Print

นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ - ฉบับที่ ๗๘

ความทรงจำอันยาวนานของนายตุ๋ย
โดย ZMAN

นายตุ๋ยรู้สึกว่าการเป็นเกย์นั้นทำให้ตนทุกข์ใจเหลือเกิน
มันเป็นปมด้อยที่ต้องแอบซ่อน จะมีเมียมีลูกเหมือนชาวบ้านก็ไม่มี
พอมีแฟน กี่คนกี่คนก็คบกันได้ไม่นานสักที เลิกกันไปก็ทุกข์ เศร้าทุกที

นายตุ๋ยปฏิบัติธรรมมาระยะหนึ่ง
วันหนึ่งนายตุ๋ยหลับตารับรู้ลมหายใจตัวเองได้สักพัก
ความทรงจำในอดีตค่อยๆผุดขึ้นมา
ย้อนไปตอนเด็ก ย้อนไปตอนเกิด ย้อนไปก่อนเกิด ย้อนไปได้ว่าได้เกิดมา
เป็นคน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คนไม่ใช่สัตว์ มาแล้วมากมาย
กว่าจะได้เกิดเป็นคนแต่ละทีต้องเกิดเป็นตัวอะไรไม่รู้ตั้งมากมายก่ายกอง
สิ่งที่ทำในชาตินึงมีผลสืบต่อไปยังอีกชาตินึง ที่เกิดชาตินี้มีผลจากชาติก่อน
และดูเหมือนว่าจะชาติก่อนหน้าสืบต่อมาเรื่อยๆอย่างหาต้นเหตุแรกเริ่มไม่ได้
นายตุ๋ยสามารถระลึกย้อนกลับไปได้แค่ช่วงหนึ่ง
ในช่วงที่จำได้ เท่าที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ มีดังนี้

...........................................................

ย้อนกลับไป ๔ ชาติที่แล้วที่เป็นคน ชื่อ นายแต๋ว

นายแต๋วเหม่อมองพระจันทร์สองดวงอย่างเศร้าๆในคืนสุดท้ายของชีวิต
ดาวเคราะห์ที่อาศัยอยู่นี้มีดวงจันทร์เป็นบริวารสองดวง

ไม่ว่าจักรวาลจะแตกดับไปสักกี่รอบ สิ่งมีชีวิตที่มีร่างกายและสมอง
อันเป็นวิวัฒนาการสูงสุดในทุกรอบก็จะมีลักษณะบางอย่างเหมือนกันคือ
มีหนึ่งหัวสองแขนสองขาเหมือนกัน
เมื่อยืนก็มีกระดูกสันหลังตั้งตรงไปตามแนวแรงดึงดูดของดวงดาวเหมือนกัน
มีการรับรู้สิ่งต่างๆผ่านทางตาหูจมูกลิ้นกายใจเหมือนๆกัน
รักสุขเกลียดทุกข์เหมือนๆกัน มีเพศชายและหญิงเหมือนกัน

ในชาตินี้นายแต๋วเกิดเป็นชายรักชาย ในดินแดนที่มีอารยธรรมที่กำหนดว่า
เกย์เป็นความผิดใหญ่ร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต

นายแต๋วชดเชยปมด้อยในใจด้วยการช่วยเหลือสังคม ช่วยผู้ยากไร้ ผู้ประสบภัยธรรมชาติ

ในคืนที่พระจันทร์ทั้งสองดวงเต็มดวงพร้อมกัน เมื่อนายแต๋วถูกจับได้
ว่าไปพลอดรักกับชาย จึงถูกจับเพื่อนำไปประหารชีวิตในคืนนั้นทันที
นายแต๋วได้อธิษฐานก่อนตายว่าด้วยคุณความดีที่ตนได้ช่วยเหลือคนอื่นมามากมาย
ขอให้ชาติหน้าตนเองได้เกิดเป็นชายแท้รูปงามเถิด

จากนั้นก็ไปเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์อีกหลายชาติ
ก่อนที่จะมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง

...........................................................

ย้อนกลับไป ๓ ชาติที่แล้วที่เป็นคน ชื่อ นายต๊อง

นายต๊องเป็นชายหนุ่มรูปหล่อมาก หญิงใดได้เห็นก็เป็นอันตกหลุมรักได้โดยง่าย
เมื่อมีหญิงสวยๆมาทอดกายให้โดยง่ายบ่อยๆ
นายต๊องก็จึงหวั่นไหวทำไปตามความต้องการทางเพศตามธรรมชาติได้บ่อยๆ
เมื่อมีผู้หญิงมารักนายต๊องมากหลายคน นายต๊องจึงปล่อยตัวปล่อยใจให้ทุกคน

ผู้หญิงบางคนที่รักมากแต่รับการกระทำของนายต๊องไม่ได้ก็เศร้าโศกเสียใจ
จนบางคนถึงกับตบตีกันเพื่อแย่งชิงนายต๊อง บางคนก็ทำร้ายตนเอง
ไปจนถึงฆ่าตัวตาย แม้เหตุการณ์เหล่านั้นทำให้นายต๊องสลดชั่วครู่
แต่กลับยิ่งทำให้นายต๊องแอบภูมิใจลึกๆ
ในความมีเสน่ห์ของตนที่มีมากมายจนสามารถสยบชีวิตคนอื่นได้
และยิ่งรู้สึกว่าความรู้สึกของผู้หญิงเป็นเรื่องไร้ค่าลงเรื่อยๆ
รู้สึกลึกๆว่าผู้หญิงเป็นเพียงของเล่นไว้ใช้ระบายความใคร่

จนกระทั่งวันนึง สามีของหญิงคนนึงที่นายต๊องไปเป็นชู้ด้วย
มาแก้แค้นด้วยการเอามีดปักลงที่อกของนายต๊อง
ก่อนเขาจะตาย ก็แวบระลึกขึ้นมาว่าตัวเองจะต้องรับผลของสิ่งที่ทำลงไป
จึงคิดได้ว่าไม่น่าเลย ก่อนตายก็อธิษฐานว่า
ขออย่าให้ตนเองต้องไปเกิดเป็นหญิงที่ถูกผู้ชายหักอกเลย

คำอธิษฐานใช่ว่าจะจริงเสมอไป กฎความจริงของธรรมชาติมันมีของมันอยู่
และมันก็เป็นไปของมัน ไม่ได้เป็นไปตามความเชื่อหรือความเห็นของใคร
หากอธิษฐานโดยไม่สมเหตุสมผลกับสิ่งที่ตนทำมาหรือสร้างมา คำอธิษฐานก็ไม่เป็นผล

จากนั้นเขาก็ไปเกิดเป็นสัตว์อีกหลายชาติ เป็นสัตว์ตัวเมียที่ถูกตัวผู้เอาเปรียบบ้างทำร้ายร่างกายบ้างตลอดทุกชาติ

...........................................................

ย้อนกลับไป ๒ ชาติที่แล้วที่เป็นคน ชื่อนางสาวติ๋ม

ติ๋มเป็นสาวที่มีเสน่ห์พอตัว ผู้ชายมาชอบเยอะ
แต่ทุกคนคบกับเธอได้ไม่นานก็มักเลิกไป
ทุกครั้งที่เลิก เธอรู้สึกเจ็บปวดเจียนตายราวกับมีมีดมากรีดหัวใจ
รู้สึกเกลียดผู้ชาย เกลียดความรัก
แต่เมื่อมีคนใหม่มา.......
ก็ไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดทางใจที่มีต่อชายหนุ่มที่เข้ามาได้
ก็จึงรักไปอีก แล้วก็เลิกไปอีก แล้วก็เสียใจอีก

