Print

นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ - ฉบับที่ ๑๕๓

ณ ศาลรุกขเทวา

ธีระวัฒน์ อนันตวรสกุล

short-story-153
รูปประกอบจาก
http://xn--42c6b8bmx5n.blogspot.com/2012/07/blog-post_443.html

มันเป็นเวลาใกล้พลบค่ำ ที่ศาลเจ้าแม่ต้นหูกวาง หน้าหมู่บ้านชานเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้สักการะ ขอพรบนบานศาลกล่าวกัน ถึงขั้นไม่มีที่จอดรถ ด้วยความหวังว่าความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่จะดลบัลดาลประทานพรให้คนที่มากราบไหว้บูชาสมหวังตามที่ตั้งใจ บรรยากาศดูวุ่นวาย มีทั้งแผงเครื่องรางของขลัง แผงพระเครื่อง และแผงขายดอกไม้ธูปเทียน

ศาลเจ้าแม่หูกวางที่โด่งดังระดับหนึ่งอยู่แล้วยิ่งโด่งดังขึ้น เมื่อมีการโฆษณาไปสู่กลุ่มคนขนาดใหญ่ด้วย
Social network บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

บรรดาผู้ที่มาสักการะเปี่ยมไปด้วยความหวังความศรัทธา แต่ลุงจอมคนที่ถือว่าใกล้ชิดศาลเจ้าที่สุดกลับเปี่ยมด้วยความแค้นใจ แกกำลังจะถูกไล่ที่ หากไม่ยอมจ่ายเงินค่าเช่าที่ แกนึกแค้นพลางนึกรำคาญสายตาที่เห็น กองขยะที่เกิดจากของเซ่นไหว้กองพะเนิน คิดเป็นเงินแล้วคงเป็นจำนวนมากมายอยู่ ตั้งแต่มีกรณีพิพาทระหว่างแผงค้าและเจ้าของที่ศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ กิจกรรมการดูแลรักษาความสะอาดก็หยุดลง

ลุงจอมเป็นแผงขายธูปเทียนแผงแรก เป็นแผงที่เก่าแก่ที่สุดของศาลแห่งนี้ แกรู้ประวัติความเป็นมาของศาลอย่างดีที่สุด ดีกว่าใครๆ แกรู้ว่าจริงๆแล้วเจ้าแม่ไม่ได้มีจริงหรอก และมันเริ่มมาจากแกเองที่ทำให้ความเชื่อเหล่านี้เกิดขึ้น ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ที่ร่ำลือนั้น คนที่มาไหว้ต่างเชื่อกันไปเองทั้งนั้น สิบคนมาขอพร หนึ่งคนสมหวัง คนที่สมหวังช่วยกันโฆษณาความศักดิ์สิทธิ์ให้โด่งดังมากขึ้น ในขณะที่เก้าคนเงียบ และโทษตัวเองว่ายังบูชาไม่ดีพอเจ้าแม่จึงไม่ช่วย

เอ..หรืออาจจะมีจริง เพราะบางคนรายงานว่าเจ้าแม่ส่งบริวารไปเข้าฝันให้ทำนั่นทำนี่ให้

ส่วนความเป็นมาของศาลเจ้าแม่หูกวางนั้น ลุงจอมรู้ดีจากวันเก่าๆ เมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีศาลเจ้าแม่หูกวาง  มีแต่ต้นหูกวางขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาร่มเย็น อยู่ท้ายซอยเปลี่ยวลึกลับที่ไม่ค่อยมีคนจะเดินผ่าน และฝูงหมาจรจัดหลายสิบตัว ลุงจอมใช้ผ้าใบเก่าๆ และมุ้งที่แกเก็บได้จากกองขยะมากางนอนอาศัยอยู่ ลุงจอมอยู่เป็นสุขใต้ร่มเงาต้นหูกวางมาหลายปี ยังชีพด้วยการทำงานเช็ดโต๊ะและล้างจานที่ร้านไก่ย่างชื่อดังในเวลาเย็นๆ และตระเวนเก็บขยะที่พอขายได้ในตอนเช้าๆ และทุกวันจะเก็บกระดูกไก่หนึ่งถังใหญ่มาเลี้ยงหมาจรจัดเหล่านั้นทุกวัน

