Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๖๕

TEARS SERIES 
ตอนที่ 25 ๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 18 : ท้ายที่สุด)

wilasinee2โดย วิลาศินี



heal-165 

ขอบคุณภาพจาก 

http://bgfons.com/download/2072

...

...

...

มะยมดองถูกวางไว้กลางโต๊ะ คนที่มองของว่างชิ้นใหม่อย่างไม่วางตาคือฮานาโกะ ส่วนหงุนมองเหล้าดองยาในโหลอยู่ป้อย ๆ มันรู้ตัวแล้วว่าคออ่อนหนักหนา จะซดเหล้าโชว์สาวก็กระไรอยู่ จึงคว้ามะยมใส่ปากแก้เขิน พร้อมกับพยักเพยิดให้ฮานาโกะลองชิมดูด้วย

ส่วนนักนินและนพพรได้รับน้ำใบเตยคนละแก้ว ลัดดาเอียงหน้าเป็นเชิงถามว่าหงุนและหญิงสาวที่มาด้วยกันจะรับอะไร ฮานาโกะรีบชี้ไปยังโหลยาดองเหล้าแช่สมุนไพรด้วยความสนใจใคร่รู้ อยากลองซดยาดองเหล้าของไทยมานานแล้ว แต่พี่ชายไม่เคยอนุญาต

ขอน้ำใบเตยเหมือนกันหมดนี่แหละ วันนี้ของดของมึนเมาสักวันนะแม่

นพพรเอ่ยปากขัดจังหวะ ก่อนที่ฮานาโกะจะได้ลิ้มชิมรสเหล้าไทยแล้วโวยวายอาละวาดขึ้นมาอีก

ได้ซี นั่นโหลสุดท้าย พรุ่งนี้ฉันก็ไม่ทำเหล้าขายแล้วล่ะพี่นพ

อะ อ้าว แล้วจะไปทำอะไรล่ะเจ๊

หงุนร้องถามอย่างเสียดาย ทั้งที่ในใจแอบโล่งอกอยู่ลึก ๆ

ขายกับข้าวกับปลาน่ะหงุน จะได้ปิดร้านแต่หัววัน ตอนนี้ฉันก็อายุมากขึ้นทุกที จะให้มาเปิดร้านค่ำๆ อยู่ถึงดึกดื่นค่อนคืนก็คงไม่ไหว

เอาจริงเหรอเจ๊ งั้นหงุนกับเฮียนพ ขอผูกปิ่นโตไว้รอล่วงหน้าเลยนะเจ๊

รีบผูกปิ่นโตเลยทีเดียว ไม่ใช่จะมีคนคนทำกับข้าวให้ที่บ้านแล้วหรือ หืม

พูดพลางปรายตามองหญิงสาวแปลกหน้าทั้งสองคน จังหวะนั้นนักนินค่อยเงยหน้า และยกมือสวัสดีลัดดา

สวัสดีค่ะคุณน้า

เธอชื่อนักนิน พอดีมีเรื่องเดือดร้อน และฉันคิดว่าลัดดาน่าจะพอช่วยได้ ต้องรบกวนเสียแต่วันนี้แหละ

ลัดดาพยักหน้า เธอจับตามองนักนินตั้งแต่แรกก้าวเข้ามาในร้าน หญิงสาวหน้าตาสะสวยที่เดินตามหลังนพพรมาต้อย ๆ ทำเอาแม่หม้ายวัยกลางคนหัวใจหล่นวูบ นี่ไม่ใช่ว่านพพรจะคบเด็กสาวคราวลูกแล้วพามาแนะนำกับกับเธอหรอกนะ แล้วไหนจะสาวแปลกหน้าที่ดูน่ารักแบบเปรี้ยวเผ็ดเข็ดฟันที่ตามหงุนมานั่นอีก

ส่วนคนนี้ ชื่อ ฮานาโกะ ไม่ได้มีเรื่องเดือดร้อนอะไร แค่อยากตามมาเฉย ๆ ครับเจ๊

หงุนชิงแนะนำตัวให้ ส่วนฮานาโกะยังคงกดอุปกรณ์จิ๋วในมือเพื่ออ่านการแปลภาษาจากในเครื่อง แต่ทันทีที่รู้สึกว่าสายตาทุกคู่มองมา เธอก็รีบยกมือสวัสดีบ้าง

ซา หวัด ดี ค่า

ไหว้พระเถอะจ้ะ ว่าแต่มานี่มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยหรือ

มากทีเดียว ที่จริงพวกฉันไปหาแปะซ้งมาก่อนแล้ว แต่อาแปะบอกว่าลัดดาช่วยได้

นพพรพูดพลางยกกล่องกระดาษขึ้นมาวางบนโต๊ะกล่องหนึ่ง ข้างในนั้นบรรจุกระดาษ ปากกา และซองใส่เอกสาร รูปถ่าย ใบพาสปอร์ต และยังมีตั๋วเดินทางอีกสองใบ เอกสารทุกชิ้น เขียนด้วยภาษากัมพูชาทั้งหมด

นี่กล่องเก็บของ ส่วนกล่องเก็บเถ้ากระดูกของคนตาย อยู่ในรถ เดี๋ยวฉันจะให้แม่หนูคนนี้ค่อย ๆ เล่าให้พวกเราฟัง

ทุกสายตาเปลี่ยนไปจับที่นักนิน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก และเริ่มเล่าช้า ๆ ถึงแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลัดดาทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของร้าน แต่ด้วยความรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วม และใจชื้นที่อย่างน้อยในเวลานี้ นพพรเห็นเธอเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่เพียงที่พักพิงที่นาน ๆ แวะมาหาอย่างหลายปีที่ผ่านมา ฟังเรื่องที่นักนินเล่าจบ ลัดดาก็หยิบสมุดขึ้นมาดู พินิจรูปและตัวหนังสือที่อยู่บนภาพถ่าย รวมไปถึงตั๋วเดินทางที่เก็บไว้ในกล่องเดียวกัน

อยากเอาเถ้ากระดูกของสองคนนี้กลับไปที่บ้านของพวกเขาใช่ไหม

ลัดดาถามสั้น ๆ ด้วยความรู้สึกสงสารและเป็นมิตรกับหญิงสาวต่างวัยมากขึ้น

ค่ะ

นักนินพยักหน้า และตอบสั้น ๆ เช่นกัน

ผู้หญิงชื่อ โภค รมดวล ส่วนผู้ชายชื่อ บุญ เทือน สองคนนี้มาจากจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา ตั๋วนี่เป็นตัวเดินทางกลับบ้าน สองคนนี้เขาคิดจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่อยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน

อะ อ่านภาษาขะแมร์ได้ด้วยเหรอเจ๊

หงุนร้องทักด้วยความฉงนระคนทึ่ง

จังหวัดไพลิน อยู่ตรงไหนคะคุณน้า

อืม ที่จริงก็ไม่ไกลเท่าไรหรอก อยู่ห่างจากที่นี่แค่ประมาณ 300-400 กิโล นั่งรถไปก็ 4 ชั่วโมงเศษ ๆ

เจ๊พูดอย่างกับเคยไป

นี่แปลว่าถ้าแปะซ้งไม่บอก ทั้งหงุนและพี่นพพรก็คงไม่รู้เลยใช่ไหม ว่าฉันไม่ใช่คนไทย

 

อือออ

นพพรและหงุนตอบรับด้วยเสียงครางในลำคอพร้อมกัน ลัดดากลายเป็นฝ่ายเล่าบ้าง

ฉันเป็นคนแขมร์มาแต่กำเนิด

หม้ายสาวเจ้าของร้านยาดองเล่าอย่างเปิดใจ ว่าแท้จริงแล้ว เธอเป็นชาวกัมพูชาที่ถูกล่อลวงมาค้าประเวณีในไทย แต่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจคนหนึ่ง เวลานั้นเขาเป็นตำรวจไฟแรง มารับตำแหน่งสารวัตรใหม่ ๆ และพาพวกพ้องไปบุกทลายซ่องและช่วยชีวิตเธอออกมาได้อย่างหวุดหวิด หญิงสาววัยแรกรุ่นที่พลัดบ้านต่างเมือง ถูกล่อลวงมาโดยแทบไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย ขออยู่รับใช้นายตำรวจหนุ่มที่ช่วยชีวิต ช่วยเก็บบ้าน ซักผ้า ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้านไปจนกว่าจะกลับบ้านได้ แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ไปไหน เมื่อความผูกพันกลายเป็นความรัก สารวัตรบุญเรืองสอนให้เธอพูดภาษาไทย ส่งเสียให้เล่าเรียนจนจบการศึกษานอกโรงเรียนและได้วุฒิบัตรด้านคหกรรม จากนั้นจัดการตบแต่งอย่างเป็นทางการจนลัดดากลายเป็นคุณนายตำรวจที่ผู้คนยอมรับนับถือ แม้ชะตากรรมจะพรากชีวิตของบุญเรืองจนตายตกไปเสียก่อน แต่เธอก็สู้ชีวิตอยู่ในเคหะสถานที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับสามีมาจนถึงทุกวันนี้

โอ...

หงุนฟังตาค้าง นพพรเองก็พลอยอัศจรรย์ใจไปด้วย นักนินรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด ราวกับว่าเธอได้เก็บเกี่ยวพลังชีวิตมาจากลัดดาด้วย ส่วนฮานาโกะหยิบมะยมดองเม็ดที่สามมาเคี้ยวตุ้ย ๆ รสชาติเปรี้ยวจี๊ดที่แตกเปรี๊ยะออกมาจากเนื้อมะยมผสมกับกลิ่นน้ำยาดองคล้ายไวน์ราคาถูกกลับปลุกความคึกคักให้กับจิตใจได้เป็นอย่างดี ไหน ๆ ก็ยังเข้าไปเยี่ยมเกนโซที่อยู่ในห้องพักฟื้นไม่ได้ เรื่องอะไรเธอจะปล่อยให้นักนินเล็ดรอดไปจากสายตา ผู้หญิงคนนี้ต้องรับผิดชอบต่ออาการบาดเจ็บของพี่ชายเธอจนถึงที่สุด แต่นี่ไป ๆ มา ๆ เธอก็นั่งฟังจนชักจะเบื่อแล้ว

まだ 終わってないのか...[i]

น้องสาวจอมแก่นของเกนโซเคี้ยวมะยมพลางบ่นพึมพำ แต่เธอพูดได้ไม่กี่คำก็สำลักมะยมดอง ฮานาโกะเริ่มไอจนหน้าดำหน้าแดง หงุนเห็นท่าไม่ดีเลยรีบพยุงหญิงสาวออกไปดื่มน้ำ ลูบหลัง พร้อมกับพาไปสูดอากาศกันข้างนอกร้าน ฮานาโกะไอไป บ่นกระปอดกระแปดไปด้วยภาษาญี่ปุ่นของตนเอง หงุนก็ปรามด้วยภาษาบ้าน ๆ ของตนเช่นกัน

นั่นเขาคุยกันรู้เรื่องหรือ

ลัดดามองตามและหันมาถามนพพร คนถูกถามได้แต่หัวเราะและตอบว่าเขาใช้ใจคุยกัน นักนินมองภาพนั้นแล้วอดนึกถึงและเป็นห่วงเกนโซไม่ได้

แล้วเธอจะเอายังไงล่ะแม่หนู

หนูจะเดินทางตามตั๋วใบนี้ไปค่ะ มันอาจจะเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าวของทั้งหมด หนูจะเอาไปคืนที่บ้านเกิดของพวกเขา

แล้วเธอจะไปยังไง ไหนจะค่าเดินทาง ไหนจะเรื่องภาษา

ฉันจะไปส่ง

นพพรเอ่ยเรียบ พร้อมกับปรายตามาทางลัดดาที่กำลังใจหายวาบ

ลัดดาจะไปด้วยกันไหม ช่วยเขา แต่เราถือว่าเราไปเที่ยว ไปพักผ่อนด้วยกัน

จบประโยคของนพพรที่เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเขามีความคิดจะช่วยนักนินด้วยความบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง และหากจะต้องเดินทางไปไหนไกล ๆ เขาก็อยากให้มีลัดดาไปด้วย ทำเอาหม้ายสาวทรงเสน่ห์นิ่งอึ้งไปพักใหญ่

ว่าไง ไม่อยากไปหรือ

ไปสิ ฉันแค่ไม่อยากเชื่อว่าพี่จะตกลงปลงใจง่ายขนาดนี้

อืม ขอน้ำใบเตยอีกสักแก้วก็คงจะดี

ลัดดายิ้มแล้วลุกไปตักน้ำใบเตยให้ นักนินมองดูนพพรและลัดดาที่แสดงความในใจต่อกันด้วยมิตรไมตรีแบบผู้ใหญ่ และหนุ่มสาววัยรุ่นอย่างหงุนกับฮานาโกะที่ล้งเล้งโวยวายอยู่ด้านนอกด้วยความรู้สึกผ่อนคลายลง สายลมพัดมาวูบหนึ่งแตะผ่านรูปถ่ายของชายหนุ่มและหญิงสาวอีกคู่ที่วางอยู่บนโต๊ะ

ไม่กี่วันหลังจากนั้น รูปถ่ายและข้าวของในกล่องนั้นก็ถูกนำพากลับไปส่งยังอ้อมอกของบิดามารดาที่รออยู่ในแผ่นดินบ้านเกิด

...

...

...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


แล้วคุณตาคุณยาย ที่เป็นพ่อกับแม่ของคนที่ตายสองคนนั้น เขาโกรธคุณแม่ไหมคะ

นานามิคุยกับเกนโซในห้องนั่งเล่น ผู้เป็นพ่อตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวหลายอย่างในเวลาต่อมา เช่นว่า นักนินไม่ใช่นัตสึกิ เธอประสบเคราะห์ภัยมาและตั้งใจแก้ไข ทุกฉากทุกตอน เด็กหญิงซักถามด้วยความสนใจใคร่รู้ และที่สำคัญ เธอยังเรียกนักนินว่าแม่อยู่ดี แม้จะได้ฟังเรื่องราวมาจนใกล้จะถึงตอนจบแล้ว

พ่อจะอธิบายว่าไงดี พวกเขาไม่ได้โกรธ แต่ก็เสียใจ เสียใจมาก

เกนโซตอบลูกสาวไปได้ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ความตามที่นักนินกลับมาเล่า ไหนจะฮานาโกะที่เล่าเสริมด้วยรูปถ่ายและคลิปวิดีโอที่อัดไว้ตลอดการเดินทาง แต่ภาพที่ถูกบันทึกไว้มากกว่าครึ่งเป็นภาพของเธอกับนายหงุน ที่คอยดูแลเอาใจใส่ชาวคณะเป็นอย่างดี

เรื่องราวที่เกนโซได้รับการบอกเล่ามา คือเมื่อไปถึงจุดหมาย กำนันโภคและภรรยารับโถใส่อัฐิ และกล่องบรรจุ รูปถ่าย ข้าวของของลูกสาว รวมทั้งของบุญ เทือน ไปไว้ในอ้อมอกด้วยอาการกึ่งช็อคกึ่งปลงใจ ผู้เป็นแม่นั้นเป็นลมไปตั้งแต่รู้แน่ว่าอัฐิในโถนั้นเป็นของรมดวลผู้เป็นลูกสาว ทั้งสองสามีภรรยาผู้แก่ชรากอดประคองกันขึ้นมาฟังคำบอกเล่าของลัดดา ที่ขอให้อโหสิแก่นักนิน ภาคิม รวมถึงเตชิตที่ตายไปแล้ว ว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ได้มีใครต้องการให้เกิดขึ้น

มันคือข่าวร้ายที่สุดของผู้เป็นพ่อและแม่ที่เฝ้าติดตามถามหาข่าวคราวของลูกสาวที่หายไปจนร่างกายซูบผอมและซีดเซียว ทั้งสองเริ่มต้นด้วยความโมโหโกรธาและลงเอยเป็นเศร้าโศกาอาดูรที่สุดท้ายก็ได้รู้ว่าต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมดนั้น ตนเองก็มีส่วนที่บังคับขืนใจรมดวลให้แต่งงานโดยไม่ถามความสมัครใจของลูกสาว จนกระทั่งเธอต้องหนีไปตกระกำลำบากและจบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร

ออ กุณ แดล ยล จิต เคนีย นา คมวย สรี[ii]

แม่ของรมดวลส่งจดหมายมาขอบคุณสั้น ๆ หลังจากทำพิธีศพให้ลูกสาวแล้วเสร็จ เป็นการทำพิธีย้อนหลัง แต่ก็ถือว่าเป็นการทำแสดงความรักครั้งสุดท้ายของพ่อและแม่ที่มีต่อลูก แม้จะทำในเวลาที่ลูกไม่อยู่แล้วก็ตาม

รายละเอียดทั้งหมดนั้นเขาคงต้องเก็บเอาไว้สอนใจตัวเองเช่นกัน ว่าควรจะทำดีต่อคนรักกันเสียตั้งแต่วันเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่จะเล่าให้นานามิฟังได้อย่างไร ในเมื่อเธอยังเป็นเด็กเล็กตาใสแป๋วที่เขาเพิ่งเล่านิทานเรื่องเจ้าหญิงวังมังกรให้เธอฟังซ้ำอีกครั้งเมื่อคืนก่อน

เอาล่ะ คุณพ่อไม่ต้องเล่าเยอะก็ได้ แต่นานามิว่า นานามิพอจะเข้าใจ คุณตาคุณยายคงจะเสียใจที่เสียลูกไปใช่ไหมคะ เหมือนนานามิที่เสียใจมาก ตอนที่เสียคุณแม่ไป

อือ

เกนโซได้แต่พยักหน้า ทุกคนรอบตัวเขาเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างง่ายดายเกิดคาด เขาแปลกใจมารอบหนึ่งแล้วเมื่อครั้งที่นพพร ลัดดา นักนิน ฮานาโกะ และหงุน ช่วยกันวางแผน เดินทาง และกลับมาทันเสียก่อนที่บาดแผลเขาจะหายดีจนสามารถออกมาจากโรงพยาบาลได้เสียอีก

คุณพ่อคิดอะไรอยู่คะ

นานามิเอียงคอถามอย่างชั่งใจ

เปล่า พ่อกำลังดีใจ ที่ลูกเข้าใจเรื่องที่พ่อเล่า

อื้อ แล้วคุณพ่อก็ไม่ต้องเป็นห่วงนานามินะคะ นานามิรู้แต่แรกแล้ว ว่าคุณแม่ไม่มีวันกลับมา แต่อย่างน้อยที่สุด วิญญาณของคุณแม่นัตสึกิ ก็พาคุณแม่นักนินมาให้ นานามิชอบคุณแม่นักนิน เหมือนที่คุณพ่อชอบนะคะ

จริงหรือ

อื้อ

นานามิเป็นเด็กที่โตเกินวัยจนเหลือเชื่อ ลูกสาวตัวน้อยทำได้แม้กระทั่งทำให้คนเป็นพ่อสบายใจด้วยการทำตัวไร้เดียงสา แต่ภายในฉลาดเป็นกรด

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูตามมารยาทแล้วเปิดออกโดยง่ายดายเพราะไม่ได้ใส่กุญแจไว้ คนที่เปิดประตูเข้ามาคือหญิงสาวดวงตากลมใส ใบหน้าสงบเย็นและยิ้มอย่างสบายใจระหว่างที่บอกกล่าว

น้ำอุ่นกำลังดีแล้วค่ะ นานามิ ไปอาบน้ำด้วยกันไหมจ๊ะ

ค่ะ คุณแม่

นักนินชินแล้วกับสรรพนามนั้น เธอยิ้มหวานและทรุดตัวลงอ้าแขนรับเด็กน้อยที่โผเข้ามากอด

ให้คุณพ่ออาบด้วยได้ไหมคะ

เอ คุณพ่อโตแล้วนะคะ อาบเองได้แล้ว

เศร้าเลยค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ไม่ให้อาบน้ำด้วย

เยาะเย้ยพ่อเหรอ ร้ายนะเรานี่

เสียงหัวเราะคิกคักของนานามิดังไล่ไปจากห้องนั่งเล่นจนถึงห้องน้ำ ทั้งบ้านอบอวลไปด้วยสายใยรักที่เพิ่งเริ่มถักทอ และเชื่อว่าจะสานต่อให้เป็นผ้าผืนงามที่สุดปกคลุมทั้งสามดวงใจให้อบอุ่นไปด้วยกันได้ในที่สุด

...

...

...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

ここ はどうこ?[iii]

ฮานาโกะหันไปถามด้วยภาษาญี่ปุ่นว่าหงุนพามาที่ไหน หนุ่มไทยทำเป็นเฉย เหมือนจะลอยหน้าลอยตาเสียด้วยซ้ำเพราะฟังไม่รู้เรื่อง สาวเจ้าเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ Where is here? หูเขาก็ยังไม่กระดิก ฮานาโกะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะสะกดคำภาษาไทยให้กลายเป็นคำถาม

ทิ นิ ทิ ไน

ที่นี่ที่ไหน พูดซิ

ฮานาโกะพ่นลมออกจากจมูกอย่างไม่พอใจ หงุนรู้ตั้งแต่แรกว่าเธออยากถามว่าอะไร แต่ไม่ยอมบอก แถมยังพยามยามจะเคี่ยวเข็ญให้เธอพูดภาษาไทยให้ชัดอีกต่างหาก

คุณหนูอย่างคุณ คงไม่เคยมาที่แบบนี้สินะ ที่นี่น่ะ เรียกว่ามูลนิธิ เป็นศูนย์กระจายกำลังของอาสาสมัครที่ออกไปช่วยเหลือคนเดือดร้อน ลองมาดูกิจกรรมของพวกเราทางนี้สิ

หงุนพาฮานาโกะเดินเข้าไปด้านใน มีบอร์ดติดรูปถ่ายการทำกิจกรรมของอาสาสมัคร ไม่ว่าจะการช่วยเก็บศพ ช่วยพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ช่วยคนตกน้ำ จัดการสอนการปฐมพยาบาลขั้นต้น บางคนถึงขั้นมีอาชีพเสริมเป็นนักดับเพลิงด้วย

ฮานาโกะมองดูภาพเหล่านั้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ นึกหวาดเสียวที่อาสาสมัครเหล่านี้แทบจะไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ในการป้องกันตัว บางภาพไม่สวมหมวก บางภาพไม่ใส่ถุงมือ เธอคิดว่ากิจกรรมพวกนี้ต้องมีคนมาให้ความรู้หรือไม่ก็ควบคุมให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดเสียบ้าง คิดพลางสอดส่ายสายตาหาภาพถ่ายของนายเฟอะฟะที่เป็นคนพาตนมาที่นี่

อ่าว หงุน นี่ลื้อมีแฟงตั้งแต่เมื่อหล่าย ไหน ๆ พาอีมาแนะนำตัวกับอั๊วให้ไว ๆ เลย

อ้าว แปะซ้ง สวัสดีคร้าบบบ

หงุนยกมือไหว้ชายชราปะหลก ๆ ฮานาโกะหันไปดูพร้อมกับยกมือไหว้ตามไปด้วย เธอได้ยินเสียงคนหนุ่มคนแก่สองคนคุยกันขโมงโฉงเฉงแต่จับใจความไม่ได้และใช้อุปกรณ์แปลไม่ทัน ได้แต่มองหน้าสองคนสลับไปมาอยู่หงึกหงัก

คุณหนูญี่ปุ่น อยากมาศึกษาเมืองไทยน่ะแปะ ไม่ใช่แฟนผมหรอกครับ

เออ ลื้อก็ศึกษากังไปมา เหลียวก็เปงแฟงกังล่ายเองแหละน่าอาตี๋ เชื้ออั๊ว อั๊วเหงมานักต่อนักเลี้ยว

ขอบคุณแปะที่อวยพรนะครับ แหะ ๆ ผมก็ดู ๆ กันไปก่อนน่ะครับ

เออ ๆ ว่าง ๆ พาอีไปลองเก็บศพลูมั่ง ลูซิ ว่าจะเข้ากับลื้อได้ลึป่าว

ครับแปะ เอางั้นเลยนะครับ

เออ ๆ ปะ ๆ พาแฟนไปไหว้พระไหว้เจ้าข้าง ๆ ต่อเลยไป อั๊วไปทำงานของอั๊วก่อง

งานที่ว่า คืองานลงทะเบียนรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา นำมาบริจาคให้กับมูลนิธิ และนั่นก็มีคนเดินเข้ามาจากทางเข้าแต่ไกล

คนที่มาใหม่ดูจะเดินอย่างไม่ค่อยสะดวกนัก เขาสวมหมวกใบหนึ่งและแว่นตาอันใหญ่ เหมือนพยายามปกปิดร่องรอยบางอย่างบนใบหน้าไว้ ถึงกระนั้น หงุนก็ยังสังเกตเห็นใบหน้าด้านซ้ายที่บิดเบี้ยวไปอย่างผิดวิสัย แล้วไหนจะลักษณะการเดินที่ต้องใช้ไม้ค้ำและคนพยุง

เดินดี ๆ นะลูก ปะ แม่พามาทำบุญกับมูลนิธิ ทำให้กับศพไร้ญาติ อย่างที่ลูกเคยบ่นว่าอยากมาไง

คนที่พยุงคนมาใหม่ เป็นบุรุษและสตรีวัยชราที่ประคบประหงมลูกชายของตนเป็นอย่างดี หงุนต้องหลบและหลีกทางให้ เช่นเดียวกับฮานาโกะที่รู้สึกเกรงใจจนถึงกับถอยร่นมาหลบอยู่ข้างหลังเขา หญิงสาวสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่มากกว่าหงุนเห็นเสียอีก

ดูนาฬิกาของเขาสิ ใหญ่ไปไหม ไม่ค่อยจะเข้ากับแขนเลย

ฮานาโกะพูดประโยคนั้นเป็นภาษาญี่ปุ่นที่หงุนฟังไม่ออก และฮานาโกะก็ขี้คร้านจะแปลคำ ชายหนุ่มและหญิงสาวจึงพากันเดินจูงมือกันออกมาเยี่ยมชมศาลเจ้าต่อ

เมื่อหงุนไม่เข้าใจความหมายที่ฮานาโกะพูด เขาจีงไม่ได้มองตาม เมื่อเขาไม่ได้มองตาม เขาจึงมองไม่เห็น หรือเห็นก็จำไม่ได้ว่านาฬิกาฝังเพชรที่ชายหนุ่มคนนั้นสวมเอาไว้ เป็นนาฬิกาเรือนเดียวกับเรือนที่เขาเคยถอดออกมาจากชายหนุ่มผู้ขับรถชนคนตาย มันได้กลับไปอยู่ที่เดิมแล้ว แม้แขนของเจ้าของจะลีบลงจนไม่เหมาะกับนาฬิกาเรือนหรูและใหญ่เรือนนั้นแล้วก็ตาม

...

...

...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


จานมะยมดองยังวางอยู่บนโต๊ะอาหาร น้ำใบเตยหมดไปแล้วครึ่งค่อนแก้ว ลัดดานั่งเท้าคางฟังนพพรเล่าเรื่องราวของตนในอดีต จนมีบางส่วนเกี่ยวโยงไปถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุสับเปลี่ยนคนผิดในครั้งนั้น

แล้วในที่สุดพี่ก็เอานาฬิกาไปคืนให้เจ้าของ คืนเดียวกับที่ได้เจอกับเด็กสาวคนนั้นสินะ

อืม ก็มันเป็นของเขา

กรรมของเขา

ใช่ กรรมของเขา

งั้น เล่าเรื่องของพี่ต่อเถอะจ้ะ ว่าพี่วางแผนจะกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลไหน ยังไง

นพพรพยักหน้า ลัดดาลุกไปหยิบน้ำใบเตยมาเติมให้

...

...

...

หลอดไฟที่โต๊ะทำงานของแปะซ้งถูกเปิดสวิตซ์ขึ้น แสงไฟส่องสว่างเท่าที่กำลังของหลอดไฟขนาดเล็กดวงหนึ่งจะให้แสงสว่างได้ ชายชราจดบันทึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาแค่พอไม่ให้หลงลืมว่าสัปดาห์นี้ทำอะไรบ้าง แต่นึก ๆ แล้วก็ไม่รู้จะเขียนอะไร ชายแก่ปิดไฟลงไปในที่สุด

...

...

...

แต่ละชีวิตมีหนทางต้องเดินต่ออีกยาวไกล เมื่อมีเหตุก็ถูกร้อยรัดให้มาบรรจบพบกัน หมดเหตุก็แยกจาก สานเหตุต่อก็ร้อยเรียงผูกโยงกันต่อ

เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปนัก.

...

...

...

 

- จบบริบูรณ์ -



[i] iまだ 終わってないのか อ่านว่า mada owattenainoka แปลว่า ยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย

[ii] ออ กุณ แดล ยล จิต เคนีย นา คมวย สรี แปลว่า ขอบคุณที่เห็นใจกันนะ หลานสาว

[iii] ここ はどうこ? อ่านว่า koko ha douko แปลว่า ที่นี่ที่ไหน