Print

นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ - ฉบับที่ ๗๕

มือเปล่า
ธีระวัฒน์ อนันตวรสกุล

เสียงนาฬิกา ส่งเสียงเพียงแผ่วเบา ทีละวินาทีๆ ในคืนที่เงียบสงัด

แสงยังคงหาข้อมูลเรื่องหุ้นอยู่จนดึกดื่น หลายปีมานี้แสงจริงจังกับการลงทุนในหุ้นมาก เพราะเขาได้ลาออกจากงานประจำมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว และเขาทำได้ดีจนหลายคนที่รู้เรื่องราวของเขาอิจฉา

เขาเริ่มทยอยลงทุน หลังจากวิกฤติการทางการเงินใน ปี 2540 ที่ทำให้ตลาดหุ้นซบเซาอยู่หลายปี หลายคนเข็ดขยาดกับหุ้น แต่เขากลับเริ่มเก็บสะสมหุ้นซึ่งราคาถูกกว่ามูลค่าทางบัญชีหลายตัว เริ่มสั่งสมความเชี่ยวชาญขึ้นมาเรื่อยๆ เริ่มต้นด้วยเงิน 3 ล้านที่ใช้เวลาเก็บจากการทำงานกว่า 10 ปี ขณะนี้เขามีเงินลงทุนกว่าห้าร้อยล้านบาท ในเวลาอีกประมาณ 10 ปีต่อมา

ตลาดหุ้นมีเสียงเล่าลืออันหอมหวนของกำไร ที่อาจสร้างความมั่งคั่งในช่วงเวลาไม่กี่วัน สามารถทวีคูณเป็นสิบ เป็นร้อยเท่า ถ้าเข้าซื้อถูกตัว ถูกจังหวะ และขายมันออกไปในราคาที่ถูกต้อง การวิเคราะห์ด้านเทคนิคด้วยกราฟสารพัดรูปแบบของแสง สามารถจับความเคลื่อนไหวของเซียนใหญ่ที่มักจะเข้ามาในตลาด และเขาสามารถทำกำไรได้เสมอ โดย เกาะกระแสเก็บหุ้นถูกตามรายใหญ่ ก่อนที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปเมื่อมีผู้คนจำนวนมากที่เข้าซื้อตามด้วยความโลภ จนขาดการไตร่ตรอง จากนั้นเขาก็ขายทำกำไร ก่อนที่ราคาจะร่วงลง เมื่อรายใหญ่ขายทิ้ง

เวลาผ่านไปทีละวินาทีๆ ในคืนนี้ บางครั้ง หนึ่งวินาที ในชีวิตเขาก็มีความหมาย ยิ่งเวลาจะเทขายหุ้น ช้าไปวินาทีเดียว อาจขายในราคาที่หมายตาไว้ไม่ได้อีก บางครั้งอาจต้องขาดทุน เพราะช้าไปเพียงไม่กี่วินาที เขาเคยแล้วที่ ลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่ถึงนาที แต่ราคาซื้อขายก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว

วินาที แต่ละวินาที ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่หวนกลับ

วันนี้ เขารู้สึกเพลีย และรู้สึกปวดศีรษะ จึงเข้านอน เขาหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็ฝัน
...........................................................

เขาฝันว่า เขาไปยืนอยู่บนปากเหวที่มีลมแรง และมีชายคนหนึ่งมาคุยกับเขา ชายคนนั้นบอกแสงว่า พรุ่งนี้ตลาดเปิด ให้รีบซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งจะมีราคาต่ำมากในช่วงต้นของตลาด ให้รีบเข้าไปซื้อสะสม ก่อนตลาดปิด ราคาของมันจะวิ่งขึ้นไปเกือบถึงเพดานของการซื้อขาย เพราะจะมีข่าวดีของหุ้นตัวนั้น ออกมาตอนบ่าย 2 โมง หุ้นตัวนั้นจะวิ่งขึ้นทุกวัน 3 วันติดต่อกัน ให้ขายในเช้าตอนตลาดเปิดของวันที่ 4 ก่อนราคาจะตกลง

แสงตื่นขึ้นมา เป็นเวลาตีห้าเศษแล้ว เขาเฝ้าครุ่นคิดทบทวนความฝันจนฟ้าสว่าง

เขาลังเล แต่สุดท้ายก็ทำตามที่คนในฝันบอก แต่ก็ลงทุนไปเพียงไม่กี่ล้าน แล้วเขาก็ต้องตะลึง ก่อนเปิดตลาดภาคบ่าย มีข่าวดีเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นออกมาจริงๆ เสียดายที่เขาลงทุนน้อยไปหน่อย วันแรกราคาปิดของหุ้นขึ้นไปสูงกว่าราคาปิดของเมื่อวาน เกือบ 30 % จริงๆแบบที่ชายในฝันบอก เขาเชื่อมั่นในคำของคนในฝันมากขึ้น วันต่อมาเขาจึงขายตัวอื่นออกมาเพื่อซื้อตัวนี้ อย่างไม่คิดสงสัยอะไรอีก จนเช้าวันที่ 4 เขาก็ขายหุ้นตัวนี้ออกไปทั้งหมด จากนั้นหุ้นก็ตกตามที่คนในฝันบอกจริงๆ อย่างไรก็ตาม เขาโกยกำไร ใน 4 วัน กว่า 10 ล้านบาททีเดียว

เขาเฝ้าครุ่นคิดถึงชายในฝันคนนั้น แล้วคืนนั้นเขาก็เจอชายคนนั้นในฝันอีก รวยแล้วล่ะสิ ชายในฝันทัก แสงคิดอยากให้ชายคนนั้นบอกอีกว่า พรุ่งนี้ควรจะซื้อหุ้นอะไร แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปาก ชายคนนั้นก็พูดขึ้นว่า ?อยากได้ไม่รู้จักพอเลยเจ้ามนุษย์ ข้าอยากจะบอกเจ้าว่า เจ้ากำลังจะตาย ภายในอีก 100 วันข้างหน้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า คอยดูว่า อีก 14 วัน เพื่อนเจ้าจะตาย แล้วอีก 30 วัน จะมีไฟไหม้โรงงานแห่งหนึ่งจะมีคนถูกไฟคลอก 14 ศพ ข้าคือ ยมทูต จะมารับตัวเจ้าในอีก 100 วันข้างหน้า จงเตรียมตัวไว้ให้ดีเถิด เวลาในโลกมนุษย์ของเจ้าเหลือไม่มากแล้ว?

แสงตกใจตื่น หวาดกลัวจนนอนไม่หลับอีกทั้งคืน

เขาอายุ 40 ยังโสดอยู่คนเดียว ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ เขาจะตายจริงเหรอ แต่เรื่องหุ้นที่ชายคนนั้นบอกก็ถูกต้องอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เขาเริ่มกลัว

วันนี้เป็นวันเสาร์ ตลาดหุ้นปิด เขาจึงออกไปคุยกับเพื่อนๆ ที่สวนสาธารณะที่เคยไปออกกำลังกายในบางครั้งที่ว่างและมีเวลา ซึ่งปกติเขาก็ไม่มีเวลาหรอก แค่คิดวางแผนการลงทุน ก็แทบจะไม่ว่างทำอะไรแล้ว

เพื่อนๆ ไม่รู้หรอกว่า แสงคนนี้รวยขนาดไหนเพราะแสงไม่เคยอวดใคร ต่างเข้าใจว่า แสงก็แค่พวกเล่นหุ้นรายย่อยๆ เท่านั้น แสงเล่าให้เพื่อนฟังเรื่องมียมทูตมาเข้าฝัน และบอกว่าเขาจะตายในอีก 100 วัน เพื่อนๆ คิดว่า แสงคงคิดมากไป ถ้าอยากให้แน่ใจไปตรวจร่างกายซะ แล้วก็ไปทำบุญ แสงใช้เวลาตรวจร่างกายในบ่ายวันเสาร์นั้น และ วันอาทิตย์รุ่งขึ้นก็ตระเวนทำบุญสะเดาะเคราะห์ หลังจากที่ไม่ได้ทำบุญมานาน

วันจันทร์ เขาก็เล่นหุ้นตามปกติ มือขึ้นตามเคย ความหอมหวนของตลาดหลังจากซบเซามาระยะหนึ่ง ดึงดูดนักเล่นรายใหม่ หรือแมงเม่าให้ขนเงินเก็บมาซื้อขายหุ้น หวังจะรวยในเวลาอันรวดเร็ว เล่นหุ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้ศึกษาดูให้ถี่ถ้วน ถึงหุ้นที่ตนกำลังซื้อ ซื้อไปตามแรงโลภที่คิดว่า ซื้อแล้วราคาจะขึ้นอีกทั้งนั้น

สำหรับแสง แค่เกาะกระแส ซื้อตามขาใหญ่ในช่วงที่มีสัญญาณเก็บหุ้น แล้วรอขายให้นักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่ทันเกมส์ แม้แต่หุ้นที่ไม่มีอะไรดีเลย พอมีคนสร้างกระแส จุดประกายซื้อขึ้นมา ก็มีกระแสไล่แห่ซื้อตาม ไล่ซื้อกันเป็นการใหญ่ ขับดันราคาขึ้นไปด้วยความโลภ หารู้ไม่ว่า พอกำไรถึงระดับหนึ่ง คนจุดประกายก็ปล่อยหุ้นที่ตนซื้อมาก่อนจุดประกายในราคาถูกๆ ทำกำไร หนีไปซื้อตัวอื่นเพื่อจุดประกายความโลภออกไป

?น่าสงสารพวกแมงเม่า แต่อยากโลภเองนี่หว่า กิจการขาดทุนและมีหนี้ท่วมขนาดนี้ มีแต่คนโลภเท่านั้นที่กล้าซื้อเพื่อหวังรวย? แสงคิดในใจ
วันเวลาผ่านไปจนลืมความฝัน ผลตรวจร่างกายออกมา ผลก็คือสุขภาพแข็งแรงดี

14 วันต่อมา แสงได้รับโทรศัพท์ จากเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย เขาเกือบช็อค เมื่อทราบข่าวว่าเพื่อนเขาตาย
........................................................

ในงานศพ แสงพูดคุยกับเพื่อนถึงสาเหตุการตาย จึงรู้ว่าเพื่อนของแสงโชคร้าย ขับรถอยู่บนถนนดีๆ แล้วป้ายบอกทางขนาดใหญ่ล้มฟาดลงมา ในจังหวะเดียวกับที่รถของเพื่อนแสงวิ่งผ่านไปพอดี ความตายช่างมาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ

ขณะที่พระกำลังสวดพระอภิธรรม ในใจของแสง ครุ่นคิดถึงความฝันอันน่าสะพรึงกลัวของเขา
แสงคิดในใจ เรากำลังจะตายหรือนี่
.........................................................

วันรุ่งขึ้นแสงขับรถไปหาป้าที่ต่างจังหวัด ป้าของแสงบวชเป็นชีอยู่ที่นั่น ป้าที่เลี้ยงแสงมาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อแม่ของเขาตายตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ธรรมดาแสงได้แต่ส่งเงินไปทำบุญให้ป้าเขา นานๆ จะมาหาสักครั้งหนึ่ง ป้าของแสงเป็นโสด บวชชีตั้งแต่ ย่าของแสงเสีย เกือบ 20 ปี แล้ว แสงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าฟัง ป้าของแสงก็ปลอบว่า

?คนเราก็ต้องตายทุกคน แสงออกจะโชคดีนะ ที่รู้ตัวล่วงหน้า กว่าจะตายตั้งหลายวันจะได้ทำการเตรียมตัวตายให้ดีที่สุดไง จัดการเอาเงินทองที่เก็บไว้ออกมาทำบุญทำกุศลซะ การเล่นหุ้นของแสง มีแต่เพาะความโลภ ความอยากได้เงินคนอื่นอยู่ร่ำไป อยากรวยไม่มีที่สิ้นสุด แสงก็ตัวคนเดียวลูกเมียก็ไม่มี จะหาเงินหาทองไปทำไมหนักหนา? ฟังคำป้า แล้วก็สลดในใจ กราบลาแม่ชี แล้วจึงกลับกรุงเทพ

ระหว่างกลับกรุงเทพ ก็คิดเรื่องความตายที่อาจจะมาถึง ด้วยความสะพรึงกลัว ซึมเศร้าอยู่หลายวัน กระดานหุ้นเขียวๆ แดงๆ ที่เคยน่าสนใจ ก็ดูไม่มีอะไรให้น่าสนใจสำหรับแสงอีกต่อไป จนวันที่ 30 ก็มีข่าวไฟไหม้โรงงานมีผู้ถูกไฟคลอกตาย 14 ศพ จริงๆ

คืนนั้น เขาเข้านอน ด้วยความซึมเซา พอรู้สึกตัวเองว่า กำลังจะหลับ ก็รู้สึกเหมือนควบคุมร่างกายนี้ไม่ได้อีกดังใจ พยายามดิ้นฝืนจนลุกนั่งขึ้นมาได้ จึงลุกขึ้นไปจะดื่มน้ำด้วยความกระหาย ความประหลาดใจก็เกิดขึ้น แสงหยิบจับแก้วน้ำไม่ได้เลย นี่มันเป็นบ้าอะไรกันแล้ว และก็ต้องช็อคสุดขีด เมื่อกลับไปที่ที่นอน แล้วพบว่าร่างของตนเองกำลังนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น แล้วร่างที่กำลังลุกขึ้นมาดื่มน้ำนี่ล่ะคืออะไร

หยิบจับอะไรไม่ได้เลย เงินทองที่เก็บไว้ที่บ้านส่วนหนึ่ง ก็จับไม่ได้เสียแล้ว เหมือนเป็นของต่างมิติอย่างไรอย่างนั้น แม้พยายามเท่าไรๆ ก็ไม่อาจหยิบคว้าเอาอะไรได้สักอย่าง

ชีวิตเขาคงจบแล้ว ทุกอย่างที่สะสมมา ไร้ค่า แสงมองทรัพย์สมบัติมากมาย ด้วยความสิ้นหวัง เหมือนกับคนที่เพิ่งตื่นจากฝันที่แม้จะดีอย่างไร แต่ก็ไม่อาจนำของจากความฝันมาด้วยสักชิ้น ฉุกคิดว่า ความตายก็คือการตื่นจากความฝันอันยาวนานตลอดชีวิตนั่นเอง เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง แม้สิ่งที่ยึดมั่นหนักหนาว่า เป็นของเราคนเราเกิดมามือเปล่า ก็ต้องไปมือเปล่าเช่นกัน
?????????????????????????????.

แล้วสักพักแสงก็เหมือนถูกลมพัดออกไปจากบ้าน แสงไปรู้สึกตัวอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่กลางตลาดแห่งหนึ่ง ไม่มีใครเห็นเขา เขาเห็นคนเก็บขยะกำลังคุ้ยขยะ เห็นเด็กเร่ร่อนกำลังนอนหนาวอยู่ใต้แผงผัก เดินออกไปเหมือนเร็วกว่าปกติ เห็นผู้หญิงกำลังร้อยพวงมาลัยกองพะเนิน ส่วนอีกบ้าน กำลังเย็บกางเกงโหลกองโต เห็นคนป่วยกำลังนอนทรมานในชุมชนแออัด

แสงหิวน้ำจนรู้สึกว่าคอแห้งผาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แถมยังรู้สึกหิวอยากกินข้าว

เขาตายแล้ว แต่มันยังไม่ถึง 100 วัน เลยนี่นา ทำไมเขาตายเร็วกว่าที่ท่านยมทูตบอกล่ะ เขาเริ่มรู้สึกเสียดายเวลา อีก 70 วันที่เหลือ คิดถึงป้า เร็วกว่ากระพริบตา แสงก็ไปอยู่หน้ากุฎิชี ที่วัดของป้า เห็นป้ากำลังนั่งสมาธิสงบนิ่งอยู่ ในขณะที่หมาวัดเห่าหอนกันเกรียว ใช่แล้ว หมาหลายตัวกำลังจ้องมองมาที่แสง พร้อมเห่าหอน รับกันเป็นทอดๆ อย่างน่าสะพรึงกลัว

แล้วป้าของแสง ก็พูดขึ้นมาอย่างก้องกังวานทั้งๆ ยังหลับตา ไม่ได้ขยับตัวว่า ให้แสงคิดถึงร่างกายที่บ้าน แล้ววูบเดียว แรงดูดมหาศาลก็พาแสงมาผนึกอยู่กับร่างกายของตนเองที่บ้าน จนตกใจตื่นขึ้นมา เป็นเวลาตีห้าพอดี แสงลุกขึ้นไปหาน้ำดื่มอย่างหิวกระหาย เสียงเข็มนาฬิกาเดินแต่ละวินาที ดังก้องเข้าไปในโสตประสาทของแสง ดังน่ากลัว อย่างผิดปกติ เหมือนกับจะเตือนว่า ความตายกำลังใกล้เข้ามาแล้วทุกวินาที

แสงหยิบธนบัตรปึกหนึ่งออกมาถือ จ้องมองมัน มันเป็นธนบัตรปึกเดียวกับที่เขาไม่สามารถหยิบจับมันได้เมื่อคืน บัดนี้เขามีโอกาสจับมัน ใช้มันจับจ่ายใช้สอยได้ตามใจอีกครั้งหนึ่ง

เห็นกำลังอันมหาศาล ของสิ่งสมมติที่เรียกว่าเงินในมือ ที่จะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งต่างๆ อย่างสะดวก ได้มากมาย เขาสามารถใช้มันได้ตามใจคิด ก่อนที่จะหมดเวลาใช้มันไม่ได้อีก

เสียงนาฬิกา ยังกังวาน ทีละวินาทีๆ

แสงรู้แล้วว่า สุดท้ายเงินทั้งหมดของเขาก็จะเป็นสิ่งไร้ค่าในที่สุด จากประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดกับตัวเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมา แสงรู้แล้วว่าจะทำอะไร เมื่อฟ้าสว่างในวันต่อไป

เสียงนาฬิกา ยังกังวาน ทีละวินาทีๆ?