Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๘๗

คนเทวดา

wilasinee2
โดย วิลาศินี
 

 

ถ้าคุณคิดว่านางฟ้าต้องอยู่บนฟ้า เทวดาต้องอยู่บนสวรรค์
คุณอาจพลาดโอกาสพบนางฟ้าเทวดาตัวเป็น ๆ ที่จับต้องได้
คนธรรมดาจะกลายเป็นเทวดาได้อย่างไร
มาติดตามความเรื่องราวของนายภูภูมิคนนี้กันดูนะคะ
:)

....
....
....

เสียงพระสวดมนต์จบลง โฆษกประกาศให้สัญญาณการจุดโคมลอย แสงไฟจากปลายเทียนจึงค่อย ๆ กะพริบขึ้นมาจากจุดเล็กจุดน้อย จนกลายเป็นสว่างไสวอยู่รายรอบบริเวณ โคมไฟแต่ละดวงเริ่มถูกปล่อยขึ้นฟ้าในเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ท้องฟ้าในคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งดูสวยงามอยู่แล้ว ก็กลายเป็นสว่างเรื่อเรืองด้วยประทีปภายในโคมซึ่งลอยอยู่เต็มฟ้า

heal 187

ภูภูมิยืนมองรอบตัวอย่างตะลึงลาน ด้วยความที่จู่ ๆ ก็ถูกส่งมาประจำการที่เชียงใหม่โดยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ เขาเก็บของเข้าที่พักแล้วนั่งรถแดงปะปนไปกับนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งและถูกพามาสถานที่จัดงาน ขณะกดสมาร์ทโฟนเพื่อเช็คอินและถ่ายรูป ภูภูมิยังกดค้นหาประวัติและความเป็นมาของประเพณีดังกล่าวด้วยความสนอกสนใจ

เมื่อถึงช่วงเวลาพระจันทร์ฉายแสงในคืนยี่เป็ง(วันเพ็ญเดือนสองของชาวล้านนา) ผู้คนจะพากันจุดโคมไฟขึ้นฟ้า เพื่อบูชาพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ เป็นประเพณีที่จัดสืบเนื่องมายาวนานตั้งแต่พงศาวดารโยนกและจามเทวี...

ปัก!

ด้วยความที่มัวแต่เดินกดสมาร์ทโฟนท่ามกลางฝูงชน ภูภูมิเดินเปะปะไปชนเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง

“ขอโทษครับ”
“ขอโทษครับ”

ต่างฝ่ายต่างขอโทษและยิ้มให้กัน ไม่มีอะไร คนไทยยิ้มง่าย และใจดี

“รับโคมไปลอยก่อเจ้า”

แม่ค้าก็หน้าหวาน น่ารัก น่าอุดหนุน

“ขอขนาดเล็กลูกนึงครับ”

ภูภูมิพูดพลางล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกระเป๋าเงินแล้วพบกับความว่างเปล่า กระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา กระเป๋าเสื้อ ว่างเปล่าเช่นกัน

“บ่มีลูกเล็กเจ้า ทุกโคมขนาดเท่ากันหมดเลย”

“งั้นไม่เอาครับ ขอโทษนะครับ”

ภูภูมิละล่ำละลักบอกแล้วเดินกลับไปมองหาบนพื้นที่มีเพียงแสงไฟวับแวมและคนพลุกพล่าน คงไม่มีทางหากระเป๋าใบเก่งได้แน่ ๆ ส่วนในมือก็เหลือเพียงสมาร์ทโฟนที่แบตใกล้จะหมด เขารีบกดเบอร์เพื่อนสนิทที่ทำงานด้วยกัน

“เฮ้ย ติ กระเป๋าตังผมหาย คุณช่วยมารับผมหน่อย”
“หือ แล้วคุณอยู่ไหนครับ”
“อยู่เชียงใหม่”
“ชิบหายสิครับ ผมอยู่กรุงเทพฯ คุณอยู่เชียงใหม่ รอสามวันแล้วกันนะครับ ผมต้องลางานก่อน แล้วจะนั่งรถไฟไปรับ”

“โอย ครับ ๆ ผมโทรหาผิดคน ผมควรจะโทรหาคนที่อยู่เชียงใหม่แต่ผมไม่รู้จักใครเลยและแบตผมกำลังจะหมด คุณช่วยหาคนมารับผมหน่อย”
“ครับ ๆ เดี๋ยวหาคนไปช่วย คุณไปยืนที่ป้ายบอกทางแล้วก็เช็คอินบอกที่รอคนไปรับไว้นะครับ ผมจะตามเพื่อนที่อยู่ในเชียงใหม่ให้ไปช่วย แค่นี้ก่อนนะครับ แฟนผมโทรมา ถ้าผมรับช้า เธอจะหาว่าผมมีกิ๊กครับ”
“เอ่อ ครับ เดี๋ยวครับ”

ตืดดดด

ปลายสายตัดสายไปอย่างรีบร้อน ภูภูมิมองดูแบตสมาร์ทโฟนที่เหลืออยู่ไม่ถึง 10% แล้วถอนใจ เขาถอยไปยืนตรงหน้าร้านรถเข็นขายผัดไทเจ้าหนึ่งแล้วถ่ายรูปและเช็คอินลงไปในเฟสบุคและไม่ลืมแท็กปฏิภาณเพื่อนรัก(แต่รักแฟนมากกว่า) ด้วยคำว่า

อย่าลืมผม

กดส่งไปแล้วรู้สึกอเนจอนาถเหลือใจ นี่เขาจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกิ๊กเพื่อนหรือไม่ ชายหนุ่มเดินเตร็ดเตร่ไปมาอย่างกระวนกระวาย จนกระทั่งแบตสมาร์ทโฟนหมดลง ผู้คนเริ่มซา โคมไฟลอยหายลิบฟ้า งานมาถึงช่วงท้ายและใกล้จะเลิกพิธี ภูภูมิเงยหน้ามองฟ้าอย่างขอความเห็นใจ ไหน ๆ วันนี้โคมก็ลอยขึ้นไปเต็มฟ้า เห็นชาวบ้านพนมมืออธิษฐาน ชายหนุ่มจึงยกมือประนมอธิษฐานบ้าง

“พระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จากพงศาวดารโยนกและจามเทวี ถ้ามีคนมาช่วยคืนนี้ ผมจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ไม่กินเหล้าไม่เสเพล ถือศีลกินเจไปจนถึงงานเทศกาลปีหน้า ช่วยส่งนางฟ้าหรือเทวดามาช่วยผมด้วยครับ ซ้า..ธุ”

อธิษฐานจบ คล้อยหลังลดมือลง ชายหนุ่มจึงรู้ว่ามีสายตาแป๋ว ๆ คู่หนึ่งจ้องมองอยู่

“ขอโทษนะคะ คุณภูภูมิหรือเปล่าคะ”

“ครับ”

ชายหนุ่มที่หมดเงิน หลงทาง แบตสมาร์ทโฟนหมด อยู่กลางผู้คนที่ไม่รู้จัก เงยหน้าขึ้นมาพบดวงหน้าหวานซึ้ง แก้วเสียงไพเราะเสนาะหู ผมสีดำสนิทยาวเป็นเส้นตรงปรกบ่า คาดไว้ด้วยที่คาดผมสีขาวตัดกับเส้นผมและดวงตาดำขลับ สวมใส่ด้วยเสื้อยืดคอกลมสีขาวมีลวดลาย กางเกงผ้าสีดำเข้ารูป ดูไปแล้วก็คล้ายคนธรรมดาทั่วไปบนท้องถนน แต่ยามนี้เหมือนเธอมีรังสีบางอย่างเรืองรองอยู่รอบกาย คล้ายไม่ใช่คนธรรมดา

“คุณคือนางฟ้าที่ลงมาช่วยผมหรือครับ”

ภูภูมิถามเสียงเหม่อลอย นางฟ้าเลิกคิ้วแล้วกันไปมองรอบ ๆ

 “นางฟ้าที่ไหนกันคะ”

“เอ๋ ? ก็คุณเรียกชื่อผม”

“ค่ะ ก็ฉันรู้จักคุณ เราทำงานบริษัทเดียวกัน นี่ไง”

หญิงสาวเอี้ยวตัวหันหลังให้ เสื้อยืดที่สวมใส่มีตราประจำบริษัทเดียวกับเขาอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มอุทานเบา ๆ พนักงานที่ทำงานบริษัทเดียวกับเขามีอยู่ราว ๆ 300-400 ร้อยคนเป็นอย่างต่ำ นั่นไม่รวมคู่สัญญาหรือลูกจ้างภายนอกที่ประสานงานกันเป็นครั้งคราว เขาอาจไม่รู้จักทุกคนแต่ก็น่าจะพอคุ้นหน้าบ้าง...

“ฉันอยู่ฝ่ายบุคคลน่ะค่ะ เคยเจอคุณที่ตึกใหญ่ คุณอยู่ฝ่ายซอฟท์แวร์เอนจิเนียร์ใช่ไหมคะ”

“ครับ!

คราวนี้ภูภูมิอุทานเสียงดัง พลางไล่เรียงนึกถึงภาพของฝ่ายบุคคลกลางของบริษัท ตั้งแต่หัวหน้าบุคคลอายุมากใกล้เกษียณ รองหัวหน้าบุคคลคงจะอายุไม่มากแต่ใส่แว่นตาและดูเคร่งขรึมจนพลอยดูเป็นรุ่นเดียวกับหัวหน้า ส่วนพนักงานที่เหลือก็เคยไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเขาบ้างและพอจำหน้าได้ แต่คนนี้ เอ... หรือว่า... ภูภูมิเค้นสมองไปนึกภาพใบหน้าของรองหัวหน้าบุคคลอีกที

“จำไม่ได้จริง ๆ หรือคะ”

หญิงสาวทำท่าเหมือนคิดอะไรออกแล้วหยิบแว่นตามาสวม จากนั้นดึงที่คาดผมออก แล้วเปลี่ยนไปรวบผมทรงสูงพร้อมทำหน้ากึ่งดุกึ่งล้อเลียน ภาพของรองหัวหน้าฝ่ายบุคคลสว่างวาบขึ้นมาทันที ชายหนุ่มอุทานแทบไม่เป็นคำ จนทำให้อีกฝ่ายยิ้มอย่างประหลาดใจ

“พอจะนึกออกแล้วใช่ไหมคะ ฉันชื่อนภัสสร เรียกนางก็ได้ค่ะ ที่จริง ตอนบริษัทรับคุณเข้าทำงาน ฉันเป็นคนทำเอกสารของคุณเองน่ะค่ะ ก็เลยจำคุณได้”
“ครับ จำได้แล้วครับ ตอนแรกนึกไม่ออกเลย ในที่ทำงานคุณอย่างกับคุณครูฝ่ายปกครอง มาเจอข้างนอก อย่างกับนางฟ้าแหน่ะครับ”

“โอ้โฮ ชมเกินไปแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ คงเป็นอิทธิพลของแสงไฟ หรือไม่ คุณก็กำลังเบลอ ๆ อยู่“
“ครับ ผมกำลังเบลอ เอ้ยไม่ใช่ ผมพูดจริง ๆ ครับ แล้วนี่ คุณมาช่วยชีวิตผมหรือครับ มาได้ทันเวลาพอดี”
“เอ๋?”
“ครับ? เอ่อ คือ ไม่ใช่ติเขาโทรไปตามคุณมาช่วยผมหรือครับ”
“เปล่าค่ะ บริษัทส่งฉันมาดูแลงานขยายสาขาเมื่อสามวันก่อน ที่จริงต้องกลับตั้งแต่เมื่อวาน แต่วันนี้มีงานยี่เป็ง ฉันเลยลางาน อยู่เที่ยวเชียงใหม่ต่อ บ้านเพื่อนฉันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ว่าแต่คุณมาทำอะไรแถวนี้คะ”

“ก็...ผม เอ่อ...ผม...”

ภูภูมิเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงที่มีแต่ความว่างเปล่าออกมาให้นางดู พร้อมกับชูสมาร์ทโฟนแบตหมดขึ้นฟ้า ราวกับจะให้ลอยไปกับโคมกระดาษ นภัสสรมองตามแล้วพยักหน้าอมยิ้ม

“อะไรคะ หรือว่าจะเล่นเกมมาตามนัด เกิดทันด้วยหรือคะ”
“มะ ไม่ใช่ครับ คือ ผมเดินชนเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึง แล้วสักพักกระเป๋าเงินก็หายไป แถมแบตมือถือก็หมด น่าอายนะครับ”
“ค่ะ แถมยกมือขึ้นฟ้า อธิษฐานอะไรสักอย่างด้วย”

“เหวอ ได้ยินด้วยหรือครับ”
หญิงสาวไม่ตอบคำ มีแต่รอยยิ้มเย็นแล้วเสเปลี่ยนเรื่อง

“สรุปคือ ตอนนี้คุณไม่มีเงิน และติดต่อใครไม่ได้ และฉันกลายเป็นที่พึ่งสุดท้าย”
“ครับ”
“หิวไหมคะ ดึกขนาดนี้คงเหลือแต่รถเข็นแล้วล่ะ หาอะไรรองท้องก่อนกลับกันดีกว่า”
“มะ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิวเท่าไหร่”
ภูภูมิปฏิเสธเสียงอ่อยด้วยความเกรงใจ ทั้งที่ท้องไส้กำลังคร่ำครวญไปในทางตรงกันข้าม
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง เงินในกระเป๋าฉันเหลือพอส่งคุณขึ้นรถแดงกลับโรงแรมด้วย”
“ครับ งั้น รบกวนด้วยนะครับ”

ระหว่างทางที่เดินชมวิวและหาของกินริมแม่น้ำปิง ชายหนุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนสำหรับถ่ายภาพ แต่พยายามจดจำบรรยายกาศรอบตัวด้วยสายตาพินิจพิจารณา ไม่น่าเชื่อว่าอาหารจากรถเข็นข้างทางจะอร่อยจนอยากสั่งเพิ่มแต่เกรงใจคนเลี้ยง อีกฝ่ายกลายเป็นคนสั่งอีก 1 ชาม

“คุณด้วยไหมคะ”
ภูภูมิพยักหน้าอย่างเผลอไผล

“2 ที่เลยค่ะ”
นภัสสรหันไปบอกคนขาย

“มาเชียงใหม่ไม่ต้องกลัวอดนะคะ ขนาดไก่ทอด ยังมีขายตอนเที่ยงคืนเลย”
“ไก่เซเว่นหรือครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ เป็นร้านอาหาร ขายไก่อย่างเดียว แต่กลางวันไม่ขาย ต้องรอ 5 ทุ่มถึงจะเปิด ราว ๆ เที่ยงคืนถึงจะได้กิน”

“เป็นไอเดียที่ครีเอทมากนะครับ สร้างความแตกต่างเพื่อให้ได้ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เดี๋ยวต้องเอาไปเล่าให้การตลาดของบริษัทฟัง”
ภูภูมิวิเคราะห์ด้วยความตื่นเต้น นภัสสรยิ้มส่ายหน้า หัวเราะเบา ๆ

“ทำไมครับ”

“นี่คุณคิดแต่เรื่องงานจริง ๆ หรือเห็นว่าฉันเป็นฝ่ายบุคคลเลยอยากทำคะแนนให้จำได้ว่าเป็นพนักงานที่มีความใส่ใจในงานเป็นเลิศกันแน่คะ”

“ไม่ใช่สักหน่อยครับ... ผมแค่สนใจเรื่องที่คุณแนะนำเป็นพิเศษ”

“ขอบคุณนะคะ อ่ะ ฉันแบ่งลูกชิ้นให้”

ภูภูมิพยักหน้าขอบคุณแล้วก้มลงกินอาหารตรงหน้าต่อ นภัสสรยังได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว วัดวาอาราม และความเป็นอยู่ของผู้คนในเชียงใหม่ให้เขาฟังอีกมากมาย ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงคำอธิษฐานใต้โคมลอยนับพันดวงที่อยู่บนท้องฟ้า ขอให้ส่งนางฟ้านางสวรรค์ลงมาโปรด แล้วที่อยู่ตรงหน้า ก็ทำให้เขารู้สึกว่า นางฟ้าได้ลงมาอยู่กับเขาแล้วจริง ๆ

“นี่คุณคิดอะไรอยู่หรือเปล่าคะ”
นภัสสรถามยิ้ม ๆ ขณะส่งลูกชิ้นปิ้งและขวดน้ำเปล่ายื่นให้
“ปะ เปล่าครับ”
จะบอกได้อย่างไร ว่าเขาจินตนาการฝันเฟื่องไปไกลได้ขนาดนั้น...
เอาล่ะ ก่อนอื่นต้องเริ่มจากสืบก่อนว่าเธอมีแฟนหรือเปล่า

“ผม ขอเบอร์คุณไว้ได้ไหมครับ เผื่อว่า เอ่อ”
“เผื่อฉุกเฉินอีกหรือคะ คงไม่โชคร้ายซ้ำซ้อนขนาดนั้นมัง พรุ่งนี้ฉันก็กลับกรุงเทพฯแล้ว ส่วนเบอร์โทร ต่อเข้าบริษัทหาฝ่ายบุคคลก็ได้ค่ะ นั่น รถแดงมาพอดี”

“ครับ แต่ว่า”
“ขึ้นรถเถอะค่ะ เดี๋ยวรถหมดไม่รู้ด้วย อ้อ เดี๋ยวค่ะ”
“ครับ”
“อย่าลืมทำตามคำอธิษฐานนะคะ”

เสียงหวาน ๆ บอกเบา ๆ พอให้ได้ยินขณะรถแดงเริ่มเคลื่อนตัว แสดงว่าเธอได้ยินที่เขาอธิษฐานจริง ๆ ด้วย

เบี้ยวไม่ได้แล้วสิทีนี้...

ภูภูมิสูดลมหายใจลึกก่อนจะเป่าพรวดออกมา พลางเหม่อมองนางฟ้าเดินผละจากถนนเดินเลือนหายไปกับผู้คน เขานึกถึงคำอธิษฐานของตัวเองเมื่อหลายนาทีก่อน

พระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จากพงศาวดารโยนกและจามเทวี
ถ้ามีคนมาช่วยคืนนี้ ผมจะเป็นคนดี ไม่กินเหล้าไม่เสเพล
ถือศีลห้าไปจนถึงงานเทศกาลปีหน้า
ช่วยส่งนางฟ้าหรือเทวดามาช่วยผมด้วยครับ

...
...
...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• *

เธอคงเป็นนางฟ้าจริง ๆ สินะ...

ข้อความที่พิมพ์แล้วลบออกไปจากสถานะบนหน้าจอ ใครมาอ่านอาจนึกว่าเขาเพี้ยนจนบ้าบอ สุดท้ายจึงลบออกเพราะขี้เกียจมานั่งอธิบายในภายหลัง เขาเสียบสายชาร์ตสมาร์ทโฟนทิ้งไว้ทั้งคืนเพื่อจะหยิบขึ้นมาดูตั้งแต่ลืมตาตื่น แบตเต็มพร้อมใช้งาน เช่นเดียวกับคนที่ได้พักเต็มอิ่ม ชายหนุ่มนั่งประวิงเวลาอยู่บนเตียงในห้องพักที่ทางบริษัทจัดไว้ให้ โชคดีที่มีกระเป๋าสำรองอีกใบที่ห้อง เขายังต้องอยู่ทำงานวางระบบในเชียงใหม่อีก 1 เดือน

ต้องอยู่ให้ได้สิน่า...

คิดพลางเปิดดูสถานะที่มีคนมาทักค้างไว้ ไล่เรียงลงไปจนสะดุดภาพตัวเองที่อัพขึ้นหน้าจอเพื่อนรัก เห็นปฏิภาณช่วยประกาศตามหาว่าใครอยู่เชียงใหม่ให้ไปช่วยเพื่อนเขาหน่อย พร้อมกับโชว์รูปนายภูภูมิยืนทำหน้าละห้อยอยู่หน้าวัด มีคนมากดไลค์ร่วม 30 คนแต่ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครมาช่วยได้ แต่อย่างน้อยเพื่อน ๆ ก็มีน้ำใจแสดงความเป็นห่วง ภูภูมิพิมพ์ลงไปประโยคหนึ่งตามประสาคนพูดน้อย

ถึงห้องโดยสวัสดิภาพแล้วครับ ขอบคุณทุกคนมาก

และในเวลาเพียงไม่นานก็มีคนตอบกลับ
   - เฮ้ย แล้วกลับยังไงครับ ใครมาช่วย
       - นางฟ้าครับ
             - จริงดิ
            - ท่าทางนายภูจะเป็นเอามาก
      - เรื่องจริงครับ

ถัดจากนั้นเป็นข้อความหยอกเย้าและพาออกนอกทะเล ก่อนจะกดปิดหน้าจอก็มีข้อความแจ้งเตือนเข้ามาประโยคหนึ่ง

Napas N. ถูกใจ ข้อความของคุณ

ใบหน้าหวาน ๆ ลอยมาทั้งที่ไม่มีข้อความใดนอกเหนือจากนั้น ภาพของภรรยาที่พาลูกมาเที่ยวชมบรรยากาศริมแม่น้ำปิงติดตามมาด้วย

“ฉันชื่อนภัสสร เรียกนางก็ได้ค่ะ”

ภูภูมิกระเด้งตัวลุกจากเตียงแทบไม่ทัน เขารีบกดเข้าไปดูโปรไฟล์ของเจ้าของชื่อ เธอคือคนเดียวกับที่เขาพบเมื่อคืนจริง ๆ แต่หลายภาพ หลายสถานะ แตกต่างจากภาพที่เขาเคยคิดเคยมองเห็นระหว่างอยู่ในที่ทำงานราวกับเป็นคนละคน

- ไปใส่บาตรวันพระมาค่ะ ขอให้คนอ่านได้บุญเหมือนมาใส่เองเลยนะคะ
- วันนี้เหนื่อยจัง แต่พอเห็นเจ้ามอแมสะบัดหางพั่บ ๆ ก็ต้องรีบหาอาหารมาให้ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง อิอิ
- มาดูงานที่เชียงใหม่ เที่ยวต่ออีกสองวัน เดี๋ยวกลับไปเคลียร์งานนะ สู้ ๆ ๆ

ชายหนุ่มเลื่อนหน้าจออ่านด้วยความสนอกสนใจ แล้วนั่น... มีโหมดอารมณ์ดี โพสต์คลิปมิวสิควิดีโอเอาไว้ด้วย ภูภูมิหาที่วางเหมาะๆ ก่อนจะกดเข้าดูและนั่งฟังเพลงบนโต๊ะกาแฟยามเช้า

....
ทำไมต้องไปยึดติด
บางครั้งชีวิตมีสิทธิ์พลาดพลั้ง
เปลี่ยนทุกข์ให้มาเป็นพลัง
ร่วมสร้างสรรค์สวรรค์บนดิน

โอ้ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะคน
ชีวิตถ้ารู้อดทน ชีวิตของคนตนลิขิตได้เอง

...
...
เห็นสัจจาพาสุขใจ
เห็นสัจจา โอ้ผาสุกจริง..

ฮือ ฮื้อ ฮืมมม

เสียงบทเพลงประกอบดนตรีด้วยเนื้อหาที่ฟังดูเรียบง่าย แต่กลับมาพลังอบอุ่นบางอย่างดึงดูดให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ภูภูมิอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปเปิดดูชื่อเพลงคนเทวดา แล้วค่อยเข้าใจ นางฟ้าไม่จำเป็นต้องอยู่บนฟ้า เทวดาไม่จำเป็นต้องอยู่บนสวรรค์ คนที่มาช่วยเขาก็เป็นนางฟ้าจริง ๆ แต่เป็นนางฟ้าในร่างของคนธรรมดา

กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองถลำตกหลุมรักนางฟ้าคนหนึ่งเข้าเต็มเปา ภูภูมิก็นั่งจดรายการสถานที่ที่นภัสสรเคยไปเช็คอินทั่วเชียงใหม่ หลังเลิกงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ชายหนุ่มจะตระเวนไปถ่ายรูปสถานที่นั้น ๆ และแท็กชื่อเพื่อนในที่ทำงานพร้อมกับชื่อของนาง(ฟ้า)ติดไว้เสมอ ปฏิกิริยาที่ตอบกลับมาอาจมีเพียงข้อความเตือนแจ้งว่า เธอเข้ามากด ถูกใจนั่นก็ทำให้เขายิ้มตาเป็นประกายขึ้นมาแล้ว กระทั่งหมดหน้าที่แล้วกลับไปทำงาน ภูภูมิก็ยังเชื่อว่าต่อให้เธอใส่แว่นหนาเตอะ มัดผมทรงสูงจนเรียบแปล้ สวมใส่ชุดสูทอาจารย์ฝ่ายปกครองนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ภาพของนางฟ้าก็จะยังไม่หายไป และเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่มองเห็น

“เฮ้ย ภู คืนนี้ไปดื่มด้วยกันไหม”
“ไม่ครับ ผมไม่ดื่ม”

“กระเป๋าตังค์ใครทำหล่นไว้นี่”
“เดี๋ยวผมเอาไปส่งตำรวจให้ครับ”

“แย่จัง แฟนฉันไม่ค่อยสนใจเลย”
“ผมว่า คุณลองคุยกันดี ๆ นะครับ ถ้ายังไงผมขอตัวทำงานก่อน”

หลากหลายเรื่องราว หลากหลายคำถามผ่านมาแล้วผ่านไป ชายหนุ่มยึดสัจจะอธิษฐาน ไม่กินเหล้า ไม่เสเพล ถือศีลห้าตามที่ตั้งใจไว้ อย่างน้อย นางฟ้าของเขาคงเฝ้ามองอยู่ที่ไหนสักที่

“ผมล่ะอิจฉาสำนักงานใหญ่จริง ๆ มีเอนจิเนียร์ที่ทั้งเก่งทั้งความประพฤติดีแบบคุณคนนี้ ถ้าอย่างไรเปลี่ยนใจมาประจำสาขาที่เชียงใหม่ บอกผมได้ทุกเมื่อนะครับ”

เมื่อวางระบบจนครบเดือน ผู้จัดการสาขาประจำเชียงใหม่ถึงกับเอ่ยปากชม ภูภูมิขอบคุณและยิ้มรับก่อนขอตัวกลับกรุงเทพฯทั้งที่ใจโผผินบินไปก่อนหน้าตั้งนานแล้ว...

 * •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• *

พอกลับมาประจำการที่โต๊ะ ภูภูมิรีบเปิดสมุดโทรศัพท์ของบริษัทเพื่อต่อสายในไปถึงฝ่ายบุคคล

“พาฝันฝ่ายบุคคลยินดีบริการค่ะ ต้องการพูดสายกับใครคะ”
“ขอสายคุณนางหน่อยครับ”
“พี่นางไม่อยู่ค่ะ เธอได้ทุนไปดูงานที่ต่างประเทศ 10 เดือน กว่าจะกลับก็ปีหน้าเลยค่ะ”
“หา... ไปดูงาน 10 เดือน”
“ค่ะ เธอไม่ได้บอกคุณไว้หรือคะ”
“ไม่ครับ...”

