Print

ธรรมะจากพระผู้รู้ - ฉบับที่ ๗๘

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ถาม: ยังอายุไม่มากและยังรู้สึกว่าการได้อยู่กับโลกเป็นความสุข อย่างนี้จะภาวนาได้ไหมครับ?

ก่อนหลวงพ่อจะบวชนะ เป็นฆราวาสนานตั้ง ๔๘ ปี ภาวนาเป็นมาตั้งแต่เด็กๆนะ ?
ภาวนาตั้งแต่ ๗ ขวบเริ่มภาวนา จนกระทั่งมาเจอหลวงปู่ดูลย์ ถึงจะเริ่มทำวิปัสสนา ?
อายุ ๒๙ แล้ว พอจะรู้จักศาสนาพุทธตั้งแต่อายุ ๒๙ ?
ตอนนั้นก็อยากบวชนะแต่เรามีภาระเยอะ เราต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ไม่ได้บวช ?
อายุ ๔๘ ถึงได้บวช แม่ตายไปเหลือแต่พ่อนะ ?
เลยชวนพ่อมาอยู่วัดซะเลย หมดเรื่องหมดราวนะ ?
ได้บวชละ บวชเมื่อแก่ เพราะมัวแต่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่อยู่?
งั้นในทางโลกนี่หลวงพ่อรู้จัก ความสุขในโลกอย่างที่พวกเรารู้จัก ?
หลวงพ่อรู้จักทั้งนั้นแหละ สตางค์หลวงพ่อก็มีใช้นะ มีตังค์เหลือ มีตังค์ ?
ทำงานไม่กี่ปีเก็บเงินได้เป็นล้านๆ หลายล้าน เพราะโบนัสมันเยอะ ?
โบนัสตั้งห้าเดือนแน่ะ ตอนนั้นทีโอทีนะ โบนัสเยอะมากเลยตั้งห้าเดือน ?
เดี๋ยวนี้คงไม่ค่อยมีแล้วมั้ง ?
ความสุขในโลกนะหลวงพ่อรู้จัก ตำแหน่งหน้าที่หลวงพ่อก็ใหญ่ ?
ทำงานไม่นาน รับราชการไม่กี่ปีเป็นชั้นพิเศษ รวดเร็วมาก ?
ออกมาเริ่มต้นงานใหม่นะ ไม่นานนะขึ้นไปซีสิบแล้ว ?
ตำแหน่งหน้าที่ก็มี เงินก็มี ชื่อเสียงเกียรติยศก็มีนะ ?
คนกลัวเลย ครอบครัวก็มี อะไรๆสิ่งที่เขามีเราก็มีทั้งนั้นแหละนะ ?
เรารู้เลยความสุขอย่างนี้ ความสุขของโลก ความสุขชั่วคราวทั้งหมดเลย ?
ซื้อรถมาใหม่ใช่มั้ย ขับไปสักพักก็เก่าอีกแล้วใช่มั้ย ?
ซื้อมาใหม่ๆมีความสุขเยอะ ซักสักพักก็เก่าๆ ?
หรือซื้อมาใหม่ๆไปจอดไว้ คนมันขีดไปรอบคันนะ หัวใจแทบแตกสลายเลย ?
นี่ความสุขของโลกนะมันแว้บๆ

มาภาวนานะเราจะรู้เลยว่าความสุขในธรรมะนั้นเหนือกว่ากันเยอะเลย ?
เทียบกันไม่ได้เลย ความสุขในทางธรรมะมันเสถียรนะ ?
ความสุขในทางโลกมันสัมพัทธ์มากเลย ?
ความสุขในทางโลกที่สัมพัทธ์เพราะมันอิงอาศัยสิ่งอื่น ?
อิงอาศัยสิ่งอื่น เราจะต้องอยู่กับคนนี้ถึงจะมีความสุข ?
ต้องได้กินอย่างนี้ถึงจะสุข ต้องได้เสพอย่างนี้ถึงจะสุข มันอิงสิ่งอื่นทั้งนั้นเลย ?
แล้วสิ่งอื่นมันอยู่นอกเหนือการบังคับ มันแปรปรวนตลอดเวลา?
งั้นความสุขของเรานะได้มาแวบนึงก็หลุดมือไปแล้ว ?
ต้องวิ่งหาใหม่ ส่วนความสุขในธรรมะนะ ยิ่งเราภาวนามากขึ้นๆ ยิ่งอิ่มเอิบ