ชีวิตเธออกหักเสียใจถูกผู้ชายหักอกไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง
ครั้งสุดท้ายเธอไปเผลอใจกับชายคนหนึ่ง ที่เธอคิดว่าเป็นคนดีพร้อม
แต่หารู้ไม่ว่าชายคนนั้นแอบปิดบังว่าตนเองมีเมียแล้ว

เมื่อเมียชายคนนั้นรู้เรื่องเข้า จึงเอาน้ำกรดมาสาดหน้าติ๋ม
ติ๋มทนพิษบาดแผลทั้งทางกายและใจไม่ไหว จึงตรอมใจตาย
แต่ทว่าก่อนตายเธอได้อธิษฐานว่าเธอจะอโหสิกรรม ยกโทษให้ทุกคนที่ทำร้ายเธอ
ถ้าชาติหน้ามีจริงเธอไม่อยากเป็นหญิงอีก
ขอให้เธอได้เป็นชายและเจอรักแท้อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า

จากนั้นก็ไปเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์อีกหลายชาติ ทุกชาติก็ได้เป็นเพศผู้หรือไม่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีเพศ

...........................................................

ย้อนกลับไปชาติที่แล้ว ชื่อนายเต็ม

นายเต็มเกิดเป็นชายชาตรี แม้ไม่หล่อมากมาย แต่ก็ได้พบรักกับหญิงที่ถูกใจ
มีลูกด้วยกัน ชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับการทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
การประคับประคองชีวิตคู่ การเลี้ยงดูลูก พอลูกโต ก็มาวุ่นๆกับการเลี้ยงดูหลาน

ในครั้งนี้ได้เกิดมาในยุคที่คำสอนที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นยังมีอยู่
จึงเคยฟังธรรมมาบ้าง นอกจากนี้ก็ยังทำบุญทำทานช่วยเหลือผู้ยากไร้บ้าง
แต่ก็รู้สึกว่าการปฎิบัติธรรมเป็นเรื่องไกลตัว

จนกระทั่งพอเริ่มแก่ตัวมาก เดินไม่ค่อยไหว
มีโรคร้ายๆมารุมเร้าบีบคั้นให้เจ็บปวดอยู่เสมอๆ ก็เริ่มรู้สึกขึ้นมาเองว่า
ชีวิตมีแค่นี้เองหรือ เกิดมา หาเงินหาทอง สร้างครอบครัว เลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน
ชีวิตทำดีที่สุดแล้ว ยอมทุกข์ยากลำบากลำบน
จนร่ำรวยมีครอบครัวมั่นคงมีลูกหลานมากมาย ได้ทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว
แต่สุดท้ายก็ต้องตาย ต้องทิ้งทุกอย่างไป คิดแล้วก็น่าสลดใจ
คิดไปว่าถ้าต้องเกิดอีกและวนเวียนกับชีวิตอย่างนี้ซ้ำๆซากๆอีก
มันช่างน่าเบื่อน่าระอาเหลือเกิน

นายเต็มเริ่มอยากเข้าวัดฟังธรรมและปฏิบัติธรรม
แต่ก็แก่จนแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินด้วยตนเองแล้ว
พอขอลูกให้ช่วยพาไปวัด อยากไปฟังธรรม
ลูกก็บ่นว่าวุ่นอยู่กับการทำงานและการเลี้ยงหลาน
ไม่มีเวลาพาตนไปไหนต่อไหน ก็ต้องอ้อนวอนขอลูกอยู่หลายครั้ง
กว่าลูกจะยอมพาไปวัดได้

พอมีโอกาสได้ตักบาตรและฟังธรรมก็รู้สึกซาบซึ้งกับหลักความจริงที่ได้ฟัง
แม้จะเคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว
แต่ไม่มีครั้งไหนที่สามารถเห็นซึ้งจับจิตจับใจได้เท่าครั้งนี
แล้วก็เกิดความหวาดกลัวที่จะต้องเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด อย่างไม่รู้จบอยู่อย่างนี้
คิดไปแล้ว ก็เสียดายเหลือเกินว่ามาคิดได้เอาเมื่อแก่
รู้สึกว่าเวลาชีวิตคงเหลืออีกไม่มาก คงไม่มีทั้งแรงกายแรงใจที่จะปฎิบัติต่อไป
จนเกิดผลให้สามารถหนีรอดจากสังสารวัฏได้
ก็เลยอธิษฐานว่า หากเกิดมาชาติหน้า
ขอให้ข้าพเจ้าเป็นอิสระจากการมีภาระ ไม่ต้องมีเมีย ไม่ต้องมีลูก
ขอให้มีฐานะและหน้าที่การงานที่ดีพออยู่พอกิน เลี้ยงดูบุพการีและตนเองได้จนตาย
และขอให้ข้าพเจ้ามีศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง ได้ปฎิบัติธรรมตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น
ขอให้มีเวลาว่างพอให้ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม
และได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง
และขอให้มีแรงหนุนให้ปฎิบัติจนได้ดวงตาเห็นธรรมภายในชาตินั้นด้วยเถิด

ทันที่ที่จบชีวิตในชาติที่แล้ว ก็มาเกิดเป็นคนต่อทันทีในชาตินี
...........................................................

ชาติปัจจุบัน

สิ่งที่ระลึกนึกได้ ไม่ใช่มีเพียงเรื่องราวในชาติก่อน
แต่รวมทั้งช่วงแรกเริ่มของชีวิตในชาตินี้

พอมาอยู่ในครรภ์มารดา อยู่ในที่อันแสนจะคับแคบอึดอัด
มืดตื้อแออัดด้วยสิ่งปฏิกูล นานถึง 9 เดือน
พอช่วงคลอดก็ถูกกระทุ้งกระแทกพลิกหัน ถูกกดถูกบีบถูกอัด
กว่าจะผ่านช่องคลอดอันแสนแคบออกมาได้ เจ็บปวดสาหัส
ช่วงแรกคลอดใหม่ร่างกายก็มีผิวละเอียดอ่อนดังแผลใหม่ ถูกสัมผัสจับต้องเช็ดล้างแสนเจ็บแสบ
แค่เกิดก็เป็นทุกข์เหลือเกิน เกิดคราใดเป็นทุกข์ทุกครา

...
...
...

นายตุ๋ยลืมตาขึ้นมาอยู่กับปัจจุบัน
เขารู้แล้วว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาในชาตินี้นั้นล้วนแต่ดีอย่างยิ่งแล้ว
แม้จะเป็นเกย์เพราะสิ่งที่เคยทำไว้ในชาติที่เป็นนายต๊องนั้นยังคงส่งผล
แต่เมื่อมันเกิดร่วมกับผลบุญและสิ่งที่ได้อธิษฐานในชาติที่แล้ว
กลับเป็นข้อดีที่นำพาให้ชีวิตดำเนินจนเป็นไปตามที่เขาเคยตั้งเป้าปรารถนาไว้

การเกิดมาแล้วเป็นการยากเหลือเกิน
ที่จะมีใครหลุดพ้นจากแรงดึงดูดอันเกิดจากความรักและความชังได้
การที่เขาเกิดมาเป็นเกย์ ทำให้ไม่เผลอไปรักผู้หญิง
ถ้าไม่เป็นเกย์ ป่านนี้ตุ๋ยคงมีครอบครัวแล้ว คงใช้เวลาวันๆไปกับการหาเงิน
สร้างครอบครัว การประคับประคองชีวิตคู่ การเลี้ยงดูลูก
คงไม่สนใจธรรมะจริงๆจังๆไปจนกว่าจะแก่
ซึ่งก็จะมีเวลาเหลือน้อย แรงกายแรงใจอ่อนล้า
การปฎิบัติในตอนอยู่ในสภาพแบบนั้นเป็นการยากอย่างยิ่ง และคงไม่ทันการ

และด้วยจิตใจที่รักชายด้วยกัน รักแบบนี้โดยส่วนใหญ่ก็เป็นรักที่พังทลายได้ง่าย
เพราะไม่มีพันธะผูกมัดแน่นหนา ไม่ว่าจะทางสังคม หรือทางกายภาพ
และส่วนใหญ่มักต้องคบกันแบบแอบซ่อน
ทั้งหมดนี้จึงทำให้คู่รักเกย์เลิกกันได้ง่ายดายกว่าชายหญิงปกติมาก
จึงเป็นการง่ายที่จะเลิกกันเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกเป็นทุกข์
หรือเมื่อเจอคนที่ถูกใจกว่า
และรักของเขาเองที่ผ่านมาตลอดชีวิตก็เป็นเช่นนั้น
นั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้แรงดึงดูดทางใจในเรื่องความรักมีไม่มากเท่าไร

ความรักในคู่ครองที่มั่นคงแน่นแฟ้นผูกพันยาวนาน เป็นสิ่งที่มนุษย์แทบทุกคนใฝ่หา
แต่เมื่อระลึกชาติได้จึงเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนโซ่ตรวน
เป็นพันธะที่สำคัญตัวหนึ่งที่ฉุดรั้งผู้คนไว้ไม่ให้หนีไปจากสังสารวัฏ
คนที่ยังไม่เจอรักก็ใช้เวลาไปกับการหา
คนที่เจอแล้วก็หมดเวลาไปกับการรักษาให้คงอยู่
แต่สุดท้ายก็ต้องพลัดพรากจากกันในที่สุดทุกคู่
ไม่มีคู่ใดเลยที่จะเลี่ยงการพลัดพรากจากกันไปได้
และเมื่อจากกันไปแล้ว คนก็เสียเวลาไปกับการคร่ำครวญกับความคิดถึง
เศร้าใจเมื่อนึกถึงเรื่องราวดีๆ หรือเคืองใจเมื่อนึกถึงเรื่องแย่ๆ ที่เคยจดจำมาในอดีต

และก็คงเพราะความทุกข์มากมายในชีวิต โดยเฉพาะจากการเป็นเกย์และความรัก
บวกกับความความตระหนักรู้ในความทุกข์ที่บีบคั้นอยู่ตลอดเวลา
จึงมีศรัทธาในการนำพาตนให้พ้นจากทุกข์
จึงได้สนใจและปฎิบัติธรรมตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น

แม้ผลพลอยได้จากการปฎิบัติธรรมที่ทำให้เขาเกิดรู้เรื่องราวในอดีตของตนในครั้งนี้
จะไม่ใช่ญาณที่ทำให้ตนพ้นจากทุกข์ แต่ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ตนเร่งปฎิบัติต่อไป
เพื่อที่จะไม่ต้องถูกบีบคั้นจากการเกิดและการตายอย่างไม่จบไม่สิ้นอยู่อย่างนี้
...........................................................

เล่าดีไหม

นายตุ๋ยคิดว่าจะเอาความจำในอดีตอันยาวนานที่ระลึกได้นี้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง
แต่พอไตร่ตรองดูแล้ว ก็คิดว่า....

ถ้าไปเล่าให้พวกที่ไม่เชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงเขาก็คงคิดว่าไร้สาระ
สิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นแค่ฝันไป ....
หากจะว่ากันตามจริงแล้วมันก็เป็นเพียงฝันดังเขาว่า แต่พวกเขาเองก็คงไม่รู้ว่า
ชีวิตในตอนนี้ของเขาเหล่านั้นเองก็เป็นแค่ความฝันอันหนึ่งเหมือนกัน
ฝันที่เริ่มต้นเมื่อเริ่มหายใจ ... จบฝันนี้เมื่อหมดลมหายใจ
แล้วก็ต้องถูกธรรมชาติจัดการทำให้ลืมฝันครั้งนี้ทั้งหมด
แล้วไปเริ่มต้นฝันครั้งใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่จบไม่สิ้น
แม้จะไม่รู้อะไร จำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่เคยทำในฝันครั้งก่อน
ก็ยังตามมาให้ผลในฝันครั้งใหม่เสมอ และด้วยความไม่รู้ในกฎธรรมชาติข้อนี้
คนจึงมักทำผิดศีลเบียดเบียนทำร้ายคนอื่น ไปตามความต้องการของตน
แล้วก็ต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำไปเพราะความไม่รู้ในที่สุด
และต่อให้คนที่รู้แล้วก็ยังเผลอทำผิดศีลธรรมก็มีอีกมาก
เพราะธรรมชาติของใจที่ไม่ฝึกฝนจะไหลลงที่ต่ำได้ง่าย

แต่ถ้าไปเล่าให้พวกที่เชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริงแต่ไม่สนใจปฎิบัติธรรม
เขาก็คงนึกว่าเราเป็นผู้วิเศษ ขอให้ดูดวง ขอหวย ขอโน่นขอนี่
ถามโน่นถามนี่ อัญเชิญไปปราบผี ฯลฯ
นอกจากเราจะทำให้ไม่ได้แล้ว ยังอาจจะถูกรบกวนอยู่เรื่อยๆ
จนไม่มีเวลาส่วนตัวให้ปฎิบัติให้ยิ่งๆต่อไป

ถ้าจะไปเล่าให้คนที่ปฎิบัติธรรมจริงๆจังๆเหมือนกันฟัง
ก็รู้สึกว่าคนรอบตัวนั้น หาคนตั้งใจปฎิบัติธรรมจริงๆจังๆได้ยากเหลือเกิน
โดยเฉพาะเพื่อนในวัยเดียวกัน
ที่มักมองว่าเราเป็นคนแปลกๆไปซะแล้วที่ชอบเข้าวัด ชอบฟังธรรม
แถมเล่าไปแล้ว ดีไม่ดี ความอิจฉาอาจครอบงำคนคนฟังเอาได้
ผู้ปฎิบัติธรรมที่ยังไม่บรรลุธรรม ย่อมยังโดนกิเลสครอบงำได้เสมอเป็นธรรมดา
ตัวของนายตุ๋ยเองก็เช่นกัน
แม้ในตอนนี้นายตุ๋ยก็เห็นว่าเกิดความรู้สึกว่า ?กูเก่ง? ที่กำลังผุดขึ้นมานั้น
มันเป็นตัวผลักดันให้นายตุ๋ยอยากเอาเรื่องนี้ไปเล่าอวดเพื่อนที่ปฎิบัติธรรมคนอื่นๆ

พอคิดจะไปเล่าให้ครูบาอาจารย์ทางธรรมฟัง ก็ระลึกคำที่ท่านมักสอนว่า
ผู้ปฎิบัติบางคนอาจจะได้ผลพลอยได้จากการปฎิบัติเป็นของเล่นบางอย่าง
เช่น การระลึกชาติได้ การอ่านจิตคนอื่นได้ เป็นต้น
แต่ถ้ามัวไปหลงติดใจในของเล่นเหล่านั้น ก็จะทำให้ไม่ไปต่อจนถึงเป้าหมาย
ไม่ได้พบของจริง คือญาณที่นำพาให้พ้นทุกข์สิ้นสุดการเกิดการตาย

ว่าแล้วนายตุ๋ยก็คิดว่า เก็บมันเอาไว้ ไม่ต้องบอกใครดีกว่า...

อ้าว... เผลอฟุ้งซ่านอยู่ได้ตั้งนาน ... ไปเดินจงกรมดีกว่า....