Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๔๑

นิทานคั่นเวลา(2) “คนที่ไม่เคยโกหก”

wilasinee2โดย วิลาศินี




heal
ขอบคุณภาพและเค้าโครงเรื่องจาก http://www.uexpress.com/
...
...
...

ยังคงเป็นนิทานคั่นเวลาอีกเช่นเคยค่ะ เรื่องนี้เล่าต่อๆกันมาในภูมิภาคตะวันออกกลางค่ะ เป็นนิทานน่ารักๆ ที่คุณผู้อ่านอาจนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ลองมาฟัง(อ่าน)กันดูนะคะ... :)


กาลครั้งหนึ่งมีเด็กหนุ่มที่ชื่ออาลี ซึ่งใครๆก็เอ่ยถึงเขาว่า เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยโกหกเลยตั้งแต่เล็กจนโต ซึ่งคำบอกเล่านี้แทบจะนับได้ว่าเป็นการยกย่องสรรเสริญจนได้ยินไปถึงพระเนตรพระกรรณของพระราชาและพระราชินีแห่งเมืองนั้น

“เป็นเด็กหนุ่มที่ดีทีเดียวนะเพคะเสด็จพี่ หากได้มาเป็นคู่ครองของลูกสาวเราก็คงจะดี”
พระราชินีทรงเอ่ยถึงชายผู้นี้ขึ้นมาในวันหนึ่ง ขณะกำลังสนทนาบางอย่างอยู่กับพระราชาในที่ประทับ

“มีอยู่ในโลกด้วยรึ คนที่ไม่เคยโกหกใคร”
พระราชาตรัสด้วยความกังขา และดำริที่จะหาทางพิสูจน์

“ทหาร จงเรียกตัวอาลีมาพบข้าในวันพรุ่งนี้”
พระราชาทรงสั่งให้ทหารไปรับตัวชายหนุ่มผู้ไม่เคยโกหกใครเข้ามาในวัง และทรงพบว่า เขาเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีและดูฉลาดเฉลียวทีเดียว

“เจ้าหรือ คนที่ไม่เคยโกหกใคร”
“พระเจ้าข้า”
“ที่ผ่านมาเจ้าไม่เคยโกหกใครเลยอย่างนั้นรึ”
“พระเจ้าข้า”
อาลีตอบน้อยคำ ด้วยเขาเป็นคนที่ไม่โกหก จึงระมัดระวังในคำพูดของตนเองเป็นอย่างยิ่ง

“เจ้าอาจจะไม่โกหกในเวลาที่ผ่านมา หรือในเวลานี้ แต่ในวันข้างหน้า เจ้าอาจจะมีแผนการที่จะโกหกก็ได้นี่นา”

“ไม่เลยพระเจ้าข้า ข้าพระองค์รู้ว่าการโกหกนำมาซึ่งผลเสียร้ายแรง หากจะวางแผนการอันใด ก็คงจะเป็นแผนการที่จะรักษาคำพูดที่มีแต่ความจริงของตนไว้มากกว่า”

“ดีล่ะ เช่นนั้น ข้าจะให้เจ้ามาช่วยงานในวังของข้า”

พระราชามิได้ตรัสถึงการหมั้นหมายอาลีให้กับเจ้าหญิง พระราชินีก็มิทรงโต้แย้งแต่ประการใด ในพระทัยของพระราชินีทรงรอคอยการพิสูจน์คุณสมบัติของอนาคตราชบุตรเขย ส่วนในพระทัยของพระราชาคิดว่า...ข้านี่แหละ จะทำให้เจ้ากลายเป็นคนโกหกให้ได้ในสักวันหนึ่ง...

และไม่นานนัก วันนั้นก็มาถึง

“นี่อาลี ข้ามีเรื่องจะไหว้วานเจ้าสักหน่อย”
พระราชาทรงเรียกอาลีมายังที่ประทับและสั่งการ

“พอดีข้าต้องรีบไป เจ้าจงไปบอกกับราชินีของข้าด้วยว่า ข้าได้นำม้าสีขาวที่พระราชินีรักออกไปจากวังเพื่อจะไปเยี่ยมบิดาข้า ดังนั้นวันนี้และพรุ่งนี้ นางจะไม่ได้เห็นข้า”

“พระเจ้าข้า”
อาลีรับคำสั่งและล่าถอยออกไปบอกแก่พระราชินีดังคำที่พระราชาบอกทุกประการ

“เช่นนั้นรึ”
ราชินีตรัสถาม
“พระเจ้าข้า”
“วันนี้และพรุ่งนี้ ข้าจะไม่ได้เห็นพระสวามีของข้า แล้วข้าจะได้เห็นเขาเมื่อไร”
“ข้าพระองค์ก็ไม่ทราบเหมือนกันพระเจ้าข้า ข้าพระองค์เพียงถ่ายทอดคำพูดของพระราชามาทุกประการ ที่ข้าพระองค์พูดไปทั้งหมด คือคำพูดของพระราชาพระเจ้าข้า”
“ดีล่ะ เจ้าไปเถอะ”
พระราชินีทรงรับสั่ง และไม่เหนือความคาดหมาย

เช้าวันรุ่งขึ้น พระราชาก็โผล่มาในอุทยาน และสรวลอย่างยินดี

“เป็นอย่างไร เมื่อวานอาลีบอกกับเจ้าว่าอย่างไร”
“เขาบอกว่าพระองค์ออกไปจากวังเพื่อจะไปเยี่ยมพระบิดาเพคะ”
“ข้าไม่ได้ไป ไม่อย่างนั้นจะมาให้เจ้าเห็นหน้าได้หรือ เห็นหรือยังว่าเขาโกหก”

“เขาไม่ได้โกหกเพคะ”

“อ้าว เมื่อกี้เจ้าเพิ่งพูดหยกๆว่าเขาบอกว่าข้าออกจากวัง”

“เขาบอกตามที่พระองค์สั่งเขานี่เพคะ”

พระราชินีทรงสรวลบ้าง ด้วยทรงรู้ทันอุบายของพระสวามีของพระองค์เป็นอย่างดี อาลียังคงเป็นคนพูดความจริง แม้เขาจะถ่ายทอดคำโกหก แต่คำโกหกนั้นเป็นของพระราชาต่างหาก

พระราชาทรงสรวลเก้อๆ เมื่อทอดพระเนตรเห็นอาลีและเจ้าหญิงเดินเคียงกันมาแต่ไกล ก็เริ่มทอดถอนพระทัย

พระองค์คงจะต้องยกเจ้าหญิงให้กับคนที่ไม่เคยโกหกใครในคราวนี้เอง.