Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๑๐๒

wilasineeโดย วิลาศินี



คำตอบของเกี๊ยวซ่า

heal_102_01

ขอบคุณภาพจาก http://webecoist.com

นิทานเรื่องนี้มีตัวเอกเป็นนกค่ะ ให้ชื่อว่าเกี๊ยวซ่าก็แล้วกัน : )
เกี๊ยวซ่าเป็นนกพูดได้ แต่ก็พูดคนละภาษากับมนุษย์
มันโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น ถูกสอนให้ฉลาด และมองการณ์ไกล
ดังนั้น เมื่อเกี๊ยวซ่าเริ่มปีกกล้าขาแข็ง ก็ได้ปรารภกับพ่อและแม่ว่า

"ชีวิตมนุษย์น่าอิจฉาจังเลยนะครับ"
แม่ของเกี๊ยวซ่าได้ฟังก็ฉุกคิดและตั้งคำถาม
"ลูกไปเล่นกับมนุษย์มาหรือ"
เกี๊ยวซ่าพยักหน้า "ครับ"
"อย่าเข้าใกล้พวกเขามากเกินไป ถึงอย่างไร เขาก็พูดคนละภาษากับเรา"
พ่อนกตักเตือนลูกน้อย

แต่เกี๊ยวซ่าก็ยังดื้อดึง มันคิดในใจว่า พ่อแม่ต่างหากที่ไม่รู้จักมนุษย์ดีพอ
เช้าวันหนึ่ง เกี๊ยวซ่าตัดสินใจบินจากรัง มันตั้งใจจะเรียนรู้การใช้ชีวิตของมนุษย์
เพื่อวันหนึ่งมันอาจจะเอาวิธีการดำเนินชีวิตแบบมนุษย์มาใช้กับสังคมของนกได้

เจ้าเกี๊ยวซ่าบินออกมาบนถนนสายหนึ่ง พบคนเลี้ยงวัวกำลังต้อนวัวหนึ่งฝูง
มันจึงถามออกไปว่า "ลุงๆ ใครเป็นเจ้าของวัวฝูงนี้ครับ?"
เกี๊ยวซ่าถามด้วยภาษานก แต่คนฟังก็ได้ยินเพียงเสียงจิ๊บๆ
คนเลี้ยงวัวเห็นนกตัวเล็กจิ๊บหลายที ดูน่ารัก จึงส่งเสียงออกไปว่า
"จุ๊กกรู"
ส่วนเกี๊ยวซ่าได้ยินดังนั้นก็เข้าใจว่าเป็นคำตอบ
จดจำเอาไว้ว่ามนุษย์ชื่อ จุ๊กกรู' เป็นเจ้าของฝูงวัว ณ บัดนั้น

จากนั้น เจ้าเกี๊ยวซ่าก็บินออกมาบนที่นาผืนหนึ่ง
มันบินลงไปเกาะที่หุ่นไล่กาและถามออกไปว่า
"ลุงๆ ใครเป็นเจ้าของที่นาผืนนี้ครับ?"
เช่นเคย เกี๊ยวซ่าถามด้วยภาษานก แต่คนฟังก็ได้ยินเพียงเสียงจิ๊บๆ
ชาวนาเห็นนกตัวเล็กจิ๊บหลายที ดูน่ารัก จึงส่งเสียงออกไปว่า
"จุ๊กกรู"
เจ้าเกี๊ยวซ่าได้ยินดังนั้นก็เข้าใจว่าเป็นคำตอบ
จดจำเอาไว้ว่ามนุษย์ชื่อ จุ๊กกรู' เป็นเจ้าของที่นาทั้งหมด
มันเริ่มให้ความสนใจกับคนชื่อจุ๊กกรูมากขึ้น

เจ้าเกี๊ยวซ่ายังคงบินต่อไป จนได้เห็นตึกรามบ้านช่องใหญ่โต
มีร้านรวงมากมาย มันบินไปเกาะตรงหน้าต่างและถามคนขายของว่า
"น้าๆ ใครเป็นเจ้าของตึกรามพวกนี้ครับ?"
เช่นเคย เกี๊ยวซ่าถามด้วยภาษานก แต่คนฟังก็ได้ยินเพียงเสียงจิ๊บๆ
คนขายของเห็นนกตัวเล็กจิ๊บหลายที ดูน่ารัก จึงส่งเสียงออกไปว่า
"จุ๊กกรู"

(ผู้อ่านท่านหนึ่ง ยกมือประท้วงว่า ทำไมคนเลี้ยงวัว ชาวนา
และคนขายของ พูดเหมือนกันหมด ผู้เขียนขอเรียนชี้แจงว่า
เนื่องจากเป็นตัวประกอบและมีงบน้อย เราจึงให้บทเพียงเท่านี้นะคะ
ไปได้น้ำข้นๆ... กลับมาดูพระเอกของเราต่อดีกว่าค่ะ : D ...)


เจ้าเกี๊ยวซ่าได้ยินดังนั้นก็เข้าใจว่าเป็นคำตอบ
มันทึ่งมากที่รู้ว่าคนชื่อจุ๊กกรูเป็นเจ้าของของเกือบทุกสิ่งอย่างในเมืองนี้

เกี๊ยวซ่าตัดสินใจจะบินไปตามหาคนชื่อจุ๊กกรู
เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีการประกอบกิจการให้ก้าวหน้า ได้เป็นเจ้าของทุกสิ่ง
แต่ระหว่างทางที่มันบินไปตามหานั้น มันก็บินผ่านไปยังพิธีศพ
มีผู้คนมาไว้อาลัยล้นหลาม เป็นงานศพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เกี๊ยวซ่าเคยเห็น
มันบินไปเกาะที่เมรุและถามชายชราที่กำลังจัดโลงศพว่า

"โอ... คุณตา งานศพนี้จัดเพื่อใครครับ?"

ชายชรากำลังอยู่ในเวลาเศร้าโศก เมื่อเห็นเจ้านกน้อยมาร้องจิ๊บๆอยู่ใกล้ๆ
เขาทอดถอนใจครู่หนึ่ง แล้วจึงรำพึงออกไปว่า ... (แน่นอนต้องเป็นคำเดิม)

"จุ๊กกรู"

ทันทีที่เกี๊ยวซ่าได้ยินคำตอบ มันค้นพบสาระสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มันเคยค้นหา
เจ้านกน้อยบินตรงกลับรังและเข้าไปกอดพ่อและแม่
"แม่คร้าบบบ"
"ไปเจออะไรมาเหรอลูก"
แม่นกพิราบถาม
"ลูกได้เรียนรู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้วครับ"
เกี๊ยวซ่ากล่าว
"อะไรล่ะลูก"
พ่อนกถามต่อ
"ลูกไปได้ยินชื่อมนุษย์คนหนึ่ง เขามีทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องตายอยู่ดี และเวลาที่เขาตายไป
ก็นำทรัพย์สมบัติอะไรไปด้วยไม่ได้เลยครับ
สรุปแล้วก็ไม่ได้วิเศษวิโสไปกว่าพวกเราซักเท่าไหร่เลย
ตอนนี้เกี๊ยวซ่าก็เลยไม่อยากเป็นมนุษย์แล้ว
เป็นเจ้าหนูลูกของพ่อและแม่เหมือนเดิมดีกว่าครับ"

เมื่อแม่และพ่อถามเกี๊ยวซ่าว่ามนุษย์คนนั้นชื่ออะไร
ได้ยินเจ้าลูกน้อยพูดว่า ‘จุ๊กกรู' ทั้งคู่ก็ยิ้มละไม
นึกดีใจที่ลูกน้อยไม่เข้าใจภาษามนุษย์

เพราะหากได้คลุกคลีกับมนุษย์ทั่วไป
ที่เขายึดติดกับทรัพย์สินนอกกายจนเป็นระวิง
มันอาจมองข้ามความจริงข้อนี้ไปนานแล้ว
.