ดูหลวงพ่อซินี่สัญลักษณ์ของความอิ่มเอิบ? รู้สึกมั้ย ?
เรียกว่าอวบอั๋นแบบพระเชียงแสน พระเชียงแสนจะตัวอ้วนๆหน่อย ?
เป็นสัญลักษณ์คือ symbol ว่าธรรมะนี่ให้ความอิ่มเอิบ ?
แต่ถ้าพระสุโขทัยเขาเป็นสัญลักษณ์ของธรรมะ ว่าธรรมะเป็นของโปร่งเบา ?
รู้สึกมั้ยเราปฏิบัติธรรมแล้วใจเราโปร่งเบามากขึ้นเรื่อยๆ ?
ถ้าพระเชียงแสนนะยิ่งปฏิบัติแล้วยิ่งอิ่มเอิบ ใช่มั้ย รู้สึกมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ?
พระอู่ทองนี่พระน่าสงสาร หน้าตาดุๆ ?
ก็เป็นสัญลักษณ์เหมือนกันว่าธรรมะต้องเอาจริงนะ เอาจริงเอาจัง สู้ตายนะ ?
งั้นพวกเราตอนนี้อย่าเพิ่งเป็นพระสุโขทัยเชียงแสนนะ เป็นพระอู่ทองซะก่อนนะ ?
ต้องสู้ตายก่อน วิธีสู้ตายไม่ใช่สู้อย่างวัวอย่างควาย ไม่ได้เอาแรงเข้าแลก ?
สู้ด้วยสติด้วยปัญญา ค่อยๆรู้สึกนะ รู้สึกตัวขึ้นมา ?
แล้วรู้กายอย่างที่มันเป็น รู้ใจอย่างที่มันเป็น รู้สึกไปเรื่อย ?
เดี๋ยวมันพัฒนาขึ้นเป็นพระสุโขทัย พระเชียงแสนเอง ?

ค่อยฝึกไปแล้วจะพบว่าความสุขมีจริงๆ ?
ในขณะที่ความสุขอย่างในโลกๆนี่เหมือนภาพลวงตาเท่านั้น มีแล้วเหมือนไม่มีนะ ?
ไม่มีก็เหมือนมี จริงๆมันไม่มีแต่มันเหมือนมี ?
มันหลอกให้เราวิ่งหา พอได้มาแล้วก็ไม่มีอีกแล้ว

ความสุขในโลกมันก็เหมือนความสุขของคนที่เปียแชร์ได้ ?
ความสุขแค่นั้นแหละแวบเดียว

ค่อยฝึกเอานะ? ไม่ยากหรอก แต่ถ้าไม่ฝึกมันก็ไม่ได้ ?
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ต้องเดินด้วยตัวเอง ต้องสู้ด้วยตัวเอง ต้องทำเอาเอง ?
หลวงพ่อภาวนานะ พวกเรามาเรียนกับหลวงพ่อพยายามสวมหัวใจอย่างหลวงพ่อไว้ ?
หลวงพ่อภาวนาหลวงพ่อมีความอดทนสูงมากเลย ?
พากเพียรอดทนนะไม่เลิก ตั้งแต่เจ็ดขวบหัดทำสมถะ ก็ทำสมถะทุกวันไม่เลิกเลย ?
ไม่ต้องมีครูบาอาจารย์มาสั่ง ว่าทำนะๆ ทำไปนะ ?
โถหมดกำลังใจแล้วโถๆ ทำเถอะได้โปรดเถอะ งั้นหลวงพ่อไม่มีกำลังใจให้รู้สึกมั้ย ?
ถ้าใครมาบอกหลวงพ่อว่าของกำลังใจ ไม่ให้หรอก ด่าเลย อะไรมันจะโง่ปานนั้น ?
ความทุกข์ท่วมหัวแล้วยังขี้เกียจ

ต้องอดทนนะ? ต้องพากเพียร หลวงพ่อภาวนามานี่ไม่ต้องให้ครูบาอาจารย์สั่ง ?
ท่านบอกวิธีแล้วทำเลย หลวงปู่ดูลย์สอนอยู่ ๒-๓ ประโยคเอง ?
ไปหาครั้งแรก ท่านสอนบอกว่า ?การปฏิบัตินั้นไม่ยาก ยากเฉพาะผู้ไม่ปฏิบัติ ?
อ่านหนังสือมามากแล้ว ต่อไปนี้อ่านจิตตนเอง? ?
สอนเท่านี้เอง ตั้งแต่นั้นมานะ ไม่ใช่ตั้งแต่วันนั้นนะ ?
ตั้งแต่ตอนนั้นมาหัดดูจิตมาเรื่อยๆ ดูมาเรื่อยไม่มีวันใดที่ไม่ได้ดูเลย ?
เว้นแต่ต้องทำงานที่ต้องคิดกับตอนเผลอกับตอนหลับ เวลาที่เหลือนี่ดูลูกเดียวเลย ?
ดูมาเรื่อยๆ จิตใจมันก็พัฒนาขึ้น พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆนะ ?
พัฒนารวดเร็ว เร็วเพราะเราขยันดู ดูมากๆ ?
เหมือนคนทำการบ้านมากมันก็พัฒนาเร็ว ฝึกไปเรื่อย?
หลวงพ่อนะอดทนมากเลยในการที่จะฝึกตัวเอง ไม่มีขี้เกียจนะ ไม่มีท้อแท้ ?
ท้อแท้มีบ้าง เบื่อมีบ้าง ไม่ใช่ไม่มีเลย ไม่ใช่มนุษย์วิเศษ ?
เบื่อรู้ว่าเบื่อดูมันไปเลย ขี้เกียจก็มีนะ แต่ขี้เกียจก็ไม่เลิก ขี้เกียจรู้ว่าขี้เกียจ ?
สงสัยก็มี สงสัยรู้ว่าสงสัย ดูลงไปจนเห็นเลย ?
ทุกสิ่งมันชั่วคราว ทุกสิ่งมันเกิดแล้วดับ
ดูอย่างนี้ ในที่สุดเห็นเลยสิ่งใดเกิดสิ่งนั้นก็ดับ ดูอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ?
หลวงพ่อนะอดทนมากเลย มีความอดทนในการปฏิบัติ ในการฝึกฝนตัวเอง ?
ไม่ต้องให้ครูบาอาจารย์เคี่ยวเข็ญ

อีกตัวนึงซึ่งหลวงพ่อมีมากนะคือความช่างสังเกต ?
นี่โยนิโสมนสิการ ช่างสังเกต สังเกตการปฏิบัติ ?
สังเกตจิตใจของเราไปเรื่อยๆ เป็นระยะๆนะ คล้ายการ ?สป็อทเช็ค? นะ ?
เช็คเป็นช่วงๆ ไม่ใช่สังเกตตลอดเวลานะ ถ้าสังเกตตลอดเวลาเรียกว่าฟุ้งซ่าน ?
คอยดูเป็นระยะๆไปนะ เราภาวนาของเรานี่ ดูสภาวะเกิดดับเฉพาะหน้านี่แหละ ?
ทำไปช่วงนึงนะ จิตใจมันมีอะไรแปลกๆขึ้นมา ?
งั้นมีอะไรแปลกๆขึ้นมาเราเอาใหม่ กลับมาเริ่มต้นใหม่ มารู้กายรู้ใจเฉพาะหน้าใหม่ ?
เดี๋ยวมันกลับไปเป็นสภาวะแปลกๆนั้นอีกแล้ว เข้าออกๆอย่างนี้แหละ ?
หลายๆทีเรารู้เลยที่แปลกๆมันเกิดจากอะไร เราไปพลาดเข้าที่ตรงไหน ?
ค่อยๆสังเกตเอานะ ไม่มีครูบาอาจารย์มาบอกให้หรอกเพราะอยู่ไกล

แต่บางครั้งนะถึงจะไปถามครูบาอาจารย์เพราะว่ามันไม่เข้าใจจริงๆก็มีเหมือนกัน ?
ที่งงมากเลยมีอยู่สองที่เท่านั้นที่เล่าเรื่อยๆ ?
ที่ไปถามอาจารย์มหาบัวทีนึงว่าดูจิตอยู่แล้วทำไมมันไม่พัฒนาขึ้น?
ท่านบอกว่าที่ว่าดูจิตนั้นดูไม่ถึงจิต ?
ดูไม่ถึงจิตก็คือสิ่งที่หลวงพ่อมาพูดกับพวกเราในวันนี้ว่า ?
จิตมันไปอยู่ข้างนอก จิตมันไม่ถึงฐานน่ะ ?
มันโล่งๆ มันโปร่งๆนะ มันสบายนะ มันไม่ถึงฐาน ?
อีกทีนึงที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลยนะ นั่งภาวนาแล้วจิตมันรวมตลอดเลย ?
รวมแบบหลับไปเลย เดินจงกรมก็หลับนะ ?
นั่งขัดสมาธิเพชรซึ่งเจ็บแสนเจ็บยังหลับเลย ?
จิตมันหลับวูบลงไปตลอดเวลา แล้วหลับแบบหัวซุกหัวซุนซึ่งเราไม่เคยเป็น ?
สติของหลวงพ่อเราฝึกมาตั้งแต่เจ็ดขวบ มีสติรู้ลมหายใจไม่ให้มันเคลิ้มนะ ?
สติเรากล้าแข็งแต่ว่าทำไมช่วงนั้นนั่งแล้วหลับตลอด ?
ไม่รู้จะทำยังไงหลายเดือนเป็นเดือนๆ ขึ้นไปถามหลวงปู่สิมนะ ?
หลวงปู่สิมตอบว่า ?อย่าสงสัยเลย ให้ทำไปเถิด? ไม่ได้คำตอบด้วยนะ ?
แต่ท่านบอกอย่าสงสัยเลย ?
พอท่านบอกอย่าสงสัยเลยหลวงพ่อก็เชื่อครูบาอาจารย์นะ ?
ไม่ค้นคว้าหาคำตอบแล้วล่ะ ท่านบอกให้ภาวนาไป หลับก็ภาวนาไปอย่างนี้แหละ ?
ดูไปๆนะ อีกวันนึงเท่านั้นใจเริ่มถอนขึ้นมาแล้ว ?
เพราะว่าเราเป็นกลางกับมัน เห็นมั้ย รู้อย่างเป็นกลางนะ จิตก็ไม่ติดอยู่ในสภาวะนั้น ?
ถ้าเรารู้แล้วไม่เป็นกลางถึงจะติด ถอนๆๆขึ้นมา ปิ๊งขึ้นมาเลย อ๋อ อย่างนี้เอง ?

บางทีก็ต้องอาศัยครูบาอาจารย์ แต่ว่าอาศัยน้อยนะ ?
อาศัยความช่างสังเกตของเราให้มาก พวกเราต้องช่วยตัวเองให้มาก ?
ธรรมะที่หลวงพ่อสอนพวกเราเนี่ย หลวงพ่อสอนธรรมะเพื่อให้พวกเราพึ่งตัวเองได้

ไม่ใช่สอนให้พวกเราต้องพึ่งหลวงพ่อตลอดกาลนาน ?
วันนึงหลวงพ่อก็ต้องไม่อยู่ ตามธรรมดาของธาตุของขันธ์ ?
พวกเรายังอยู่ต่อไป หรือต้องรักษาสืบทอดศาสนาต่อไป ?
สิ่งที่หลวงพ่อถ่ายทอดให้ คือวิธีปฏิบัตินะ ?
สังเกตมั้ยหลวงพ่อสอนให้รู้กายให้รู้ใจ ?
กับเวลาที่คนส่งการบ้านรู้สึกมั้ย มันเป็นเรื่องแปลกๆสารพัดเลยนะ ?
ทำไมรู้กายรู้ใจแล้วเกิดสภาวะอะไรตั้งมากมาย ?
เดี๋ยวภาคสองลองฟังดู เวลาคนส่งการบ้าน ?
สิ่งที่มาส่งการบ้านกับสิ่งที่หลวงพ่อสอนนั้นมันคนละอันกันรู้สึกมั้ย ?
มันไปรู้ไปเห็นสภาวะอะไรที่แปลกใหม่เฉพาะตัวขึ้นมา แต่ว่ามันอยู่ในหลักนั่นเอง ?
ถ้าจับหลักแม่นๆนะ ไม่ว่าสภาวะอะไรเกิดขึ้นก็ผ่านได้ทั้งหมดเลย
สิ่งที่หลวงพ่อถ่ายทอดให้นะคือหลักของการปฏิบัติ ?
ถ่ายทอดให้หมดสิ้นนะไม่มีสงวนรักษาเลย ?
ไม่กลัวว่าจะเอาวิชาความรู้ของหลวงพ่อไปหากินนะ ไม่กลัวเลย ?
มีเหมือนกันนะมันเอาไปหากิน ไปหลอกลวงคนก็มีเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่มีน้อยนะ ?
ส่วนมากก็มุ่งเอาความดับทุกข์จริงๆ?

วันที่? ๘?สิงหาคม?๒๕๕๑ (ตอนที่ ๓)?
สวนสันติธรรม?