Print

ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๗๖

ไดอารี่หมอดูประจำฉบับที่ ๗๖
หมอพีร์ ?
กันยายน ๒๕๕๒?

สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู สำหรับอาทิตย์นี้เป็นเรื่องของการสอนลูกทำความดีค่ะ พีร์มีลูกชายคนหนึ่งตอนนี้อายุหกขวบย่างเจ็ดขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.๑ ค่ะ ตั้งแต่ก่อนจะตั้งท้องลูกคนนี้ก็จำได้ว่าชอบปล่อยสัตว์ ให้เงินขอทาน ชอบใส่บาตรทำบุญเป็นประจำ?

พอคลอดออกมาเริ่มคลานได้ มักจะพาให้เขาปล่อยสัตว์ ใส่บาตร ทำสังฆทานเป็นประจำ พอโตขึ้นมาจะสอนลูกให้เป็นคนริเริ่มทำบุญเอง จะถามตลอดเลยว่าลูกจะเอาอะไรทำบุญ เขาจะคิดเองตลอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนม น้ำ นม กับข้าวต่าง ๆ จะให้ลูกเป็นคนเลือกเองซื้อเอง ใส่บาตรเองกับมือ พอโตขึ้นมาเขาจะมีนิสัยชอบทำบุญมากค่ะ และจะสอนให้เขาสัมผัสว่า ?เห็นไหม ทำบุญเสร็จใจมีความสุขเหมือนอยู่บนสวรรค์? เขาจะพยักหน้าบอกว่า ?ใช่ครับ มีความสุข? ทุกวันนี้ช่วงไหนที่เขาไม่ได้ทำบุญจะมาบอกคุณแม่ตลอดว่าอยากใส่บาตร อยากปล่อยปลา หรือบางทีเห็นขอทานเขาจะอยากให้เงินขอทาน จนกลายเป็นนิสัยที่ชอบทำบุญ?

นอกจากนั้นพีร์เองชอบปฏิบัติธรรม เดินจงกรมนั่งสมาธิ? สวดมนต์ เวลาที่คุณแม่หายไปเขาจะตามว่าอยู่ไหน ส่วนใหญ่จะมาเจอพีร์อยู่ในห้องพระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ลูกชายจะเห็นภาพแบบนี้อยู่เสมอ จนเขาจะซึมซับตามโดยเริ่มหัดสวดมนต์ หลังจากนั้นเขาก็จะหัดนั่งสมาธิทำได้บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ และเวลาที่พีร์เดินจงกรมเขาจะมาถามตลอดว่าคุณแม่ทำอะไรครับ จะบอกว่าเดินจงกรมอยู่ เขาบอกว่าหนูขอเดินด้วย ดังนั้นชีวิตที่ผ่านมาลูกชายจะทำตามตลอดไม่ว่าจะเป็นสวดมนต์ นั่งสมาธิเดินจงกรม ?

พอพีร์ไปวัดฟังธรรมเขาจะติดสอยห้อยตามไปตลอด ซึ่งเวลาไปวัดต้องตื่นเช้ามาก ประมาณตีห้า ก็มีงอแงตอนตื่นนิดหน่อย แต่พอบอกว่าจะไปวัดตามที่นัดกันไว้ไง เขาจะทำตัวปรกติได้ เพราะวัดที่ไปต้องตื่นตีสี่ตีห้ากันเลยค่ะ จนป้า ๆ เพื่อนคุณแม่ต้องอายเด็กกันไปเลยละค่ะ เพราะว่าเด็กตื่นเช้าไปวัดได้ ตัวเองต้องทำได้ไม่งั้นอายเด็ก ส่วนใหญ่จะไปที่สวนสันติธรรม ตอนไปจะมีเรียบร้อยบ้างซนบ้าง แต่จะไม่เสียงดังในศาลาค่ะ เพราะเขาจะเห็นว่าทั้งศาลาคนเงียบกริบจะไม่กล้า พอเขาเบื่อจะขอออกไปเล่นข้างนอก จะตกลงกันว่าจะต้องไม่ส่งเสียงดังซึ่งเขาทำได้ พีร์พาลูกไปวัดตั้งแต่สามขวบสี่ขวบ ?

ลูกชายพีร์จะมีข้อเสีย ตามที่พี่ดังตฤณเคยบอกพีร์ไว้ตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก ว่าจะเป็นคนที่ไหว้คนอื่นแต่มือ ใจไม่ไหว้ ดังนั้นให้เขาดูภาพโครงกระดูกจะทำให้จิตใจเขาดีขึ้นไหว้คนอื่นจากข้างในใจ นิสัยลูกชายเป็นแบบนั้นจริง ๆ คือเวลาไหว้ใครใจไม่ยอมไหว้เลย จึงเริ่มฝึกโดยเริ่มจากให้ดูภาพโครงกระดูกในอินเตอร์เน็ต ให้ดูเรื่อย ๆ จนชินก่อน และหลังจากนั้นให้เขาดูภาพศพ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เขามีคำถามระหว่างดูว่า แม่ครับทำไมเด็กต้องตาย คนแก่เท่านั้นที่ต้องตาย เขายอมรับไม่ได้ว่าเด็กต้องตาย เป็นไปไม่ได้ เขายังเถียงแบบนี้ตลอด ซึ่งพอให้ดูบ่อย ๆ ขึ้นเขาก็ยอมรับได้ว่าเด็กก็ตายได้เหมือนกัน บอกเขาว่าชีวิตมนุษย์บอบบาง ถ้าดำเนินชีวิตอย่างประมาทก็ตายได้ง่าย ๆ เหมือนกัน สอนให้เขายอมรับว่าคนเกิดมาทุกคนล้วนต้องตาย ไม่จำเป็นต้องแก่ก่อนถึงจะตาย เป็นเด็กก็ตายได้เหมือนกัน ?

เมื่อจิตเขาหายสลด ก็ค่อย ๆ ยอมรับได้ ทุกวันนี้ก็ยังให้เขาดูอยู่เหมือนเดิม พอเขาโตขึ้นมาเขาจะมีคำถามต่างไปว่า ทำยังไงดีละครับแม่จะได้ไม่ตายอีก ซึ่งจะสอนเขาต่อว่ามีทางเดียวที่จะไม่ต้องตายอีก คือปฏิบัติธรรมเพื่อให้เขาเข้าถึงนิพพาน ทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ไม่ตายอีก ?

พออายุย่างเข้าเจ็ดขวบ ผลของบุญก็ผลิผลทำให้เขาเริ่มฟังธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์รู้เรื่อง เริ่มรู้จักกิเลสของตัวเอง เวลาเขาฟังธรรมจะมีจังหวะที่หลวงพ่อสอนเด็ก ๆ หรือสอนผู้ใหญ่บางคนแบบง่ายๆ ว่าโกรธให้รู้ว่าโกรธ กลัวให้รู้ว่ากลัว อยากกินไอติมให้รู้ว่าอยากกินก่อนแล้วค่อยกิน หรืออยากดูการ์ตูนให้รู้ว่าอยากก่อน หลังจากที่เขาจำได้ว่าต้องทำยังไง เวลาที่โกรธเขาเริ่มกลับมาดูตัวเอง หรือบางทีเขาเห็นเราเริ่มหงุดหงิดจะมีคำพูดออกมาว่า เห็นไหมคุณแม่เห็นกิเลสตัวเองหรือยัง?

เวลาขับรถผ่านห้างสรรพสินค้าเกิดความอยากได้ของเล่น เขาบอกว่าคุณแม่ครับหนูอยากได้ของเล่นความอยากจุกอกแล้วเนี่ยะ อีกครั้งหนึ่งเขาไปสถานที่ปฏิบัติธรรม คางคกกระโดดขึ้นเท้า จิตเขาเกิดความกลัวขึ้นมาในใจ เขาตกใจกลัวกระโดดสลัดคางคกทิ้ง เขาหันมาบอกแม่ว่า กลัวให้รู้ว่ากลัวใช่ไหม ความกลัวคือกิเลสใช่ไหม ทุกคนหัวเราะกันทั้งหมดเลย และที่สำคัญลูกชายพีร์ดูภาพศพแต่จะชอบจินตนาการถึงผี จะกลัวผีมาก ดังนั้นเวลาก่อนนอนมีโอกาสได้ฟังธรรม หลวงพ่อท่านสอนว่ากลัวผีให้รู้ว่ากลัว เมื่อรู้ความกลัวแล้วผีจะกลัวเรา ดังนั้นเวลาจะนอนคนเดียวเห็นเงียบ ๆ เอาผ้าคลุมหัวคิดว่าคงนอนแล้ว เขาลุกขึ้นมาบอกว่า แม่ครับ ถ้ากลัวผีให้รู้ว่ากลัวใช่ไหมเดี๋ยวผีจะกลัวเรา หลังจากนั้นเมื่อที่โรงเรียนมีกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนาลูกชายจะสนใจมาก มีการเข้าค่ายพุทธบุตร เขาจะมาเล่าให้ฟังเสมอว่าเกิดอะไรขึ้น หรือพอโรงเรียนจัดถวายสังฆทาน เขาอยากจะร่วมด้วยทุกครั้ง ครั้งล่าสุดตอนก่อนขึ้นอนุบาลสาม คุณครูส่งไปตอบคำถามเกี่ยวกับพุทธศาสนา เขาทำได้ค่ะ ได้รับรางวัลดีเด่นทางพุทธศาสนา จนทำให้คุณแม่งงนิด ๆ ค่ะว่าลูกทำได้เหรอ ?

ความเป็นจริงเด็ก ๆ สามารถซึมซับจากผู้ใหญ่ได้โดยไม่ต้องสอน สิ่งสำคัญที่เป็นแบบนี้คือเราต้องแก้ไขตัวเองก่อน ถ้าพ่อแม่ไม่ได้มุ่งเน้นการแก้ไขตัวเองก่อน จะไปบังคับให้ลูกทำตามจะยากมาก ดังนั้นการให้เขาเห็นจากสิ่งที่เราเป็นนั้น สำคัญมากๆ ถ้าเรามุ่งเน้นให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงตัวเอง จิตใจมักจะมีความคาดหวังสูง เวลาเขาไม่เป็นอย่างที่เราคิดจะเกิดการโมโหหงุดหงิดได้ง่าย ๆ เมตตากับโทสะตรงข้ามกันแค่นิดเดียว ดังนั้นการมุ่งเน้นแก้ไขตัวเองก่อน เปลี่ยนตัวเองให้คนอื่นเขาเห็นก่อน เราจะไม่ต้องทุกข์กับการอยากให้คนอื่นเป็นอย่างที่เราคิด อย่าตัดสินใจแทนเด็กว่าเขาไม่รู้ ความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เด็ก ๆ สามารถรับธรรมะได้ตั้งแต่เด็ก อย่ารอให้โตก่อนแล้วค่อยทำเลยค่ะ มีอีกหลายครอบครัวที่เป็นแบบครอบครัวพีร์ ส่วนใหญ่เริ่มจากพ่อหรือแม่ริเริ่มก่อน หลังจากนั้นเด็กเขาจะทำตามกันค่ะ?

**************************************************************?

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์" ?
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม ?
ในบรรยากาศสบาย ๆ กับตอนใหม่ล่าสุดกันได้ทุกสองสัปดาห์ ?
ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ ?

สำหรับฉบับนี้ พบกับตอนล่าสุด ?

ไดอารี่หมอดู คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์ ตอน ๑๗
"เรื่องราวของคุณเล็ก เมื่อดวงความรักขาลง แต่ดวงทางธรรมขาขึ้น ต้องฟังคำถามที่สาม พลาดไม่ได้?

ลิงก์: http://www.goodfamilychannel.com/video/294/ใหม่ไดอารี่หมอดู-คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์-ตอน-17

ไดอารี่หมอดู คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์ ตอน ๑๘

"คุณมาลีอยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่ไม่รู้ทำอะไรดี หมอพีร์ช่วยด้วย "?
ลิงก์: http://www.goodfamilychannel.com/video/296/ใหม่ไดอารี่หมอดู-คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์-ตอน-18?

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ ?
ส่งคำถามมาได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔?
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑?
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ?
กรุงเทพมหานคร