ก็รู้แล้วว่า ตานี้เข้าอีหรอบเดิมอีกแล้ว...

ลักษณะใจต่างๆ มันจะอยู่หรือไป จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิด

แม้ว่าคนเราจะมีกลยุทธ์นู่นนั่นนี่

ในการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ลักษณะใจเช่นนี้

จนคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมลักษณะใจแบบต่างๆได้

จะให้มันเกิด คงอยู่ จะให้มันหายไป เมื่อไหร่ก็ได้

 

แหม ขอหมั่นไส้หน่อยเถอะ

ถ้าคิดว่าควบคุมได้ จะมีคนกระจองอแง คร่ำครวญ ล้นโลกอยู่ตอนนี้เหรอ?

 

ก็โดนหลอกอีกแล้วสิ "เรา"

ขี้ตู่ได้ลงคอแม้แต่กับตัว "เรา" เองนะเนี่ย!

 

 

chap07-05

การฝึกให้รู้ "เรา" ทางพื้นเพดั้งเดิม

 

 

โต๊ะตัวนั้น...

ในบทที่แล้ว ที่เราลองฝึก "เห็นเรา" ดู
เพื่อให้เห็นชัดในสถานการณ์แบบต่างๆ ทั้งแบบมีและไม่มี

ถ้าไม่มี ไม่มีอะไรบ้าง แล้วถ้ามี มีอะไรบ้าง

ก่อนที่จะมีของเต็มโต๊ะ ก่อนจะมีผ้าปูโต๊ะ มีแจกัน คราบสกปรก หยากไย่

ก็คือโต๊ะล้วนๆ

พอเอาสรรพสิ่งที่กองบนโต๊ะออกไป ปัดหยากไย่ เช็ดคราบสกปรกออก

เราก็จะเห็นว่าโต๊ะล้วนๆเป็นอย่างไร

 

โต๊ะตัวนั้น ตอนโล่งๆ เป็นเช่นนั้น

แล้วก็มีแจกัน เชิงเทียน

แล้วเดี๋ยวแจกันก็เอาออก เอาผ้าปูโต๊ะทับ
แล้วเดี๋ยวก็รื้อทุกอย่างออกหมด เหลือแต่คราบสกปรก

แล้วเดี๋ยวก็เช็ดคราบสกปรก จนเหลือแต่โต๊ะล้วนๆ

แล้วอีกเดี๋ยวเดียวก็กลับมาเป็นโต๊ะรกๆใหม่

สลับสถานการณ์ไปๆมาๆอย่างนี้ตลอดเวลา

 

เดี๋ยวก็มี เดี๋ยวก็ไม่มี

เดี๋ยวก็มีอย่างนั้น เดี๋ยวก็มีอย่างนี้
chap07-06

 

 

 

 

 

 

ก่อนที่จะมีการเดิน ก็ไม่มีการเดิน

ก่อนที่จะมีความอยากเกิดขึ้น ก็ไม่มีความอยาก

ก่อนที่จะมีความโกรธเกิดขึ้น ก็ไม่มีความโกรธ

ก่อนที่จะมีความซึมเซา ก็ไม่มีความซึมเซา

ก่อนที่จะมีความลังเลสงสัย ก็ไม่มีความสงสัย

ก่อนที่จะมีความคิดว่านี่ขาว นี่ดำ ก็ไม่มีขาว ไม่มีดำ

ก่อนที่จะมีความคิดว่านี่สูง นี่ต่ำ ก็ ..........................................................

ก่อนที่จะมีความคิดว่านี่เด็ก นี่ผู้ใหญ่ ก็ ....................................................

ก่อนที่จะมีความคิดว่านี่"เรา" นี่"เขา ก็......................................................

(ลองเติมคำในช่องว่างดูนะ)

 

 

พออะไรต่อมิอะไร

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางร่างกาย ความรู้สึก ลักษณะใจ

มันผุดขึ้น เติบโต คงอยู่

จากสภาวะโต๊ะโล่งๆ ก็กลายเป็นสภาวะที่โต๊ะไม่โล่งซะแล้วขึ้นมา

เมื่อเรื่องทางร่างกาย หรือความรู้สึก หรือลักษณะใจ หมดไป

มันก็กลับเข้าสู่สภาวะโต๊ะโล่งก่อนหน้าที่ไม่มีเจ้าพวกนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง

จะเห็นได้ว่า มันก็สลับกันเกิดขึ้น มีอยู่ หมดไป เป็นระลอกๆ

แม้แต่ความรู้สึกนึกคิดว่านี่เป็น "เรา" นี่เป็น "ของเรา"

ก็เกิดขึ้น คงอยู่ และหมดไป แล้วก็มาใหม่ เป็นระลอกๆเช่นกัน

และเช่นเดียวกัน มันบังคับไม่ได้ มันเป็นไปอย่างนั้นเอง

ดูไปดูมา

"เรา" นี่ไม่ยักกะมีอะไรเป็นของมันเลยนะเนี่ย

ขี้ตู่เอาอะไรต่อมิอะไรมาเป็นของตัวเองชัดๆ

 

...

 

เอ๊ะ!

แม้แต่ตัวมันเอง มันก็ยังสั่งให้เกิดสั่งให้ดับไม่ได้

 

อ้าว เฮ้ย!

ขนาดตัวมันเอง ยังไม่ใช่ของมันเลย นี่หว่า...

 

กรี๊ดดดด...!!!

 

 

plan-chap7