ภูภูมินั่งห่อเหี่ยวอยู่ที่โต๊ะทำงาน ของฝากจากเชียงใหม่ไม่รู้เมื่อไรจะได้นำไปให้ เจอกันก็เพียงชั่วครู่ชั่วยาม นี่เขาคิดข้ามช็อตไปถึงไหนต่อไหน ส่วนตัวเธอคงไม่ได้มีใจอะไรให้แม้แต่น้อย บทจะไปก็ไป ไม่มีลากันแม้แต่คำเดียว ภูภูมิเริ่มหมดอาลัยตายอยาก ระหว่างมือหนึ่งถือโทรศัพท์ภายใน อีกมือก็เปิดเมล์บริษัทเช็คข้อความเข้าย้อนหลังไปด้วย

“อืมม ที่จริงเธอปฏิเสธทุนนี้ไปรอบนึงแล้วค่ะ แต่พี่หัวหน้าบอกว่ามันเป็นโอกาสที่หายากมาก เธอเลยขอไปช่วยงานที่เชียงใหม่ 3 วันและขอลางานต่อจนวันลอยกระทงน่ะค่ะพอกลับมาก็ต้องรีบเคลียร์งานที่สำนักงานใหญ่จนดึกดื่นทุกวันเลย”

ปลายสายเล่าให้ฟังตามประสาคนช่างพูด
“ครับ”
มีอะไรบางอย่างอยู่ในความบังเอิญของการกระทำเหล่านั้น หญิงสาวขึ้นเชียงใหม่ก่อนหน้าเขาไม่กี่วันและขอลางานต่อ หรือนี่คือโชคชะตากำหนดมาให้เธอเจอเขา?

“อ้อ คุณชื่ออะไรคะ”
“ภูภูมิครับ”
“ค่ะเธอบอกว่า ถ้า มีผู้ชายชื่อภูภูมิโทรมาหา ให้บอกด้วยว่า ให้คุณเปิดเมล์ของบริษัทขึ้นมาเช็คด้วยค่ะ เธอส่งเมล์หาคุณก่อนไป”
“ครับ?”
“เธอบอกไว้อย่างนี้จริง ๆ ค่ะ นี่ฉันจดไว้”
“โอเคครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก”

ภูภูมิเปิดจดหมายฉบับนั้นแล้ว ในนั้นมีรูปโคมลอยที่จุดตะเกียงไว้ภายในลอยอยู่เต็มฟ้า เบื้องล่างของรูปถ่ายใบนั้นเป็นด้านข้างของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังแหงนมองโคมลอยที่ลอยไปไกลลิบลิ่ว ด้วยรูปร่างและเครื่องแต่งกาย เขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ชายหนุ่มคนนั้นคือนายภูภูมิคนเศร้า ที่กำลังหลงทางอยู่กลางผู้คนนั่นเอง ที่ผิดแผกแปลกไปคือภาพนั้นถูกแต่งเติมเล็กน้อย คือมีวงแหวนสีขาวลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะของชายหนุ่ม พร้อมกับข้อความที่แนบมากับภาพเพียงประโยคสั้น ๆ

“ปีหน้าจะไปยืนเป็นเพื่อนนะคะ คุณเทวดา”

ชายหนุ่มวางโทรศัพท์แล้วเฮลั่น เมื่อได้รู้ว่า นางฟ้าก็มองเขาอยู่เช่นกัน

อย่างนี้ต้องเข้าหลักสูตร คนเทวดา รอจนกว่าปีหน้าจะมาถึงเสียแล้ว :)

(The end.)

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• *

 

เรื่องสั้นจบแล้ว แต่อย่าเพิ่งลุกจากที่นั่งนะคะ :)

เพลงที่นางเอกร้องในเรื่อง ฟังกันเต็ม ๆ ได้ที่

https://www.youtube.com/watch?v=8j7CVpcW6TI

ส่วนท่านใดต้องการที่ระลึก ซีดีเพลง “คนเทวดา”
และทางทีมงานก็มีซีดีปกสวย ๆ เพลงเพราะเนื้อหาดี มาแจกกันด้วยค่ะ

ktva2

เพียงคุณผู้อ่านร่วมตอบคำถามสั้น ๆ ตาม link นี้
http://bit.ly/1k4gPku
คำตอบดี ๆ 10 คำตอบที่ถูกใจกรรมการ จะได้รับการติดต่อ
เพื่อส่งซีดีเพลงดังกล่าวไปให้ถึงมือคุณ (โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
เป็นของขวัญวันปีใหม่จากทีมงาน

ลองคลิกมาร่วมสนุกกันนะคะ :)