Print

นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ - ฉบับที่ ๘๔

shortstoryเลือดกุหลาบ (ตอนจบ)

ชลนิล

?

ภาพมุมสูง ระยะปานกลาง มองเห็นโต๊ะทำงานของผมกองสุมไปด้วยแฟ้มเป็นตั้งๆ ผมอยู่ในชุดเครื่องแบบกำลังรื้อค้นหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อจะได้ทำเรื่องยื่นต่อศาลอุทรณ์

นอกห้อง นิลรดาเดินขึ้นมาบนสถานีตำรวจ...
?ผู้หมวดอยู่มั้ยคะ? เธอถามตำรวจหญิงที่อยู่หน้าห้อง
?อยู่ในห้องค่ะ เชิญเลย? เจ้าตัวกุลีกุจอพานิลรดาเข้ามาหาผม แสงสว่างค่อยๆ หรี่ลง...

ตัดภาพ ระยะใกล้ ตำรวจหญิงคนที่พานิลเข้าไปพบผม กำลังยืนคุยกับเพื่อนของหล่อน ตรงหน้ากระจกห้องน้ำ

?นี่เธอรู้มั้ย ตะกี้แฟนของหมวดเค้ามาล่ะ?
?คนไหนเหรอ ใช่คนที่โดนข่มขืนหรือเปล่า?
?นั่นแหละ น่าเสียดายนะ หน้าตาสวยด้วย เรียนมหาวิทยาลัยถึงปีสุดท้ายแล้วแท้ๆ ดันลาออกได้?
?แหมเธอใครจะทนเป็นขี้ปากเพื่อนๆ ได้ สังคมมันก็อยู่แค่นั้น ใครทำอะไรก็รู้กันหมด แต่ใจฉันน่ะเสียดายผู้หมวดมากกว่า หล่อก็หล่อ ใจซื่อ มือสะอาด วินัยเป๊ะ แถมอนาคตไกล ไม่น่าได้แฟนแบบนี้เลย?
?แบบนี้น่ะแบบไหนยะหล่อน?
?จะต้องให้พูดด้วยเหรอ โธ่เอ๊ย ถึงฉันจะไม่สวยเท่าเขา แต่รับรองได้ว่า บริสุทธิ์โอสถกว่าชัวร์?
?ก็แกไม่มีใครเอานี่หว่า?

ทั้งคู่เปิดประตูห้องน้ำออกไป จังหวะเดียวกับ นิลรดาที่ยืนฟังอยู่หน้าประตูห้องน้ำ เบี่ยงตัวหลบสองสาว...

จอมืด...มันมืดเหมือนใจผมขณะนี้

ผมเคยคิดว่านิลฆ่าตัวตายเพราะเราแพ้คดี ไม่น่าเชื่อว่าเธอตัดสินใจเลือกความตายเพราะคำพูดพล่อยๆ ของคนสองคน จิตใจของนิลเปราะบางอยู่แล้ว กว่าผมจะทำให้นิลเชื่อมั่นในความรักของผม กว่าผมจะทำให้นิลยอมเงยหน้ามองผู้คน มันไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย...

ทำไม...?

ผมเข่าอ่อน ทรุดฮวบลงกับพื้น พวกมันไม่ให้ผมดูฉากสุดท้ายของนิล เพราะมันรู้ว่าผมไม่มีทางเจ็บปวดมากไปกว่านี้อีกแล้ว...ใครบ้างจะไม่เสียใจ ถ้าคนรักของตน ตัดสินใจยอมตาย เพราะเห็นแก่ตัวเรา...

คงไม่ต้องให้ผมอธิบายว่าหลังจากนิลรดาฆ่าตัวตายผมทำอย่างไร... ในเมื่อกฎหมายที่ผมเคยเชื่อ เคยศรัทธาเคารพและมีหน้าที่รักษามัน ไม่สามารถช่วยล้างอายให้คนรักผมได้ ผมจึงต้องทำด้วยตัวเอง

ผมฆ่ามันอย่างโหดเหี้ยม ไร้ร่องรอย แม้จะมีคนสงสัย แต่ผมก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ กฎหมายแตะผมไม่ถึงเหมือนกับที่เคยแตะพวกมันไม่ถึง

เพราะฉะนั้น การทวงความแค้นของพวกมัน ก็ไม่แปลกอะไร...

?จะฆ่า ก็ฆ่า? ผมเงยหน้ามองเหล่าปีศาจโดยไม่พรั่นเกรง

กฎแห่งกรรมมีจริง...

?จัดการมัน? พวกมันคงรู้ว่า ใจผมเจ็บร้าวจนชาด้าน ไม่มีทางทำให้ผมทุกข์ทรมานได้มากกว่านี้อีกแล้ว จึงไม่รีรอที่จะสั่งประหาร

มีดที่จ่อคอผมตวัดฉับ...เลือดสีแดงสดพุ่งเป็นสาย ขาถูกดึงขึ้นสูงห้อยหัว เลือดทะลักเป็นลิ่มๆ มืออันบวมฉุเหม็นจัดของมันยัดเข้าใส่ปากผม กลิ่นฉุนของเบนซินกระทบจมูก ก่อนไฟอันร้อนแรงลุกโพลงท่วมร่างผมโดยไม่มีที่มา

ผมกำลังรับรู้ความเจ็บปวด หวาดกลัวก่อนตาย...

สติที่เหลือน้อยนิดบอกให้ผมต่อสู้กับความเจ็บปวด แต่จะมีสักกี่คนที่ทนต่อความทรมานเช่นนี้ได้ ผมก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

ชั่วเวลาที่ผมกำลังจะแหกปากร้องขอชีวิตอยู่นั้น ผมนึกถึงนิลรดา... ถ้าผมตาย ผมจะมีโอกาสพบนิล...

ผมยอมอดทนต่อความทรมาน... ในห้วงความคิด ผมมองเห็นนิลกำลังอยู่ท่ามกลางกอกุหลาบ ใบหน้าคุ้นตาส่งรอยยิ้มมาให้...ยิ้ม...เฉกเช่นเคยยิ้มให้ผม...ชั่วชิวิต

ความตายมีอะไรน่ากลัว ความเจ็บปวดทรมานมีอันใดน่าหวาดหวั่น ถ้าความเจ็บปวดเหล่านั้น จะพาผมไปพบนิลรดา...

ถึงตอนนี้ ผมยิ้ม...รอรับความตาย...

ภาพในจอทีวี

...บนถนนที่ร้างยวดยาน หญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งอย่างเต็มกำลัง ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่เธอสวมใส่เปรอะเปื้อนด้วยคราบฝุ่นและน้ำตา

เส้นทางยังทอดยาวนัก เธอคงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ไม่สนใจว่าจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกสักกี่พันครั้ง ชุดเจ้าสาวแทบไม่เหลือร่องรอยเดิม ขาทั้งสองยังพาร่างมุ่งสู่เบื้องหน้า ปากของเธอตะโกนร่ำร้อง เรียกหาเพียงชื่อของเขา

...เพลงดังขึ้น...

ภาพในจอทีวีดับวูบ

?เอ้า หมดเวลาดูทีวีแล้ว ไปเข้าห้องได้? เสียงของพัสดีดังขึ้น นักโทษหลายคนต่างทยอยลุกขึ้น เหลือเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง นัยน์ตายังไม่คลาดจากจอทีวีที่ว่างเปล่า

?ผู้หมวด หมดเวลาแล้ว ไปนอนเถอะไป? แม้เสียงจะเข้มดุ แต่นัยน์ตายังมีแววเห็นใจ

ชายหนุ่มหันมามองพัสดี ใบหน้าดำ กร้าน นัยน์ตาทอประกายบางอย่าง ก่อนจะลุกช้าๆ เดินตามนักโทษคนอื่นๆ

?ใครเหรอพี่? พัสดีหน้าใหม่มองตามชายหนุ่มคนนั้นก่อนถาม
?ผู้หมวดน่ะรึ? ผู้อาวุโสย้อนถาม ก่อนอธิบาย ?เคยเป็นนายตำรวจอนาคตไกลคนหนึ่ง?
?แล้วติดคุกคดีอะไรล่ะ?
?ฆ่าคนตาย?
?อ้าว...?
โดยไม่ต้องรอให้ถาม พัสดีคนเก่าก็รีบเล่าเรื่อง
?แฟนแกโดนข่มขืน แกก็เลยตามฆ่าไอ้พวกที่ข่มขืนแฟนแก... ทีแรกก็ไม่มีใครรู้หรอก แกเก็บหลักฐานร่องรอยแล้วก็วางแผนแนบเนียนจริงๆ แต่จู่ๆ ผู้หมวดก็ขอมามอบตัวเอง...สารภาพวิธีฆ่าอย่างหมดเปลือก พวกนายตำรวจผู้ใหญ่ถึงกับอึ้งเลย?
?แล้วแฟนแกล่ะพี่?
?ตายไปแล้ว ฆ่าตัวตายก่อนแกจะไปตามล่าไอ้พวกนรกนั่นเสียอีก?
?น่าแปลกนะ แล้วแกนึกยังไงถึงมาสารภาพล่ะ?
?ไม่รู้ ไม่มีใครรู้?

แสงไฟซีดๆ ส่องลอดลูกกรงเข้ามาพร้อมรัตติกาล ที่ก้าวเท้าไปสู่ทั่วบริเวณคุก...

ผมเกือบจะหลับไปแล้ว ขณะเห็นพวกมันเดินผ่านลูกกรงเข้ามา... ไอ้พวกปีศาจที่ไม่ยอมลงนรก มารบกวนผมเหมือนเคย

ผมหลับตา ไม่สนใจแม้ว่าพวกมันจะสำแดงเดชต่างๆ นานา ผมรู้แล้วว่า... ตราบใดที่จิตใจผมมั่นคงพอ วิญญาณร้ายพวกนี้ก็ไม่อาจทำอันตรายต่อผมได้

ในเช้าของวันที่ผมได้สติ ตื่นขึ้นมากลางโรงหนัง ทำให้ผมเข้าใจ คนกับวิญญาณมีธาตุหยาบละเอียดต่างกัน ผีร้ายอาจสำแดงเดชหลอกหลอนให้คนหัวใจวายตายได้ แต่ไม่สามารถใช้มือของมันฆ่าคน พวกมันจึงไม่อาจทำอันตรายใครได้ถ้าคนผู้นั้นไม่กลัวมัน ไม่กลัวความตาย

ประสบการณ์ที่ผมได้รับในคืนสยอง ทำให้ผมได้คิดในหลายๆ อย่าง... เด็กหนุ่มทั้งสามข่มขืน เป็นเหตุให้นิลฆ่าตัวตาย ผมตามล่าแก้แค้นพวกมัน และวิญญาณพวกมันก็ต้องการเอาชีวิตผม...

ความแค้นหมุนเวียนอยู่เช่นนี้ อีกนานเท่าใดถึงจะสิ้นสุด

ผมถอนใจ และตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน...มอบตัว...ยอมชดใช้กรรมของตน

เวลานับเป็นปีๆ ที่อยู่ในคุก ปีศาจทั้งสามยังมาราวีผมไม่เลิกรา จนแทบเป็นส่วนหนี่งในชีวิตผม

พวกมันยังไม่สามารถทำร้ายผมได้...ไม่ใช่เพราะผมมีเครื่องรางดี แต่ผมมีกำลังใจเข้มแข็ง ไม่กลัวตาย...วิญญาณไม่อาจฆ่าคน มีแต่ ?ความกลัว? ที่ฆ่าคน...

แม้พวกมันจะมาเรียกร้องขอชีวิตอยู่แทบทุกวัน แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ เพราะยามใดที่ผมหลับตาลง นิลรดาจะมาอยู่ในความฝันท่ามกลางสวนดอกไม้ไกลสุดลูกหูลูกตา กุหลาบหลากสีแข่งขันส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล ผมกับนิลมีเรื่องราวมากมาย พูดคุยกันไม่รู้จบ

กุหลาบรักที่ผมมีให้ต่อผู้หญิงคนเดียวในชีวิต จะเจริญงอกงามตลอดชั่วอายุขัย กรงขังและกำแพงคุก มิอาจปิดกั้นหัวใจรักระหว่างเรา...

ผมยอมอยู่ใต้อำนาจกฎแห่งกรรม...แต่จะไม่ยอมให้ความชั่วร้ายและความหวาดกลัวพวกมัน...มาอยู่เหนือจิตใจ
============================================

เลือดกุหลาบ เป็นเรื่องสั้นที่ได้รับการรวมเล่มในหนังสือรวมเรื่องสั้นเร้นลับ ?ลางมายา? โดย ชลนิล?

?