ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๑๑๘

หมอพีร์
เมษายน ๒๕๕๔



สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู

หลายฉบับที่ผ่านมามีแต่ความรักใช่ไหมค่ะมีคนบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะ ว่าทำไมมันมีแต่เรื่องนี้ ที่ผ่านมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ มีแต่คนมีปัญหาเรื่องความรักมาหา อย่างที่เคยบอกไว้ว่าส่วนใหญ่จะเขียนเรื่องอะไรที่เจอซ้ำ ๆ กัน มีอยู่วันหนึ่งงงมากมีแต่คนปีมะโรงมาดูดวงตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้ายกรณีแบบนี้ก็เป็นไปได้ค่ะ

ชีวิตพีร์เจอคนชอบทำบุญค่อนข้างเยอะ แต่ยุคนี้สังคมเปลี่ยนไป การทำบุญก็เปลี่ยนไป ชีวิตมนุษย์เราค่อนข้างเร่งรีบทำให้มีแต่กับข้าวถุงไว้ใส่บาตรกัน ไม่ค่อยมีใครทำกับข้าวใส่บาตรกันเท่าไหร่ มีคนเคยถามพีร์ว่า ทำไมเดี๋ยวนี้พระถึงยืนรอของในตลาดไม่เดินบิณฑบาต ซึ่งก็ถามกลับหลายคนว่าแล้วเราได้ทำกับข้าวแล้วยืนรอที่หน้าบ้านหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ทำแบบนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ก็กลายเป็นว่าตอนนี้คนทำบุญโดยอาศัยข้าวแกงจากตลาดตอนเช้าใส่บาตรกันเป็นส่วนใหญ่ การทำบุญย่อมเปลี่ยนไป ความจริงถ้าอยากให้ท่านเดินผ่านหน้าบ้าน ก็ต้องหัดสังเกตว่ามีพระเดินผ่านมาหน้าบ้านบ้างหรือเปล่า วันหลังนิมนต์ท่านให้ผ่านเป็นประจำสิคะ ทำได้อยู่แล้ว ไม่ใช่มัวแต่คิดว่าจะทำหรือคิดติดลบให้ตัวเองไม่ได้ทำบุญ บางคนจะใส่บาตรก็เกิดความกลัวว่าบุญที่ทำไปจะได้น้อยเพราะว่าเป็นพระปลอม ซึ่งถ้ามองออกข้างนอกขนาดนั้นคงได้บุญน้อยตั้งแต่ต้นทาง เรามีตาเนื้อของมนุษย์ไม่สามารถรู้ได้ว่าพระองค์ไหนเป็นพระดี องค์ไหนพระไม่ดี ให้ตั้งเจตนาที่ดีไว้ตั้งแต่ต้นทางว่าจะถวายแด่พระสงฆ์เพื่อบำรุงศาสนาให้อายุยืนนานที่สุด แค่นี้ก็ได้ความสว่างของกุศลแล้ว ใจไม่เกิดสภาวะที่คับแคบทางใจ อีกส่วนหนึ่งที่เราจะได้บุญมากกว่าพระดีหรือไม่ดี คือตัวเราเริ่มที่จะคิดใส่บาตรย่อมเกิดความคิดที่เป็นกุศลเป็นบุญแล้ว หลังจากนั้นก็ต้องเสียสละเวลา ตื่นแต่เช้าไปซื้อของ เสียสละความสะดวกสบายของชีวิตตัวเองทำให้รักตัวเองน้อยลง เสียสละทรัพย์สิน ละความตระหนี่ในจิตใจตัวเองอีก เห็นไหมคะว่ายังไม่ได้ทำบุญแค่คิดจะเตรียม ได้เตรียมที่จะทำ ได้ลงมือทำ แค่นี้กุศลก็มากตั้งแต่ต้นทางแล้วค่ะ การเสียสละความสุขความสบายส่วนตัว เสียสละทรัพย์สินส่วนตัวทำให้เรายึดมั่นในกายในใจนี้น้อยลง เมื่อไหร่เรายึดมั่นในกายในใจนี้น้อยลงจะทำให้ยึดมั่นถือมั่นคนอื่นน้อยลงไปอีก เช่น วันหนึ่งรักแฟนมากทุกข์เพราะเขาเยอะ พอเราได้เสียสละความสุขความสบายส่วนตัวไปบ่อย ๆ จะทำให้ไปยึดในตัวเขาน้อยลง ความทุกข์ทางใจเราน้อยลงไปได้ไม่ยาก ยึดตัวเองน้อยลงจะทุกข์น้อยลงตาม จะยึดข้างนอกน้อยลงตามไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงาน ลูก พ่อแม่ ญาติ สมบัติภายนอก ไม่ว่าบ้านใหม่รถใหม่ สมบัติชิ้นอื่น ๆ ก็จะยึดน้อยลงตามค่ะ

หลาย ๆ คนบอกว่าทำกับข้าวไม่เป็น ความจริงให้เริ่มจากง่าย ๆ เลยค่ะ เช่น ไข่ต้มใส่น้ำปลาพริกขี้หนูสดมะนาวสด แค่นี้ก็อร่อยได้แล้วค่ะ เพราะบางวันยังนึกอยากกินไข่เป็ดต้มแบบยางมะตูมเลย วันนี้หัดทำ ถ้าสุกเกินไปวันหลังตั้งนาฬิกากันเลยก็ได้ว่ากี่นาที สูตรอาหารทางอินเตอร์เน็ตมีเยอะแยะค่ะ จำได้ว่าตอนหัดทำกับข้าว ตอนแรกตอกไข่ยังไม่ตรงชามเลยค่ะ หกกันหมด อย่าว่ากันเลยค่ะทุกวันนี้ทำมานานแค่ไหน ตอกไข่บางวันมันมีพลาดเปลือกไข่มันก็ตกไปเหมือนกัน เมื่อเราหัดจับตะหลิวทัพพีกระทะไปเรื่อยจะเกิดความชำนาญเอง ให้คิดบอกตัวเองไว้ว่าไม่มีใครเป็นมาแต่เกิดขนาด ก.ไก่ยังหัดอ่าน ก่อนอ่านหัดพูดมาอีก เกิดมาบนโลกใบนี้มันต้องหัดกันหมดค่ะ อาหารต่อไปที่ต้องทำนอกจากตระกูลไข่ที่ทำได้ล้านแปดแล้ว ต่อมาตระกูลผัดผักค่ะ ผัดคะน้าน้ำมันหอย เมนูนี้ทำประจำค่ะ ปรกติจะต้องมีผัดผักติดไปทำบุญที่วัดตลอด ไม่ค่อยทำแกงกะทิหรอกค่ะไขมันเยอะ มีน้ำมันหอยยี่ห้อหนึ่งค่ะไม่เค็มเลย ไม่ใส่ผงชูรสด้วย ของเมกกาเชฟค่ะใช้ดีมากเลย พี่คนหนึ่งเขาทำกับข้าวไปวัดทุกวันบอกว่าทำให้รสชาติอาหารดี ลองซื้อมาใช้ใส่ไข่เจียวอร่อยมากเลยค่ะ เดี๋ยวนี้สอนลูกทำอาหาร ให้ใช้น้ำมันหอยยี่ห้อนี้เหมือนกัน ช่วงนี้หัดให้ลูกทำกับข้าวกินเองค่ะ เพราะอย่างน้อยเขาจะได้เอาตัวรอดได้ หลังจากนั้นว่าจะสอนให้ก่อเตาไฟ เกิดอะไรขึ้นจะได้เอาตัวรอดได้ในอนาคต เผื่อแม่ตายไปก่อน ผัดคะน้าใส่น้ำมันหอยและน้ำตาลแค่นี้ก็อร่อยมากค่ะ อีกเมนูหนึ่งสลัดผักก็อร่อยดีค่ะ น้ำสลัดตามซุปเปอร์มาร์เก็ตมีเยอะมาก มีให้เลือกว่าจะต้องการสูตรไหน แค่หั่นผักบวกน้ำสลัดแค่นี้ก็ใส่บาตรได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีครบทั้งน้ำ ดอกไม้ เหมือนที่ว่ากันว่าต้องครบ

เคยแนะนำน้องคนหนึ่งเขาเรียนเป็นเชฟทำอาหารที่โรงแรมชื่อดัง ให้หัดทำกับข้าวใส่บาตรเป็นประจำ ฝีมือจะดีรสชาติอาหารจะอร่อยขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรมาก เขาไปทำจริง เวลาผ่านมาประมาณหกเดือนได้ เขาเดินมาบอกว่าพี่พีร์มันได้ผลจริง ๆ ค่ะ อาจารย์ชมเปาะเลยค่ะ บอกว่าฝีมืออร่อยขึ้น เธอไปทำอะไรมาเหรอ แค่ทำน้ำซุปโดยทีวัตถุดิบเหมือนกัน แต่ละคนยังปรุงออกมาได้รสชาติที่ต่างกันมาก ๆ เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาไม่เรียกกันว่าเสน่ห์ปลายจวักหรอกค่ะ

เห็นไหมคะ ว่าชีวิตมนุษย์เราอย่ามัวแต่คิดที่จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่มีประโยชน์เลยต้องลงมือทำค่ะจึงจะได้ผล ให้ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง อย่ากลัวความผิดพลาด อย่ากลัวคำติของคน กล้าเผชิญแล้วนำกลับมาแก้ไขพัฒนาตัวเอง คำติของคนคือครูของเรา คำชมของคนต่างหากคือศัตรูฆ่าเรา

*********************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร