Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๑๕

ศีลธรรมประกันชีวิต

โดย วิลาศินี

healing-115

มีใครไหม... ไม่เคยโมโห ไม่เคยเผลอตบเวลาโดนยุงกัด :)
มีใครไหม... ไม่เคยขโมยของของคนอื่นมาเป็นของตัว
มีใครไหม... ไม่เคยคิดฉกฉวยแย่งชิงภรรยาหรือสามีของคนอื่น
มีใครไหม... ไม่เคยโกหกแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิต
มีใครไหม... ไม่เคยจิบสุรายาเมา

ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนเคยทำผิดพลาดกันมาทั้งนั้น
อาจจะมากบ้าง น้อยบ้าง
ที่ร้ายกว่านั้นคือคนบางคนไม่คิดว่าสิ่งเหล่านี้คือความผิดเลย

เคยเห็นคนที่มีเงินอยู่กับตัวสิบยี่สิบบาท
แล้วใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายบ้างไหมคะ

ลองเทียบว่า โลกนี้มีองค์ประกอบใหญ่ๆอยู่สองส่วน
คือสิ่งมีชีวิต กับสิ่งไม่มีชีวิต (เราคือสิ่งมีชีวิต โอกาสคือ ½)

สิ่งมีชีวิต แบ่งเป็น พืช กับมนุษย์หรือสัตว์
(เราคือมนุษย์ โอกาสคือ ½ คูณกับของเดิมคือ ¼)
การที่เรามีโอกาส ¼ นี้ สามารถส่งผลให้เรา
ไปเกิดเป็นสัตว์ใดๆก็ได้ล้านชนิด

โดยมีมนุษย์เป็นโอกาสที่เป็นเศษเสี้ยวเล็กๆนั้น
ตีรวมง่ายๆแค่ 1 ในล้าน (โปรดคูณของเดิมอีกครั้ง)

และประชากรโลกนับพันล้าน มีกี่คนที่นับถือพระพุทธศาสนา
(โปรดคูณของเดิมอีกครั้ง)

และมีกี่คนกันนะ
ที่เข้าใจหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
(คูณได้เท่าไรแล้ว โปรดบอกกันบ้าง)

ที่ผู้เขียนพยายามเทียบมาทั้งหมดก็เพื่อบอกให้รู้ว่า
โอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพระพุทธศาสนา
หารออกมาแล้วน้อยยิ่งกว่าน้อย
ไม่ใช่ความเสี่ยงแบบโยนหัวโยนก้อย
แต่เป็นการสั่งสมและสร้างเสริม
โอกาสเหล่านั้นให้เพิ่มขึ้นทีละน้อย
จนสามารถไขว่คว้าโอกาสการได้มาเป็นตัวตนของคนคนหนึ่ง

แต่ถ้าเทียบกับทางเดินข้างหน้าที่ยังไกลอีกหลายโขเล่า

เงินสิบยี่สิบบาทเมื่อครู่ ดูจะน้อยจนประเมินค่าไม่ได้
เมื่อเราใช้จ่ายไปด้วยการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเสียสิบห้าบาท
ลักขโมยเจ็ดบาท, ประพฤติผิดในกามเสียแปดบาท
แค่สามข้อก็ติดลบจนต้องเป็นอสุรกายไปไม่รู้กี่ชาติ

คำพระท่านจึงกล่าวว่าถ้าใครรักษาศีลไว้ได้ไม่ครบ
หรือรักษาไม่ได้เลยก็เรียกว่าผิดปกติของมนุษย์
ดังนั้นเมื่อเรามีธนาคาร มีกรมธรรม์ประกันชีวิต
ไว้ประกันการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราแล้ว
ลองมาสร้างกระปุกออมศีลเล็กๆไว้ในใจของเรากันดีกว่าไหม
ตั้งต้นง่ายๆที่ศีลห้า ได้แก่

1. เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งปวง
2. เว้นจากการลักทรัพย์ เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้
3. เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
4. เว้นจากการพูดเท็จ คำหยาบ หรือพูดส่อเสียด
5. เว้นจากการดื่มน้ำเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

รักษาได้ดังนี้ เพียงวันต่อวัน วันหนึ่งผ่านไปก็เริ่มวันใหม่อีกวันหนึ่ง
วันไหนขาดก็ขอให้ขาดให้น้อยที่สุด
ให้ครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายและเริ่มใหม่ไปทุกวัน
ให้ความผิดพลาดเป็นเหมือนเกลือที่ถูกเติมลงในแก้ว
แต่มีคุณงามความดีคอยเติม
และศีลที่ช่วยปกปักรักษาไม่ให้ความไม่ดีไม่งามกล้ำกรายเข้ามาอีก
เมื่อความดีงามเติมจนเต็ม จะเห็นได้ว่าเกลือไม่ได้หายไปไหน
แต่ถูกละลายเหลือความเค็มน้อยที่สุด
น้ำนั้นก็สะอาดและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้

อันที่จริงผู้เขียนเลียนคำพูดของพระท่านมาเสียมาก
แต่ใช้ลีลาอย่างนักขายประกัน
ที่ไม่ได้หวังใจจะให้ใครมาซื้อประกันของผู้เขียน
แต่อยากให้กลับไปดูแลหลักประกันชีวิตของตัวเองเป็นอย่างดี

เท่านี้....ก็น่าพอใจนักหนาแล้ว :)