Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๘๗

ยารักษาใจ

โดย วิลาศินี

86_heal

นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ
เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ชื่อ ?เคนตะ'
ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่มีพ่อและแม่เป็นชาวสวน
เคนตะเฝ้ามองพ่อและแม่ทำสวนและปลูกพืชผักผลไม้มาตั้งแต่เล็ก
แต่บางครั้ง ด้วยความซุกซน เคนตะก็จะหนีขึ้นไปบนเขา
และนั่งมองพระราชวังที่อยู่ไกลโพ้น คุณลุงข้างบ้านบอกกับเคนตะว่า
ที่เคนตะมีนิสัยเช่นนี้ ก็เพราะพ่อของเคนตะเองก็เคยเป็นขุนนาง
คอยรับใช้จักรพรรดิในวังมาก่อน เคนตะแปลกใจเหลือแสน
พ่อเคยมีตำแหน่งที่ใครๆก็แสวงหา เหตุใด
จึงกลายมาเป็นชาวสวนในที่ดินผืนกระจ้อยร่อย
เคนตะเก็บความสงสัยนั้นไว้ แต่ก็เปิดเผยความในใจกับแม่

"ผมอยากไปทำงานให้จักรพรรดิจังเลยครับแม่"
เคนตะหนุนตักแม่และร้องบอกในวัยเด็ก
"อย่างนั้นรึ แต่ตอนนี้... ลูกยังเล็กนัก"
แม่ไม่ห้ามปราม แต่ให้เหตุผลที่ดี เคนตะเฝ้ารอ
"ผมอยากไปทำงานให้จักรพรรดิจังครับแม่"
เคนตะนวดไหล่แม่และกระซิบบอกในวัยรุ่น
"อืมม... ลูกน่าจะช่วยแม่ทำสวน ให้ต้นไม้โตกว่านี้ก่อน"
แม่ไม่ห้ามปราม แต่ให้เหตุผลที่ดี เคนตะช่วยดูแลไร่สวนอย่างเพลิดเพลิน
เวลาผ่านนานปี แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อนึกขึ้นได้ เคนตะก็เข้าไปคุกเข่าขอแม่

"ให้ผมไปทำงานให้จักรพรรดิเถอะนะครับ"
ในวันนั้นพ่ออยู่ด้วย... พ่อและแม่ของเคนตะหันมองหน้ากันและกัน
เคนตะแอบเห็นพ่อบีบมือแม่เบาๆ แม่พยักหน้าและยิ้มอย่างอ่อนโยน
"ได้สิ"
เคนตะยิ้มกว้างอย่างยินดี คำนับและขอบคุณพ่อและแม่อีกหลายๆครั้ง
"นี่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดในสวนของเรา พ่อและแม่ฝากความคารวะไปยังจักรพรรดิ
และฝากกราบทูลอะไรสักอย่างได้ไหมลูก"
"ครับ ผมจะจำไปกราบทูลองค์จักรพรรดิทุกประโยคเลยครับ"
เคนตะร้องบอกอย่างยินดี

ผู้เป็นแม่เข้าไปหยิบเมล็ดพันธุ์ใส่ถุงให้เคนตะ และถ่ายทอดเนื้อความ
เคนตะจดจำเนื้อความนั้นไว้ ออกจะประหลาดใจเล็กน้อย
ที่แม่ยอมมอบของมีค่าขนาดนี้ให้กับองค์จักรพรรดิ
?...แต่นั่นก็คงเพื่อให้องค์จักรพรรดิยอมรับเราให้เข้าไปรับใช้สินะ'
เคนตะคิดและเริ่มออกเดินทาง เมื่อไปถึงพระราชวังของจักรพรรดิ
ต่อเมื่อได้เข้าเฝ้า เขารีบนำเมล็ดพันธุ์ที่พ่อแม่ฝากมาให้ถวายแก่ราชสำนัก

"นี่อะไรรึ"

จักรพรรดิทรงสรวลน้อยๆเมื่อเห็นของเล็กกะจ้อยร่อยในถุง เคนตะต้องรีบทูล
"มันไม่ใช่เมล็ดพันธุ์ธรรมดานะพะย่ะค่ะ หากแต่เป็นเมล็ดพันธุ์ของผลไม้ทองคำ
ที่หากคนปลูกเป็นคนสัตย์ชื่อ ไม่เคยคิดคด ไม่เคยทำร้าย และไม่เคยหลอกลวงใคร
ผลไม้ต้นนี้จะออกดอกออกผลเป็นทองคำได้เอง...พระองค์ลองปลูกดูสิพะย่ะค่ะ"

จักรพรรดิได้ฟังดังนั้นก็ไม่กล้าปลูก ด้วยว่าพระองค์เอง
ก็เคยโกงข้อสอบพระอาจารย์เมื่อทรงพระเยาว์
จักรพรรดิปฏิเสธและขอให้พระมเหสีนำไปปลูก พระมเหสีไม่ทรงรับ
ด้วยว่าพระมเหสีเคยลักลอบนำเครื่องประดับของจักรพรรดิ
ไปมอบให้พระญาติของพระมเหสีโดยองค์จักรพรรดิมิเคยทรงทราบมาก่อน
พระมเหสีสารภาพความจริงนั้น และขอให้เคนตะมอบเมล็ดพันธุ์ให้นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีก็ไม่กล้ารับเมล็ดพันธุ์นั้นเอาไว้ เนื่องจากตนเองก็เคยโกงเงินภาษีของราษฎร
นายกรัฐมนตรีจึงสารภาพความผิดกับเคนตะ และขอให้นำเมล็ดพันธุ์ไปให้ขุนนางคนอื่นๆ
ไม่ว่าจะส่งต่อไปยังผู้ใด คนเหล่านั้นก็ล้วนเคยกระทำผิดและซุกซ่อนความผิดนั้นเอาไว้
แต่ละคนต่างก็ยอมสารภาพกับเคนตะว่า ไม่สามารถจะปลูกต้นไม้ให้กลายเป็นทองได้

?เช่นนั้น ในวังนี้ก็ไม่มีใครที่เป็นคนซื่อสัตย์จริงๆเลยซักคนเดียว...
มิน่าล่ะ พ่อกับแม่ ถึงได้ออกไปทำไร่ทำสวนตั้งแต่เรายังไม่เกิด'

เคนตะนึกในใจและรีบทูลลาจักรพรรดิ ทุกคนในวังเอง
ก็ต่างอยากให้เคนตะกลับไปเสียโดยเร็วเช่นกัน
เพราะต่างหวาดระแวงว่า ตนจะถูกบังคับให้ปลูกเมล็ดพันธุ์ที่ว่านั้น

เคนตะนึกถึงบ้านหลังเดิม
กับผลไม้ในสวนที่เขาคุ้นตามาแต่เล็ก
เด็กหนุ่มอมยิ้มและเดินทางกลับ
แผ่นดินสีทองและพ่อกับแม่ยืนรอเขาอยู่

?