Print

ธรรมะจากพระผู้รู้ - ฉบับที่ ๑๓๕

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

luangporธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นของประเสริฐ สะอาดหมดจด เป็นของสูง
ถ้าเข้ามาสู่ใจเรา ใจก็จะโปร่ง สว่างขึ้นมา มีคุณงามความดี
สังคมทุกวันนี้เบียดเบียนกันตลอดเวลา เห็นเงินเป็นใหญ่ ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อเงิน
แย่งชิงกันกดขี่รังแกกันทุกรูปแบบเลย แย่งชิงกันเองบ้าง รับจ้างทำชั่วบ้าง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
สิ่งเหล่านี้เราไปแก้ที่คนอื่นไม่ได้ เรามาแก้ที่ตัวเราเอง มาเรียนธรรมะ
คนอื่นชั่วเราห้ามเขาไม่ได้ เราอย่าชั่วตามเขา
เราพัฒนาใจของเราให้มันสะอาดขึ้นเรื่อยๆ
อาจจะไม่ร่ำรวยนะ พออยู่พอกิน แต่ชีวิตเราไม่เป็นหนี้ใคร
ชีวิตที่เบียดเบียนผู้อื่นเบียดเบียนคนอื่น ไม่มีหูมีตาก็นึกว่าฉลาด
ถ้ามีหูมีตาจะรู้เลยมันเบียดเบียนตัวเอง ทำลายตัวเองในระยะยาว
ชีวิตมีแต่จะตกต่ำลงไปเรื่อยๆ เห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า ระยะยาวชีวิตจะตกต่ำลงไปเรื่อย

พวกเรามาเรียนธรรมะ ชีวิตเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ สะอาดขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นประโยชน์อันแรกเลยคือประโยชน์ที่ตัวเราได้ ได้ในปัจจุบัน ได้หลายอย่าง
ตัวเราร่มเย็นเป็นสุขด้วย คนในครอบครัวเราก็ค่อยๆเริ่มเห็น
บางบ้านเคยทะเลาะกันตลอดเวลา คนหนึ่งมาเรียนธรรมะ
อีกคนหนึ่งเห็นว่าคนหนึ่งเปลี่ยนไปแล้ว ดูดีขึ้น สนใจมาเรียนธรรมะกัน
ไปๆมาๆมาเรียนธรรมะกันทั้งบ้าน ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมา
ไปอยู่ในที่ทำงานคนในที่ทำงานบางคนเขามีหูมีตา
เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของเราในทางที่ดีขึ้น เขาก็สนใจ
เขาก็ถามว่าทำอย่างไรถึงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้
เราก็ช่วยคนในที่ทำงานของเราได้ คนรู้จัก ญาติมิตรอะไรพวกนี้
อาจจะไม่ถึงขนาดตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานหรอกนะ
แต่ว่าทำตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดี คนอื่นเขาก็เลยหันมาสนใจธรรมะบ้าง
สังคมใหญ่ๆไม่ดีหรอก แต่สังคมย่อยๆรอบตัวเราเป็นสังคมที่ร่มเย็นเป็นสุขมากขึ้น
ลูกเต้าอะไรก็ดีขึ้นนะอันนี้เป็นเรื่องจริงเลย นี้ประโยชน์อันแรกเลย

ประโยชน์ต่อไปนะ ประโยชน์ระยะยาว
ถ้ามีหูมีตาก็จะรู้หรอกว่าสังสารวัฏมันน่ากลัวนะ มันยาวนาน
ทรัพย์สมบัติในโลกเราสะสมเอาไว้ก็อยู่ในโลก เอาไปไม่ได้สักนิดเดียวเลย
เราเอาคุณงามความดีติดตัวไป ข้ามภพข้ามชาติไปได้
อย่างบางคนภาวนา ทำไมเขาภาวนาง่ายจัง ทำไมชีวิตเขาดีจัง เพราะเขาเคยสะสมของเขามา
บางคนทำไมเกิดมาก็สวยแล้ว บางคนทำไมเกิดมาหน้าตาดูไม่ได้
ไม่ใช่ยีนส์นะ เราไปได้ยีนส์ชนิดนั้นมาก็เพราะว่ากรรมกำหนดให้เราต้องไปเกิดตรงนั้น
ถ้ามีหูมีตาก็จะรู้หรอก คนมีศีลมีธรรม มันงาม
อย่างคนไม่มีศีลนะ หน้าตาโมโหโทโส หน้าตาโลภจัด หน้าตาเห็นแก่ตัวจัด
ให้มันสวยขนาดไหนมันก็ดูหน้าเกลียด

คนมีศีลมีธรรมนะถึงตอนนี้ไม่สวยนะแต่มันก็ดูดี
ครูบาอาจารย์บางองค์ไม่หล่อสักนิดเลย คนไปนั่งมองท่านได้เป็นวันๆ
มองแล้วก็ปลื้ม มีความสุข เพราะท่านมีศีลมีธรรม
นี่ถ้าเรามีศีลนะ เราก็สวยเราก็หล่อ
อาจจะไม่สวยหล่อตามมาตรฐานโลกนะ แต่ใครเห็นเราแล้วก็สบายใจ
นี่เราสวยแบบลึกซึ้งเลย แค่เห็นเราก็สบายใจแล้ว
อย่างเราเห็นหน้านางผู้ร้ายรับจ้างทำชั่วอะไรอย่างนี้ เห็นแล้วก็ไม่สบายใจ
เห็นคนมีศีลมีธรรม ก็สบายใจ

ถ้าเราเคยเจริญปัญญานะ หัดวิปัสสนากรรมฐาน
เราก็ทำวิปัสสนากรรมฐานง่าย มันติดตัวไป ไม่ยากหรอก
บางคนตอนเด็กๆนะ พอมีอารมณ์อะไรที่แรงๆมากระทบปั๊บ จิตนี่ดีดตัวออกมา
เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานออกมาเลย จิตดีดตัวออกมาเป็นผู้รู้ได้
แล้วมักจะลืมไปอีก แต่ว่ามันก็เป็นสัญลักษณ์อันหนึ่งว่าของเก่าเคยทำ
พวกเราใครภาวนาแล้วมาถึงจุดหนึ่งรู้สึกว่านี้เป็นของเคยเห็นมาแล้วมีไหม โอ้เยอะ
จะบอกให้ก็ได้ว่าส่วนใหญ่ต้องเคยทำมา ถ้าไม่เคยทำมาไม่สนใจหรอก

สิ่งที่น่าสนใจในโลกมีเยอะแยะไปหมดเลย ธรรมะไม่ค่อยน่าสนใจ
ดูแล้วจืดชืด ดูแล้วเป็นของคนโง่ คนตกยุค คนล้าสมัย แต่ทำไมพวกเราสนใจ
?
เพราะเรามีบารมี เราดูออกว่าอะไรเพชรแท้อะไรเพชรเทียม เพชรเก๊นะวูบวาบๆนะยิ่งกว่าเพชรจริงอีก
พวกเรารู้เท่ารู้ทันนะ รู้ว่าอะไรดี ทำไมรู้ได้
? ของมันเคยสะสมมา
บางคนก็ทำสมาธิง่าย หัดสมาธิประเดี๋ยวประด๋าวนะ เข้าฌานได้
บางคนหัดแทบตายนะ เหมือนสอนควายให้สีสอ ไม่สำเร็จหรอก
บางคนแป๊บเดียว เจ็ดวันนะได้เนวสัญญาฯ มีไหม
? มี
มีหลักฐานนะ คนนั้นชื่อ สิทธัตถะ เจ้าชายสิทธัตถะ
ท่านไปเรียนกับฤาษี เจ็ดวันเอง จบหลักสูตรแล้ว
ฤาษีบอกหมดภูมิที่จะสอนแล้ว เชิญมาเป็นอาจารย์ เชิญมาร่วมเป็นอาจารย์ช่วยกันสอนต่อ
ท่านบอกว่าไม่มีสาระอะไรเลย หาสาระหาแก่นสารอะไรไม่ได้
อันนี้ท่านเคยทำสมาธิ สมาธิมันก็มาง่าย

คนไหนเคยเจริญปัญญานะ มันก็เจริญง่าย แยกธาตุแยกขันธ์ได้
เคยมีโยมหนึ่งไปเรียนจากครูบาอาจารย์ ฟังครูบาอาจารย์สอนให้ดูจิตดูใจ
สิบชั่วโมงเท่านั้นแหละ แยกขันธ์ได้แล้ว ของมันเคยทำ
ตัวผู้รู้ก็เด่นขึ้นมานะ เห็นขันธ์แยกออกไป แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ
ไปจับเอาตัวผู้รู้ ไปรักษาตัวผู้รู้ไว้ นี่ครูบาอาจารย์ก็มาแก้ให้
ตรงนี้ไม่ถูก ตรงนี้เป็นการเข้าไปแทรกแซงอาการของจิต
จิตจะคิด จะนึก จะปรุง จะแต่ง ไปแทรกแซงอาการไม่ให้มันคิดนึกปรุงแต่ง
จะให้มันเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานลูกเดียว

งั้นถ้าเราเคยทำอะไรไว้นะมันก็จะมาง่าย
นี่ในทางดีนะ เคยมีศีลก็มีศีลง่าย เคยฝึกสมาธิ สมาธิก็มาง่าย เคยเจริญปัญญา ปัญญาก็มาง่าย

..งั้นอนาคตเราจะดีขึ้นหรือจะเลวลงอยู่ที่ตัวเราเองนะ
ธรรมะนี่แหละจะสอนให้เรามีศีล มีสมาธิ มีปัญญา สะสมของเราไป
ใจเราคุ้นเคยกับของดีของงามนะ อนาคตเราต้องเจอสิ่งที่ดีที่งาม
ชาตินี้เราปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม บุญบารมีเรามากพอ เราได้มรรคได้ผล ก็ปลอดภัย
ถ้าไม่ได้ เราสะสมเอาไว้ ไม่สูญหาย ชาติต่อไปภาวนาง่าย ง่ายมากๆเลยนะ
ยิ่งบางคนถ้าได้ธรรมะไปแล้วนะ เป็นโสดาฯ สกทาคาฯ มาเกิดเป็นคนอีก
เจ็ดครั้งบ้าง สามครั้งบ้าง ครั้งนึงบ้าง ภาวนาง่าย
พอลงมือภาวนานะของเก่ามันคืนมา จะมีอาการคล้ายๆเกิดมรรคเกิดผลขึ้นมา
แต่จริงๆไม่ได้เกิดหรอก มันเป็นอาการของเก่าแสดงขึ้นมา
เร็วนะ ใช้เวลาไม่นาน แป๊บๆได้ธรรมะขั้นนั้นขั้นนี้แล้ว ความจริงของเดิม
มาภาวนาต่อนะ มันค่อยเขยิบไปอย่างรวดเร็ว ทำมาเยอะแล้ว

พวกเราๆไม่รู้หรอกว่าเราสะสมกันมาคนละแค่ไหน
แต่หลวงพ่อก็ว่าไม่น้อยหรอก ถ้าน้อยคงไม่ตั้งอกตั้งใจมาเรียนธรรมะ
อย่างคนถ้าไม่ตั้งใจเรียนธรรมะ ก็บารมียังน้อย ยังเวียนว่ายตายเกิดยังต้องทุกข์ทรมานไปอีกนาน
ทำความดีนะก็ดีขึ้นมาหน่อย ไม่เคยภาวนาทำดีไปไม่นานมันก็สู้กิเลสไม่ได้ หันมาทำชั่วอีก
มีไหมคนที่เริ่มต้นดีแล้วลงท้ายชั่ว
? พวกนี้แย่นะ พวกนี้แย่ เรียกสว่างมามืดไป
“โชติ ตะมะ ปรายะโน” ผู้สว่างมา มืดไป
บางคนก็สว่างมา สว่างไป พวกที่เคยทำมาแล้ว ทำมาดีแล้ว ยิ่งดีกว่าเก่าอีก
บางคนก็มืดมา ก็มืดไปอีก ทำความชั่วมากกว่าเก่า หาความดีติดตัวไปไม่ได้

เราเลือกชีวิตของเราเองนะ ทุกคนนั่นแหละ ลิขิตชีวิตของตัวเราเอง
จะหาพรหมที่ไหนมาลิขิต ทุกคนลิขิตชีวิตของตัวเราเอง
บางคนก็ทำลายโอกาสของตัวเอง เกิดมาเป็นมนุษย์นะ ได้พบพระพุทธศาสนา
ไม่สร้างคุณงามความดี สร้างความชั่ว พวกนี้ทำลายโอกาสของตัวเอง น่าสงสารที่สุดเลย
สู้บางคนไม่ได้นะ เขาเกิดในแผ่นดินที่ไม่มีพระพุทธศาสนา
ที่นี่ก็มี ฝรั่งมาเรียน เขามาอย่างลำบากนะ หาทางจะอยู่ในเมืองไทยเพื่อจะเรียน ไม่ใช่ง่ายเลย
เขาเห็นคุณค่าของศาสนา พวกเราได้มาง่ายคนก็ละเลยกัน ไม่ฉลาดเลย

อย่างพวกเราตั้งอกตั้งใจใหม่นะ
คนไหนยังย่อหย่อนอยู่ ยังประพฤติผิดศีลผิดธรรมอยู่
เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ เห็นแก่เงินทองทรัพย์สิน ทำความชั่วได้เราก็เลิกซะ
มาสร้างคุณงามความดีใส่ตัว มาพัฒนาศีล มาพัฒนาสมาธิ มาพัฒนาปัญญา ให้เกิดขึ้นในจิตใจ

วิธีพัฒนาศีล สมาธิ ปัญญา ต้องพัฒนาสติซะก่อน
ถ้าไม่มีสติก็ไม่มีศีล ไม่มีสติก็ไม่มีสมาธิ ไม่มีสติก็ไม่มีปัญญา
ต้องมาสร้างสติให้เกิดก่อน
คอยรู้ทันนะ คอยรู้ทัน อะไรเกิดขึ้นในกายคอยรู้สึก อะไรเกิดขึ้นในใจคอยรู้สึก
อย่างร่างกายหายใจออก รู้สึก ร่างกายหายใจเข้า คอยรู้สึก
ร่างกายยืนเดินนั่งนอน คอยรู้สึกนะ คอยรู้สึกอยู่
ร่างกายเป็นสุข ร่างกายเป็นทุกข์ คอยรู้สึกอยู่
การที่เราคอยรู้สึกบ่อยๆ ต่อไปสติจะเกิด
สตินั้นเกิดจากการที่จิตจำสภาวะได้แม่น
ถ้าจิตจำสภาวะได้แม่น พอสภาวะที่จิตรู้จักแล้วเกิด สติจะเกิดเอง

สวนสันติธรรม
วันอาทิตย์ ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๔