Print

นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ - ฉบับที่ ๒๑๐

สร่าง (ตอนที่ ๑)

ธีระวัฒน์ อนันตวรสกุล

ฉิ่งยังอยู่ในสภาพที่สร่างเมาไม่เต็มที่ในขณะที่ขับรถและพยายามประคองพวงมาลัยรถสองแถวใหญ่ของเขา เขาได้รับการว่าจ้างให้ขับรถไปวัดใกล้เขตภูเขา เพื่อส่งคณะผู้ปฏิบัติธรรมที่เป็นพนักงานในโรงงานแห่งหนึ่ง

สองปีที่ผ่านมานี้ เขาเมาหนักอยู่บ่อยๆ จนบางครั้งตื่นไปขับรถสองแถวประจำทางไม่ไหว เขาดื่มหนักขึ้นๆ จนช่วงหลังถึงกับซื้อเหล้ามานั่งกินคนเดียว เดิมเขาไม่ใช่คนขี้เหล้าเมายาอะไร เคยพากเพียรสอบความรู้ธรรมะได้ถึงนักธรรมเอกตอนเรียนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เรียน เขามีแรงจูงใจให้ใฝ่เรียนนักธรรมเนื่องด้วยรักแรกและรักเดียวของเขา คือภรรยาของเขาที่ทำงานเป็นพนักงานตัดเย็บในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออก เขาพบรักของเขาที่วัดในงานบุญ เธองามถูกใจจนเขาไม่ละสายตาไปจากเธอ เวลาผ่านไปและเนื่องด้วยบุญนำหนุน ฉิ่งและเธอได้แต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุข แต่ความสุขอยู่กับเขาแค่ไม่นาน เธอมีอันต้องจากไปด้วยอาการอันประหลาด คือนอนหลับไปเฉยๆ แล้วตายไปง่ายๆ เด็กกำพร้าที่ฝันจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นจึงต้องฝันสลายพร้อมกับการจากไปของเธอผู้เป็นที่รัก ชีวิตดูหมดสิ้นทุกอย่าง

เพื่อนใหม่ที่ช่วยให้เขาลืมทุกข์เขามาในชีวิตคือเหล้า มันเริ่มจากการชักชวนของเพื่อนในงานศพของภรรยาของเขาในคืนเฝ้าศพ
……

เป็นเวลาสายแล้ว รถที่ขับมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเป็นส่วนใหญ่จะวิ่งหาแสงแดด แดดรบกวนสายตา กอปรกับอดนอนและการไม่สร่างเมาเต็มที่ของฉิ่ง พวงมาลัยเริ่มส่าย เขารู้สึกเหมือนจะหลับหลายครั้ง เขาคิดว่าจะนำรถเข้าปั๊มล้างหน้าล้างตาสักหน่อย แต่ความรู้สึกสุดท้ายคือเขาทำได้แค่นำรถเข้าข้างทางก่อนถึงหน้าปั๊ม ระหว่างที่เหยียบคลัชเตรียมเปลี่ยนเกียร์เครื่องยนต์เกิดดับ ความรู้สึกของเขาวูบดับไปพร้อมๆ กับเครื่องยนต์ที่ดับลง
…….

รู้ตัวอีกทีเป็นเวลาประมาณบ่ายสอง เขาหลับอยู่ใต้โคนไม้ร่มรื่นไม่ไกลจากรถสองแถวของเขาที่จอดอยู่ มีผ้ายางที่มาจากหลังรถเขาเองปูรองนอน ตื่นมาสลึมสะลืองุนงงว่าเขาอยู่ไหน

ผู้โดยสารของเขาทั้งหมดตอนนี้อยู่ในสถานะผู้ปฏิบัติธรรม ต่างเปลี่ยนชุดนุ่งขาวห่มขาว กำลังช่วยทำกิจกรรมให้ทางวัด ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่า เขาได้รับการว่างจ้างให้มารับส่งผู้โดยสารมาที่วัดแห่งนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารของเขาปฏิบัติธรรมเป็นเวลา ๓ วัน ๒ คืน รู้ภายหลังว่าหลังจากเขาหลับ หนึ่งในบรรดาผู้โดยสารของเขาอาสาขับรถแทนทำให้มาถึงวัดตามกำหนดเวลา แล้วช่วยกันอุ้มเขามานอนตรงนี้

ตั้งแต่เช้าฉิ่งยังไม่กินอาหารจึงรู้สึกหิวมาก ฉิ่งเดินไปที่โรงครัวขออาหารกิน โชคดีที่ยังพอมีอาหารเหลือจากมื้อเพล ทุกคนกินกันหมดแล้วเพราะมาถึงวัดก็ต้องรีบกินข้าวหลังจากพระฉันเพล ทุกคนสมาทานศีล๘ อาหารที่วัดนั้นเป็นอาหารมังสวิรัติล้วนๆ เขานึกความหลัง นึกถึงภรรยาเขาที่มักจะชวนเขาไปกินอาหารมังสวิรัติที่ร้านของชมรมผู้ปฏิบัติธรรมแถวๆสวนจตุจักร ที่นั่นมีอาหารมังสวิรัติอร่อยๆมากมายราคาไม่แพง คิดถึงมื้ออาหารที่มีความสุขกับภรรยาที่จากไป แล้วกลับมาอยู่ที่ปัจจุบัน ข้าวราดจับฉ่ายและผัดฟักทองในกะลามังอยู่ตรงหน้าเขา

โรงงานที่มาทำกิจกรรมนี้มีพนักงานทั้งหมดประมาณสามร้อยคนเศษ เพิ่งจะเริ่มจัดกิจกรรมต่างๆ หลังจากที่ว่าจ้างที่ปรึกษามาศึกษาถึงปัญหาทางด้านการบุคคลภายในโรงงาน และพบว่ามีปัญหาการสื่อสารและการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่างๆ ที่ปรึกษาท่านนั้นได้แนะนำให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน โดยให้แบ่งประเภทกิจกรรมตามความสนใจของพนักงาน ทางโรงงานจึงเริ่มมีกิจกรรมต่างๆในวันหยุด และส่วนใหญ่วินรถสองแถวของเขาจะถูกว่าจ้างให้รับส่งคน เท่าที่เขาทราบมีการไปชมพิพิธภัณฑ์เกษตร ดูงานการปลูกผักสวนครัว ไปไหว้พระที่อยุธยา ไปเรียนถ่ายรูป โดยใช้วิทยากรภายในของบริษัทเองสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามเรื่องที่มีความถนัด ซึ่งเป็นวิธีการที่ชาญฉลาด คนที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากรย่อมเกิดความภูมิใจ และคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันจากหลายๆแผนกจะได้พูดคุยกันมากขึ้น คราวนี้เป็นคราวที่คนที่สนใจปฏิบัติธรรม ๒๙ คนจากหกแผนกจะมาทำกิจกรรมในช่วงหยุดยาวสามวันที่วัดแห่งนี้ รถของเขาได้มาให้บริการในครั้งนี้

หลังจากกินอิ่มเขาก็ไปช่วยผู้ปฏิบัติธรรมที่เป็นผู้โดยสารของเขากลุ่มหนึ่งแยกขยะตรงถังขยะใหญ่ของโรงครัว บางส่วนกำลังทำงานล้างส้วม กวาดขยะ รู้จากผู้โดยสารที่ได้ฟังเทศน์ตอนบ่ายว่า พระท่านสอนว่า “ให้รู้จักทำงานต่ำ จะได้มีจิตใจสูง ลดความมานะถือตัว”

เขาขอโทษผู้โดยสารทุกคนว่าเขาทำหน้าที่ไม่ดี ผู้โดยสารบางคนบ่นว่า “เมายังสร่างดีก็ไม่บอก เกือบจะได้ตายหมู่กันแล้ว” ฉิ่งก้มหน้านิ่งด้วยความละอาย

นั่งแยกขยะต่อ รู้เพิ่มเติมจากคนที่เสนอให้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ว่า ผู้คนเริ่มมาวัดมากขึ้น จากคำร่ำลือถึงวัตรปฏิบัติอันดีงามของพระสงฆ์ที่นี่ ช่วงปิดเทอมนี้มีโรงเรียนหลายแห่งนำนักเรียนมาฝึกอบรมเลยทำมีมีขยะเพิ่มมากขึ้น วันนี้มีขยะมากเป็นพิเศษเพราะเด็กนักเรียนเพิ่งกลับไปเมื่อเที่ยงนี้เอง เด็กๆบางคนไม่แยกขยะ คนอื่นๆเลยเอาความง่ายตาม หนักกว่านั้นคือมีการเทรวมสิ่งที่นักเรียนบางคนได้แยกไว้แล้วเป็นขยะรวม

กระป๋องน้ำอัดลม ขวดพลาสติก ขวดแก้ว ถุงพลาสติก ถุงขนม และกล่องนม ถูกแยกตามประเภท เพื่อเอาไปให้ไวยาวัจกรรวบรวมขายหรือนำไปดัดแปลงทำประโยชน์ต่อ เช่น ทำถุงเพาะชำกล้าไม้จากถุงขนม ทางวัดมีการจัดการที่ดีจนมีแค่ขยะส่วนน้อยที่ต้องฝังกลบ ส่วนขยะเศษอาหารมีผู้เสนอทางวัดให้หมักแก๊สใช้ในโรงครัว และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาด้วยผู้มีความรู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด

ฉิ่งให้ความสนใจกับการแยกกล่องนมเป็นพิเศษ มันทำให้เขาคิดถึงสมัยที่ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ เคยรวบรวมกล่องนมล้างนำส่งไปบริจาคที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อนำไปผลิตกระเบื้องมุงหลังคาบริจาคแก่ผู้ยากไร้

เย็นวันแรกระหว่างที่ผู้โดยสารของเขากำลังไปฝึกเดินจงกรมกัน ฉิ่งไปนั่งเล่นชมบรรยากาศริมบึงที่เป็นอ่างเก็บน้ำของทางวัด ฉิ่งไม่ร่วมเดินจงกรมเพราะรู้สึกอยากกินเหล้า เนื่องจากจวนจะได้เวลา พยายามหาช่องทางปลีกตัวออกจากวัดไปหาซื้อเหล้ากิน แต่พอเหลือบไปเห็นพระองค์หนึ่งที่กำลังสอนเดินจงกรมความอยากเหล้าก็บรรเทาไปชั่วขณะ

ท่านเป็นพระสงฆ์ในวัยประมาณสี่สิบเศษ ลักษณะผอมสูงและผิวคล้ำ ท่านเป็นพระที่อาวุโสรองจากเจ้าอาวาส ท่านช่างดูสำรวมงดงามน่าเลื่อมใสจริงๆ นานแล้วที่ฉิ่งไม่ได้เห็นพระที่ดูน่าเลื่อมใสขนาดนี้

พอความอยากเหล้ารุมเร้าอีก เขาก็ตัดสินใจเดินออกนอกวัดไปหาซื้อเหล้าหรือยาดองก็ได้ เขาหวังว่ามันจะมีอยู่บ้าง จากประสบกาณ์เขา “เหล้าไม่เคยหาซื้อยาก”

เดินประมาณหนึ่งกิโลเมตรจากหน้าประตูวัดก็เจอร้านค้าที่ใกล้ที่สุด เขาผิดหวังเพราะไม่มีเหล้าขาย เดินหาอีกหลายร้านก็ไม่มีเหล้าขายสักร้าน จนในที่สุดเขาก็อ่อนใจไม่อยากเดินต่อ หลังจากรู้จากลุงคนขายของร้านสุดท้ายที่เขาถามว่า หากจะกินเหล้าต้องไปซื้อถึงในตัวอำเภอ จึงหย่อนก้นลงสั่งน้ำอัดลมมาดื่ม แล้วคุยกับลุงคนขาย

“คุณไม่ได้มาปฏิบัติธรรมหรือ” ลุงคนขายถาม

“เปล่า ผมขับรถมาส่งคน แต่เมื่อเช้าขับมาไม่ถึงวัด พอดีง่วงนอนเลยมีคนขับแทน” ฉิ่งตอบ

“พระวัดนี้น่าศรัทธานะคุณ ไม่จับเงิน ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่ฟังวิทยุ ไม่ดูโทรทัศน์ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ตั้งใจบวชเพื่อปฏิบัติกันโดยแท้จริง” ลุงคนขายบอกต่อ

“ส่วนใหญ่บวชกันนานไหมลุง” ฉิ่งถามเพราะคิดว่า ส่วนใหญ่คงบวชกันไม่นานแล้วสึกออกไป

“วัดนี้คนที่จะมาบวชต้องคุ้นเคยกับทางวัด ๑-๒ ปี คนจะตั้งใจมาบวชต้องมานุ่งขาวห่มขาวที่วัดหลายเดือน ต้องขานนาคให้แม่นยำ กว่าจะบวชยาก ไม่ค่อยมีคนสึกออกไปไหนหรอก ตอนนี้มีพระสงฆ์ในวัด ๒๕ รูป พออยู่กับหลวงพ่อท่าน ๕-๖ ปี ก็ออกธุดงค์ไปในป่า คุณโชคดีแล้วละที่มาวัดนี้”
…….

ฉิ่งกลับมาที่รถของเขาที่จอดไว้ในวัด ขับออกไปในเมือง เมื่อขับผ่านร้านสุดท้ายที่เขานั่งกินน้ำอัดลมเมื่อสักครู่ ลุงคนขายน้ำอัดลมถอนหายใจ “ในที่สุดก็อดเหล้าไม่ได้”

ฉิ่งเข้าไปในเมืองด้วยใจลิงโลด เทียวขึ้นลงรถไปดูตามร้านนั้นร้านนี้ แต่ก็กลับออกมาด้วยความผิดหวัง จนในที่สุดมาจอดใต้ป้ายโฆษณาเครื่องดื่มมึนเมายี่ห้อหนึ่ง ข้างร้านขายของชำ ฉิ่งถามหาสิ่งที่เขาต้องการขึ้นมาว่า

(โปรดติดตามตอนที่ ๒ ฉบับหน้า)