Print

ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๑๓๒

morpeeหมอพีร์
ตุลาคม ๒๕๕๔


สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู ช่วงนี้เกิดปัญหาใหญ่เรื่องน้ำท่วมในหลายจังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานครของเราด้วย ไปที่ไหน ๆ ก็พูดถึงแต่เรื่องนี้อย่างเดียวเลยจริง ๆ ธุรกิจหลายอย่างในกรุงเทพต้องหยุดชะงักไปเลย ยกเว้นร้านขายวัสดุก่อสร้างนะคะ ไม่ว่าก่อนน้ำท่วมหรือหลังน้ำท่วมก็ยังเป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่ อีกสิ่งหนึ่งที่กลายเป็นของหายาก คือมาม่ากับปลากระป๋อง ซึ่งหลายท่านบอกไม่ให้ตุนของไว้ ซึ่งก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะวันที่เราต้องติดเกาะจริง ๆ ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน รอให้ทางการมาช่วยคงช้ามาก ๆ กว่าจะได้รับอาจจะอดตายพอดี

ถึงยังไงคนกรุงเทพเราต้องเจอภาวะน้ำท่วมค่ะ ปี๒๔๘๕ พีร์เห็นทางช่องเจ็ดเอามาออกอากาศ ตอนนั้นน้ำก็เยอะมาก ๆ ค่ะ สมัยนั้นคงไม่มีใครสร้างอะไรขวางทางน้ำไว้มากนักแต่ก็เห็นน้ำก็เต็มกรุงเทพอยู่ดี ดังนั้นของมันเคยท่วมมันย่อมท่วมเป็นธรรมดา ทำใจได้เลยค่ะ ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ทุกข์อะไรมากอยู่แล้ว ยอมรับได้ว่ามันจะท่วมกรุงเทพแน่ ๆ แค่ต้องตามข่าวว่าน้ำจะมาถึงบ้านเราเมื่อไหร่ ท่วมสูงสุดเท่าไหร่แค่นั้นเอง แต่การตามข่าวมากทำให้เกิดความเครียดเหมือนกันนะคะ ในบ้างครั้งเพราะเราไม่รู้ว่าน้ำนั้นห่างจากบ้านเรากี่กิโลเมตร มีกี่ทางที่น้ำจะไหลมาถึงเขตเราบ้าง การเตรียมรับมือกับภัยพิบัตินี้ จะต้องต้องคิดให้ลบก่อนเพื่อจะได้หาทางออกได้ค่ะ พีร์มองแล้วว่ามันท่วมแน่ ประเมินแล้วเด็ก ๆ น่าจะอยู่ลำบาก รถน่าจะได้รับผลกระทบเพราะถนนต่ำ ไปติดต่อฝากไว้ที่ห้างสรรพสินค้าก็เต็ม เลยตัดสินใจออกต่างจังหวัดดีกว่าค่ะ

อาชีพหมอดูยังทำได้คือรับแค่ลูกค้าทางโทรศัพท์อย่างเดียว ซึ่งก็ยังมีคนต้องการดูทางโทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศค่ะ

ใช้สติในการตัดสินใจแก้ปัญหากันนะคะ ส่วนหนึ่งคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อน อะไรที่จำเป็นก็ยกไว้ที่สูงก่อน อะไรที่มันเกินจะยกได้ ก็ยกเหมือนกันค่ะ ยกให้น้ำมันไปซะเลย อยากท่วมก็เอาไป อย่างอื่นหาเอาใหม่ได้ ส่วนหนึ่งถ้ายังต้องมาโดนขโมยอีกก็ช่างเถอะค่ะ ไม่ได้สะสมอะไรไว้เยอะ ทีวีหนักมากถ้าจะเอาไปก็ปล่อยให้เอาไปเหมือนกัน กรรมของการขโมยทรัพย์สินของคนปกติที่เขาไม่เดือดร้อนก็เป็นบาปมาก ถ้ายังมาขโมยทรัพย์สินของคนที่เขาเดือดร้อนเพราะภัยพิบัติ อันนี้ยิ่งให้ผลหนักกว่าธรรมดาอยู่แล้ว แค่โทษทางกฎหมายการลักทรัพย์ในขณะที่คนอื่นประสพภัยพิบัติ จะขอลดหย่อนโทษฏ้ยังไม่ค่อยจะได้ ธรรมชาติของกรรมย่อมให้ผลที่มากกว่าอยู่แล้ว เพราะคนที่ถูกขโมยของไปมีความทุกข์มากจากภัยพิบัติ แถมยังต้องมาเจ็บปวดทรมานใจ ต้องมาเจอโจรใจชั่วซ้ำเติมทรัพย์สินตัวเองอีก การจะขโมยทรัพย์สินของคนอื่นยามที่เขาเดือดร้อนแบบนี้ ต้องมีเพดานความสำนึกผิดถูกชั่วดีที่ต่ำมากจริง ๆ ถึงจะทำได้ค่ะ ผลของบาปเลยต้องหนักมาก เกิดมาใหม่ทำมาหากินอะไรก็ไม่ขึ้น ทำลงไปแล้วประสพแต่ความล้มเหลว จนอาจต้องบีบให้เป็นโจรอีกได้ไม่ยาก

