Print

ธรรมะจากพระผู้รู้ - ฉบับที่ ๘๐

พระอาจารย์ปราโมทย์? ปาโมชฺโช

?

?

ถาม: คุณครูจะบอกให้ฟังอยู่เสมอว่า ศึกษาธรรมะแล้วชีวิตของทุกๆคนจะดีมีความสุข เป็นอย่างนั้นใช่ไหมเจ้าคะ

ศึกษาธรรมะนะ? ดีแล้วล่ะ?
คนไหนมีธรรมะก็ชีวิตมีความมั่นคง?
เราไม่รู้อนาคตของแต่ละคนนะว่าเราจะเผชิญอะไรในชีวิตบ้าง?
การที่เราเรียนธรรมะไว้ เหมือนเราสร้างต้นทุนให้ตัวเองไว้ เพื่อจะต่อสู้กับชีวิต?
แต่ละคนๆ นะกว่าจะตั้งหลักได้ ตั้งตัวได้?
บางคนล้มลุกคลุกคลาน บางคนตั้งหลักตั้งตัวไม่ได้ทั้งชาติเลย?
แต่ถ้าเรามีธรรมะไว้นะ ชีวิตเรามีระเบียบมีแบบแผน?
ไม่ค่อยตุปัดตุเป๋ออกนอกลู่นอกทาง โอกาสที่จะตั้งเนื้อตั้งตัวได้ก็เยอะหน่อย

อยู่กับโลกบางทีเราระวังเต็มที่แล้ว? อยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ซึ่งเราไม่คาดฝัน?
ในโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องที่คาดฝันไปไม่ถึง มันนำความทุกข์มาให้เรา?
เช่นเราอยู่ดีๆ พ่อแม่เราตายไป อะไรอย่างนี้ก็เป็นไปได้?
หรือว่ามีครอบครัว แฟนเรานอกใจเรา ก็เป็นไปได้?
ทำงานไปแล้วตกงาน หรือกิจการล้มละลาย ก็เป็นไปได้?
มีลูกแล้วลูกเกเร ทำความหายนะให้ ทำความทุกข์ให้พ่อให้แม่ ก็เป็นไปได้อีก?
อยู่ดีๆยังแข็งแรงอยู่นะอยู่ๆ ก็เจ็บป่วยขึ้นมา เป็นมะรงมะเร็ง เด็กๆก็เป็นนะไม่ใช่ไม่เป็น?
หลวงพ่อเคยเห็นที่สถาบันมะเร็ง เด็กเล็กๆเลยก็เป็นมะเร็ง?
เพราะงั้นในชีวิตเราเนี่ยะเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่แน่นอน

งั้นเราต้องศึกษาธรรมะเอาไว้?
ถ้าคนไหนมีธรรมะไว้เนี่ยะ เราจะสามารถอยู่กับความไม่แน่นอนได้อย่างที่มีความมั่นคงพอสมควร?
ยิ่งถ้าเรามีธรรมะมากๆนะ เรารู้สึกแน่นอนเลยที่ใจเราจะไม่ทุกข์?
โลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ แต่ใจเราจะไม่ทุกข์
นี่ถ้าภาวนาสำเร็จนะ ถึงที่สุดจริงๆแล้วจะไม่ทุกข์อีกแล้ว

งั้นเราก็ต้องสร้างต้นทุนให้ตัวเองไว้ด้วยการศึกษาธรรมะเอาไว้?
การศึกษาธรรมะเนี่ยะไม่ใช่การศึกษาอะไรที่ยากๆหรอก?
อย่าไปคิดว่าธรรมะเป็นเรื่องยากๆ ธรรมะเป็นเรื่องห่างไกล
ธรรมะนี่ต้องเรียนอีกหลายชาติถึงจะสำเร็จ ไม่ใช่เลย?
ถ้าพวกเราเข้าใจหลักที่พระพุทธเจ้าสอนนะ เราจะพัฒนาจิตใจได้อย่างรวดเร็วมากเลย?
ใช้เวลาไม่นานหรอก บางคนใช้เวลาเดือนเดียวนะ?
เรียนกับหลวงพ่อเดือนนึง ใจก็เปลี่ยนแปลงไปมากเลย?
เคยมีความทุกข์มากๆเลยก็เหลือทุกข์น้อยๆ เคยทุกข์นานๆก็เหลือทุกข์สั้นๆ?
จิตใจมันมีความอบอุ่น จิตใจมีความมั่นคง

คนในโลกนี้นะ? ทุกวันนี้คนไม่มีความอบอุ่นเลย?
ความมั่นคงก็ไม่มีหรอก ทุกอย่างเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากเลย?
ความอบอุ่นก็ไม่มี ครอบครัวแตกกระจัดกระจายไป?
แต่ถ้าเรามีธรรมะแล้ว นอกจากมีความมั่นคงแล้ว เรายังอบอุ่นด้วย?
มันมีความสุขอยู่ได้ด้วยตัวเอง สมมุติเราเป็นลูกกำพร้า เราก็มีความสุขนะ?
เพราะเรารู้ว่าพ่อแม่ ที่แท้จริงอีกท่านหนึ่งของเราก็ยังอยู่คือพระพุทธเจ้า?
พระพุทธเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งเรานะ อยู่ในใจเรานี้เอง?
ใจของเราเข้าถึงธรรมะแล้วก็จะเจอพระพุทธเจ้า?
ท่านถึงบอก ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา?
พวกเราไม่ได้เจอร่างกายของพระพุทธเจ้า?
แต่ว่าถ้าเราเข้าใจธรรมะ เราจะเจอพระพุทธเจ้าตัวจริง?
คนไหนได้ธรรมะแล้วจะรู้สึก มีชีวิตมีความอบอุ่น ไม่ว้าเหว่ ไม่ขาดที่พึ่งที่อาศัย

เราก็ต้องค่อยๆฝึก ค่อยๆเรียนธรรมะนะ?
การเรียนธรรมะไม่ใช่ยากอะไรหรอก?
เราอย่าไปวาดภาพว่าการปฏิบัติธรรมคือการนั่งสมาธินะ?
เราอย่าไปวาดภาพว่าการปฏิบัติธรรมคือการเดินจงกรม?
ต้องเดินสวยๆ ต้องเดินนานๆ ไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่หรอก?
การนั่งสมาธิ การเดินจงกรม เป็นแค่รูปแบบของการปฏิบัติ?
เหมือนเครื่องแบบนักเรียนเท่านั้นเอง?
ดูสวยๆ แต่เนื้อแท้คือการมีสติของเรา?
จิตเรามีสติจริงไหม จิตเรามีสัมมาสมาธิ มีความตั้งมั่นจริงไหม?
เราสามารถเจริญปัญญาได้ถ้ามีสติแล้วก็มีสัมมาสมาธิ นี่เป็นเนื้อแท้ของการปฏิบัติ

การมีสติเนี่ยะ? ไม่ใช่ว่าต้องเดินจงกรมอยู่ถึงมีสติ ต้องนั่งสมาธิอยู่ถึงมีสติ?
เราทำอะไรอยู่ก็มีสติได้นะ ถ้าค่อยๆฝึกไป?
เข้าห้องน้ำนี่ก็มีสติได้ นั่งถ่ายไป ท้องผูก ท้องไม่ผูก อะไรอย่างนี้ก็เจริญสติได้?
จะกินข้าวเราก็มีสติได้ ทำอะไรๆเราก็มีสติได้?
ยกเว้นเวลาเรียนหนังสือนะ เวลาเรียนหนังสือเนี่ยะไม่ใช่เวลาเจริญสติปัฏฐาน?
แต่ต้องมีสติเรียนสิ่งที่อาจารย์สอน คนละอันกัน

คำว่าเจริญสติที่หลวงพ่อพูดถึง หมายถึงสติปัฏฐาน?
ได้แก่สติที่คอยรู้กายรู้ใจ?
สติที่คอยรู้กายรู้ใจเรียกว่าสติปัฏฐาน?
สติที่รู้อารมณ์อื่นๆเรียกว่าสติธรรมดา?
เวลาเราเรียนหนังสือ เวลาเราทำงานที่ต้องคิดเนี่ยะ เราใช้สติธรรมดา จดจ่ออยู่กับการเรียน?
แต่เวลาที่เหลือเนี่ยะ พยายามมีสติปัฏฐาน?
สร้างสติปัฏฐานคือคอยรู้สึกตัวไว้?
คอยรู้สึกกาย คอยรู้สึกใจไปเรื่อย

ถ้ารู้สึกได้นะ ความทุกข์มันจะค่อยๆหายไปเอง

พวกเราสังเกตไหม กิเลสมันเกิดทั้งวัน?
พวกนักเรียนที่เรียนมาแล้วเคยเห็นไหม กิเลสมันเกิดได้เรื่อยๆ?
เดี๋ยวก็โลภ เดี๋ยวก็โกรธ เดี๋ยวก็หลง?
เดี๋ยวฟุ้งซ่าน เดี๋ยวหดหู่ เดี๋ยวลังเลสงสัย?
ใจเรานี่หมุนไปเรื่อยๆนะ เดี๋ยวกิเลสตัวนั้นเกิด กิเลสตัวนี้เกิด?
ทุกคราวที่ใจเราทำงานขึ้นมาเนี่ยะ ภาษาพระเรียกว่า ภพ (ภ.สำเภา พ.พาน - ภพ นะ)?
เวลาจิตใจเราหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป ทำงานปรุงแต่งอะไรไป ก็เรียกว่ามันสร้างภพไปเรื่อย

ภพมีสองส่วน ภพหนึ่งเรียก ภพโดยการเกิด?
อย่างเราตอนนี้เราเกิดในภพของมนุษย์?
ภพของมนุษย์นี้เรียกว่าเป็นกามภพ?
ถ้าเราเข้าฌานก็เป็นรูปภพอรูปภพ?
นี่เป็นภพโดยการเกิดเรียกว่าอุปัตติภพ?
ตัวนี้ตอนนี้เรามีอยู่แล้ว เราเป็นภพของมนุษย์?
เราเกิดเป็นมนุษย์ เรียกว่าเป็นภพใหญ่ของมนุษย์ มีภพใหญ่เป็นมนุษย์

แต่มันยังมีภพอีกชนิดหนึ่งนะ เรียกว่ากรรมภพ?
กรรมภพนี่คือการที่จิตทำงานขึ้นแต่ละคราวแต่ละคราว?
เมื่อไหร่จิตใจเรามีความโลภขึ้นมานะ ขณะนั้นร่างกายเราเป็นมนุษย์จริง แต่ใจเราเป็นเปรต?
เวลามีความโลภ สังเกตไหมใจมีความสุขหรือความทุกข์ นึกออกไหม?
เวลาเราอยากโน้นอยากนี้ ใจเรามีความทุกข์นะ?
เวลาเรามีความโกรธขึ้นมาเนี่ยะ ใจเราก็อยู่ในภพที่เป็นสัตว์นรก?
สัตว์นรกเนี่ยะจิตใจไม่แช่มชื่นไม่เบิกบาน เจือด้วยโทสะเจือด้วยความทุกข์ตลอดเวลา?
เวลาเรามีความโกรธ หรือเวลาเรามีความทุกข์ เราสุขไหม? เราไม่สุขใช่ไหม?
เพราะงั้นเป็นภพของเปรตมีความโลภ เราก็มีความทุกข์นะ?
ภพของสัตว์นรก มีโทสะ มีความโกรธขึ้นมา เราก็มีความทุกข์?
เป็นภพของสัตว์เดรัจฉาน ใจลอย ตัวนี้ดูยากละ?
โมหะ ใจลอยไป ดูยาก หลงๆไปวันหนึ่งๆนะ ดูยากแล้วว่าเป็นตัวทุกข์ นี้ต้องค่อยๆฝึกก่อน?
ทีแรกก็จะเห็นภพที่มีโทสะ ก็เห็นได้ง่ายว่าเป็นทุกข์?
ภพที่มีความโลภขึ้นมา เห็นได้ง่ายว่ามีความทุกข์?
ถ้าใจของเราเป็นบุญเป็นกุศลขึ้นมานะ เราก็เป็นภพของมนุษย์?
ใจเรามีความสุข อยู่กับความสุข มีความละอายบาป เกรงกลัวต่อบาป เราก็อยู่ในภพเทวดา?
ร่างกายเรายังเป็นคนอยู่ แต่ใจเราเป็นเทวดา?
บางทีเราทำสมาธินะ ร่างกายเราเป็นคน ใจเราเป็นพรหม เป็นพระพรหม เงียบๆสงบ

ใจเรานี้แหละ? เสวยภพโน้น เสวยภพนี้?ตลอดเวลา?
เปลี่ยนภพตลอด คือเปลี่ยนสภาวะ?
พูดคำว่าภพแล้วงง เปลี่ยนมาเป็นว่ามันเป็นสภาวะต่างๆ?
เดี๋ยวใจเราก็มีสภาวะที่เป็นสุข เดี๋ยวใจก็มีสภาวะเป็นทุกข์?
เดี๋ยวใจโลภ ใจโกรธ ใจหลง ใจฟุ้งซ่าน ใจหดหู่?
บางภพหรือบางสภาวะเนี่ยะ ดูง่ายว่าเป็นทุกข์?
บางภพที่ละเอียดประณีต บางสภาวะที่ละเอียดประณีต ดูยากว่าเป็นทุกข์ ต้องภาวนากันนานๆ?
อย่างใจของพรหมเนี่ยะ ดูยากที่สุดเลยว่าเป็นภพ?
มันมีความสุข มันมีความสงบ มีอุเบกขาอยู่อย่างนั้น ดูยาก?
ใจอื่นๆนะก็ดูง่ายหน่อย ใจเทวดาก็ดูยากมีความสุขเยอะไป?
เวลาพวกเรามีความสุข เรารู้สึกไหมเรามักจะเผลอ?
เรามักจะเพลินในความสุข เรามักจะลืมกายลืมใจ?
งั้นพวกเทวดาเนี่ยะ เผลอๆเพลินๆ ไปเรื่อยๆส่วนใหญ่นะ?
ยกเว้นว่าเคยศึกษาธรรมะมาก่อนนะ เป็นเทวดาแล้วก็ภาวนาได้อีก?
ถ้าไม่เคยศึกษามาก่อนก็หลงๆไปวันหนึ่งๆไม่มีสาระอะไร

เวลาที่เราเป็นคนเนี่ยะ? ใจเราเปลี่ยนภพอยู่ตลอดเวลา?
มีภพทีไร มีทุกข์ทุกที นี่พระพุทธเจ้าบอกอย่างนี้?
มีภพทีไร ก็เป็นทุกข์ทุกที?
เห็นไหมเราโลภขึ้นมาทีหนึ่ง จิตมีความโลภขึ้นมา?
นี่เป็นจิตโลภ เป็นจิตของเปรต เราก็มีความทุกข์?
บางทีเรามีความคิดความเห็นนะ เราว่าต้องอย่างนี้ๆนะ คนอื่นไม่เชื่อเราเราโมโหเลยนะ ?
พยายามบังคับคนอื่นให้เชื่อตามเรา เรายึดในความคิดความเห็นของเรา?
ก็เป็นภพชนิดหนึ่งชื่อว่าอสุรกาย พวกเจ้าทิฏฐิ เจ้ามานะ เจ้าความเห็น?
งั้นอสุรกายเยอะนะ ลูกศิษย์หลวงพ่อเนี่ยะ?
พวกเรียนหนังสือมากเนี่ยะ พวกอสุรกายนะ อสุรกายจำแลงมา?
งั้นบางทีก็เป็นเปรต โลภโน่นโลภนี่อยากโน่นอยากนี่ เช่นอยากได้มือถือใหม่?
นักเรียนคนไหนไม่มีมือถือมีไหม ยกมือให้หลวงพ่อดู หลวงพ่อจะได้ชื่นใจ?
โอ้ ดีมากนะ นักเรียนคนไหนมีมือถือบ้างยกมือซิ (นักเรียนยกมือ) งั้นๆแหละ ไม่ชื่นใจ?
ไม่มีสตางค์ซะหน่อยนะ หาเงินยังไม่ได้เลย บริโภคเยอะไป?
ใช้อะไรบ้างนะ ส่งแม๊สเซจหรือส่งอะไร ถูกเค้าหลอกนะ?
หลวงพ่อเคยมีมือถือนะเมื่อก่อนนี้?
เดือนหนึ่งนะเสียแต่ค่าอะไรเค้าเรียก...ค่ารายเดือนนะ ไม่ค่อยมีค่าจ่ายค่าพูดไม่ค่อยมี?
สังเกตเวลาเรามีมือถือหนึ่งอัน พอมีรุ่นใหม่นะ เพื่อนเอารุ่นใหม่มา เราอยากได้?
มีใครเห็นของเพื่อนใหม่กว่าแล้วก็เฉยๆ อุเบกขา มีไหม?
ไม่ค่อยมีหรอก มีแต่อยากได้นะ?
บางทีเราไปซื้อมานะ รุ่นนี้เราว่าซื้อได้ถูกมากแล้วนะ?
ซื้อมาได้ราคาหมื่นบาท เราว่าเราซื้อได้ถูกนะ?
เพื่อนมันซื้อมารุ่นเดียวกัน เหมือนกันเปี๊ยบเลยราคาเก้าพัน?
จากความสุขที่มีอยู่นะกลายเป็นความทุกข์อีกแล้ว?
หรือเราไม่มีสักเครื่องนะ เห็นคนอื่นมีเราอยากจะได้?
เห็นไหมใจที่มีความอยากขึ้นมาก็มีความทุกข์?
ใจที่เห็นคนอื่นของเขาดีกว่านะ อิจฉาเค้า?
นี่มีความทุกข์อีก เป็นโทสะ ตัวอิจฉา?
งั้นใจเรานี่หมุนเวียนที่จะสร้างความทุกข์ขึ้นมาแผดเผาตัวเองอยู่ตลอดเวลา?
ห้ามได้ไหม ห้ามไม่ได้นะ ใจจะโลภก็ห้ามไม่ได้ ใจจะโกรธก็ห้ามไม่ได้?
ใจจะหลง ใจจะฟุ้งซ่าน ใจจะหดหู่ ใจจะลังเลสังสัย ห้ามไม่ได้ เราบังคับมันไม่ได้จริงหรอก

แล้วทำอย่างไรเราถึงจะสู้กับกิเลสไหว?
พระพุทธเจ้าสอนให้เรารู้ทันนะ คอยรู้ทัน

ต่อไปนี้ง่ายๆเลยนักเรียนทั้งหลาย?
ใจเราโลภขึ้นมา ใจเรามีความอยากขึ้นมา เราก็รู้ทันว่าตอนนี้อยากแล้ว?
ใจเราโกรธขึ้นมา หรือใจเรากลัว หรือใจเราอิจฉา หรือใจเรากังวล นี่เป็นตระกูลโทสะนะ?
หวงแหน นี่ตระกูลโทสะ โทสะเกิดขึ้นในใจเราก็คอยรู้ทัน?
ใจลอยไป ใจฟุ้งซ่านไป ใจหดหู่ไป นี่พวกโมหะ เราก็รู้ทันนะ ใจมันซึมๆไป เราก็รู้ทัน?
ต่อไปนี้ง่ายๆเลย การปฏิบัติธรรมต้องไปวาดภาพว่าต้องไปนั่งสมาธิมากๆ ไปเดินจงกรมมากๆ?
หัดเจริญสติในชีวิตประจำวันให้มาก

การเจริญสติในชีวิตประจำวันนี้แหละ คือหัวใจของกรรมฐานเลย หัวใจของการปฏิบัติ
ไม่ใช่หลวงพ่อพูดเองนะ?
ครูบาอาจารย์บอกมาอีกทีหนึ่งว่าหลวงปู่มั่นสอนท่านมากัน?
หลวงปู่มั่นสอนบอกว่า ทำสมาธิมาก นั่งลูกเดียวเลย?
ไม่ทำอย่างอื่นเลย นั่งเอาความสงบอย่างเดียวเลย?
ท่านบอกว่าทำสมาธิมาก เนิ่นช้า?
คิดพิจารณามาก พิจารณาธรรมะมากๆนะ ฟุ้งซ่าน?
หัวใจสำคัญของการปฏิบัติธรรมนะคือการเจริญสติ?
มีสติในชีวิตประจำวันนี้ เราจะยืน เราจะเดิน เราจะนั่ง เราจะนอนนะ?
ใจเราเป็นยังไงเราคอยรู้ทันไปเรื่อย คอยรู้ทันใจของเรา?
พอรู้บ่อยๆ เราจะเห็นเลย เดี๋ยวใจก็เสวยภพนี้ เดี๋ยวใจเราก็เสวยภพนี้?
เดี๋ยวใจเราก็เป็นเปรต เดี๋ยวใจเราก็เป็นอสุรกาย เจ้าความคิดเจ้าความเห็น?
เดี๋ยวใจเราก็เป็นสัตว์นรก มีความทุกข์ขึ้นมา เดี๋ยวใจเราก็แช่มชื่น เป็นบุญเป็นกุศลนะ ก็เป็นเทวดาขึ้นมา?
มีศีลมีธรรมเป็นมนุษย์เป็นเทวดา ใจเราเข้าถึงความสงบ บางช่วงใจเราเข้าถึงความสงบ ใจเราก็เป็นพระพรหม?
นี่ใจเราหมุนไปเรื่อยๆ ให้เราคอยรู้ทันใจนะ เราจะเห็นว่าใจเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา?
ใจไม่ว่าจะเป็นยังไงนะ มันหาความสุขความสบายที่แท้จริงไม่ได้ แต่ตัวนี้ดูยากนิดนึง?
โดยเฉพาะจิตที่ละเอียดที่ประณีต เป็นภพที่ละเอียดที่ประณีตนี่ดูยากว่าเป็นตัวทุกข์ เราจะเป็นหยาบๆก่อน

งั้นเบื้องต้นนะใจเราโกรธขึ้นมาเราดูเลย? เห็นไหมใจมันดิ้นเร่าๆ หาความสุขไม่ได้เลย?
ใจมันโลภขึ้นมา รู้ทันเลย ใจมันดิ้นเร่าๆ หาความสุขไม่ได้?
คอยรู้ทันใจตัวเองไป อย่าไปบังคับนะ อย่าไปห้ามมัน อย่าไปควบคุมมัน ให้รู้ลูกเดียวเลย

วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒?
สวนสันติธรรม