ต้นหูกวางใหญ่ในเวลานั้นเป็นอาณาจักรส่วนตัวของแก แกอยากตกแต่งต้นหูกวางให้ดูดี แปลกตา แกจึงทยอยนำเอาพวงมาลัยเก่าๆ มาแขวนเล่นๆ และด้วยความเป็นคนไม่กลัวสิ่งลี้ลับ แกก็สะสมศาลพระภูมิเก่าๆ หลากรูปแบบที่แกทยอยย้ายมาจากจุดทิ้งศาลพระภูมิแห่งหนึ่ง นำมาซ่อมแซมตกแต่งทาสีจนดูดีขึ้น แล้ววางเป็นรัศมีวงกลมรายรอบต้นหูกวางใหญ่ก่อติดกันด้วยปูนซีเมนต์ เกิดเป็นกลุ่มศาลขึ้น แกสร้างอาณาจักรของแกใต้ต้นหูกวางใหญ่นั้นอยู่หลายปี จนตรงนั้นกลายเป็นจุดทิ้งศาลพระภูมิแห่งใหม่ ทำให้แกสะดวกในการนำศาลเก่าเหล่านั้น มารังสรรค์ปั้นแต่งเป็นเมืองเล็กๆ ของแก

แกไม่กลัวแต่อย่างใด เคยฝันเห็นชายโบราณตัวใหญ่โตท่าทางเศร้าๆ แค่ครั้งเดียว ซึ่งแกคิดว่าแกอาจฝันไปด้วยความฟุ้งซ่าน

นานวันไปเริ่มมีชาวบ้านมากราบไหว้ จากการบอกเล่าปากต่อปาก จำนวนคนที่มากราบไหว้ก็มากขึ้นๆ การขายธูปของแกเริ่มมาจากมีคนมากราบไหว้และซื้อธูปห่อใหญ่มาทิ้งไว้พร้อมด้วยเทียนห่อใหญ่ แกจึงนับธูปเทียนจัดเป็นชุด เอาดอกชุมเห็ดเทศสีเหลืองสวยตัดจากริมบึงใกล้ๆ กันมาร่วมชุด ตั้งโต๊ะขายอยู่หน้าศาลเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียว

จนกระทั่งมีข่าวว่าที่ดินผืนใหญ่ก้นซอยลึกที่มีต้นหูกวางนั่นจะถูกเนรมิตเป็นหมู่บ้านของคนรวย แกทราบข่าวว่าต้นหูกวางใหญ่ที่ตั้งอยู่ในแนวถนนเข้าหมู่บ้านจะต้องถูกโค่นด้วย

ลุงจอมในตอนนั้นได้แต่หวังใจว่าเสี่ยใหญ่เจ้าของโครงการจะเกรงกลัวกลุ่มศาลพระภูมิใต้ต้นหูกวางบ้าง และก็เป็นจริงช่างสำรวจชุดแรกยังมาซื้อธูปเทียนกับแก กราบไหว้ก่อนทำการสำรวจ จากนั้นคนงานชุดแรกที่มาเก็บกวาดพื้นที่ชุดแรก จำนวนยี่สิบกว่าคนล้วนมีพื้นเพมาจากถิ่นอื่น ถูกหลอกโดยลุงจอมว่า เจ้าแม่ท่านศักดิ์สิทธิ์นัก หากบูชาดีๆ ท่านจะให้ลาภ โดยใบหูกวางจะตกใส่หัวผู้ที่มีลาภ จากนั้นให้ดูใบไม้โชคของตน นำเลขไปแทงโดยไม่บอกใคร ในกลุ่มนั้นมีคนงานบ้าหวยอยู่หลายคน ในตอนนั้นลุงจอมนั่งคิดในใจ
มันบ้าเชื่อกู ดูกันตั้งยี่สิบคน คงมีคนโชคดี บ้างละ แล้วก็เป็นจริง มีคนถูกหวยจากเลขที่ปรากฏบนไม้ใบ เสี่ยงร่ำลือขจรขจายออกไปจนเกิดความเชื่อถือ และข่าวไปถึงเจ้าของโครงการ และแม้แต่เจ้าของโครงการยังต้องชะลองานตัดต้นหูกวาง โดยทำงานส่วนอื่นไปก่อน และในที่สุดก็แก้แบบถนนที่จะตัดตรงผ่านต้นหูกวาง ให้กลายเป็นวงเวียน และต้นหูกวางอยู่บนเกาะกลางวงเวียนนั้นแทน ซึ่งทีแรกเจ้าของโครงการกล้าๆ กลัวๆ เพียงตัดทางอ้อมเลี่ยง เพื่อรอการตัดสินใจโค่นต้นหูกวางทิ้ง จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครกล้า หมู่บ้านขายดีจนทำกำไรมหาศาล พอหมู่บ้านสร้างเสร็จ ทางหมู่บ้านจึงจัดการตกแต่งให้เป็นวงเวียน พร้อมสร้างศาลให้เป็นกิจจะลักษณะ ด้านหน้าอาณาจักรศาลพระภูมิของแก

ลุงจอมรู้ดีว่าการจัดฉากของแกหลอกได้แม้แต่คนรวย เพราะในคืนที่ปลอดคน เจ้าของโครงการนั่นเอง มาบนบานศาลกล่าวว่าจะสร้างศาลให้ หากหมู่บ้านนี้ขายหมดในสามเดือน หลังจากขายหมดเจ้าของหมู่บ้านเลยเชื่อถือ สร้างศาลให้และมอบหมายให้ลุงจอมเป็นผู้ดูแล โดยมีสโมสรของหมู่บ้านคอยดูแลอย่างหลวมๆ อีกขั้น จนทำให้ลุงจอมเลิกทำงานที่ร้านไก่ย่าง หันมาลงทุนขายดอกไม้ธูปเทียนกำไรงาม เพราะวันๆ มีแต่รายรับ ข้าวก็ไม่ต้องซื้อกินเครื่องเซ่นขนมนมเนยที่ไหว้เจ้าแม่เสร็จแล้ว รายจ่ายมีเพียงเงินลงทุนซื้อดอกไม้ ธูปเทียน มาขายเท่านั้น แกเก็บเงินจนมีจักรยานขี่ พัฒนาเป็นมอเตอร์ไซค์ เช่าที่ดินแปลงเล็กๆ
30 กว่าตารางวาในเขตเมืองหลวงไม่ไกลจากศาล แล้วติดตั้งบ้านที่ดัดแปลงจากตู้คอนเทนเนอร์พอนอนได้สบายๆ หนึ่งหลัง

ใช่แล้ว ศาลเจ้านี้ไม่มีจริง มีแต่ความศรัทธาต่อสิ่งที่ว่างเปล่า ลุงจอมเป็นคนเดียวที่รู้ดี

ไม่นานหลังจากที่ลุงจอมขายธูป เริ่มมีคนนำเสื้อผ้าสตรีมาถวายเจ้าแม่ มันเริ่มมาจากมีคนช่างคิดที่ต้องการหาผลประโยชน์ กุเรื่องว่าเจ้าแม่ต้องการเสื้อผ้าสตรีแบบทันสมัยประมาณชุดกระโปรง ไม่นิยมชุดไทยดังศาลอื่น และแกล้งไปนำเสื้อผ้าสวยๆ ที่บ้านคนรวยขนเอามาทิ้งจำนวนหนึ่ง มาแกล้งวางแขวน ด้วยเหตุนี้เมื่อมีคนเชื่อทำตาม คนที่กุเรื่องเจ้าแม่จึงมีรายได้ ด้วยการขนเสื้อผ้าดีๆ แก้บนของเจ้าแม่ แอบไปทยอยขายหารายได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน

จากนั้นความวุ่นวายต่างๆ จึงเข้ามาเต็มไปหมด ร้านขายของค่อยๆ เกิดขึ้น ทั้งหมากพลู ละครรำแก้บน แผงพระเครื่อง ศาลเจ้ากลายเป็นตลาดใหญ่ ดอกไม้ถวายเจ้าแม่ ภายหลังเปลี่ยนไปเป็นดอกไม้มีราคาอื่นที่ถูกสั่งซื้อเข้ามา ไม่ใช่ดอกชุมเห็ดเทศที่แกยังไม่อยากเชื่อว่าความศรัทธาจะทำให้ดอกถูกตัดจนไม่อาจให้ฝักปล่อยเมล็ดให้ร่วงหล่นกลายเป็นต้นใหม่ ความสวยงามของทุ่งดอกชุมเห็นเทศหายไป

คนศรัทธามากขึ้นมากขึ้น เรื่องราวก็วุ่นวายมากขึ้นๆ ขึ้นไปอีก ช่วงหลังมีผู้มีแอบอ้างเป็นร่างทรงเจ้าแม่มาทำการประทับทรง มีคนเอาวัตถุมงคลมาขายอ้างว่า เป็นของขลังที่เจ้าแม่อธิษฐานจิตให้ มีแผงหมอดูทั้งดวงไทย ไพ่ยิปซี มีวิกยี่เก มาเปิดบริการรำแก้บน วุ่นวายไปหมด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนมาหาผลประโยชน์จากค่าที่จอดรถ และเมื่อไม่นานมานี้ลูกชายเสี่ยเจ้าของหมู่บ้านยังนำกำลังคนมาปิดล้อม เพื่อจัดระเบียบแผงค้า และเก็บค่าเช่าอย่างจริงจังด้วย

ลุงจอมนั่งคิดถึงวันเก่าๆ สมัยที่แกกางเต็นท์นอนใต้ต้นหูกวาง มันอาจเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตแกก็ได้ แม้ไม่มีเงินมากนักในตอนนั้น แกก็มีรายได้พอเลี้ยงชีพสบายๆ จากงานล้างจานและเก็บขยะ แกนั่งนึกถึงงานที่มีความสุข แกจะมีถังใบหนึ่ง ไว้หิ้วไปทำงานที่ร้านไก่ย่างที่ขายดีมาก แกจะเก็บกระดูกไก่ใส่ถังกลับมาที่พักของแกทุกวัน ได้เลี้ยงดูหมาฝูงใหญ่ที่วิ่งล้อมหน้าล้อมหลังแก

ต้นหูกวางยังอยู่แต่ฝูงหมาถูกจับไปตั้งแต่โครงการสร้างหมู่บ้านเริ่มขึ้น แกคิดถึงหมาจำนวนหลายสิบตัวที่เฝ้าดูแลเต็นท์และอาณาจักรศาลพระภูมิของแกในช่วงเวลานั้นอย่างซื่อสัตย์

ภาพความสงบจากไปแล้ว ไม่มีอยู่อีกต่อไป

วันหนึ่งมีวัยรุ่นชายแต่งกายเรียบร้อยพูดจาสุภาพคนหนึ่ง นำหนังสือและซีดีมาฝากวางแจกฟรีที่หน้าร้านขายธูปเทียนของแก พอลับหลังเจ้าหนุ่มคนนั้นกลับไป แกเลยเอามันมาขายแผ่นละ
5-20 บาท จนหมด

ซีดีที่เหลือเศษแผ่นหนึ่งตกลงไปอยู่ในซอกโต๊ะตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบได้ คงเป็นช่วงชุลมุนที่แกวุ่นๆ กับการทอนเงินให้ลูกค้าที่มาอุดหนุนธูปเทียน

หลายวันผ่านไป มีข่าวลือว่าลูกชายเสี่ยเจ้าของหมู่บ้านจะจัดระเบียบพื้นที่หน้าหมู่บ้านนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากพื้นที่ส่วนหน้าหมู่บ้านนั้นยังเป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อแก และบัดนี้คงเห็นแล้วว่า ผลประโยชน์อันเนื่องมาจากศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่มหาศาล

ในที่สุดก็ถึงวันแตกหัก เมื่อกำลังคนของลูกชายเสี่ยมาบุกรื้อถอนแผงค้า และปะทะกับกลุ่มผลประโยชน์เดิม ลุงแกแก่เกินกว่าที่จะไปร่วมต่อสู้เพื่อสิทธิในการขายของจึงหลบลูกหลงอยู่ใต้โต๊ะ การตะลุมบอนเป็นไปอย่างดุเดือดด้วยมีดไม้และ อาวุธที่พอจะหาได้ ข้าวของแผงค้าแหลกลาญไปเป็นแถบๆ และรุนแรงจนถึงขั้นมีคนถูกมีดดาบฟันอาการสาหัสหลายคน ก่อนที่ยังไม่มีใครแพ้ชนะเด็ดขาด และแยกย้ายกันกลับบ้านไป เรื่องราวของศาลแห่งนี้คงยังไม่จบ

การหลบตัวลงซ่อนใต้โต๊ะทำให้ลุงจอมเจอแผ่นซีดีที่ตกอยู่ที่ซอกโต๊ะแผ่นนั้น ความวุ่นวายรอบตัว ความว้าวุ่นใจเคียดแค้น ทำให้ลุงจอมตั้งใจว่าจะเปิดฟังมันเพราะปกซีดีระบุว่า “ทางพ้นทุกข์”

จากซีดีแผ่นแรก เมื่อฟังแล้วรู้สึกดี แกก็ติดตามแสวงหาซีดีแผ่นใหม่ๆมาฟัง โชคดีเป็นของแกที่วัยรุ่นที่เอาซีดีมาวางคนนั้น ยังเอาซีดีมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ แกจึงมีโอกาสได้ฟังเนื้อหาธรรมะดีๆจากซีดีแผ่นอื่นๆ

จากจุดนั้นเองที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตลุงจอม ลุงจอมมานั่งคิดพิจารณาว่า ชีวิตคนเรานี้มีแต่ทุกข์แท้ๆ ตั้งแต่เกิดมาก็ต้องดิ้นรนแข็งขันสารพัด เพื่อหารายได้เลี้ยงชีวิต เมื่อหาเลี้ยงชีวิตไม่ได้ก็ทุกข์ เมื่อพอเลี้ยงชีวิต ใจก็จะแสวงหาไปอีก เป็นการสะสมทรัพย์ เมื่อมีทรัพย์ก็อยากมีมากขึ้นไปอีก มีความทุกข์จากการอยากได้เพิ่ม และทุกข์จากความกลัวว่าทรัพย์นั้นจะสูญหายไป ในทางครอบครัวก็ทุกข์เพราะต้องแสวงหาคู่ครอง พอแสวงหาสำเร็จ มีเมียมีลูก ก็ต้องห่วงเมียห่วงลูก เมื่อลูกเมียไม่เป็นไปตามใจก็ทุกข์ แม้ลูกโตก็ต้องห่วงลูกไม่สิ้นสุด พอลูกมีหลานก็ต้องห่วงหลาน เหล่านี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เพราะความไม่ปล่อยวาง พยายามฝืนธรรมชาติ ให้สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้เป็นไปตามใจอย่างที่เราอยากให้เป็น

ทุกข์มันมากมายเต็มโลกแบบนี้นี่เอง ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆ จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่พากันมากราบไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่ ให้ท่านช่วยขจัดปัดเป่าทุกข์ บันดาลความสุขมาให้

เดือนนี้จะเป็นเดือนสุดท้ายที่แกจะขายได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแผงที่ถูกจัดระเบียบใหม่ แกเลิกขายธูปเทียน ปรับปรุงให้ร้านเป็นจุดวางซีดีธรรมะและเอกสารธรรมะเพียงอย่างเดียว เปิดเสียงสาธยายธรรมจากแผ่นซีดี เผื่อใครจะสนใจรับแผ่นซีดีไปฟังฟรีๆ ลุงจอมแกฟังเองหลายแผ่น จึงแนะนำคนที่จะเริ่มฟังได้ดี เดือนหน้าแกจะหลีกหนีความวุ่นวายจากที่นี่ไปอยู่ที่อื่นที่เป็นชนบทที่สงบๆ แกไม่มีทรัพย์สินใดๆ มากนัก บ้านตู้คอนเทรนเนอร์ก็เตรียมขายเป็นเศษเหล็ก

