Print

ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๑๓๑

morpeeหมอพีร์
ตุลาคม ๒๕๕๔


สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู ช่วงนี้ทุกคนคงอยู่ในสภาวะเดียวกันนะคะ คือเครียด ยิ่งคนไหนดูข่าวสารมาก ๆ ยิ่งเกิดความเครียดความทุกข์ใจยิ่งกว่าคนที่เขาถูกน้ำท่วมอีก เพราะบางคนเขายังยิ้มได้อยู่เลย ตอนนี้คนในกรุงเทพกำลังเครียดกันหนักเหมือนกัน ทุกคนพากันไปซี้อของตุนไว้กันเต็มเลยค่ะ พีร์ไปซื้อของที่บิ๊กซีเมื่อวาน ชั้นขายของประเภทมาม่าปลากระป๋อง เหลือไม่กี่กระป๋องให้เลือกเองค่ะ หลังจากนั้นมาซื้อที่โกลเด้นเพลสหาได้แต่มาม่าญี่ปุ่น ปลากระป๋องมาม่าไทยไม่เหลือเหมือนกัน น้อง ๆ พนักงานในห้างเดอะมอลล์เล่าให้ฟังว่าวันนี้ไปซื้อของ แย่งปลากระป๋องมาได้สองสามกระป๋องเอง ฟังแล้วน่าเศร้าใจจังเลยค่ะ ซึ่งจะห้ามไม่ให้กักตุนก็ไม่ได้ ยามเดือดร้อนขึ้นมาจริง ๆ ใครจะช่วยเราได้ ต้องช่วยตัวกันก่อนทั้งนั้น และเห็นข่าวที่ผ่านมาบอกว่า เอาอยู่ป้องกันได้ เห็นที่กั้นพังเกือบทุกอัน ดังนั้นทุกคนต้องเตรียมไว้จะดีที่สุดค่ะ พนักงานแบงก์คนหนึ่งบอกว่า เตรียมไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว กินมาหลายวันจะหมดอยู่แล้ว เขาตกใจว่าวันนี้ไม่มีจะให้ซื้อหาเท่าไหร่แล้ว พีร์คิดไว้ว่าซื้อไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ ถ้าน้ำไม่ท่วมเอาไปบริจาคก็ไม่เสียหลายค่ะ ช่วงนี้ไปไหนก็มีคำถามสุดฮิตค่ะว่า ที่บ้านน้ำท่วมไหม?

ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปแหละค่ะ

มีใครได้ดูข่าวคุณยายคนหนึ่งไหมคะ ที่เขาลอยคอในน้ำประมาณวันหรือสองวันจนเท้ามือเปื่อยหมด แถมยังกอดกระเป๋าใบหนึ่งไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พอมีคนไปช่วย พาคุณยายมารักษาได้ทัน คนที่ช่วยคุณยายไว้บอกว่าจะติดต่อลูกให้ ยายบอกว่าลูกยายเขาไม่มาหรอก พูดซ้ำ ๆ แบบนี้ ยายบอกว่าลูกเขาก็โดนน้ำท่วมเหมือนกันเขาไม่มาหรอก คำพูดตรงนี้ฟังแล้วยายหมายถึงลูกยายทิ้งยายไปแล้ว ไม่มาสนใจหรอกนั่นเอง ตอนคุณยายให้สัมภาษณ์มีญาติคนอื่นมารับ ก็มารู้กันว่าลูกคุณยายทิ้งไปนานแล้วจริง ๆ ฟังแล้วเศร้าใจมาก มีคนติดต่ออยากให้ความช่วยเหลือเยอะเหมือนกันค่ะ ฟังแล้วจิตมันสลดไปจริง ๆ นะคะ ต้องคิดในแง่บวกค่ะว่า เป็นธรรมดาของสัตว์โลก ชาตินี้ไม่ค่อยสนใจพ่อแม่ตัวเอง เกิดมาใหม่ต้องมาเจอลูกที่ไม่เลี้ยงดูตัวเองเป็นธรรมดา ใจค่อยสบายขึ้นหน่อย ตอนที่ญาติกลุ่มหนึ่งมาติดต่อรับคุณยายไปอยู่ด้วยมันซึ้งใจจริง ๆ ค่ะ แอบน้ำตาไหลเล็ก ๆ และที่น่ารักกว่านั้นนะคะ คุณยายยังมีงูอยู่ในกระเป๋าที่หิ้วมาด้วย มีคนถามว่าทำไมไม่กัดคุณยายล่ะ ยายตอบว่ายายแผ่เมตตาให้มัน แผ่เมตตาตลอดแหละ จริง ๆ แล้วถ้าจิตมีเมตตาไม่ทำร้ายคนอื่น คนอื่นไม่ทำร้ายเรา แม้กระทั่งสัตว์ก็ยังไม่ทำร้ายเลยค่ะ คุณยายมีเมตตามาก ทำให้สุดท้ายมีคนมาช่วยให้คุณยายรอด แถมยังได้ออกข่าว และมีคนแสดงเจตนาจะช่วยเหลือเพิ่มอีกค่ะ สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็อยู่เหนือกรรมดีกรรมชั่วที่ทำไว้ไม่ได้จริง ๆ

อาทิตย์นี้มีพี่คนหนึ่งเธอตกงานมาอยู่ช่วงหนึ่ง โดยตัวเธอหางานไม่ยากหรอก แต่อยากที่จะทำงานอะไรที่เป็นประโยชน์แก่สังคม เธอเลยสมัครเป็นครูสอนหนังสือเด็ก ๆ ไปที่ต่างหวัด และยังใกล้วัดที่สอนปฏิบัติธรรมด้วย ถึงแม้เงินเดือนของครูจะน้อย เธอก็คิดว่าจะใช้ให้ประหยัดเอา แม้จะมีภาระหลายอย่าง พอเธอไปทำจริง ๆ พบว่าไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลยค่ะ ครูในโรงเรียนสอนเด็กโดยใช้ระบบตี พี่เขาเล่าให้ฟังว่าแถวนั้นเขาไม่เอาลูก ๆ ไปเรียนหรอกค่ะ จะมีบางบ้านที่เด็กดื้อจริง ๆ ส่วนใหญ่จะไปจังหวัดอื่นแทน เขาจะตีแบบไม่มีเหตุผล เช่นเสียงดังนิดนึงต้องตี ไม่ให้ดูทีวี ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ ไม่ให้หัวเราะสนุกสนานมาก พี่เขาจะสอนเด็กด้วยความมีเมตตาไม่ลงโทษด้วยการตีแบบไม่มีเหตุผล เด็ก ๆ จะรักมาก จะมีเด็กห้อมล้อมสนุกสนาน เรียนไม่เครียดเกินไป ครูทุกคนบอกว่าการสอนของเธออ่อนแอไม่มีคุณภาพ อ่อนแอเอาเด็กไม่อยู่แน่นอน เธอเริ่มเกิดความอึดอัดเพราะทั้งโรงเรียนครูทุกคนตีเด็กหมด ถามพี่เขาไปว่าเด็ก ๆ ไม่ไปฟ้องพ่อแม่เหรอ พี่เขาบอกว่าเด็กบางคนบอกว่าพอรับได้ กลับบ้านพ่อแม่ซ้อมจนกระอักเลือดเหมือนกัน การตีเลยธรรมดามาก ฟังแล้วก็อึ้งเลยเหมือนกัน คิดว่าสังคมยุคนี้จะไม่มีคุณครูที่ตีเด็กแล้ว เธอลาออกไปแล้วค่ะ ตอนนี้กลายเป็นมาสอนเด็กประถมแทน เด็กที่เธอสอนก่อนหน้านั้นเป็นเด็กมัธยมต้น ฟังแล้วก็เศร้าใจ ความบังเอิญไม่มีในโลก เคยเป็นพ่อแม่ที่ชอบลงโทษลูกด้วยการตี ผลของกรรมย่อมเกิดมาเจอพ่อแม่ที่ทำโทษลูกด้วยการตี หรือไม่อย่างนั้นต้องเจอโรงเรียนที่ชอบทำโทษเด็ก พีร์จำได้ว่าตัวเองตอนเด็กเจอพ่อทำโทษด้วยการตีเหมือนกัน ตีจนเลือดไหล พอตัวเองมีลูกเวลาโกรธลูกจะล่อใจให้ตีเหมือนกัน ต้องกัดฟันไม่ทำ กลายเป็นไม่พูดแทน ตั้งใจจะไม่ทำกรรมในร่องรอยเก่าเด็ดขาด ฝืนเรื่อย ๆ ค่ะ การทำโทษด้วยการตีไม่ใช่ทางแก้ปัญหา เด็กที่ผ่านการทำโทษด้วยการตีจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เดี๋ยวมันก็หายเจ็บทนได้ พูดเป็นธรรมะกันเชียวค่ะ ว่าเดี๋ยวมันก็หาย

วันนี้มีคุณครูโทสะแรงคนหนึ่งมาดูดวง เธอบอกว่าเวลาโกรธขึ้นมาก็หลุดเหมือนกัน บอกทางออกให้เธอไว้ว่า เวลาโกรธอย่าเพิ่งตี หยุดก่อน หลังจากนั้นค่อยตีทีหลังให้บอกเหตุผลในการทำโทษเขาก่อน กรรมจะได้ไม่หนักมาก ถามว่าทำร้ายร่างกายมันเป็นบาปอยู่ดีหนีไม่พ้น แต่ถ้าโมโหแล้วพลาดเลย กำลังที่คูณคือกำลังของโทสะที่มีมากนี่แหละค่ะ การมีสติไม่ตีตอนโกรธ กำลังโทสะจะต่ำบาปจะน้อยลง พอทำอย่างนี้ได้บ่อย ๆ ต่อไปอาจจะเลิกตีเด็กไปเองค่ะ

เรื่องที่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ตอนเรียน เห็นด้วยนะคะ มันทำให้การเรียนการศึกษาของเด็กมีคุณภาพต่ำลง เห็นอาจารย์มหาวิทยาลัยสองท่านบ่นเหมือนกันเลยค่ะว่า เด็กไม่ค่อยมีคุณภาพต้องมาเสียเวลาสอนเพิ่ม เด็กสนใจแต่บีบีไอโฟน แชตกันขณะเรียนหนังสือ เขาบ่นกันว่าไม่สามารถให้เด็กที่มีคุณภาพต่ำเรียนผ่านไปได้ง่าย ๆ ซึ่งอาจารย์อายุแค่สามสิบเองนะคะ ห่างกับเด็กยุคนี้ไม่กี่ปีเอง แสดงว่ามันแย่จริง ๆ ค่ะ ถึงทำให้อาจารย์ทุกข์ขนาดนี้

ทำเช่นไรไว้ย่อมได้รับผลอย่างนั้น ทุกคนหนีไม่พ้นกฎของการกระทำจริง ๆ ทำดีย่อมได้ดี ทำไม่ดีย่อมได้ไม่ดีค่ะ

*********************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"

ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร