Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๕๒

TEARS SERIES 
ตอนที่ 15 ๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 8 : ปากเหว)

wilasinee2โดย วิลาศินี




heal-152

ขอบคุณภาพจาก http://www.wallpapersgalaxy.com


เหวลึก อย่านึกว่าเหวตื้น

ปากเหวลื่นอย่าคะนองไปลองผลัก
ตกเหวหินปีนป่ายยังง่ายนัก
ตกเหวรัก กระเสือกกระสนไปจนตาย

(นิรนาม)


...

...
...

รถยนต์คันหรูที่เกนโซขับพานักนินออกจากโรงพยาบาล เลี้ยวเข้าไปจอดตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง หญิงสาวลงจากรถแล้วเหลียวมองไปรอบๆ สุดปลายถนนยังมีหนทางเชื่อมต่อไปอีกหลายสาย สายหนึ่งนั้นคือเส้นทางที่มุ่งตรงไปยังโรงงานทอผ้าที่เกนโซเป็นเจ้าของ

一柳 幻想

(อิจิยานางิ  เกนโซ)

แผ่นป้ายขนาดเล็กสลักชื่อเจ้าของและเลขที่บ้านติดอยู่บนกำแพงริมรั้ว นักนินลงจากรถแล้วยืนมองบ้านเดี่ยวหลังเล็กกะทัดรัดแต่ก็ดูโดดเด่นเมื่อเทียบกับร้านค้าและครัวเรือนที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกัน เกนโซเดินลงไปเปิดประตูบ้านแล้วนำทางให้หญิงสาวเดินตามเข้าไปข้างใน

“บ้านรกหน่อยนะครับ บางทีผมก็ขนงานมาทำต่อที่นี่ พรุ่งนี้อาจจะพอไหว้วานให้แม่บ้านมาช่วยปัดกวาดเช็ดถูให้เรียบร้อยขึ้น

นักนินฟังคำแล้วรีบส่ายหน้า

อย่าลำบากเลยค่ะ เท่านี้ก็รบกวนคุณมากแล้ว

งานที่เกนโซบอกว่าขนมาทำที่บ้าน ไม่ใช่สัมภาระหนักหนาอะไร แต่เป็นตัวอย่างเส้นไหมและผ้าแขวนบนราวตากผ้าเป็นแผงยาว ราวเหล่านั้นตั้งอยู่ตรงด้านหลังของห้องโถงติดกับห้องครัว และเอกสารจำนวนหนึ่ง เป็นแบบสเกตลวดลายของผ้า ที่วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง นอกจากนั้นอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนไม่มากชิ้น แต่ละชิ้นมีฝุ่นจับอยู่บ้าง นั่นคงเพราะเกนโซไม่ได้ใช้บ้านหลังนี้เลยในช่วงวันหยุดพักผ่อน นักนินหันมอง บ้านรกๆของเกนโซแล้วยังนึกอุ่นใจว่า นี่ยังดูเรียบร้อยกว่าห้องของเธอสมัยเป็นนักศึกษาอยู่หลายเท่า

ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ขออุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านให้ฉัน เดี๋ยวฉันเก็บกวาดเองนะคะ

ชายหนุ่มหรี่ตามองหญิงสาวที่ดูอ่อนน้อม เอางานเอาการ และท่าทางจะเป็นแม่บ้านแม่เรือนคนนี้แล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง นักนินไม่ทันเห็นแววตานั้น รับรู้เพียงแต่เกนโซพยักหน้า

“ครับ ตามใจคุณ”

“แล้วก็... เสื้อผ้าฉัน”

“ผมให้แม่บ้านช่วยจัดหามาให้น่ะครับ บอกแค่ว่ามีญาติเดินทางไกลมาหา ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ให้เขาช่วยหาเสื้อผ้าไซส์เดียวกับที่นัตสึกิเคยใช้ เธอถามอายุอานามคุณ จัดเสื้อผ้าแบบนี้มาให้ และแถมเครื่องแต่งหน้ามาให้ด้วย ไม่ชอบหรือครับ”

“เปล่าค่ะ ชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ฝากขอบคุณไปถึงแม่บ้านของคุณด้วย แต่ฉันหมายถึง อุปกรณ์กับสถานที่ซักล้าง ฉันจะได้ซักผ้าตากผ้า ไม่ต้องลำบากคุณซื้อหาให้ใหม่”

คราวนี้เกนโซถึงกับอึ้งในความเจียมเนื้อเจียมตัวของหญิงสาว เขาพาเธอไปดูห้องครัวสำหรับทำอาหาร ห้องน้ำ และประตูด้านหลังที่เปิดไปยังปั๊มน้ำและลานซักล้าง นักนินพยักหน้าอย่างพอใจ เย็นนี้เธออาจจะเริ่มจากการทำความสะอาดบ้าน แล้วค่อยตามด้วยทำอาหาร จากนั้นค่อยจัดการกับข้าวของของตัวเอง

“เชิญคุณตามสบายนะครับ คิดเสียว่าเป็นบ้านของตัวเอง ผมจะออกไปดูปั๊มน้ำ กับสำรวจระบบน้ำระบบไฟรอบๆบ้าน ไม่อยู่เสียหลายวัน กลัวว่าเดี๋ยวมีปัญหาตอนกลางคืนจะลำบาก”

เกนโซทำหน้าที่ของพ่อบ้านที่ดี  แผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินดุ่มออกไปสำรวจจุดนั้นจุดนี้ ดูคล้ายกับเตชิตที่ชอบแวะมาซ่อมนู่นซ่อมนี่ให้ที่บ้าน นักนินคิดจะเดินตามเขาไป แต่จู่ๆ ก็เกิดเงาวูบไหวตรงมุมหนึ่งของบ้าน หญิงสาวหันมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่กลับไม่พบอะไรสักอย่าง

อาการใจสั่นหวิวๆ คล้ายจะเป็นลมเริ่มหวนกลับมาใหม่ หญิงสาวยืนเคว้งอยู่กลางบ้าน เหลียวมองหาเกนโซก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน จำต้องเดินเปะปะไปนั่งลงตรงโซฟาริมผนังห้อง

พอได้นั่งพัก อาการใจสั่นค่อยทุเลาลง แต่ความรู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนกลับเข้ามาแทนที่ นักนินรู้สึกว่าเบาะโซฟาที่นั่งอยู่นั้นเย็นเฉียบ เท่านั้นยังไม่พอ เหมือนเธอจะนั่งทับไปบนของเหลวขุ่นข้นบางอย่าง ของเหลวนั้นชื้นแฉะและเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ

คุณช่วยลองเปิดน้ำในห้องน้ำดูหน่อยได้ไหมครับ

เกนโซชะโงกหน้ามาจากหลังบ้าน เขาบอกด้วยเสียงค่อนข้างดัง เสียงนั้นดึงสติสัมปชัญญะของนักนินกลับมาได้ครู่หนึ่ง หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย พอก้มมองโซฟาสีครีมที่ไม่มีความผิดปกติอันใด

คุณครับ?

“ค่ะ...”

นักนินตอบเสียงเบาแต่ก็พอให้เกนโซได้ยิน หญิงสาวฝืนใจลุกขึ้น ระยะทางจากโซฟาไปยังประตูห้องน้ำไม่ไกลนัก แต่พื้นกระเบื้องกลับดูคลอนแคลนและยวบยาบ ลองกะระยะแล้วหลับตาเดินยังจะง่ายกว่า พอมือแตะถึงประตูห้องน้ำแล้วคว้ากลอนประตู ก็รู้สึกสัมผัสเหนียวหนึบและเปียกชื้นตรงนิ้วสัมผัสขึ้นมาใหม่ นักนินลืมตาขึ้นดูจึงพบว่ากลอนประตูและมือของตนเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงข้น

เลือด...

มาจากไหน?

แผลที่มือของเธอหรือ?

นักนินดึงชายเสื้อมาเช็ดมือของตนไม่พบรอยแผล ตรงกลอนประตูยังมีคราบเลือดติดอยู่ เมื่อใช้ชายเสื้อเช็ดซ้ำ รอยเลือดค่อยจางหาย แต่มาปรากฏเป็นด่างดวงอยู่บนเนื้อผ้า หญิงสาวรีบเข้าห้องน้ำไปเปิดก๊อกล้างทั้งมือและดึงเสื้อผ้าไปล้างด้วย

ซู่...

เกนโซได้ยินเสียงเปิดน้ำในห้องน้ำก็เข้าใจว่าระบบน้ำใช้ได้ดี เขาเดินออกไปสำรวจรอบๆบ้าน มีแปลงพืชผักสวนครัวอยู่หย่อมหนึ่ง สะระแหน่และผักชีกำลังแตกยอดอ่อนอยู่ในรางไม้ แสดงว่าคนงานที่เขามอบหมายให้มารดน้ำช่วงที่เขาไม่อยู่ปฏิบัติงานได้เกือบครบถ้วน ที่ขาดไปคือยังปล่อยให้วัชพืชเช่นต้นหญ้าเล็กๆ ขึ้นแซมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไร ชายหนุ่มนั่งลงถอนหญ้าที่อยู่รอบแปลงพลางคิดถึงลูกสาวตัวน้อยที่รออยู่ที่บ้าน

คุณพ่อพานามิไปอยู่บ้านนู้นบ้างซีคะ นามิจะได้ชวนคุณแม่ปลูกดอกทานตะวันด้วยกัน

เด็กน้อยเสนอข้อตกลงเสียงใสแจ๋วทั้งที่ตัวเองกำลังง่วงเหลือทน

เอ... คุณแม่จะยอมให้นามิไปอยู่ด้วยหรือเปล่านะ

ฮึ! ทำไมจะไม่ยอมล่ะคะ ตอนที่เจอกัน คุณแม่กอดนามิแน่นเลยนะ คุณแม่น่ะ อยากอยู่กับนามิจะตาย คุณพ่อไม่รู้

อืม... อย่างนั้นรึ

เกนโซทำเป็นพยักหน้า เหมือนจะเข้าใจ

คุณพ่อนั่นแหละ ใจร้าย แค่เอาคุณแม่ไปซ่อนไว้ก็ใจร้ายอยู่แล้ว ยังไม่ยอมให้นามิไปอยู่กับคุณแม่อีก

พูดจบก็กอดอก หันหลัง แต่ที่จริงกำลังรอให้พ่อโอ๋ เกนโซกวาดแขนไปพาดกอดและดึงเด็กน้อยมานอนหนุนตัก ขี้คร้านจะโผซบแต่ก็ยังงอนแก้มป่อง

รอก่อนนะลูก คุณแม่ยังไม่ค่อยสบาย ถ้านามิเกเรมากๆ คุณแม่อาจจะต้องกลับไปที่วังมังกรอีกครั้ง แล้วกลับมาหาพวกเราไม่ได้อีกเลย นามิอยากให้เป็นอย่างนั้นหรือลูก

งือ... ไม่ค่ะคุณพ่อ

ถ้าอย่างนั้นห้ามงอแง ตกลงไหม

ตกลงค่ะคุณพ่อ มาเกี่ยวก้อยกันก่อน อย่าให้นามิรอนานจนเกินไปนะ

อื้ม

ใครผิดสัญญา ต้องกลืนเข็มพันเล่ม

นามิพูดพลางเอานิ้วก้อยของตนเกี่ยวนิ้วก้อยของพ่อแล้วเขย่าแรงๆ

โอ้

เกนโซทำเป็นตกใจกับข้อตกลงที่โหดร้ายทารุณ นามิหัวเราะเบาๆ แล้วอ้อนขอฟังนิทาน ชายหนุ่มถอนหญ้าพลางนึกถึงนิทานเรื่องต่อไปที่จะต้องเล่าให้ลูกฟังครั้งหน้า ที่เขาจำเป็นต้องหาเรื่องใหม่มาเล่าแทนเรื่องเก่าที่เล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

บางที... นัตสึกิอาจจะพอช่วยได้

...

...

เกนโซยังไม่กลับเข้ามาในบ้าน และนักนินก็โล่งใจที่เป็นอย่างนั้น หญิงสาวล้างมือและซักชายเสื้อตรงอ่างล้างมือ รอยเลือดจางหายจากเนื้อผ้า แต่พอจะจับกลอนประตู พลิกดูฝ่ามือของตัวเองยังปรากฏรอยเลือด เธอจึงหันไปเปิดน้ำจนเกือบเต็มอ่างอาบน้ำ เอามือจุ่มลงในอ่างจนมิดแขน น้ำในอ่างยังใสสะอาดไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงของเลือด

คิดไปเองสินะ...

นักนินทรุดตัวลงนั่งข้างอ่างน้ำ พยายามกำมือแน่นให้เล็บจิกลงในเนื้อฝ่ามือ ดูเหมือนน้ำเย็นๆจะช่วยดึงสติให้กลับคืนมาได้หลายส่วน

แต่เมื่อภาพหลอนหายไป หูก็แว่วได้ยินเสียงแปลกๆเข้ามาแทนที่

"จ้..ว..ย..พ...อง..”


เสียงกระซิบภาษาต่างถิ่นดังมาจากทิศทางไหนสักทาง นักนินชันเข่าขึ้นมาแนบอก มือข้างหนึ่งปิดปาก ข้างหนึ่งปิดหู ป้องกันไม่ให้ตนเองกรีดร้องและตอนนี้ยังไม่อยากได้ยินเสียงใดๆทั้งสิ้น

"จ้..ว..ย..พ...อง..”

เสียงนั้นกรีดร้องดังขึ้นอีกและดูเหมือนจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ปิดหู-ปิดตาไม่ช่วยอะไร หญิงสาวเอื้อมมือควานเปะปะเจอขันน้ำอยู่ตรงริมอ่าง

“น้ำ...”

เมื่อครู่ น้ำเย็นๆพอจะช่วยได้ หญิงสาวละล้าละลังและท้ายสุดตัดสินใจหาทางออกให้ตัวเองด้วยการตักน้ำเทราดตัวตั้งแต่หัวลงมาจรดเท้า เสียงน้ำสาดซ่าช่วยกลบเสียงประหลาดไร้ทิศทางให้ไกลห่างออกไป ความเย็นยะเยียบจากสายน้ำช่วยกลบอาการตะครั่นตะครอและปวดมวนท้องที่กำลังเป็นอยู่

เมื่อเห็นว่าได้ผล... นักนินจึงตักน้ำเทราดตัวเองอีกเรื่อยๆ จนน้ำแห้งขอดจากอ่าง หญิงสาวปล่อยให้ตัวเองเปียกโชกและกอดตัวเองหนาวสั่นอยู่บนพื้นเย็นเฉียบของห้องน้ำ

ก๊อกๆๆๆๆ

“นัตสึกิ นัตสึกิ”

เสียงเคาะประตูและชายหนุ่มตะโกนอยู่ด้านนอก

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า นัตสึกิ”

เขาเรียกหาใครกัน?

อ้อ นั่นเกนโซ เขาเรียกหาภรรยาของเขา...

ภรรยาหรือ?

นัตสึกิค่ะ ฉันเป็นนัตสึกิได้ตั้งแต่วันนี้เลย

นักนินเหมือนถูกคำพูดของตัวเองสะกดจิต ฤทธิ์ยาที่อยู่ภายในยังไม่หายไปทั้งหมด มันกำลังทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายแสวงหาสารเคมีประเภทเดียวกันมาเติมให้เพิ่มขึ้น รวมไปถึง กระตุ้นความรู้สึกทางเพศที่ก่อนหน้านั้นร่างกายยังไม่ทันตอบสนอง

ความปั่นป่วนพุ่งพล่านอย่างรุนแรงพร้อมๆ กับเสียงเคาะประตูที่ดังแรงขึ้น หญิงสาวเก็บรวบผมที่เปียกชื้นมาบิดมวยผมไล่น้ำออก รวบเสื้อผ้าที่แนบสนิทเนื้อบิดน้ำออกไปได้ไม่มาก เธอเดินไปที่ประตูและเปิดมันออกทั้งสภาพเปียกปอนนั้น

“ว่าไงคะ.. ที่รัก”

เกนโซกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากยากเย็น ที่จริงเขาเคยเห็นร่างของเธอมาแล้วทุกส่วนสัด แต่เวลานั้นนามิอยู่ด้วย เขาจึงต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษตัวอย่างตามที่ลูกสาวคอยจับตามองอยู่ทุกฝีก้าว มารอบนี้ เขาและเธออยู่ตามลำพังเพียงสองต่อสอง หญิงสาวท่าทีตื่นตระหนกและหวาดกลัวก็หายไป ส่วนคนที่ยืนพิงประตูอยู่ตรงหน้าเวลานี้อยู่ในสภาพเปียกปอน มีหยาดน้ำพรมอยู่ทั่วร่างและไม่ใช่ร่างไร้สติที่เขาเคยช่วยชีวิตขึ้นมาจากทะเลเมื่อคืนก่อน

เวลานี้หญิงสาวคนดังกล่าวกำลังยืนอยู่ตรงหน้า เสื้อผ้าของเธอเปียกพราวแนบเนื้อ มือหนึ่งยื่นมาดึงแขนเขาอย่างอย่างเชิญชวน เมื่อเกนโซส่งมือไปรับเพื่อประคองเธอให้ก้าวออกมาจากห้องน้ำ ร่างนั้นก็ถลามาซบกับอกเขาแทบจะในทันที...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

นพพรวางแก้วน้ำใบเตยเปล่าๆ ลงบนโต๊ะดังโป๊กเดียวแต่ก็ทำเอาไอ้หงุนสะดุ้งเฮือก เฮียนพของมันไม่เคยซดน้ำใบเตยแบบดุดันขนาดนี้มาก่อน นี่ส่อเค้าว่า เฮียท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีมากกว่าโมโหหิวอย่างที่มันคาดเดาเอาไว้ เพราะสุดท้าย ข้าวกล่องที่มันซื้อให้ เฮียนพก็ยกให้มันทานเพิ่มเป็นสองกล่อง เมื่อมันถามว่าทำไมเฮียไม่ทาน นพพรเพียงตอบเบาๆ ว่าไม่หิว

มะยมดองหน่อยไหมเฮีย

ไอ้หงุนเสี่ยงตายเอาใจใส่ ลูกพี่ของมันควรกินอะไรบ้าง นพพรยังคงส่ายหน้า ขณะที่มันยังคิดหาทางอยู่นั้น ลัดดาก็นำอาหารจานหนึ่งมาวางตรงหน้า

“ลองชิมหมี่ผัดฝีมือฉันหน่อยสิพี่นพ หงุนด้วยนะ ลองมาทานด้วยกัน”

“โอย ไม่ไหวล่ะจ้ะ เฮียให้หงุนซัดข้าวไปตั้งสองกล่อง ยังแน่นท้องอยู่เลยเจ้”

งั้น พี่นพทานหน่อยนะ ฉันลองทำหมี่ผัดตามสูตรที่เพิ่งได้มา ถ้าพี่นพชิมแล้วเข้าท่า พรุ่งนี้ฉันจะปรุงใหม่ ไปใส่บาตรถวายพระ

ไอ้หงุนฟังคำของลัดดาที่คล้ายคำบอกเล่าเรียบๆ ไม่มีอะไร แต่แท้จริงแล้วแฝงความนัยบางอย่าง หากมันสนใจสืบหาความเป็นไปของนพพรให้ลึกให้ซึ้งบ้าง ก็จะพบว่าสองคนนี้มีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่าง รวมทั้งความรู้สึกที่บังเอิญตรงกันหลายครั้งโดยต่างฝ่ายไม่ต้องเอ่ยปากบอก ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไอ้หงุนแทบอ้าปากเหวอ เมื่อเห็นเฮียนพทีมันพยายามเซ้าซี้ให้กินข้าวปลาแต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อลัดดายื่นจานอาหารมาให้เท่านั้น นพพรก็หยิบจานที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะไปไว้ตรงหน้าแต่โดยดี เขาหยิบช้อนและส้อมมาตักหมี่ใส่ปากคำโต ไอ้หงุนแทบจะสูดปากตามเมื่อเห็นเฮียของมันก้มหน้ารับประทานหมี่ผัดอย่างจริงจัง แม้สีหน้าท่าทางจะไม่บอกชัดว่าเอร็ดอร่อย แต่นพพรก็ใช้เวลาไม่นานนักในการทานจนหมดจาน ลัดดาเห็นแล้วยิ้มรื่น ไอ้หงุนแทบจะลุกขึ้นยืนปรบมือให้ด้วยน้ำตาอาบแก้ม

ขอบใจนะ ฝีมือจัดว่าใช้ได้ทีเดียว

นี่คือความพิสดารพันลึกที่ไอ้หงุนไม่มีทางเทียบชั้นได้ติด ลัดดามองหน้านพพรชั่วแวบเดียวก็รู้วิธีเกลี้ยกล่อมให้ยอมกินอาหารที่วางใส่จาน ทั้งยังกลับมาพูดจาด้วยดีดังเดิม เด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์มองหน้ารุ่นพี่ทีหนึ่งและหันมองสาวใหญ่ที่ดูจะรู้ใจลูกพี่มันเป็นอย่างดีอีกทีหนึ่ง ได้ยินนางถามเสียงแผ่ว

“แล้วพรุ่งนี้พี่จะแวะมาใส่บาตรกับฉันไหม”

ไอ้หงุนลุ้นให้เฮียนพของมันตอบ “ได้ซิ” หรือ “ด้วยความยินดี” อยู่ในใจ แต่แล้วคำตอบที่ออกจากปากของรุ่นใหญ่กลับมาเพียงรอยยิ้มบางๆ

“ขอฉันดูก่อนแล้วกันนะแม่”

ไอ้หงุนวางแก้วยาดองลงโต๊ะดังแป๊ก! เป็นเสียอย่างนี้สินะ มันถึงซื้อหวยไม่เคยถูก...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

แม้จะยังรู้สึกปวดหนึบตรงศีรษะที่ถูกฟาดมาเมื่อคืนก่อน แต่ความรุมร้อนในใจไม่อาจดับได้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดแผล หากแต่คราวนี้หญิงสาวที่เดินเข้ามาหาไม่ใช่คนแปลกหน้าที่บังเอิญพบกันตามผับบาร์ แต่เป็น เด็กในคอนโทรลของพัลลภผู้เป็นอาส่งมาให้

บนเตียงนอนขนาดใหญ่ในห้องพักของคอนโดหรู ภาคิมโอบรัดตวัดร่างอ่อนปวกเปียกในอ้อมแขนมาฟอนเฟ้นด้วยอารมณ์คึกคะนอง อีกฝ่ายกอดก่ายเขาด้วยอาการสะลึมสะลือพลางร้องครวญครางเสียงแหบพร่า แต่นั่นกลับทำให้อารมณ์คึกคะนองของชายหนุ่มหล่นลงวูบ สิ่งของบางอย่างที่ได้มาง่ายเกินไปไม่นานก็กลับดูไร้ค่า ผู้หญิงในอ้อมกอดเวลานี้ก็เช่นกัน เนื้อหนังของเธอดูปวกเปียกยวบยาบคล้ายถุงบรรจุน้ำกระเพื่อมไปมาอย่างน่ารังเกียจ ชายหนุ่มผละจากร่างนั้นแทบจะทันทีที่ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้น ขณะที่เจ้าหล่อนยังเอื้อมมือเปะปะมาลูบแขนลูบขาเขาอย่างมีอารมณ์ ภาคิมแกะมือเหนียวหนึบเหมือนตุ๊กแกคู่นั้นออกแล้วเดินหนีไปเข้าห้องน้ำ พลางนึกถึงคำที่พัลลภเคยบอกไว้

“ผ่านมืออามาบ้าง อย่าถือสาเลยนะ พวกนี้เขาหิวเงินน่ะ”

“เธอจะเอาเงินไปทำอะไรครับอา”

“ก็เอาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ สวยๆ งามๆ แต่ที่แพงสุดก็คงจะเป็นยาที่อัพนั่นล่ะ”

พอติดแล้วก็ขาดไม่ได้... ต้องเป็นทาสของยาอยู่ร่ำไป เหมือนแมงเม่าที่รู้ว่าไฟร้อน ก็ยังจะบินเข้าหากองไฟจนกว่าร่างจะมอดไหม้แตกดับ

ถ้านักนินไม่รอดจากมือเขาในวันนั้น วันนี้ก็คงมีสภาพไม่ต่างจากหญิงสาวที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงของเขาในเวลานี้ ติดก็แต่เขาไม่รู้ว่าเธอตอนนี้จะยังมีชีวิตอยู่ไหม หรือเป็นแค่วิญญาณตามมาหลอกหลอนเขาอยู่เรื่อยๆ แต่หากยังไม่ตาย ก็ต้องซมซานมาขอยาจากเขาอยู่ดี

“ไม่ต้องไปตามหา เดี๋ยวหล่อนก็มาเอง”

พัลลภบอกเขาในวันที่พากันผละออกมาจากท่าเรือโดยไร้วี่แววของร่างนักนินในทะเล ดังนั้นไม่ว่าเป็นหรือตาย เธอคงต้องมาหาเขาจนได้ ภาคิมเองก็เชื่ออย่างนั้น

ก๊อกๆๆๆๆ

“คิว... คิวจ๋า...”

เสียงเคาะแล้วตามด้วยน้ำเสียงออดอ้อนดังอยู่อีกด้านของประตูห้องน้ำ ภาคิมที่ยังทำธุระส่วนตัวไม่เสร็จเหลียวหน้าไปหมายจะร้องบอกให้คู่ขากลับไปก่อน วันนี้เขาหมดอารมณ์เสียแล้ว

“จะให้กลับไปไหน นิ่มอุตส่าห์มาหา ออกมาสนุกด้วยกันก่อนสิ”

ไม่พูดเปล่า เสียงเคาะประตูยังเปลี่ยนเป็นเสียงลากเล็บขูดประตูดังครืดๆ รบกวนประสาทอยู่จนกระทั่งเขาจัดการธุระหน้าโถปัสสาวะแล้วเสร็จ

อารมณ์เดือดปุดๆ คุกรุ่นอยู่ในหัว ชายหนุ่มเดินไปกระชากประตูห้องน้ำเปิดออก จากนั้นเสียงกรีดร้องอย่างหวาดผวาของหญิงสาวก็ดังขึ้น น่าเสียดายที่เสียงนั้นไม่อาจเล็ดรอดออกไปจากห้องเก็บเสียงที่ภาคิมสั่งให้ช่างมาปรับปรุงเสียใหม่เอี่ยม

เสียงกรีดร้องของหญิงสาวจึงไม่อาจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปได้ทันการ นั่นคือกว่าบุคคลภายนอกจะรับรู้เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ทุกอย่างก็แทบจะสายจนเกินแก้...

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *



- โปรดติดตามตอนต่อไป