ทีแรกแกคิดจะหนีไปให้พ้นๆ ด้วยการขายบ้านแล้วไปหาชนบทที่สงบอยู่ แต่เหตุปัจจัยบางอย่างก็ทำให้แกไม่ไป แกฝันเห็นชายคนหนึ่งมาบอกว่าอย่าเพิ่งไป อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน ชายคนนั้นบอกว่า เป็นวิญญาณรุกขเทวดาอยู่แถวนี้ กำลังจะหมดบุญ พอได้ฟังซีดีธรรมะที่แกเปิด จึงได้เติมพลังบุญขึ้นไปอีกหน่อยหนึ่ง

วันหนึ่งเจ้าของหมู่บ้านที่ตอนนี้หันมาปฏิบัติธรรมมาเยี่ยมศาลและจำแกได้ เมื่อเห็นว่าแผงของแกกลายเป็นแผงวางซีดีธรรมะหลากหลายเพื่อแจกก็ดีใจมาก เจ้าของหมู่บ้านเล่าให้ฟังว่า ในวันที่ทุกข์ที่สุดก็ได้ซีดีธรรมะมาช่วยประคับประคองชีวิตเอาไว้ และในที่สุดเจ้าของหมู่บ้านนั่นก็เป็นเจ้าภาพรายหนึ่งที่ ผลิตสื่อธรรมะเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ที่สนใจ

เจ้าของหมู่บ้านจึงสั่งลูกชายไม่ให้เก็บค่าแผงลุงจอมเป็นกรณีพิเศษ เพราะอยากให้จุดวางซีดีธรรมะแบบนี้ยังคงอยู่ในบริเวณศาล ในคนจำนวนมากมาย คงจะมีคนจำนวนหนึ่ง ได้ประโยชน์จากตรงนี้ ซึ่งก็เป็นจริงเพราะผู้ที่รับไปบางส่วนก็กลับมาบอกว่าศึกษาธรรมะแล้วชีวิตดีขึ้น

แกจึงปวารณาตัวเป็นด่านหน้าที่จะขยายเผยแผ่ซีดีธรรมะ ณ ที่แห่งนั้น โดยเจ้าของหมู่บ้านจ่ายเงินเดือนให้แก จนพออยู่ได้ไม่เดือดร้อน

วันหนึ่งลุงจอมสามารถมีสติอยู่ได้ แม้จะรู้ว่าตัวเองหลับอยู่ มันเป็นสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น การรับรู้ชัดเจนกว่าครั้งที่แล้ว ลุงจอมรู้สึกว่าวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นหูกวางมาหาตนอีก จริงๆแล้วเป็นวิญญาณผู้ชาย ไม่ใช่เจ้าแม่แต่เป็นผู้ชายแต่งกายคล้ายคนโบราณ และบอกลุงจอมว่าอนุโมทนาบุญที่ทำงานเผยแผ่ซีดีธรรมะ ช่วงหลังวิญญาณชายคนนั้น ก็มานั่งฟังซีดีทุกวัน นั่งที่ลุงจอมเปิดที่แผงแกนั่นแหละ เลยมาห้ามไม่ให้ไปไหน ลุงจอมรู้จากเจ้าพ่อว่าว่า เทพารักษ์ประจำต้นไม้หรือรุกขเทวดานั้นมีมากมายอยู่ตามต้นไม้มีแก่น เจ้าพ่อมีบุญมากหน่อยเลยได้อยู่ต้นไม้ใหญ่ และยังอยู่ได้ด้วยการกินเครื่องเซ่นสังเวย และระลึกถึงบุญเก่าที่ทำไว้สมัยเป็นมนุษย์ ตลอดจนส่วนบุญกุศลที่มนุษย์ทำบุญอุทิศมาให้ใหม่เรื่อยๆ

แกบอกลุงจอมว่าพรุ่งนี้จะมีนักพนันไก่ชนคนหนึ่ง ที่ชนะเดิมพันมหาศาลจากกรรมเก่าของเขาเองที่เคยทำผูกพันกันมากับไก่และอีกฝ่ายหนึ่ง ตามกฎแห่งกรรมในวัฏสงสารที่ไม่มีต้นไม่มีปลาย ซึ่งคราวนี้เป็นโอกาสของเขาที่จะชนะ เจ้าพ่อไม่ได้ช่วยแต่อย่างใดในกรณีนี้

พนันไก่ชนผู้นั่นจะส่งลูกน้องมาที่ศาล เพื่อมาศึกษาหาวิธีสิ่งที่เจ้าพ่อชอบเพื่อถวายเป็นกรตอบแทน เจ้าพ่อบอกลักษณะของชายผู้นั้นละเอียด ให้ลุงจอมเข้าไปทัก แล้วบอกเขาว่าถ้าอยากจะถวายบูชาเจ้าพ่อ เรื่องลูกพี่ของเขาชนไก่ชนะ ให้เอาเงินงบที่คิดจะถวายหนึ่งแสนบาทไปซื้อไก่สาววัยกำลังจะออกไข่ เอาที่กำลังจะถูกเชือด แบบที่ผ่าท้องออกมาจะมีไข่เหลืองๆ ในท้องไก่ ไก่พวกนี้ถ้าเลี้ยงทั้งฝูงเฉพาะแต่ตัวเมีย ไข่จะไม่ฟัก เพราะไม่มีเชื้อจากตัวผู้มาผสม เพื่อไถ่ชีวิตที่กำลังจะตายของมันให้รอดจากความตาย และให้เอามันไปมอบให้ครูนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร เลี้ยงพวกมันด้วยเศษอาหารที่ต้องทิ้ง ให้ออกไข่เป็นอาหารกลางวันให้นักเรียน บุญนี้จะได้เป็นกุศลอำนวยพรแก่ตัวเขาเองต่อไป ให้ไปซื้อในอำเภอเดียวกับที่โรงเรียนอยู่ด้วย จะได้ไม่ลำบากในการขนย้ายข้ามเขต แล้วให้เขาอุทิศส่วนกุศลมาให้เจ้ากรรมนายเวรของเขาและเจ้าพ่อด้วย

ลุงจอมคิดว่าเจ้าพ่อช่างเป็นรุกขเทวดาที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำบุญอย่างน่าสนใจทำตาม ช่วยได้ทั้งไก่ ช่วยลดเศษขยะอาหารข้าวสุกที่เหลือจากจานต้องทิ้ง ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกหัดอาชีพ ช่วยให้นักเรียนมีอาหารกลางวันที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีกิน และอาจเหลือขายเป็นรายได้ให้โรงเรียน

ไม่ทันพูดในฝัน เจ้าพ่อก็บอกเหมือนรู้ความคิดว่า
ถ้าไม่ได้ฟังซีดีธรรมะที่แกเปิดให้ข้าฟัง ความคิดข้าก็คงไม่สดใสปานนี้ พอฟังซีดีธรรมะ วิญญาณเกิดความเบิกบาน ความนึกคิดก็แจ่มใส เหมือนเมื่อครั้งเป็นมนุษย์

สิ่งที่ลุงจอมพบไม่ได้เหลวไหล วันรุ่งขึ้นมีคนลักษณะนั้นมาที่ศาล ในท่ามกลางความวุ่นวายของศาล ไม่มีใครสนใจเขา เมื่อได้โอกาสลุงจอมเลยไปทักทาย และแนะนำตามที่เจ้าพ่อบอก ทำเอาลูกน้องนักพนันตกใจจนตัวสั่น

จากจุดนั้นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ
โครงการไถ่ชีวิตไก่ ซึ่งเป็นโครงการไถ่ชีวิตไก่สาวรุ่นให้รอดพ้นจากความตาย เพื่อนำไปเลี้ยงดูให้ออกไข่ ในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันของนักเรียนในชนบทซึ่งมีคนที่มากราบไหว้เจ้าพ่อสมทบทุนเรื่อยมา

Social network อีกนั่นเอง ที่มีอาสาสมัครที่ศรัทธาในกิจกรรมมาสร้างเว็บเพจ รายงานยอดเงินบริจาคแบบรายวัน แสดงเป็นรูปภาพที่ดูน่าสนใจ ว่าขณะนี้ มียอดเงินจากการบริจาคเท่าไร ครบเป็นตัวไก่หรือยัง ทุกอาทิตย์ก็จะประกาศว่าสัปดาห์นี้ได้ไก่กี่ตัว ไก่ที่รอดชีวิตกำลังจะไปอยู่ที่โรงเรียนไหน โดยไปไถ่ชีวิตมาจากกรงรอเชือด แสดงเป็นภาพในคลิปวีดีโอให้ดาวน์โหลมาดู เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนเดินทางไปจนถึงมอบให้โรงเรียน

พักหลังแนวทางการถวายของให้เจ้าแม่(พ่อ) เปลี่ยนไปเป็นแนวทางเอาเงินไปทำบุญเป็นประโยชน์อื่นๆแล้ว อุทิศส่วนกุศลถวายมาให้เจ้าแม่(พ่อ) เช่น ถวายค่ารักษาพยาบาลภิกษุอาพาธ สงเคราะห์คนชรา แจกขนมของเล่นให้เด็กๆ ตามคำร่ำลือของโครงการไถ่ชีวิตไก่ว่า เจ้าแม่(พ่อ) ชอบแบบนั้นมากกว่าสิ่งอื่น ความเชื่อสะพัดไปใน
Social network อย่ารวดเร็ว ศาลเจ้านี้เป็นเหตุให้คนที่หวังจะได้รับจากช่วยเหลือจากสิ่งลี้ลับได้ทำกุศลในสังคม

เจ้าพ่อมาเข้าฝันเขาอีก คราวนี้รัศมีกายของรุกขเทวดาสว่างไสวเจิดจ้า มีบริวารมารับใช้ขบวนใหญ่ ล้วนแต่แต่งกายสวยงาม เนื่องจากรับบุญที่อุทิศมาจำนวนมาก ทำให้เจ้าพ่อและบริวารมาร่วมอนุโมทนารับส่วนบุญกุศล รุกขเทวาบริเวณข้างเคียงก็มาร่วมกลุ่มมากขึ้นมากขึ้น เจ้าพ่อพูดกับเขาว่า
ข้าเป็นรุกขเทวดาก็มีความทุกข์แบบรุกขเทวดา เป็นมนุษย์แม้ทุกข์ก็มีส่วนดี ขวนขวายศึกษาปฏิบัติธรรมได้ง่าย มีร่างกาย มีมือมีความคิดในการทำบุญ ตัวข้านะสิ อิจฉามนุษย์ ต้องรอมนุษย์เปิดเสียงธรรมะให้ฟัง ต้องรอส่วนกุศลที่มนุษย์อุทิศแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลมาให้

ศาลเจ้าแม่ (พ่อ) ยังคงวุ่นวายด้วยคนที่มากราบไหว้ขอพร

เจ้าพ่อที่บัดนี้เป็นรุกขเทวดาใหญ่ในย่านนี้ ก็ยังเฝ้ารอและบางครั้งก็ต้องครุ่นคิดสร้าง แนวทางในการทำบุญให้ คนที่อยากจะมาถวายของแก้บน เพื่อสื่อสารผ่านลุงจอม แลกกับบุญกุศลที่คนๆนั้นจะอุทิศมาให้

ส่วนลุงจอมยังทำงานเป็นด่านหน้าในการเผยแผ่ธรรม มีความสุขกับการได้เป็นช่องทางในการเผยแผ่ธรรมะ ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ทั้งความวุ่นวายของมนุษย์ และของรุกขเทวดาที่นั่งรายล้อมฟังเสียงธรรม รอส่วนบุญส่วนกุศลที่มนุษย์อุทิศอยู่ข้างๆ แต่ไม่มีใครเห็น