พีร์เคยเห็นคนในหมู่บ้านคนหนึ่งเขาเคยมีอำนาจหน้าที่คุมเงินในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเงินที่คนอื่นเขาเอามาทำบุญ หรือจะเป็นเงินที่ได้มาจากหน่วยงานของรัฐ เขาเอาเข้าตัวเอง เอาไปใช้กับครอบครัวหรือผลาญทรัพย์สินของคนอื่นให้หมดไป วันหนึ่งชาวบ้านจับได้ เกิดการประท้วงและให้ออกจากตำแหน่งหน้าที่ กรรมเริ่มผลิผลให้เขาอย่างเห็นได้ชัด เขาประกอบอาชีพอะไรไม่เคยรุ่งเรืองแม้แต่อย่างเดียว มีแต่หนี้สินที่พอกพูนขึ้น ปลูกถั่วลิสงยังค่อยได้เมล็ดมันเลยค่ะ หรือแม้กระทั่งปลูกข้าวโพดต้นออกมาเตี้ยแกร็นไม่ค่อยได้ผลผลิตอะไรเลย ชาวบ้านบอกว่าเห็นไหม ทำบาปแล้วไม่กลัวบาป แถมยังไม่ค่อยรู้สึกผิดอีกถึงทำให้ทำอะไรก็ไม่รุ่งเรือง

คนนี้เขาเคยด่าพีร์ด้วยค่ะ ว่าชีวิตนี้เธอจะมีปัญญาเอาอะไรมาเลี้ยงลูกกับเลี้ยงแม่ของเธอ คนอื่นเขาเจ็บใจแทนกันมาก แต่ตอนนั้นฟังแล้วรู้สึกเฉย ๆ เพราะชีวิตเราไม่ได้โชคร้ายเพราะคำสาปแช่งของใคร และไม่ได้โชคดีเพราะคำอวยพรของใคร เราพิจารณาตัวเองได้ว่าไม่ได้ขี้เกียจ ไม่มีนิสัยที่จะไม่กตัญญูกับพ่อแม่ ดังนั้นคงเป็นไปได้ยาก เลยไม่สนใจอะไร หลังจากนั้นทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ บางคนเคร่งเครียดกับคำด่าว่าของคนอื่น กลัวที่จะไม่เจริญ มีเทคนิคอย่างหนึ่งค่ะ สูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ ก่อนสักสองสามรอบและมาพิจารณาคำพูดของเขาว่า ชีวิตเรามีช่องทางไหนที่จะเป็นแบบที่เขาด่าเราหรือเปล่า เช่น เขาด่าว่าขอให้ฉิบหายวายวอด สำรวจว่าติดการพนันไหม ใช้เงินเกินตัวหรือเปล่า ถ้ามีนิสัยที่พบว่าใช้เงินเกินตัวเราต้องมาขอบคุณคำพูดเขาที่ทำให้เราระวังตัวเองได้ทัน เห็นช่องทางเสื่อมของทรัพย์ต้องรีบอุดก่อน

พ่อแม่บางคนก็ชอบแช่งลูกตัวเองก็มีนะคะ บางคนถึงขั้นมาร้องห่มร้องไห้ให้พีร์ฟังเหมือนกันค่ะ กลัวว่าที่พ่อแม่แช่งไว้จะเป็นจริง พอสอบถามเรื่องราวว่าทำไม เหตุผลที่ได้มาคือทำอะไรแล้วไม่ถูกใจเขา ไม่ใช่เป็นคนไม่กตัญญูเลี้ยงดูท่าน ดังนั้นให้เราพิจาณาให้ดี ไม่ใช่ที่ที่ต้องมากังวลกับคำพูดใครค่ะ

สำหรับอาทิตย์นี้คงเขียนได้แค่นี้จริง ๆ ค่ะ เขียนอะไรไม่ค่อยจะออกเหมือนกันค่ะ ยังไงคนที่อยู่ในที่น้ำท่วมก็อย่าลืมเตรียมสิ่งสำคัญนอกเหนือจากอาหารนะคะ คือสารส้มไว้แกว่งน้ำใช้กันค่ะ ด่างทับทิมไว้หยดใส่ก่อนนำน้ำมาใช้เพื่อเพิ่มความมั่นใจ (อ่านรายละเอียดการทำน้ำใช้ด้วยตัวเองในสภาวะน้ำท่วมได้ที่ http://www.eng.chula.ac.th/?q=node/3821) ยาสำหรับน้ำกัดเท้าซื้อไว้ด้วยนะคะ เผื่อหาหมอลำบาก อีกสิ่งหนึ่งยาแก้ท้องร่วงค่ะเผื่อหาหมอไม่ทันอีก พีร์เห็นรายการทีวีช่องหนึ่งทำสุขาโดยการใช้เก้าอี้พลาสติกมาเจาะตรงกลางแล้วให้สวมถุงดำลงไปแทนดังนั้นถุงดำซื้อติดบ้านไว้เยอะหน่อยนะคะยามจำเป็นเพื่อห้องน้ำใช้ไม่ได้ค่ะ เก้าอี้พลาสติกหลายบ้านคงหาไม่ยากถุงนี่แหล่ะคะหายาก ถ้าให้ดีให้หาปูนขาวหรือไฮเตอร์ไว้ฆ่าเชื้อโรคก่อนทิ้งเพื่อป้องกันโรคระบาด เช่น อหิวาตกโรคด้วยนะคะ (อ่านวิธีได้ที่ http://www.eng.chula.ac.th/?q=node/3807) ยังไงขอให้ทุกคนที่เจอน้ำ อดทนกันนะคะต้องสู้กันต่อไปค่ะ

*********************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"

ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร