ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๗๕

ไดอารี่หมอดูประจำฉบับที่ ๗๕
หมอพีร์
สิงหาคม ๒๕๕๒

สวัสดีทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดูค่ะ มีเรื่องแจ้งให้ทราบสองเรื่องค่ะ เรื่องแรกเกี่ยวกับสถานที่พักสำหรับปฏิบัติธรรม เผอิญครั้งก่อนที่เคยลงรูปไว้ มีรูปเดียวโดด ๆ อาจจะทำให้รู้สึกว่าไม่น่าอยู่เท่าไหร่หรือน่ากลัวเกินไป ความจริงมีรูปมากกว่านั้นค่ะ แต่วันนั้นโทรศัพท์มือถือเสียทำให้สามารถส่งรูปไปให้ทีมงานได้รูปเดียวเอง ความจริงแล้วมีห้องสำหรับผู้หญิงซึ่งพักรวมกันได้ประมาณห้าคน และศาลาสำหรับผู้ชาย หรือบางท่านที่ต้องการความสงบสันโดษก็สามารถพักที่ศาลาได้ค่ะ



ส่วนเรื่องที่สอง เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก สำหรับพี่คนหนึ่งซึ่งเป็นทุกข์เพราะหนี้สิน และคิดฆ่าตัวตาย คนที่พีร์เคยนำเรื่องราวมาเขียนไว้ในฉบับที่ ๗๓ พอนิตยสารเผยแพร่ออกไป มีผู้ใจบุญท่านหนึ่งติดต่อทางทีมงานมาว่าอยากจะช่วยชำระหนี้จำนวนห้าหมื่นให้กับพี่คนนี้ ตอนนั้นพอทราบข่าวดีใจมาก ๆ ดีใจแบบบอกไม่ถูกเลย ขออนุโมทนาจากใจจริงค่ะ พอติดต่อกลับไปหาพี่เขาสองวันเขาก็โอนเงินมาให้ พีร์เองติดต่อไปทางพี่คนที่เดือดร้อนให้นัดเจ้าหนี้มารับเงินค่ะ ตอนนี้พี่ผู้ชายคนนี้ก็มีกำลังใจขึ้นมามากเลยค่ะ

สำหรับอาทิตย์นี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องบ้านที่อยู่อาศัยค่ะ คนส่วนใหญ่ชอบมาถามพีร์เสมอเลยค่ะ ว่าบ้านที่อยู่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เจ้าที่ดีไหม ต้องแก้ไขอะไรหรือเปล่า ซึ่งถ้าเกิดคำตอบที่ออกมาบอกว่าไม่ดีให้ย้ายเถอะ ก็คงทำได้ยาก เพราะบางคนไม่สามารถที่จะย้ายบ้านได้ง่ายขนาดนั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยไปพบอาจารย์ที่สอนวิชาฮวงจุ้ย เขาพูดอยู่คำหนึ่งบอกว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของคนรวย ไม่ใช่เรื่องของคนไม่มีเงิน คนไม่มีเงินดูฮวงจุ้ยมีแต่เสียเงินเพิ่ม ซึ่งมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ถ้าต้องแก้ไขอะไรที่ไม่ใช้เงินมากสามารถทำได้ไม่เป็นไร แต่เมื่อต้องใช้เงินมากแล้วเกินกำลังก็ไม่ต้องทำค่ะ มาแก้กันที่การทำความดีกันดีกว่าเช่น

๑. การสวดมนต์ในบ้านทุกวัน สวดบทอิติปิโสประมาณสามจบหรือเก้าจบและแผ่เมตตาโดยหลับตาแผ่ออกไปให้รอบบ้านอย่างนี้ช่วยได้มาก

๒. การเดินจงกรม ให้เดินในบ้านทุกวัน ถ้าพื้นที่แคบให้เดินเป็นเลขแปด การเดินจงกรมเป็นการทำความดีที่ใหญ่จะทำให้บ้านสว่างขึ้นมาได้ค่ะ

๓. การปรับอารมณ์ บางทีบ้านที่ร้อนไม่ได้เกิดจากที่ดินมีปัญหา แต่เกิดจากคนในบ้านมีโทสะแรงเหมือนกัน จึงต้องมาอยู่รวมกันในหลังเดียว หรือที่เรียกว่ากรรมพันธุ์ มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์เลยต้องมาเจอกันเป็นธรรมดา เพื่อให้ต้องใช้กรรมกับสร้างกรรมใหม่เพิ่มให้ตัวเอง ดังนั้นต้องเริ่มต้นที่อย่าอยากให้คนอื่นใจเย็น ควรเริ่มจากการแก้ไขตัวเองให้ใจเย็นก่อน สิ่งที่ใช้แก้โทสะคือเมตตา การเมตตาเช่น คิดในแง่บวกให้มาก ๆ ว่าไม่เป็นไรเขาเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว หรือสงสัยเป็นกรรมของเราเลยต้องมารองรับอารมณ์ของคนอื่น ไม่เป็นไรถือว่าใช้กรรมแล้วกัน ถ้ารู้สึกเบรกไม่อยู่ให้ท่องพุทโธในใจไว้ก่อน หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ ต้องเดินหนีไปก่อน

๔. สำรวจตัวเองว่ากตัญญูกับพ่อแม่ดีหรือยัง ทำทานอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หากรู้สึกว่าการเงินไม่คล่อง มีความรู้สึกอยู่เท่าไหร่ไม่รวยสักที การแก้ไขคือ ต้องเริ่มทำดีกับพ่อแม่ก่อน และเริ่มทำทานเป็นนิสัยไม่ว่าจะเป็นกับวัด คน สัตว์ โดยริเริ่มเองไม่ถามใคร

๕. กรณีมีปัญหาด้านสุขภาพ อันดับแรกให้เช็คเรื่องการทานอาหารก่อนว่าทานอะไรที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรือไม่ ต่อไปเช็คตัวเองว่าออกกำลังกายหรือเปล่า สถานที่ห้องนอนอับชื้นหรือไม่ และเมื่อเช็คแล้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอดูแลอาหารดีตลอด ให้ทำบุญปล่อยสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นโคกระบือ ปลา ต่าง ๆ และทำบุญถวายสังฆทานยา บริจาคโรงพยาบาลช่วยคนเจ็บป่วยเป็นประจำ จะเป็นตัวแปรเสริมได้

ถ้าใครทำดีด้านต่าง ๆ ให้ส่งเสริมกันไป ไม่ว่าจะเป็นการรักษาศีลห้า ทำทาน ปฏิบัติธรรมไปด้วย เมื่อบุญผลิผลจะมีโอกาสให้โยกย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ดีขึ้นเอง แต่สำหรับบางคนทำบาปบ่อย ๆ เมื่อกรรมผลิผลก็จัดให้ไปอยู่ในสถานที่ที่แย่ลงได้ ตามความแรงของกรรมที่ทำมาให้ผล

ดังนั้นอย่าให้สถานที่มาทำให้เราเป็นทุกข์เป็นกังวลมากกว่าเดิมเลยค่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่งไปกราบหลวงพ่อ มีพระมาส่งการบ้านท่านว่า ตั้งแต่บวชมาไม่เคยเจอวัดที่ไหนอยู่แล้วสงบใจเลย ย้ายมาห้าวัดแล้ว วัดแรกก็วุ่นวาย วัดที่สองก็ขัดแย้งกัน วัดอื่นเป็นแบบเดียวกันหมด หลวงพ่อท่านก็ถามกลับไปว่าแล้วท่านร้อนที่ไหนหรือ พระอีกรูปท่านบอกว่าใจท่านเร่าร้อน และท่านก็ปิ๊งขึ้นมาในตอนนั้นว่าใจท่านร้อน หลวงพ่อตอบไปว่าในเมื่อท่านร้อนที่ใจแก้ที่ใจ ไม่ใช่สถานที่ข้างนอก หลังจากนั้นทราบข่าวมาว่า ท่านมาส่งการบ้านหลวงพ่ออีกท่านบอกว่าท่านจะไม่ย้ายแล้ว เพราะท่านแก้ที่ใจท่านได้ คือฝึกสติรักษาใจตัวเองนั่นเอง

ความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ ไม่ใช่สถานที่เป็นตัวกำหนดอย่างเดียว แต่ก็ยอมรับนะคะว่าสถานที่บางทีก็เป็นตัวทำให้จิตตกได้เหมือนกัน แต่เมื่อเราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทั้งกาย วาจาใจ ถึงเวลาบุญผลิผลทำให้อยู่ได้อย่างไม่เป็นทุกข์ หรือมีโอกาสได้ย้ายออกไปในที่ที่ดีขึ้นได้ค่ะ

แม้กระทั่งฤกษ์ยามต่าง ๆ พีร์ไม่ค่อยจะถือเท่าไหร่ค่ะ วันนี้เพื่อนโทรมาถามว่าจะออกรถเวลากี่โมงดี บอกเพื่อนไปว่ากี่โมงก็ได้แล้วแต่สะดวกสิ ไม่จำเป็นต้องเวลานั้นเวลานี้หรอก สมมุติว่าวันนี้ฤกษ์ดีหกโมงเช้า ออฟฟิสพนักงานยังไม่เปิดเลย ใครจะออกให้ได้ หรือบอกฤกษ์ดีตอนห้าโมง กรุงเทพตอนเย็นรถติดมาก ไปออกรถตอนนั้นขับออกมาเจอรถติดหงุดหงิดกันทั้งคันอีก หรือฤกษ์ดีเก้าโมงเช้าวันนั้นเผอิญฝนตกหนักน้ำท่วมถนน ขับรถออกมาเจอน้ำท่วมเครื่องยนต์จะทำยังไง หรือว่าบางทีบอกเขาว่าเก้าโมงดีสุดพอไปถึงพนักงานช้าต้องเลื่อนเวลาไปอีกยี่สิบนาทีดันไปโมโหพนักงานอีกว่าทำให้เสียฤกษ์ บาปอีก ดังนั้นฤกษ์สะดวกดีที่สุดค่ะ เช่น วันนี้สิบโมงรถไม่ติดก็ไปตอนสิบเอ็ดโมงถนนโล่งขับสบายพอดีไงคะ ชีวิตเมื่อคิดดีทำดีย่อมดึงดูดสิ่งดี ๆ มาให้เราเสมอค่ะ อย่ากลัวอย่ากังวลเรื่องฤกษ์ยามเลย และที่สำคัญจะรู้ได้ไงว่านาฬิกาเรือนไหนเดินตรงพอดี

**************************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ กับตอนใหม่ล่าสุดกันได้ทุกสองสัปดาห์
ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

สำหรับฉบับนี้ พบกับตอนล่าสุด

ไดอารี่หมอดู คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์ ตอน ๑๕
"รักของคุณแพม สาวประเภทสอง รักแย่ๆ แต่...ค่อยๆเริ่มดี รักกันมาห้าปี จะคบกันต่อดีมั้ยเนี่ย"
ลิงก์: http://www.goodfamilychannel.com/video/274/ใหม่ไดอารี่หมอดู-คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์-ตอน15

ไดอารี่หมอดู คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์ ตอน ๑๖
"สาวเสียงดุ กับ ความรักขาลง ทำไงดีหละทีนี้ หมอพีร์บอกว่ามีคำตอบอยู่ในหนังสือรักแท้มีจริง อยากรู้ต้องฟังด่วน"
ลิงก์: http://www.goodfamilychannel.com/video/275/ใหม่ไดอารี่หมอดู-คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์-ตอน-16

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร