Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๘๘

ยารักษาใจ

โดย วิลาศินี

88_heal
ขอบคุณภาพจาก http://www.akatseyeview.com/


นิทานเรื่องนี้มาจากประเทศจีน ยุคสมัยหนึ่งในอาณาจักรที่แผ่ไพศาล
จักรพรรดิส่งขุนนางออกไปดูแลสารทุกข์สุกดิบของพสกนิกร มณฑลไหนได้ขุนนางดีก็ร่มเย็น
ตรงกันข้าม บางมณฑล สวรรค์ก็ส่งขุนนางร้ายๆ ให้หาพระเอกมาปราบ...

ฟู่หัวเป็นขุนนางในราชสำนัก ออกมาปฏิบัติหน้าที่เก็บภาษีในมณฑลหนึ่งทางตอนใต้ของจีน
กิตติศัพท์ของขุนนางคนนี้เลื่องลือไปทั่วเมืองเรื่องการรีดไถประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีในทุกโอกาส พืชผล ไร่นา เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา ไม่มียกเว้น
หากไม่มีเงินชำระ ฟู่หัวก็จะทำการริบบ้านและที่ดินและไล่เจ้าของบ้านออกจากเมืองไป
จนเป็นที่รู้กันว่า หากหามณฑลอื่นให้ไปพำนักได้ ชาวเมืองก็จะพากันอพยพออกไปในทันที

ครอบครัวหนึ่งในมณฑลนี้ มีลูกชายซึ่งส่งไปร่ำเรียนต่างแดนมานาน (พระเอกของเราคนนี้ชื่อหลี่เว่ย)
เมื่อสำเร็จการศึกษาตั้งใจจะกลับมาช่วยบิดาประกอบกิจการ เมื่อกลับมาถึงบ้าน
ก็พบผู้เป็นบิดานั่งหน้าดำคร่ำเครียด ทราบความว่ากิจการยังรุ่งเรืองดีแต่ถูกขูดรีดภาษีอย่างเหี้ยมโหด

"ไม่มีใครร้องเรียนต่อฮ่องเต้เลยหรือพ่อ"
"ไม่มีใครกล้า ขุนนางพวกนี้ประจบสอพลอจนได้ยศถาบรรดาศักดิ์
ฝ่าพระบาทไม่อาจมองเห็นความเลวของมันได้หรอก"

หลี่เว่ยฟังคำบิดาแล้วครุ่นคิด
"ต้องให้ฮ่องเต้เห็นเท่านั้นใช่ไหมพ่อ..."

หลี่เว่ยนั่งนึกแผนการอยู่กับบ้านเพียงไม่กี่วัน ฟู่หัวก็เดินมาเคาะประตูหน้าบ้าน
"ได้ยินว่าเถ้าแก่ร้านนี้มีลูกชายเพิ่งกลับมาจากต่างแดน มิทราบว่าคิดจะประกอบกิจการใด
แต่เราจำเป็นต้องมาเก็บภาษีล่วงหน้า"
ผู้เป็นบิดากุมขมับ ด้วยลูกชายเพิ่งจะกลับมานั่งกินนอนกินได้ไม่กี่วัน
ก็ต้องควักเนื้อจ่ายภาษีให้ขุนนางหน้าเลือดเสียแล้ว
"ข้าน้อยคิดทำการใหญ่หนึ่งประการ"
หลี่เว่ยออกมาปรากฏตัวต่อหน้าขุนนางอย่างองอาจ
"เจ้าคิดจะทำการสิ่งใด"
"ในมณฑลที่ข้าน้อยจากมา นักวิจัยในสถาบันของข้าน้อยได้ทำการเพาะไม้พิเศษ
ข้าน้อยนำติดตัวมาต้นหนึ่ง คิดจะนำมาแพร่พันธุ์ขาย"
"ต้นไม้นี้พิเศษประการใด"
"ใบของมันพิเศษมากขอรับ หากเด็ดใบมาวางบนฝ่ามือของผู้ใด
จะทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นมนุษย์ล่องหนได้จนกว่าใบไม้ใบนั้นจะเหี่ยว"
ด้วยความโลภมากของฟู่หัว ขุนนางผู้โลภยึดเอาต้นไม้นั้นกลับไปที่บ้านของตน
อ้างว่าเป็นภาษีล่วงหน้าที่ตนจะมาเก็บ
เมื่อไปถึงบ้าน ฟู่หัวจัดการปลูกต้นไม้วิเศษต้นนั้นรดน้ำพรวนดินจนแตกใบออกมาจำนวนหนึ่ง
ฟู่หัวเด็ดใบไม้วางบนฝ่ามือแล้ววิ่งไปหาภรรยา
"เจ้าเห็นข้าไหม"
"เห็น ข้าไม่ได้ตาบอด"

นางตอบอย่างงุนงง ฟู่หัวไม่ละความพยายาม เด็ดใบใหม่มาถามอีกหลายครั้ง
จนภรรยาทนรำคาญไม่ไหวจึงหลับตาแล้วตอบส่งไปว่า "ไม่เห็น" ฟู่หัวดีใจแทบกระโดดตัวลอย
เดินถือใบไม้เข้าไปในตลาด กระหยิ่มยิ้มย่อง
ด้วยความเป็นขุนนางใหญ่ ฟู่หัวไม่เคยชายตามองผู้ใด เมื่อคิดว่าตนล่องหนได้
ก็ก้าวเข้าไปในร้านรวงของผู้คนโดยไม่ส่งเสียง บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
ธรรมดาเห็นฟู่หัวมาก็หนีหน้า เมื่อเห็นเดินเข้ามาไม่บอกกล่าวก็พากันเบือนหน้า
หรือก้มหน้าหนีทำมองไม่เห็น ฟู่หัวก็ยิ่งสำคัญตัวว่าตนล่องหนได้จริง
เดินไปหยิบผลไม้ก็ไม่มีใครโวยวาย (ประชาชนแอบชำเลืองมองก็คิดเพียงว่า มันจะมาไม้ไหนอีก)

ฟู่หัวได้ใจ เดินถือใบไม้เข้าไปในพระราชวัง ด้วยความเป็นขุนนางใหญ่
มหาดเล็กก็ปล่อยให้เข้านอกออกในได้สบาย แม้ฮ่องเต้ก็มิได้สนใจว่าฟู่หัวจะเดินไปทางไหน
มาตกอกตกใจกันอีกทีเมื่อฟู่หัวเดินไปหยิบปิ่นปักผมของฮองเฮาแล้วเดินออกจากราชวังอย่างอารมณ์ดี
ฮ่องเต้มองตามอย่างงุนงงและทรงกริ้ว ทหารรักษาพระองค์กรูกันเข้าไปจับตัวของฟู่หัว
นำตัวไปให้ฮ่องเต้ลงโทษทันที

"พวกเจ้าเห็นข้าได้อย่างไร"
"แล้วทำไมเราจะไม่เห็นเจ้า"
ทหารเงียบแต่ฮ่องเต้โพล่ง ฟู่หัวรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วว่าตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนทั้งท้องพระโรง

"ต้องเป็นไอ้บัณฑิตจบใหม่แน่ๆที่มาหลอกข้า ขอฮ่องเต้ได้โปรดอภัย
ข้าพระองค์โดนหลอกว่าสามารถล่องหนได้พะย่ะค่ะ"

ไร้ประโยชน์สำหรับคำอธิบาย เพราะเวลานี้ฮ่องเต้ได้ทอดพระเนตรเห็นแล้วว่า
ขุนนางคนนี้มีความชั่วที่แอบซ่อนไว้อย่างไร ทรงสั่งให้ริบทรัพย์
และปลดขุนนางใหญ่ออกจากตำแหน่งทันที มิใยที่พระเอกของเราจะไม่ถูกเรียกหา
แต่ไม่ใช่มาเพื่อถูกลงโทษ หลี่เว่ยได้รับตำแหน่งขุนนางแทนที่ฟู่หัว
และประชาชนก็อยู่อย่างเป็นสุขในเวลาต่อมา.

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

หมายเหตุ คนเขียนขอเม้าท์ (^_^)V

จบเรื่องนี้แล้ว เท่ากับจบซีรีส์
ดอกไม้ ผลไม้ และใบไม้แล้วค่ะ
หากจำกันไม่ได้ ลองอ่านย้อนหลัง
ฉบับที่ 86 และ 87 ทางนี้นะคะ
http://bit.ly/9vC2Nm

เซ็ตนี้เอาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่เล่าให้คุณลูกนั่งฟังใต้ต้นไม้ร่มๆ
แวะมาบอกเอาไว้ จะได้ไม่แปลกใจกันค่ะ ^__^

ฉบับหน้าจะเปลี่ยนธีมเป็นแบบไหน เชิญชวนให้มาติดตามกันนะคะ : )