Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๘๓

มะนาวหวาน น้ำตาลเปรี้ยว

wilasinee2
โดย Nat Wimuttisuk
 

 

โลกเราเดี๋ยวนี้แคบลงรู้สึกไหมครับ
ผมเป็นคนรุ่นที่เกิดทัน ยุคที่มนุษย์ติดต่อกันด้วยจดหมายเป็นหลัก
เมื่อก่อน เวลาเราคิดถึงใครสักคน
เราจะเก็บความรู้สึกคิดถึงบรรจุใส่ตัวอักษร
จากนั้นจึงค่อยปล่อยให้ตัวอักษรแต่ละตัว
ค่อยๆหอบความคิดถึงจากหัวใจ ใส่กระดาษ ผ่านปากกา
และความคิดถึงของเราจะตราตรึงอยู่ในนั้น รอวันที่ผู้รับจะมาเปิดอ่าน
จากนั้นตัวอักษรจะทำหน้าที่สำคัญที่สุด
คือหอบเอาความคิดถึง ไปสู่หัวใจของคนอ่าน
เมื่อเป็นคนอ่าน ผมแทบจะพินิจพิเคราะห์อักษรแต่ละตัว ราวกับจะซึบซับความรู้สึกให้ได้มากที่สุด
กระดาษจดหมายเอง ก็ทำหน้าที่เก็บความคิดถึงนั้นข้ามกาลเวลา
รอวันที่ตัวอักษรจะได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง
จดหมายอาจเดินทางช้า แต่ทว่า ออกจากใจ
ทุกการสื่อสาร ฝึกให้เรารอคอย
ทุกการสื่อสาร ต้องการการให้เวลา
และเมื่อมีเวลา เราย่อมได้ไตร่ตรองสิ่งที่ได้สัมผัสนานขึ้น

•..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

วันเวลาผ่านไป
ผมมองหาคนที่ติดต่อกันด้วยการเขียนจดหมายหากันเป็นหลักได้น้อยลงทุกที
หลายคนหันมาส่งข้อความผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก
หลายคนหาความรู้จากโซเชียลเน็ตเวิร์ก
หลายคน “ลอก” ความรู้จากโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ในยุคที่เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย คนยิ่งเชื่ออะไรง่ายขึ้น
ยิ่งเข้าถึงข้อมูลง่าย ยิ่งไตร่ตรองน้อยลง กระนั้นหรือ

•..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

เพื่อนของผู้เขียนมาปรับทุกข์ด้วยเมื่อไม่นานมานี้
ปัญหาของเธอไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกครับ
แค่ถูกนินทา ในว่าทำสิ่งที่ไม่ได้ทำเท่านั้น
เธอเฝ้าตั้งคำถาม ว่าทำไมใครต่อใครไม่พิสูจน์

ผมพยายามบอกเธอว่า
หากมีโอกาสให้แสดงหลักฐานชี้แจง
ส่วนจะมีคนเชื่อแค่ไหนเป็นอีกประเด็นหนึ่ง
จริงไม่จริงไม่ได้อยู่ที่มีคนเชื่อข่าวลือจำนวนมากเท่าไหร่
ในยุควัฒนธรรมกดไลค์ ข้อความที่มีคนกดไลค์มากอาจแปลว่ามีคนจำนวนมากถูกใจ
แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องจริง

•..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

ผมขอให้เพื่อนไปหยิบมะนาวในครัวมาลูกหนึ่ง กับน้ำตาลอีกขวดที่วางในตู้
เพื่อนเดินไปหยิบมาให้ด้วยท่าทีงุนงง
ผมถามเพื่อนว่า ถ้าเราบอกว่า "มะนาวลูกนี้หวาน น้ำตาลในขวดนี้เปรี้ยว” จะมีใครเชื่อไหม
"เชื่อก็บ้า" เพื่่อนตอบทันทีโดยแทบไม่ต้องคิด
"ทำไมไม่เชื่อละ ในเมื่อยังไม่มีใครลองชิม" ผมถามกลับ
“ชิมไหม” เพื่อนเสนอ
เราชิมกันคนละคำ พร้อมหัวเราะในความบ้าของตัวเอง

ถ้าเราเป็นอย่างที่เราเป็น ใครจะพูดเป็นอย่างไรก็ไม่ทำให้ความจริงเปลี่ยนไปได้หรอกครับ
ผมบอกเธอไปว่าขอแค่เธอรู้จักตัวเองดีพอว่าทำผิดหรือไม่
หากไม่ผิดจะสนใจคนลือผิดๆไปทำไม
ขออย่างเดียวว่าวันหนึ่ง หากมีคนอยากพิสูจน์ความจริง
เราควรแสดงความจริงให้เขาดูได้
เหมือนที่ยังไงเสียมะนาวก็ไม่หวาน และน้ำตาลก็ไม่เปรี้ยวนั่นแหละครับ

•..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


คำนินทาใดๆ ไม่อาจทำคนดีให้เป็นคนไม่ดีไปได้
คนจะดีก็เพราะกรรม คนจะเลวก็เพราะกรรม
หาใช่จะดีเพราะสรรเสริญ หรือจะเลวเพราะนินทาก็หาไม่
ควรถือความจริงนี้เป็นสำคัญ
และอย่าทำหรือไม่ทำอะไรเพราะกลัวนินทาหรือเพราะปรารถนาสรรเสริญ
อย่าทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่แม้เพียงสงสัยว่าเป็นกรรมไม่ดี
แต่จงทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่พิจารณาแล้วตระหนักแน่ชัดว่าเป็นกรรมดีเท่ากัน
แม้ว่าการทำกรรมดีจะมีผู้นินทา
สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก


•..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *