Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๙๐

ตามรอยพระศาสดา : ตอนที่ ๑ พุทธคยา ดูต้นโพธิ์ใหญ่ แล้วย้อนดูใจเราเอง

wilasinee2
โดย Nat Wimuttisuk
 

 

 

heal 190 

ห่างหายกันไปหลายตอน
ยารักษาใจฉบับนี้กลับมาพร้อมกับบันทึกประสบการณ์
ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย
อันเป็นประสบการณ์ที่ย้อนนึกถึงที่ไรก็ยังรู้สึกอิ่มใจอยู่ไม่วาย
ดังนั้นผู้เขียนจึงเอ่ยปากขออนุญาตพี่อ้อ วิลาศินีเจ้าบ้านใจดี
ขอยืมพื้นที่ยารักษาใจเป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปันความอิ่มใจเล็กๆน้อยๆ
ดังกล่าวให้คุณผู้อ่านรับรู้ไปด้วยกันนะครับ

เรื่องราวอีก ๖ ตอนต่อไปนี้ จึงเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับความประทับใจ
เกี่ยวกับประเทศอินเดีย แว่นแคว้นที่เมื่อ สองพันห้าร้อยกว่าปีล่วงแล้ว
พระศาสดาเคยดำรงพระชนม์ชีพอยู่
ซึ่งหวังว่าจะสร้างกุศลให้เกิดกับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ
ทันทีที่รู้ว่าจะได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย
สิ่งแรกที่ผู้เขียนทำคือเร่งหาข้อมูลเพิ่มเติม

ไม่ได้หาข้อมูลว่าสังเวชนียสถานอยู่ที่ไหน
ไม่ได้หาข้อมูลว่าสังเวชนียสถานมีกี่แห่ง อะไรบ้าง
ไม่ได้หาข้อมูลว่าจะต้องเตรียมอะไรไปบ้าง

หากแต่หาข้อมูลว่า พระศาสดาตรัสเกี่ยวกับสังเวชนียสถานไว้อย่างไร
และหากจะไปสังเวชนียสถาน ควรไปด้วยท่าทีและความเข้าใจอย่างไร

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
กล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาลทูลถามพระศาสดาว่า
เมื่อก่อนพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ในที่ต่างๆ เมื่อมาเข้าเฝ้าพระศาสดา
ย่อมได้เห็นพระองค์ ต่อไปเมื่อพระผู้มีพระภาคดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว
พระภิกษุทั้งหลายย่อมไม่ได้เห็นพระศาสดาอีก
พระศาสดาตรัสตอบภิกษุเหล่านั้นว่า

ดูกรอานนท์ สังเวชนียสถาน ๔ แห่งเหล่านี้ เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา
สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง เป็นไฉน คือ

๑. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตาม
ระลึกว่า พระตถาคตประสูติในที่นี้ ฯ

๒. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตาม
ระลึกว่า พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ ฯ

๓. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตาม
ระลึกว่า พระตถาคตทรงยังอนุตตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ ฯ

๔. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตาม
ระลึกว่า พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ในที่นี้
สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แล เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ฯ

ดูกรอานนท์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จักมาด้วยความเชื่อว่า
พระตถาคตประสูติในที่นี้ก็ดี พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ก็ดี
พระตถาคตทรงยังอนุตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ก็ดี
พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้ก็ดี

ก็ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เที่ยวจาริกไปยังเจดีย์
มีจิตเลื่อมใสแล้ว จักทำกาละลง ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้า
แต่ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

รวมความแล้วพระศาสดาตรัสแนะนำให้ผู้ไปเยือนสังเวชนียสถานคือสถานที่อันเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวชไปสักการะด้วยความศรัทธา และความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง

สถานที่แห่งความสังเวชทั้งสี่นั้น ย่อมเตือนใจให้ผู้ไปสักการะตระหนักชัดว่า

ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้เคยประสูติ ณ ที่แห่งนี้ บัดนี้พระศาสดาได้ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้เคยตรัสรู้ ณ ที่แห่งนี้ บัดนี้พระศาสดาได้ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้เคยแสดงปฐมเทศนา ณ ที่แห่งนี้ บัดนี้พระศาสดาได้ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้ดับขันธปรินิพพาน ณ ที่แห่งนี้

แอบตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนเหยียบแผ่นดินอินเดียว่าจะไปด้วยความมีสติ

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


สถานที่แรกที่คณะของเราตั้งใจจะไปนมัสการก่อนคือพุทธคยาครับ

พุทธคยาเป็นสถานที่ที่ชาวพุทธทั้งหลายเชื่อกันว่า
เป็นสถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมโพธิญาณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ตอนที่ผู้เขียนไปถึงพุทธคยานั้น พระมหาบุญมีได้กรุณาให้ความรู้แก่คณะของเราว่า
ต้นศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาแห่งนี้ มิใช่ต้นโพธิ์ต้นเดียวกับที่พระศาสดาเคยประทับ
หากแต่เป็นต้นที่สืบหน่อมาจากต้นศรีมหาโพธิ์ต้นเดิมอีกทีหนึ่ง

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


พระมหาบุญมียังเล่าต่อไปอีกว่า
อันที่จริง “ต้นโพธิ์” ไม่ใช่ชื่อพันธุ์ต้นไม้
แต่เป็นชื่อของ ต้นไม้ที่พระพุทธเจ้า ประทับนั่งและได้ตรัสรู้
ดังนั้น“ต้นโพธิ์” ในสมัยของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จึงไม่ใช้ต้นไม้ชนิดเดียวกัน

สำหรับต้นโพธิ์ในยุคของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน
ก่อนที่จะได้รับนามว่า “ต้นโพธิ์” ต้นไม้ชนิดนี้เคยได้ชื่อว่า “อัตสัตถพฤกษ์”มาก่อน


ตัวต้นไม้เองก็ไม่เที่ยง
นามต้นไม้ก็ไม่เที่ยง
อะไรบ้างที่เที่ยง

ขณะเงยหน้ามองต้นพระศรีมหาโพธิ์
ใจของผมก็ร่ายถ้อยคำ

อาศัยร่มเงาป้องพระโพธิสัตว์ยามตรัสรู้
อัตสัตถพฤกษ์จึงได้ชื่อว่า "ต้นพระศรีมหาโพธิ์"
อาศัยร่องรอยคำสอนเรื่องการเจริญสติจากพระศาสดา เหล่าสัตว์จึงรู้มรรคาแห่งการเจริญสติ
อาศัยความเพียรเจริญสติสมควรแก่ตน จนสติเจริญขึ้นในตนจริง
จึงค่อยรู้ยิ่งด้วยใจว่า "ร่มโพธิ์ธรรม"ขององค์พระศาสดา น่าอุ่นใจยิ่งกว่าร่มไม้ใด

หากใครได้มาที่พุทธคยา จะเห็นชาวพุทธหลากเชื้อหลายชาติ
จำนวนมหาศาลมาร่วมกันบูชาพระศาสดา
ด้วยการสวดมนต์นั่งสมาธิใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์อย่างพร้อมเพรียงกัน

เห็นโพธิ์นอกแล้ว มาร่วมกันปลูกโพธิ์ใน
คือความตื่นรู้ ด้วยการเจริญสติรู้กายรู้ใจตัวเองด้วยกันนะครับ

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *