Print

ยารักษาใจ - ฉบับที่ ๒๑๑

เขาคือซูเปอร์แมน

heal2.jpg
โดย ทะเลเดือด
 

 

....
....
....

ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นทำความดีพร้อมกับรักษาความลับ
หญิงสาวผู้มุ่งมั่นเปิดเผยความจริงให้โลกประจักษ์
ต่างฝ่ายหวังจุดประกายแสงสว่างในโลกที่มืดมน

เส้นทางของทั้งสองคนเป็นไปเพื่อเกื้อกูลหรือขัดขวางกัน

เธอเท่านั้นที่ต้องตัดสินใจ....

....
....
....

heal 211

ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิดของมหานครซึ่งมากล้นด้วยตึกสูงเสียดฟ้า ห้องทำงานของโต๊ะข่าวสายอาชญากรรมประจำหนังสือพิมพ์ ไทยวันนี้ ยังคงวุ่นวายเพราะต่างต้องรีบปิดต้นฉบับให้ทันตีพิมพ์วันพรุ่งนี้ ญานันนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเธอ ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนตรง ความมืดมิดโอบกอดทุกอณูบนพื้นดินนอกหน้าต่างไม่ต่างจากความแน่นหนาของความลับที่มีอยู่บนโลก

ความลับที่รอเวลาถูกเปิดเผย

            ญานันกำลังจะเปิดเผยความลับของชายคนหนึ่ง

            ความลับของชายที่ผู้คนทั้งเมืองเรียกขานเขาว่า - ฮีโร่ขนนกขาว

            ฮีโร่ขนนกขาวปรากฏกายครั้งแรกเมื่อสามเดือนก่อนท่ามกลางความตกตะลึงของคนทุกวงการ ทั้งวงการนักข่าว วงการตำรวจ วงการนักการเมือง เมื่อมีเทปสารภาพผิดของนักการเมืองชื่อดังยอมรับว่าตนเองคอร์รัปชั่นโครงการสร้างทางด่วนลอยฟ้าหลุดรอดออกมาผ่านโลกอินเตอร์เน็ต

ไม่มีใครสามารถสาวย้อนกลับไปได้ว่าผู้ที่เผยแพร่คลิปเสียงเป็นผู้ใด แต่นั่นมิได้น่าตกใจเท่ากับอีกสองสามวันต่อมา ซองสีน้ำตาลบรรจุเอกสารสำหรับเอาผิดนักการเมืองผู้นั้นได้ถูกส่งมายังบก.ฝ่ายข่าวอาชญากรรมของหนังสือพิมพ์ไทยวันนี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าจอมดุของเธอ

            และมันยิ่งน่าตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหลังจากนั้น ฮีโร่ขนนกขาวได้กวาดล้างเหล่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเปิดบ่อนการพนันที่ใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของกรุงเทพมหานคร ตามด้วยนักการเมืองฉ้อฉลอีกสามคน และรวมไปถึงนักธุรกิจที่ใช้วิธีสกปรกบีบคั้นให้ชาวบ้านยินยอมขายที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม   

ทุกคนเรียกเขาว่าฮีโร่ขนนกขาวเพราะทุกๆ ที่ที่เขาปรากฏตัว ก็จะมีกลุ่มขนนกสีขาวถูกโปรยทิ้งไว้เสมอ มีกล้องวงจรปิดเคยถ่ายภาพเขาไว้ได้ มันทำให้รู้ว่าฮีโร่ขนนกขาวคือชายหนุ่มร่างกำยำ สูงราว 180 – 185 เซนติเมตร เคลื่อนที่อย่างว่องไวปราดเปรียว เขามักสวมเสื้อคลุมสีดำมีฮู้ดครอบศีรษะ ด้านหลังเสื้อคลุมนั้นมีสัญลักษณ์ขนนกสีขาวอยู่กลางวงกลมที่ลุกเป็นไฟ

แต่ข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาทราบเกี่ยวกับฮีโร่ขนนกขาวก็มีเพียงเท่านั้น ไม่เคยมีใครคาดเดาได้ว่าฮีโร่ในความมืดผู้นี้คือใคร แม้เขาจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้ถือกฎหมายบ้านเมือง ทางตำรวจจึงระบุตัวตนเขาจัดเข้าประเภทเดียวกับอาชญากร

ไม่มีใครรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของฮีโร่ขนนกขาวเป็นใคร...ยกเว้นเพียงญานัน

หญิงสาวสูดหายใจลึก ชำเลืองมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ภาพใบหน้าคมสันของชายหนุ่มชื่อคมธรรพ์ปรากฏขึ้นมาในดวงตา แล้วเธอก็เริ่มต้นพรมนิ้วบนแป้นพิมพ์ เปิดเผยความลับให้ทุกคนได้ล่วงรู้ทั้งประเทศ

และในขณะเดียวกับที่ตัวอักษรเริ่มร้อยเรียงเป็นประโยคบนหน้าจอ ห้วงคำนึงภายในหัวของเธอก็ปรากฏภาพต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นฉากอันหลากหลาย เสมือนดวงดาวบนฟากฟ้าที่บางดวงปรากฏขึ้นมาและบางดวงก็ดับแสงไป...

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

ในชีวิตของนักข่าวอายุงานหกเดือนของญานัน เธอมักถูกถามเสมอว่าเพราะอะไรถึงเลือกมาเป็นนักข่าวสายอาชญากรรม ทั้งที่บ้านเธอก็ร่ำรวย มีแม่เป็นเจ้าของโรงแรม มีพ่อเป็นนายทหารอากาศชั้นผู้ใหญ่ ตำแหน่งผู้บริหารโรงแรมสาขาใดสาขาหนึ่งของครอบครัวรอคอยเธออยู่อย่างสบายๆ แต่เธอไม่เคยสนใจ

ญานันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงต้องมาทำอาชีพนักข่าว และต้องมาที่โต๊ะข่าวอาชญากรรม เธอเข้าทำงานที่นี่พร้อมๆ กับปิณฑิราเพื่อนของเธอ แต่ปิณฑิราได้เข้าไปอยู่ฝ่ายโต๊ะข่าวบันเทิง วันๆ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากเดินทางไปตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่มีการจัดงานอีเวนต์และสัมภาษณ์ดารา ส่วนเธอก็ติดตามนักข่าวรุ่นพี่ไปยังสถานที่ที่มีการฆาตกรรม ลักวิ่งชิงปล้น หรือทำข่าวผู้หญิงถูกทำร้าย

แล้วชีวิตนักข่าวของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อหัวหน้าจอมโหดมอบหมายภารกิจการทำข่าวเรื่องฮีโร่ขนนกขาวให้เธอ โดยให้เหตุผลว่าเธอยังเป็นนักข่าวคนเดียวในแผนกที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา จึงเหมาะที่จะเขียนข่าวที่สุด

และในขณะนั้นก็เพิ่งเกิดเหตุฮีโร่ขนนกขาวเปิดโปงนักธุรกิจหน้าเงินที่ส่งคนไปข่มขู่ชาวบ้านมาใหม่ๆ ญานันจึงต้องไปหาข่าวยังหมู่บ้านแห่งนั้นซึ่งมีสภาพเป็นชุมชนสลัมที่ซ่อนอยู่หลังหมู่ตึกสูงระฟ้า แต่ก็ไม่ได้เนื้อข่าวที่เป็นชิ้นเป็นอันกลับมา และเพราะจอดรถในที่ห้ามจอด เมื่อเดินกลับมารถยนต์ของเธอก็ถูกลากไปจอดที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว

ด้วยความหงุดหงิดและเบื่อโลก ญานันระบายลมหายใจยาวแรงก่อนเดินปาดเหงื่อไปบนบาทวิถี ระหว่างติดต่อแจ้งข่าวบอกหัวหน้าว่ารถถูกลาก ญานันก็เดินมาเรื่อยๆ หาที่นั่งพักสงบอารมณ์ ก็สังเกตเห็นว่าบนถนนการจราจรติดขัดผิดปกติ เมื่อเพ่งสายตามองก็จึงได้พบว่าบนถนนกำลังมีเหตุรถแท็กซี่ขับไปชนท้ายรถยนต์สุดหรู ผู้โดยสารและคนขับรถแท็กซี่กำลังลงมาเจรจากับคนขับและผู้โดยสารของคู่กรณี

ญานันหยุดเท้า รีบหยิบกล้องถ่ายรูปที่คล้องคออยู่ขึ้นมาปรับโฟกัสและถ่ายภาพระรัว จังหวะนั้นเป็นตอนที่ผู้โดยสารสาวของรถแท็กซี่มีเลือดกำเดาไหลแต่ไม่รู้ตัว ผู้โดยสารหนุ่มสุดหล่อของรถหรูส่งผ้าเช็ดหน้าให้เธอซับ เป็นภาพน่าประทับใจในการหยิบยื่นน้ำใจให้แก่กันของคนเมืองกรุง

แต่ทันใดนั้น ร่างๆ หนึ่งก็ขยับเข้ามาในเลนส์ภาพอันสวยงาม บังช็อตที่น่าประทับใจด้วยการยกมือเป็นรูปกากบาทส่งมาให้ญานันโดยตรง

เขาคือคนขับรถหรูหน้าตาเข้มขรึม ญานันรู้สึกคุ้นหน้าเขาเหมือนเคยเห็นมาก่อนแต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน ญานันชะงักการกดชัตเตอร์ คนขับรถหนุ่มยังมองมาไม่วางตา ญานันลดกล้องลง ยักไหล่ให้เขาทีหนึ่งและหมุนตัวเดินจากมาอย่างไม่พอใจ

ญานันไม่เคยคิดว่าชายคนนั้นจะเป็นคนเดียวกับอดีตนายทหารคนโปรดของพ่อเธอ และครั้งหนึ่งเขาเคยขับเฮลิคอปเตอร์ไปส่งแม่เธอที่บาดเจ็บสาหัสมาส่งโรงพยาบาล

เธอไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสเจอเขาอีก

และเธอไม่เคยคิดว่าในปัจจุบัน เขาจะเป็นคนที่ใส่เสื้อคลุมสีดำ เที่ยวโหนไปตามยอดตึกสูงต่างๆ ยามวิกาลและแอบเล็ดลอดเข้านอกออกในทุกสถานที่ตามใจชอบ

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

 

นิ้วมือที่พรมบนแป้นพิมพ์ของญานันหยุดลง หญิงสาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เหม่อมองหน้าจอที่ต้นฉบับถูกเขียนได้เกินครึ่ง มันเหมือนผ่านมานานมากแล้วในความรู้สึกของเธอ เหตุการณ์ที่แม่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่ต่างจังหวัด โรงพยาบาลท้องถิ่นไม่มีอุปกรณ์ที่เพียงพอต่อการรักษา แม่เธอถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด แต่โรงพยาบาลที่เหมาะสมที่สุดในการรักษาคือโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร

            ขณะนั้นพ่อเธอไปดูงานที่ต่างประเทศกับนายทหารระดับสูงคนอื่นๆ ส่วนตัวญานันเองก็ยังติดเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย คนที่คอยจัดการเรื่องแม่ก็คือพี่ณัชชา พี่สาวของเธอ กับนายทหารยศนาวาอากาศตรี คมธรรพ์ เสนาพิทักษ์ธราดร ซึ่งนอกจากจะเป็นคนโปรดของพ่อเธอแล้ว ยังสนิทสนมกับพี่สาวเธออีกด้วย

            ทันทีที่รู้ข่าว ญานันก็รีบออกจากมหาวิทยาลัยตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลที่แม่ถูกเคลื่อนย้ายโดยเฮลิคอปเตอร์มาแล้ว เธอเจอพี่ณัชชาอยู่กับนายคมธรรพ์ที่โรงพยาบาล พวกเขามีสติไม่ร้องไห้ตื่นตูมเหมือนเธอ ทั้งสองดูเป็นคู่ที่เข้ากันดี แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่กี่ปีต่อมา จู่ๆ นายคมธรรพ์ก็ลาออกจากราชการกลับไปช่วยครอบครัวดูแลธุรกิจ และพี่สาวเธอก็แต่งงานไปกับคนที่แม่จับคู่ให้

            ญานันคิดมาตลอดว่าหากมีโอกาสได้พบเจอคมธรรพ์อีกสักครั้ง เธอจะถามว่าเขากล้าดีอย่างไรมาทิ้งพี่สาวเธอ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเมื่อมีโอกาสได้พบกันจริงๆ เธอจะไม่มีโอกาสได้ถามประโยคนั้นกับเขาเลย

            หญิงสาวสูดหายใจลึก เหยียดกายนั่งหลังตรง และเริ่มต้นกดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้ง

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

หลังตามหาข่าวเกี่ยวกับฮีโร่ขนนกขาวนานนับเดือนแต่คว้าได้เพียงความว่างเปล่า งานของญานันก็คืบหน้าขึ้นเมื่อมีอีเมลลึกลับส่งมายังหัวหน้าของเธอว่า เป้าหมายต่อไปที่ฮีโร่ขนนกขาวจะเล่นงานก็คือแก๊งค้ายาเสพติดย่านคลองเตย ชื่อว่าแก๊งฉลามขาว ซึ่งมีหัวหน้าแก๊งเป็นน้องชายนายตำรวจใหญ่

            ญานันจึงมีหน้าที่ไปตามสืบข่าวเกี่ยวกับแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้ไปโดยปริยาย มันเป็นงานอันตรายอย่างที่สุดสำหรับลูกผู้หญิง แม้แต่หัวหน้าจอมโหดก็ยังถามความสมัครใจว่าเธออยากทำข่าวนี้ต่อไปหรือไม่ ญานันรู้สึกว่าเมื่อเธอถูกเลือกให้เป็นคนเริ่ม เธอก็ต้องทำให้มันจบ หญิงสาวจึงบอกว่ายินดีทำต่อไป

            แต่ความคิดทั้งหมดของเธอก็เริ่มคลอนแคลนเมื่อพบว่าในคืนหนึ่งของไม่กี่วันที่ผ่านมา ตัวเธอเองได้ตกอยู่ในวงล้อมของสมาชิกแก๊งฉลามขาวภายใต้แสงสว่างสีส้มจากหลอดไฟราคาถูกของโกดังริมท่าเรือ พวกมันทั้งหมดเป็นชายฉกรรจ์ และกล้องวิดีโอรวมถึงกล้องถ่ายภาพของเธอก็ถูกแย่งไปทำลายทิ้งเป็นเศษเล็กเศษน้อยเรียบร้อยแล้ว

            รู้ใช่มั้ยว่าจะต้องเจอจุดจบอย่างไร

ผู้เป็นหัวหน้าแก๊งเดินแสยะยิ้มมาหยุดยืนตรงหน้าเธอขณะญานันถูกกลุ่มลูกน้องควบคุมตัว หญิงสาวพบว่ามันไม่ใช่เรื่องสนุกหรือเป็นงานที่ท้าทายอีกแล้ว เธอหวาดกลัวจนตัวสั่น เป็นความหวาดกลัวมากที่สุดในชีวิต

ลากไปรอข้าที่หลังโกดัง เดี๋ยวส่งของเสร็จข้าจะกลับไปจัดการนังนี่เอง

ครับลูกพี่

ญานันไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ขณะกำลังจะถูกชายฉกรรจ์สามคนลากตัวไปตามคำสั่ง

ฉับพลันนั้น ทุกชีวิตภายในโกดังที่เรียงสูงชันด้วยชั้นของลังไม้ขนาดใหญ่ก็หยุดชะงักลง...เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีกลุ่มขนนกสีขาวร่วงพรูลงมาจากอากาศเหมือนม่านฝนอันแปลกประหลาด

            และอย่างไม่มีสัญญาณเตือน หลอดไฟทุกดวงในโกดังดับพรึบลง

            ญานันมองเห็นแต่ความมืด สองหูได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของพวกแก๊งฉลามขาว และเธอก็ได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้น เสียงลังไม้ล้มระเนระนาด ตามมาด้วยเสียงของชายฉกรรจ์ที่คุมตัวเธออยู่กระเด็นออกไป

            วินาทีต่อมาก็มีมือหนึ่งเอื้อมมาจับแขนเธอ ทันใดนั้น แสงสว่างเรืองรองขึ้นเมื่อหัวหน้าแก๊งฉลามขาวล้วงไฟแช็คขึ้นมาจุด รัศมีจากแสงไฟส่องมากระทบญานันและคนที่กำลังจับแขนเธออยู่...ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีดำสวมฮู้ดปิดบังหน้าตา

            หัวหน้าแก๊งฉลามขาวระเบิดเสียงหัวเราะ ปืนในมือเล็งตรงมาที่ฮีโร่ขนนกขาว

            และโดยไม่มีความลังเล มันเหนี่ยวไกยิง เสียงปืนคำรามก้องโกดัง

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

           

ปัง! ปัง!”

            เสียงใสๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูญานันจนนิ้วที่เต้นระบำอยู่เหนือแป้นพิมพ์คีย์ตัวอักษรผิด เธอหันขวับไปมองหน้าดุ คนต้นเสียงผู้แต่งกายสวยพริ้งยืดตัวยืนตรง ยกมือปิดปากหัวเราะคิกด้วยความขบขัน

            เล่นอะไรนะปิ่น ตกใจหมด ญานันบ่น

            ก็มายืนอยู่ตั้งนานไม่เห็นเธอจะสนใจเลยนี่ เขียนข่าวเรื่องอะไรอยู่หรอ ใจจดใจจ่อเชียว ปิณฑิราถือวิสาสะโน้มตัวลงมามองหน้าจอเธอ โห เขียนเรื่องพ่อซูเปอร์แมนคนนั้นนี่เอง ได้ข่าวว่าเขามาช่วยเธอออกจากโกดังนั่นด้วยใช่มั้ย

            อือฮึ ญานันหันกลับมาจ้องมองหน้าจอ ทุกคนทราบกันหมดแล้วว่าในคืนที่ชีวิตของเธอเกือบจะต้องจบลงคืนนั้น ฮีโร่ขนนกขาวคือคนที่ช่วยเหลือเธอออกมาจากเงื้อมมือของแก๊งฉลามขาว แต่ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องเสียไปในคืนนั้น นอกจากหยดเลือดแล้ว เขายังต้องสูญเสียการปกปิดตัวตนให้เธอรู้อีกด้วย

            นี่กาแฟจ๊ะ เห็นว่าดึกแล้วเลยซื้อมาฝาก เพิ่งกลับจากงานเปิดตัวสื่อของละครเวทีน่ะ ปิณฑิราละความสนใจจากหน้าจอ วางแก้วพลาสติกทรงกระบอกลงบนโต๊ะของญานัน เดี๋ยวปิ่นไปก่อนนะ แวะมาทักทายกัน วันไหนว่างๆ ก็นัดกินข้าวกันบ้างนะ คิดถึงๆ จ้า

            จ้า ว่างเมื่อไหร่เดี๋ยวจะให้พาไปเลี้ยง ญานันส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทผู้สดใสร่าเริงและอารมณ์ดีได้ตลอดเวลา ไม่กี่อึดใจต่อมา เธอก็ได้อยู่ที่โต๊ะทำงานเพียงลำพังอีกครั้ง หญิงสาวหยิบกาแฟเย็นที่เพื่อนซื้อมาฝากขึ้นมาถือ หลอดแตะริมฝีปาก ดวงตาของเธอเหม่อมองทะลุหน้าจอลอยไปแสนไกลในห้วงคำนึง

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

 

“คุณบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

            ประโยคนี้กล่าวออกมาในขณะที่เท้าทั้งสองของญานันกลับมาแตะลงสัมผัสพื้นดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งอีกครั้งหลังจากโอบคอเขาร่อนกลางอากาศด้วยสายสลิงที่ถูกยิงเพื่อห้อยโหนผ่านอากาศธาตุจากยอดตึกหนึ่งไปสู่อีกยอดตึกหนึ่งเป็นเวลานานกว่าสิบนาที

            “ทำไมเสียงของคุณเป็นแบบนั้นล่ะ”

            ญานันถาม เสียงของชายหนุ่มที่ซ่อนใบหน้าใต้ฮู้ดคลุมศีรษะแปลกแปร่งจนรู้ว่าเขาพูดผ่านอุปกรณ์ดัดเสียง เธอรู้ว่ามันเป็นคำถามไร้สาระ แต่เธอต้องพูดอะไรบางอย่างเพื่อรั้งตัวเขาไว้ให้นานที่สุดเพื่อล้วงข้อมูลตามสัญชาตญาณนักข่าว

            “ถ้าคุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ทีหลังอย่าไปหาข่าวในที่แบบนั้นคนเดียวอีก คุณอาจไม่โชคดีที่ผมไปถึงที่นั่นถูกเวลาเหมือนวันนี้ ผมไม่เข้าใจเลยว่าคุณคิดอะไรอยู่”

            “ฉันต่างหากล่ะที่ไม่เข้าใจว่าคุณคิดอะไรอยู่” ญานันโต้กลับกลางแสงดาวที่ส่องพราวลงมา “แต่งตัวเป็นไอ้โม่ง เที่ยวทำตัวเป็นซูเปอร์แมน คงคิดว่าตัวเองเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมสินะ”

            “ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม ผมเพียงแค่กำลังช่วยเหลือทุกคนในเมืองๆ นี้”

“ถ้าคุณต้องการช่วยเหลือทุกคนจริง ทำไมไม่เปิดเผยหน้าตา ทำไมไม่ไปเป็นตำรวจ ทำไมไม่ไปทำตามวิถีทางที่ถูกต้อง”

“นี่แหละคือวิถีทางที่ถูกต้องของผม ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำคือสิ่งที่ผิด”

“เช่นเรื่องอะไรล่ะ บุกรุกบ้านคนอื่นยามวิกาล ทำร้ายคนอื่นได้ตามใจชอบ หรือการแอบขโมยข้อมูลราชการ?”

“ยกตัวอย่างเป็น...” ฮีโร่ขนนกขาวก้าวเข้ามาใกล้ “...เช่นที่ผมพาคุณหนีออกมาจากโกดังเมื่อครู่นี้ดีกว่านะ”

ญานันอ้าปากพูดตะกุกตะกัก “กะ...ก็ใช่ แต่คุณคิดหรือว่าการทำแบบนี้มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้”

ชายหนุ่มในเสื้อคลุมสีดำหยุดยืนเบื้องหน้าเธอ สายลมยามดึกบนยอดตึกสูงโบกพัดชายเสื้อเขาปลิวไสว “แต่ถ้าเราต้องการความเปลี่ยนแปลง เราก็ควรเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงนั้นเองไม่ใช่หรือ?”

“แต่มันเป็นไปไม่ได้”

“คำว่าเป็นไปไม่ได้มีอยู่แต่ในพจนานุกรมของคนโง่เท่านั้นล่ะ” กล่าวจบเขาก็หมุนกายทำท่าจะเดินจากไป

ญานันแค่นหัวเราะ “แหม เอาคำพูดของนโปเลียนมาอ้าง สุดท้ายเดี๋ยวก็ได้ตายอย่างโดดเดี่ยวเหมือนนโปเลียนหรอก ไม่กลัวรึไง”

ทันใดนั้น สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับหยดเลือดที่ปรากฏอยู่บนพื้น ฮีโร่ขนนกขาวเดินที่ไปริมดาดฟ้า เขาล้วงที่ยิงสายสลิงสำหรับโหนตัวออกจากใต้เสื้อคลุม ญานันไล่สายตาไปตามหยดเลือดบนพื้น...มันไปสิ้นสุดในจุดที่ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่ตรงนั้นพอดี...

“เดี๋ยวก่อน คุณถูกยิงหรอ”

นักข่าวสาวก้าวพรวดๆ แทรกตัวเข้าไปยืนขวางหน้าเขา ไม่ทันสังเกตว่าเท้าของเธอยืนอยู่หมิ่นเหม่กับขอบดาดฟ้าที่ไร้ราวกั้นขนาดไหน

“โดนยิงก็รักษาได้ แค่คุณจำไว้ว่าอย่ามาหาข่าวคนเดียวอีกก็พอแล้ว คุณไม่ใช่คนตัวคนเดียว ทำอะไรก็คิดถึงพ่อ แม่หรือพี่สาวของคุณบ้าง” แม้จะเป็นเสียงที่ถูกบิดเบือน แต่ญานันก็รู้สึกได้ว่าเขาพูดออกมาจากใจจริงและจริงใจ

“คะ...คุณรู้จักฉันด้วยหรอ?”

นักข่าวสาวกระพริบตาปริบๆ อย่างงงงัน ลมแรงระลอกใหญ่พัดมาอีกวูบ ผมยาวสลวยที่ยางมัดหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบพริ้วสยายตามแรงลม ญานันยกมือรวบผมออกจากใบหน้า พลันเท้าที่ยืนอย่างหมิ่นเหม่ข้างหนึ่งก็พลัดตกจากขอบดาดฟ้า ไม่มีเวลาตกใจมากพอแม้แต่จะส่งเสียงร้อง ร่างของญานันเอนวูบหล่นลงสู่ห้วงแห่งความว่างเปล่าอันสูงลิบลิ่ว

วินาทีถัดมา ร่างบางที่ล่วงละลิ่วก็ถูกโอบอุ้มโดยชายหนุ่มที่กระโดดตามลงมา และด้วยความแรงของลม ฮู้ดที่คลุมปิดใบหน้าอันแท้จริงของเขาก็พลิกเปิดออก...

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

มันเปิดออกอย่างไร้สุ้มเสียง

ประตูลับในห้องใต้ดินของตึกที่ภายนอกเป็นอพาร์ทเม้นท์สี่ชั้นสำหรับเก็บของเหลือใช้ประจำตระกูลเสนาพิทักษ์ธราดรเลื่อนเปิดออก แสงไฟระบบอัตโนมัติกระพริบเปิดเมื่อเขาก้าวเท้าเข้าไป ห้องที่บนผนังแขวนเรียงรายด้วยอาวุธพิเศษนานาชนิดปรากฏในสายตา บางชิ้นเป็นอาวุธของกองทัพที่ใช้ในการทหาร บางชิ้นก็เป็นอาวุธที่เขาประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเอง

            แต่อาวุธเหล่านั้น ไม่สำคัญต่อคมธรรพ์ในตอนนี้

            ชายหนุ่มปลดเสื้อคลุมด้านนอกออก เผยให้เห็นชุดสีดำด้านในซึ่งเป็นเสื้อเกราะกันกระสุนและชุดที่มีความยืดหยุ่นสูงชนิดพิเศษ ทว่ามันก็ยังมีจุดบอดอยู่บ้าง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แทนที่เสื้อเกราะจะกันกระสุนให้เขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เลือดที่ไหลออกมานี้ก็เป็นหลักฐานอย่างดีที่คมกระสุนฝากเอาไว้

            เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่นเดียวกับการได้พบกับน้องสาวของอดีตคนรักผู้นั้น

            ญานันโตเป็นผู้ใหญ่ เธอเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ไม่ใช่เด็กสาวที่รับมือกับเหตุไม่คาดฝันด้วยความไม่มีสติอีกต่อไป คมธรรพ์ถอดเสื้อเกราะกันกระสุนออก มีชั้นวางอุปกรณ์ทำแผลทั้งแบบสาหัสและไม่สาหัสเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาหลายเดือนที่เขาเลือกจะเป็นฮีโร่ขนนกขาว คมธรรพ์เดินตรงไปที่นั่น ตอนรับราชการเขาถูกฝึกให้ทำแผลตัวเองมาเป็นอย่างดี เขาถึงกับเป็นนายทหารที่มีฝีมือเย็บแผลได้สวยมากที่สุดในรุ่น เรียกว่าทำแผลได้เก่งกว่าหมอทหารบางคนเสียอีก

            แต่ขณะที่ชายหนุ่มวางกล่องเครื่องมือทำแผลลงบนโต๊ะและนั่งลง สติของเขาไม่ได้อยู่ที่การทำแผล

            แต่มันเวียนวนอยู่กับคำถามที่ว่า...

            ญานันจะจัดการกับเรื่องของเขาต่อไปอย่างไร?

            เธอเห็นใบหน้าที่แท้จริงของฮีโร่ขนนกขาว มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เขาทราบว่าเธอเป็นนักข่าวที่ถูกส่งมาเจาะลึกเรื่องเขา แต่คมธรรพ์ ในนามฮีโร่ขนนกขาว ไม่รู้และไม่คาดคิดว่าเธอจะใจกล้าผิดผู้หญิงไปสืบข่าวแก๊งฉลามขาวที่ท่าเรือนั่นเพียงตัวคนเดียว

แล้วยังเรื่องที่เธอมาเป็นนักข่าวนี่อีก คมธรรพ์เปิดกล่องเครื่องมือออกและเริ่มต้นทำความสะอาดบาดแผลในความเงียบงัน แต่ภายในสมองของเขาไม่อาจรู้สึกถึงความเงียบงันรอบกาย เพราะมันกำลังฉายชัดด้วยลำดับภาพและสรรพเสียงต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเขาในอดีตที่ผ่านมา

เขาเป็นนายทหารอากาศหนุ่มผู้มุ่งมั่น

เขาได้พบรักกับลูกสาวของผู้บังคับบัญชา

            ทุกๆ อย่างกำลังเป็นไปด้วยดี

            จนกระทั่ง...

            เช้าวันหนึ่ง คมธรรพ์ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ที่รุ่นน้องนายทหารได้รับข่าวร้ายจากทางบ้านว่ามารดาเสียชีวิตจากการทำร้ายของโจรที่ขึ้นไปปล้นบ้าน นายทหารผู้สดใสและมีความหวัง กลายเป็นนายทหารที่เศร้าซึมและร้องไห้ไม่หยุดในพริบตา

            นาทีนั้น คมธรรพ์ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า หากมีใครสักคนคอยทำหน้าที่ปราบปรามเหล่าร้ายเหมือนพวกซูเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์ก็คงดีไม่น้อย

            แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดว่าใครสักคนนั้นจะเป็นตัวเขาเอง

            ไม่นานต่อมา เขาก็เริ่มออกท่องโลกอาชญากรรมในยามราตรี ซึมซับปัญหาที่หยั่งรากฝังลึกในสังคมทีละเล็กละน้อย

            เขาทราบตั้งแต่แรกว่ามันไม่ใช่งานง่าย แต่มันเป็นงานยากกว่าที่คิด

            เมื่อสบโอกาสที่ต้องลาออกจากราชการเพื่อมาช่วยทางบ้าน คมธรรพ์จึงใช้เวลาว่างจากการเป็นคนขับรถให้พี่ชาย เริ่มคิดค้นชุดประจำตัว ประดิษฐ์อาวุธประจำกาย ใช้ตึกเก็บของที่ไม่มีใครในครอบครัวให้ความสนใจเป็นฐานลับ

            แล้วจึงเกิดฮีโร่ขนนกขาวอย่างเป็นทางการขึ้นมาในที่สุด

            คมธรรพ์วางคีมคีบสำลีเปื้อนเลือดลงในถาดสแตนเลสที่เตรียมไว้ ภาพและเสียงต่างๆ เริ่มจางหายไป แต่ชายหนุ่มยังจมตัวเองอยู่ในภวังค์แห่งห้วงคิด เขาต้องทิ้งอะไรไว้ข้างหลังบ้างนะเมื่อเลือกที่จะสวมบทฮีโร่ในโลกแห่งความจริงแบบนี้?

            อะไรบ้างไม่รู้ เขารู้เพียงอย่างหนึ่งที่เขาจดจำไม่มีลืมคือเขาเสียสละความรักของตัวเอง คมธรรพ์ไม่อาจให้ณัชชาต้องมาพลอยเสียสละทุกอย่างไปพร้อมกับเขา เขาจะปล่อยให้เธอมีชีวิตที่ปกติสุขอย่างที่ผู้หญิงทุกคนควรจะมี

            แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำมาอาจพังทลายลงด้วยฝีมือของน้องสาวเธอ

            ญานันรู้ตัวตนของเขาแล้ว จะเกิดอะไรตามมาหลังจากนี้?

            คมธรรพ์ลุกขึ้นหลังทำแผลให้ตัวเองเสร็จ หยิบเสื้อผ้าสำรองที่ไว้ใช้สับเปลี่ยนมาสวมใส่ เขาเก็บอุปกรณ์ที่ตัวเองจะต้องพกติดตัว เดินตรงไปที่ประตู บานประตูที่ซ่อนตัวอยู่ในผนังเลื่อนเปิดออก คมธรรพ์ก้าวเท้าออกไป บานประตูเลื่อนปิดเองตามหลัง

            ไฟในห้องลับดับลง

            คมธรรพ์ยิงสลิงโหนตัวแหวกอากาศในอีกไม่กี่นาทีต่อมาจากยอดตึกของอพาร์ทเม้นท์

            เขาคาดว่าตนเองคงจะได้รู้คำตอบ...ในไม่ช้า

 

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

 

ความคิดของญานันสะดุดค้างแช่ภาพไว้ตอนที่เขาและเธอโหนสลิงกลับลงสู่พื้นดินภายในซอกตึกมุมซอยเปลี่ยวด้านล่าง ญานันจำได้ว่าเธอเองจ้องมองเขาอยู่นานสองนานด้วยความตกตะลึง ความเงียบงันแผ่กระจายปกคลุมบรรยากาศ  แสงสว่างจากเสาไฟฟ้าสาดมากระทบใบหน้าคมสันที่แต้มสีดำคาดเป็นแถบยาวบนใบหน้าอำพรางโฉมหน้าแท้จริง แต่กระนั้นเมื่อได้เห็นในระยะใกล้ชิด ญานันจำเขาได้ในทันที

            กาแฟเย็นในแก้วเหลือเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นที่หลอดดูดค้นพบ นักข่าวสาววางแก้วกลับลงที่เดิม ระบายลมหายใจยาวแรงอีกครั้งก็กลับมาเขียนข่าวต่อ แต่ห้วงคิดทั้งหมดของเธอกลับยังวนเวียนอยู่กับความเป็นไปที่เกิดขึ้นหลังคืนนั้นไม่เลิกรา

            ตัวจริงของฮีโร่ขนนกขาวคือคมธรรพ์ ชายหนุ่มมหาเศรษฐีอดีตทหารอากาศฝีมือดี เธอไม่แปลกใจอีกแล้วว่าเพราะอะไรฮีโร่ขนนกขาวจึงเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตรายได้ทุกครั้ง แต่เธอคงสามารถทำข่าวได้อย่างสบายใจกว่านี้หากว่าเขาจะไม่ใช่คนที่เคยสนิทกับพี่สาวเธอ

            นิ้วมือของญานันพรมพลิ้วบนแป้นพิมพ์ดุจนิ้วของนักเปียโนเอก ชิ้นข่าวที่เปิดเผยความลับของเขาเหลืออีกไม่กี่ย่อหน้าก็จะเสร็จสิ้น โดยที่ญานันคิดว่าเธอจะเก็บประโยคเด็ดไว้ฮุคคนอ่านด้วยย่อหน้าสุดท้าย...ความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ฮู้ดสีดำ

            ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรคมธรรพ์ถึงกลายมาเป็นฮีโร่ขนนกขาว แม้แต่พี่ณัชชาก็ไม่ทราบอะไรเรื่องนี้ หลังจากล่วงรู้ตัวตนของเขา ญานันก็สืบค้นประวัติบุตรชายคนเล็กของตระกูลเสนาพิทักษ์ธราดรอย่างละเอียด เธอถึงกับใจกล้าไปถามสาเหตุที่พวกเขาเลิกกันจากพี่ณัชชา แม้รู้ดีว่าไม่เหมาะสมเพราะพี่เธอก็แต่งงานมีความครัวแล้ว แต่พี่ณัชชาก็ยังอุตส่าห์ตอบคำถามเธออย่างโดยดี

            “เราเลิกกันเพราะอะไรน่ะหรอ? ธรรพ์เขาบอกว่ามีภารกิจยิ่งใหญ่บางอย่างรอเขาอยู่น่ะและเขาไม่อยากให้มันเป็นสิ่งเหนี่ยวรั้งพี่ไว้ เขาบอกว่าพี่ควรมีคนที่พร้อมจะรักพี่ได้มากกว่าเขา เราก็เลยเลิกกันและเขาก็สั่งไม่ให้พี่รอ”

            ญานันหยุดชะงักนิ้วมือเมื่อพิมพ์มาถึงย่อหน้าสุดท้าย เธอตั้งใจจะเรียบเรียงให้ออกมามีค่ามากที่สุด

            ทันใดนั้น เสียงเพลงริงโทนของโทรศัพท์มือถือใครบางคนก็ดังขึ้น ช่างเหมาะกับสิ่งที่เธอกำลังเขียนเหลือเกินในความรู้สึกของหญิงสาว

 

            ...เขาคือซูเปอร์แมน ซูเปอร์แมนของคนทุกคน

            ทุ่มเทกายใจที่มั่นคง ปกป้องคุณ XX

            เขาคือซูเปอร์แมน ซูเปอร์แมนของเราทุกคน

            ทุ่มเทหัวใจที่ซื่อตรง ให้คงความยุติธรรม...

 

...เขาคือซูเปอร์แมน ซูเปอร์แมนของคนทุกคน

            ทุ่มเทกายใจที่มั่นคง ปกป้องคุณ XX

มาร่วมเชิดชูความดี ที่มีทุกหัวใจ

คงรอยยิ้มไว้...ให้ซูเปอร์แมน

 

 

            ญานั้นกดปุ่มเอนเตอร์ ย่อหน้าสุดท้ายของเธอจบลงแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา เพราะเธอเชื่อเสมอว่าอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อสู้เพื่อความเปลี่ยนแปลง คือการให้การศึกษาและปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีต่อประชาชน แต่คำตอบสำหรับทุกคำถามบนโลกนี้อาจจะไม่ได้มีแค่เพียงคำตอบเดียวเสมอไป เหมือนที่คมธรรพ์ได้พูดไว้ในคืนนั้น ก่อนที่เขาจะยิงสายสลิงและโผบินแหวกอากาศหายไปในความมืด

            “คุณอาจจะตั้งคำถามว่าสิ่งที่ผมทำอยู่มันถูกหรือผิด มันอาจจะผิดในสายตาคุณ แต่บางครั้งคนเราก็ต้องทำสิ่งที่ผิดเพื่อผลของความถูกต้อง ยังมีคนอีกมากมายต้องเดือดร้อนเพราะความยุติธรรมเดินทางไปไม่ถึง และผมจะเป็นสะพานที่ทอดนำความยุติธรรมนั้นไปให้พวกเขาเอง ผมยอมทิ้งทุกอย่างทั้งความรัก ชื่อเสียง ลาภยศตำแหน่ง มาทำในสิ่งที่ผมเชื่อว่ามันถูกต้อง แน่ละน้ำใสหยดเดียวไม่อาจทำให้ทะเลขุ่นใสขึ้นได้ในพริบตา แต่ถ้าเราเทน้ำใสลงไปในทะเลเรื่อยๆ สักวันหนึ่งทะเลขุ่นก็คงจะใสขึ้นมาเอง ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ”

            ญานันก็ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าใจหรือเปล่า แต่เธออ่านย่อหน้าสุดท้ายของข่าวที่เธอเขียนด้วยความพอใจ

 

            ...สิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดนี้คงสามารถเปิดเผยความลับภายใต้เสื้อคลุมของฮีโร่ขนนกขาวได้ว่า เขาก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีเลือด มีเนื้อ มีชีวิตและความรู้สึก ไม่มีผู้ใดจะสามารถตอบคำถามได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ แต่ตราบใดที่ตัวตนของเขายังไม่ถูกเปิดเผย ฮีโร่ขนนกขาวก็จะคงทำในสิ่งที่เขาเชื่อมั่นต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นแสงสว่างจุดเล็กที่เริ่มต้นขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดให้พ้นไปก็ได้ ใครเล่าจะรู้?

           

           

* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• *

 

(The end.)

 

เรื่องสั้นจบแล้ว แต่อย่าเพิ่งลุกจากที่นั่งอีกเช่นเคยค่ะ :)
เพลงเขาคือซุปเปอร์แมนในเรื่อง ฟังกันเต็ม ๆ ได้ที่

 

http://youtu.be/mkCNLJqrgoc

ฉบับนี้เราได้รู้จักตัวตนของเขาคือซุปเปอร์แมนกันไปแล้ว
ฉบับหน้า จะมีตัวละครใหม่ออกมาให้เซอร์ไพรส์ อย่าลืมติดตามกันนะคะ

และขอเชิญร่วมเป็นสมาชิก
Fanpage ชมรมสัมมาทิฏฐิ( Right View)
ต้นสังกัดเพลง เรื่องสั้น และรับข้อคิดธรรมะดี ๆ กันต่อ ที่ link นี้ค่ะ :)
https://www.facebook.com/pages/Right-View/399444403436900