Print

นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ - ฉบับที่ ๑๓๖

ธรรมโอสถ กับ บททดสอบ

กระแสลม

เฮ้อ…” เสียงถอนหายใจของฉัน ดังเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้สินะ

ที่เค้าว่ากันว่า เวลามีความสุขทีไร ให้ระวังไว้ ความทุกข์กำลังจะตามมาคงจะจริง...

จะ มีอะไรแย่กว่านี้ไหมเนี่ยฉันทุบหัวตัวเอง เพื่อจะให้เลิกคิดซะที กับเรื่องไร้สาระบ้าๆ บอๆ ที่ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าฉันคือต้นเหตุให้สองสามีภรรยาต้องทะเลาะตบตีกัน เพียงแค่เพราะคำว่า ไม่รู้อาจดูเป็นคำแก้ตัวที่แย่นะ แต่ว่านั่นคือความจริง

คนเคยคุยกันฉันขอใช้คำนี้ เพราะว่าต่อไปคงไม่มีโอกาสได้คุยกันแล้ว และฉันก็คงไม่ติดต่อใดๆ กลับไปอีก จะไม่มีการตอบโต้ใดๆ จากฉันอีกแล้ว เค้าจะเป็นแค่สิ่งว่างเปล่า เพราะฉันไม่อยากสร้างเรื่องให้ใครต้องเข้าใจผิดอีก และที่สำคัญ ฉันเคร่งครัดเรื่องศีล ๕ มากๆ ด้วยสิ ที่ฉันรู้สึกแย่ก็เพราะกลัวผิดศีล ๕ นี่ละ

เมื่อเช้าขณะที่มือหนึ่งกำลังง่วนกับงานตรงหน้า ส่วนอีกมือก็หยิบโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาหนีบหู ทุกอย่างหยุดกึก เมื่อได้ยินเสียงปลายสายพูดมาว่า

น้องกันย์หรอคะเสียงคุณแม่ของปลายสายนั่นเอง ฉันรับคำก่อนจะเอ่ยปากถามสารทุกข์สุขดิบ แต่พูดได้แค่

แม่เหรอคะ เป็นยัง.........ปลายสายพูดแทรกทันที

น้องกันย์รู้ไหมคะ ว่าทำให้พี่บอยทะเลาะกับเมียเค้าฉันอึ้งและรู้สึกชาที่หน้า ขณะที่ปลายสายยังคงพูดต่อมาเรื่อยๆ

พี่บอยเค้ามีเมียแล้ว แต่เค้าไม่กล้าบอกน้องกันย์ แม่ก็เลยต้องบอกเอง อะไรนักหนา ส่งข้อความหากัน คุยโทรศัพท์กัน มีอ้อนด้วยนะ เมียเค้ารู้เข้าก็ไม่พอใจ โวยวายแล้วก็ทะเลาะกัน ทุกทีที่เป็นอย่างนี้แม่ไม่อยากเข้ามายุ่ง แต่ครั้งนี้บานปลายถึงขั้นตบตีกัน แม่เลยต้องขอยุ่ง แม่ไม่ชอบเลย เราทำอย่างนี้มันไม่ดีนะฉันอ้าปากจะพูด แต่พูดไม่ทัน ได้แต่

คือว่ากันย์...แล้วก็โดนตัดบทอีก

น้องกันย์รู้อะไรไหม ครั้งที่แล้วที่เค้าทะเลาะจนเลิกกัน แล้วที่เค้าโทรไปชวนน้องกันย์ไปกินข้าว แม่บอกไว้เลยว่า เค้าอยากจะคบกับน้องกันย์ แต่พอโดนน้องกันย์ปฏิเสธไม่ไปกินข้าวด้วย รู้ไหมครั้งนั้นเค้าเสียใจมาก... เค้าก็เลยกลับไปดีกับแฟนเก่าเค้า แล้วนี่เค้าก็แต่งงานอยู่กินกันแล้วด้วย

ฉันเพิ่งรู้ความจริงอีกข้อว่า ครั้งนั้นที่คนเคยคุยกันโทรมาชวนฉันไปกินข้าว ก็เพราะ ว่าเค้าจะจีบฉัน บางคนอาจจะว่าฉันเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้ แต่ฉันขอบอกว่าไม่รู้จริงๆ คิดเพียงแค่ว่าเค้ากับฉันเป็นพี่น้องกันเฉยๆ เพราะทุกทีที่คุยกัน นิสัยของฉันก็คือจะชอบคุยอะไรที่สนุกสนานเฮฮา เล่นมุก มีกวนๆ บ้างตามประสา เหมือนกับที่ฉันชอบเล่นกับพี่ๆน้องๆ กับเพื่อนๆ กับคนที่ทำงาน และคนรู้จักที่ค่อนข้างจะสนิทกันสักหน่อย

มีประโยคหนึ่งที่ฉันมักจะพูดกับเพื่อนสนิทเสมอๆ คือ

ให้เดาเอง ฉันไม่เดาหรอก เพราะอาจจะผิดก็ได้ เพราะฉะนั้นใครรู้สึกยังไงกับฉันก็พูดมาตรงๆ เพราะฉันไม่ชอบคนอ้อมค้อม

กลับมาที่บทสนทนาต่อ ฉันจะอ้าปากปฏิเสธ แต่ปลายสายไม่ฟังฉัน เค้ายังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ อยากจะอธิบายบ้างนะ แต่เค้าไม่ได้เปิดโอกาสให้เลย

ทำไมต้องส่งข้อความหากันด้วย ถึงแม้ทุกทีพี่บอยจะส่งหากันย์ก่อนก็เถอะ แต่ดูสิ... เป็นเรื่องให้ทะเลาะกันทุกที แม่ทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ น้องกันย์เปลี่ยนเบอร์ไปเลยนะฉันอึ้งหนัก ชาเพิ่มขึ้น... เอ่อ... สรุปว่าความผิดทั้งหมดเป็นของฉันคนเดียวเลยเหรอเนี่ย

กันย์รู้ไหม สิ่งที่กันย์ทำมันไม่ดีนะ เป็นคนมีธรรมะถือศีล มักจะเนื้อหอมเป็นปกติ ลูกชายแม่ก็เนื้อหอมอย่างนี้ละเพราะเค้าก็มีธรรมะ เค้าก็ถือศีลไง แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่ามีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น มันดีเหรอ คนอื่นจะมองว่าเค้าเป็นคนยังไง แล้วรู้ไหมมีแต่คนมาจีบเค้าเยอะแยะไปหมด ส่วนเราน่ะ แม่ก็ต้องบอกเมียเค้าเพื่อไม่ให้คิดมากว่าอะไรรู้ไหม น้องกันย์ไม่ได้สวยเลิศเลออะไรเลยไม่ได้คิดไปเอง แต่น้ำเสียงตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ของแม่พี่บอย เค้ากำลังโกรธเรามาก

ค่ะ...ที่แม่พูดถูกแล้ว กันย์ไม่ได้สวยฉันย้ำออกไป ไม่ได้เป็นการประชด แต่ฉันรู้ว่านั่นคือความจริงที่ฉันก็ยอมรับเสมอมา

ใช่... น้องกันย์ไม่ได้สวย เอาละ มีอะไรจะพูดไหม... ฉันจะได้พูดนอกเหนือจากคำว่า ค่ะ แล้วใช่ไหม

คือว่่า กันย์ขอบอกก่อนเลยว่ากันย์ไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น ถ้ากันย์รู้ว่าจะทำให้พี่บอยต้องทะเลาะกับแฟนเค้าด้วยเหตุผลอย่างนี้ กันย์จะไม่ติดต่อกลับไป กันย์ก็แค่เห็นว่าพี่เค้าส่งข้อความมาก่อนเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ กันย์ก็ตอบไปธรรมดาไม่ได้คิดอะไร...

เพราะกันย์คิดว่ากันย์เป็นเด็กกว่า ถ้ากันย์ไม่ตอบกลับ ก็จะกลายเป็นการเสียมารยาท ไม่ว่าใครส่งข้อความอะไรมา กันย์ก็มักจะส่งกลับเสมออย่างนี้ทุกคน ที่สำคัญกันย์ไม่นึกว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้ และกันย์ก็ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นด้วยนะคะ

ก็ ใช่ น้องกันย์ไม่ได้มีเจตนา แต่สิ่งที่น้องกันย์ทำ การที่ส่งข้อความกลับมาหาพี่เค้า ทำให้เมียเค้าคิดมากความผิดทั้งหมดยังคงเป็นของฉันอยู่ดี ฉันเริ่มกุมขมับแล้วล่ะ เหมือนโดนโยนบาปใส่โดยไม่ทันตั้งตัว

งั้น กันย์รบกวนแม่ ช่วยลบเบอร์กันย์ทิ้งไปเลยนะคะ เพราะกันย์ก็จะลบเบอร์พี่บอยทิ้งเหมือนกันฉันตัดบท อยากหยุดแค่นี้ เพราะมันกำลังกลายเป็นความเครียดแล้ว

ไม่ต้องหรอก นี่แม่เปิดลำโพงคุยอยู่ ตอนนี้พี่บอยกับเมียเค้าก็ฟังกันอยู่ เค้าได้ยินกันหมดแล้ว

โอเคค่ะ งั้นกันย์ขอบอก ณ ตรงนี้เลยว่า กันย์ต้องขอโทษจริงๆ กันย์ไม่ได้เจตนา และกันย์ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพี่เค้าเลยสักนิด...

ฉันยืนยันสิ่งที่ฉันคิดจริงๆ ถ้าให้ฉันต้องไปแย่งของๆใคร ฉันไม่ทำเด็ดขาด เพราะฉันคิดเสมอว่า ยอมตายดีกว่าผิดศีล! แต่ฟังจากน้ำเสียงฝั่งโน้น เค้าคงไม่เชื่อฉันหรอก

แล้วก็ลบเบอร์กันย์ทิ้งเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องเป็นประเด็นกันอีกฉันย้ำอีกครั้ง

ไม่ ต้องหรอกน้องกันย์ คนเราถ้าบริสุทธิ์ใจกันจริงก็ต้องคุยกันได้สิ แต่แม่อยากบอกว่าให้คุยกันอย่างเปิดเผย อย่าคุยกันแบบนี้อีก... คุยกันแบบพี่น้องจริงๆนะ อย่ามีอะไรเคลือบแฝง แล้วอีกอย่างถึงจะลบเบอร์ทิ้งไป ถ้าคนเราคิดจะติดต่อกัน มันก็มีได้อีกหลายช่องทาง

อะไรกันนักหนาคะ... ตอนแรกบอกให้ฉันเปลี่ยนเบอร์ พอฉันบอกให้ลบเบอร์ก็ไม่ลบ แล้วยังมากล่าวหาฉันอีก ใจจริงปากก็อยากบอกว่าให้ช่วยไปกดดูข้อความที่แล้วๆมาด้วยนะคะ มีแต่แบบธรรมดามาก มีก็แต่พี่บอยนั่นละที่เอ่ยปากชวนฉันไปกินข้าว เดินเที่ยว ดูหนัง แต่ฉันก็ส่งข้อความปฏิเสธไปตลอดนะ ฉันโมโหสุดๆ แล้วล่ะ

แล้วก็บอกไว้ก่อนนะ อย่าให้มีเหตุการณ์อย่างนี้อีก แม่ไม่ชอบฉันรับคำไป แล้วเค้าก็เปลี่ยนเรื่องทันควัน ยอมรับว่าปรับโหมดตามไม่ทันหรอกนะ มาตำหนิเป็นชุดแล้วมาพูดดีตอนท้าย คล้ายๆ กับตบหัวแล้วลูบหลัง

ฉันวางสายไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น... ฉันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ไม่มีใจจะทำงานแล้ว แต่ที่กังวลมากกว่า

ฉันผิดศีลหรือเปล่า?

แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ฉันก็ยังคงโกรธอยู่

สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดตอนนี้คืออะไรน่ะเหรอ ก็คำ ขอโทษจากคนต้นเหตุไง และฉันคงได้แต่หวังลมๆแล้งๆ ฉันไม่ได้รับคำขอโทษเลย และท่าทางเค้าก็คงจะไม่รับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำ

วันนี้ฉันทนไม่ไหวแล้วละ ฉันกำลังเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

ฉันมานั่งสำรวจดู ที่ฉันรู้สึกแย่มาหลายวันก็เพราะสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น

ฉันกำลังโมโหและโกรธมาก ที่อยู่ๆ ก็โดนด่าในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ แล้วฉันโง่ซะด้วยสิที่ยึดถือไว้เสียหลายวัน ยึดแน่นไม่ยอมปล่อย ทั้งๆ ที่คนที่ด่าฉันคงลืมไปหมดแล้วด้วยซ้ำ

ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันหยิบหนังสือธรรมะมาอ่านหลายเล่ม ทำให้ฉันสังเกตได้อีกสิ่งหนึ่งคือ ธรรมะอันวิเศษของพระพุทธเจ้าจึงยังไม่เข้ามาในจิตใจฉัน เหตุเพราะฉันยังไม่วางตัวตนฉันลง ฉันยังถืออารมณ์โกรธอยู่อย่างแน่นหนา

ฉันพยายามกดอารมณ์โกรธลง แต่นั่นยิ่งทำให้ฉันแย่ ความรู้สึกเหมือนกับเอาอะไรไปอุดที่ปากปล่องภูเขาไฟที่ระเบิด...มันไม่สำเร็จ และดูเหมือนมันยิ่งแย่ลง ฉันกลับมานั่งสงบสติอารมณ์ใหม่ พิจารณาจิตอย่างแท้จริง

ฉันกำลังถือเอาสสารที่เป็นเพียงแค่คำพูดที่ลอยมาตามลมเท่านั้นหรือ?
ฉันถือมาใส่จิตใส่ใจ แถมยังขังไว้ไม่ยอมปล่อย ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบเลยสักนิดน่ะหรือ?

ฉันตั้งสติอีกครั้ง นึกได้ถึงหนังสือประวัติพระโมคคัลลานะพระสารีบุตรที่ถือติดมือมา จึงรีบหยิบมาเปิดอ่าน ฉันพลิกไปยังหน้าที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสกับทีฆนขะ

ดูก่อนทีฆนขะ มนุษย์เรานี้ เมื่อมีความสุขก็จะลืมความทุกข์ไปเสียสิ้น และเมื่อได้รับความทุกข์ก็จะมองไม่เห็นความสุข คนส่วนมากเมื่อทุกข์ก็จะคิดว่าตัวต้องทุกข์ไปตลอด หรือเมื่อสุขก็คิดว่าความสุขนั้นจะเป็นนิรันดร์ หารู้ไม่ว่าทั้งสุขและทุกข์นั้นมิใช่ของจริง เหมือนดั่งเห็นเงาจันทร์ในขันน้ำ เงานั้นมิใช่ดวงจันทร์ที่แท้จริงดอก

สุขและทุกข์เป็นของไม่เที่ยง เมื่อเห็นดังนี้แล้ว ผู้มีสติก็ย่อมเบื่อหน่ายทั้งสุขและทุกข์ ย่อมหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่วิวาททุ่มเถียงกับผู้ใด แม้คำพูดนั้นจะระคายหู ก็ให้มีสติรู้ว่าเป็นแค่คำพูดเท่านั้นเอง

เมื่อฉันอ่านถึงตรงนี้ จิตก็รู้สึกโล่งขึ้นมา ภูเขาไฟที่มันระเบิดคุกรุ่นมาหลายวัน กลับดับสนิทเย็นลงทันทีด้วยบทความวิเศษบทนี้

ด้วยสัจจริง ฉันไม่ได้เสแสร้ง ไม่ได้โกหก ไม่ได้แกล้งพูด พอเมื่อฉันได้อ่านธรรมะอันงดงามของพระพุทธเจ้าและน้อมจิตตามทีไร ฉันก็จะรู้สึกสงบเย็นได้อย่างประหลาด...

เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่ผ่านมา คงเป็นบททดสอบที่สำคัญ เมื่อลองสังเกตดู ทุกๆบททดสอบในชีวิตของฉันที่ผ่านมาจะรุนแรงและยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทุกบททดสอบฉันจะสามารถผ่านไปได้ด้วยพระธรรมอันงดงามของพระพุทธองค์เสมอๆ แม้ตอนต้นจะมีสอบตกไปบ้าง แต่ก็กลับมาสอบซ่อมได้ในตอนท้าย

ตอนนี้ฉันอยู่ที่ทำงาน แต่ฉันอยากจะกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุด ณ ตอนนี้ ฉันเปิดรูปหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เซฟเป็นพระพุทธรูป ฉันก้มลงกราบอย่างนอบน้อม ขอบพระคุณท่านอย่างซาบซึ้ง น้ำตาพาลจะไหลให้ได้ ทุกทีที่มีทุกข์ ก็มีธรรมะของพระพุทธองค์ช่วยดับทุกข์นั้นให้ฉันทุกที

ธรรมโอสถ คุณเคยได้สัมผัสกันบ้างหรือยัง?

ขอขอบคุณ
หนังสือการ์ตูนหมวดพระพุทธศาสนา พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร อัครสาวกซ้ายขวา ธรรมเสนาบดีแห่งกองทัพธรรม
หนังสือเครืออมรินทร์