Print

สัพเพเหระธรรม - ฉบับที่ ๘๘

สำออย
กล่องไม้

ครั้งหนึ่งฉันฟังซีดีของหลวงพ่อ ได้ยินท่านพูดว่า

"ผู้หญิงเวลามีประจำเดือนแล้วปวดท้องมาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะสำออย
ยกเว้นบางคนที่ผิดปกติจริงๆนั่นอีกเรื่องหนึ่ง"

ฉันเองไม่ค่อยจะสำออยเวลาปวดประจำเดือน เลยนึกตามไม่ค่อยออก
แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็มีโอกาสได้สังเกตความสำออยของตัวเอง
เป็นกรณีอื่นไม่ใช่เรื่องปวดประจำเดือนหรอกนะ

..............

ปกติฉันจะออกกำลังกายที่ฟิตเนส
เน้นไปวิ่งสลับเดินบนสายพานราวๆสี่สิบนาทีถึงหนึ่งชั่วโมง
แล้วก็ไปเล่นเวทต่อนิดหน่อย

เมื่อก่อนจะวิ่งสลับเดิน คือ วิ่งสองนาที เดินหนึ่งนาที สลับกันไป แปดเซ็ท
แล้วเดินอีก ๑๕-๒๐ นาที สัปดาห์ต่อไปให้เพิ่มเวลาวิ่งขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้เป็นวิธีที่ฉันได้มาจากนิตยสารสุขภาพเล่มหนึ่ง
เหมาะสำหรับคนที่สู้พรวดเดียวไม่ไหวอย่างฉันดีแท้
ขืนบอกให้วิ่งทีละครึ่งชั่วโมงสิ ฉันคงเซย์กู๊ดบายไปเลย

แต่ผ่านไปหลายสัปดาห์ ฉันก็ยังวิ่งอยู่ได้มากสุดแค่สามนาทีสลับหนึ่งนาที
ไม่ยอมวิ่งมากกว่านั้น เพราะวิ่งได้ไม่นานก็เหนื่อยละ
เมื่อย...ไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว รู้สึกทรมานกายทรมานใจจริงๆ

วันหนึ่งฉันลองเพิ่มปริมาณการวิ่งให้ตัวเอง โดยวิ่งระยะเวลานานขึ้น
ตอนแรกตั้งไว้ว่าแค่สิบนาที ระหว่างวิ่งก็รู้สึกว่า
"โอ๊ย..ความเมื่อยมาอีกแล้ว ทรมานจริงวุ้ย ไม่วิ่งแล้วได้มั้ยเนี่ย"
แต่ก็กัดฟันสู้ เมื่อยก็เมื่อย ฉันจะวิ่งซะอย่าง

ก็วิ่งๆต่อไปพลางใจลอยไปคิดโน่นนี่เพลิน มารู้สึกตัวอีกที
เอ๊ะ! ไอ้ที่เราว่าเมื่อยจะแย่เมื้อกี้ ตอนนี้มันไม่มีความเมื่อยอยู่แล้วนี่!

ก็เลยวิ่งต่อไปอีกห้านาที แล้วก็พบว่ายังคงมีแรงวิ่งต่อได้อีก
แม้บางทีจะรู้สึกถึงความเมื่อยขึ้นมาบ้าง สุดท้ายก็วิ่งได้ต่อเนื่องเกือบครึ่งชั่วโมง
ทั้งๆที่ตอนแรกกะจะวิ่งแค่สิบนาทีต่อกัน แล้วค่อยแบ่งช่วงวิ่งสั้นๆ
เช่นสามนาที สลับเดินหนึ่งนาที

ช่วงเวลาราวหนึ่งชั่วโมงบนสายพาน
ฉันได้เห็นว่ามันก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกเมื่อย กับไม่เมื่อยสลับกันไป
แต่จะทรมานกับความเมื่อยที่สุดก็ ตอนที่ไปสนใจความเมื่อย
แล้วเกิดสำออย ทำท่าจะไม่ไหวตามมันขึ้นมานี่แหละ

เพราะไปคิดเพิ่มว่าเมื่อยนะ ไม่ชอบนะ
เลยยิ่งทำให้ความเมื่อยมีน้ำหนักมากขึ้นอีก
แล้วพอมันรู้สึกว่าทรมานจัง ไม่อยากวิ่งแล้ว ใจมันก็เกิดอาการดิ้นรน
อยากหนีไปจากสภาพนั้น ยิ่งทำให้รู้สึกทรมานขึ้นไปอีก
ซึ่งถ้าไม่ยอมอดทน ฉันก็คงตามใจตัวด้วยการเลิกวิ่งซะเลย
เป็นการเพาะเชื้อนิสัยไม่เอาถ่าน อะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่อดทนไปเสียแล้ว

แต่ทีนี้ ตอนที่ฉันเห็นความเมื่อยแล้วไม่สนใจ แค่รู้ว่ามันเกิดความเมื่อยขึ้นมา
แล้วก็วิ่งต่อ พอใจไม่ไปสนใจความเมื่อย หรือความรู้สึกอยากเลิกวิ่ง
สักพักนึงความเมื่อยกับความรู้สึกอยากเลิกวิ่ง มันก็หายไปไหนก็ไม่รู้
เหมือนขามันก็วิ่งของมันไป เคลื่อนไหวไป ทำงานเหมือนเป็นหุ่นยนต์
มาคิดดู "เออเนอะ ขามันบอกตอนไหนล่ะว่ามันเมื่อย
จริงๆแล้วความเมื่อยมันแอบแฝงมา แล้วมันก็ไปต่างหาก"

ก็เลยรอดจากการโดนความสำออยเล่นงานไปได้อีกหนึ่งครั้ง
เพราะไม่ไปเข้าข้างมัน ไม่ไปช่วยมันโอดครวญนี่เอง

ก็เลยได้เห็นแล้วว่าความสำออย ทำให้เราทุกข์เกินกว่าความจำเป็นจริงๆ