Print

ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๑๐๓

morpeeหมอพีร์ 
กันยายน ๒๕๕๓



สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู 

ช่วงนี้ชีวิตพีร์เกิดสภาวะการติดสุขติดสบายครอบงำ พอสบายมากทำให้ขี้เกียจมากเลยค่ะ พอเป็นแบบนี้มาก ๆ รู้สึกแย่กับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่เลย หันมาลดน้ำหนักตัวลงเพราะรู้สึกว่าตัวเองน้ำหนักเกินมาตรฐานเดิมเกินไปทำให้เกิดสภาวะขี้เกียจ 

เริ่มตั้งต้นจากการฝึกรักษาสัจจะที่ตัวเองตั้งใจจะทำแต่ล้มเหลวบ่อย ให้สำเร็จก่อนให้ได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องลดน้ำหนักคงเป็นไปได้ยาก เพราะเมื่อตั้งใจว่าจะไม่กินข้าวตอนเย็นจะทำไม่ได้ หรือตั้งใจว่าจะไปออกกำลังกายก็จะไม่สำเร็จอีก ล้มแล้วล้มอีกอยู่นั่นแหละ

สภาวะของการติดสุขติดสบายที่จนทำให้เกิดความขี้เกียจนั้น หนักหนาสาหัสสำหรับพีร์มากค่ะ ความทุกข์ไม่เคยเกลียดมันเลย เพราะทำให้ขยันมาก พอสุขทีไรน่ากลัวทุกที จะทำให้เกิดความประมาทง่ายมาก สิ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้ขยันได้ดีคือ การพิจารณาความตาย การพิจารณาความตาย เช่นดูอสุภะในอินเตอร์เน็ตบ้าง อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องความตายบ้าง พอทำบ่อยจะเห็นว่าแต่ละสิ่งอายุสั้น ไม่ได้ยืนยาวแบบที่เราคิด จะเห็นข่าวเกี่ยวกับความตายบ่อย ๆ ตอนนั้นที่กลับมาพิจารณาความตายมักจะเจอข่าวเด็ก เจ็ดขวบ หกขวบ ทารก วัยรุ่นตายตลอดเลย จิตใจเลยคึกคักขึ้นมาหน่อย 

พอทำได้ในเรื่องอื่นคราวนี้ลดน้ำหนักได้จริงแล้วค่ะ ค่อยฝึกทำไป เดือนหนึ่งหายไปห้ากิโลได้ค่ะ ควบคุมอาหารที่เป็นแป้ง น้ำมัน น้ำตาลลง ทานบ้างแต่จะน้อยกว่าปรกติที่เคยทาน พอทำได้กำลังใจเริ่มเกิด ความขี้เกียจเริ่มลดลง ชีวิตเริ่มสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะมากเลยค่ะ

ชีวิตตอนช่วงที่มีความสุขตอนนั้น ก็กินอาหารที่ปากอยากจะกิน ดูทีวี ดูละคร เล่นเกมส์ ติด ๆ กัน จนทำให้รู้สึกว่าชีวิตแบบนี้ไม่ชอบเลยค่ะ เหมือนตัวเองกำลังดำดิ่งลงเหวยังไงไม่รู้ เริ่มไม่มีความสุขเหมือนตอนแรก ๆ ใครที่เป็นเหมือนกันลองใช้วิธีพีร์ดูนะคะ จุดเริ่มต้นที่ดีคือฝึกสัจจะให้ได้ก่อนในเรื่องเล็ก เพราะถ้าไท่มีสัจจะไม่มีข้อไหนที่เราจะทำสำเร็จค่ะ 

สำหรับอาทิตย์นี้มีเรื่องของการหักห้ามใจค่ะ ใครเคยอ่านมงคลชีวิตไหมคะ มีอยู่อันหนึ่ง ที่บอกว่ากัลยาณมิตร คือการเลือกคบคนที่เป็นมิตรที่ดีกับเรา ในบางครั้งชีวิตของมนุษย์ก็มีเรื่องให้ต้องเสียใจ มีเรื่องให้ทุกข์ได้เพราะคนอื่นเป็นเหตุทำให้เราเดือดร้อนก่อน แม้กระทั่งนึกย้อนถอยหลังตั้งแต่จำความได้ว่า เกิดมาไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้แก่ใครเลยก็ช่าง เราอาจจะมีวิบากบางอย่างที่เรามองไม่เห็นติดตามเรามา ก็มีเหมือนกันนะคะ แต่เราก็ไม่อาจทราบได้ด้วยตาเปล่าว่า เคยไปทำร้ายใครมา กรรมมันจะตามมาให้ผลเราตอนไหน หรือเจอแล้วการก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมนั้น เพียงพอหรือยัง 

ความจริงชีวิตเราเกิดมาเลือกได้ ศาสนาพุทธไม่เคยสอนให้เราเกิดมาต้องทนก้มหน้าก้มตาใช้กรรมแต่อย่างเดียว ใครที่เชื่อว่าเกิดมาต้องชดใช้กรรมอย่างเดียวไม่มีทางเลือกนั้น เป็นความเข้าใจผิด พระพุทธเจ้าท่านสอนว่ากรรมเก่าเป็นแค่เหตุปัจจัยเท่านั้น กรรมปัจจุบันสำคัญที่สุด เช่น ที่ขึ้นต้นไว้ในวรรคก่อนค่ะว่ามงคลชีวิต ตรงหัวข้อของการเลือกคบกัลยาณมิตรเป็นสิ่งสำคัญ คนไม่มีไม่มีศีลมีธรรมเราจำเป็นที่จะปฏิเสธ ไม่คบก็ได้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไร เพราะเมื่อคบคนที่ไม่มีศีลย่อมนำความเดือดร้อนมาสู่ชีวิตเราได้ แต่เชื่อไหมคะว่าในบ้างครั้ง เราจะไม่กล้าที่จะปฏิเสธในการคบเพื่อนที่มีด้วยตัวเราเอง 

มีน้องคนหนึ่งที่รู้จักเขาเป็นเด็กที่ดีต่อเพื่อน มีน้ำใจกับเพื่อน สุดท้ายไปเจอเพื่อนติดยาเสพติด เห็นเพื่อนทำคิดว่าลองแค่นี้คงไม่เป็นไร คงไม่ติดหรอกเดี๋ยวคงเลิกได้ พอเวลาผ่านไปจิตใจไม่เข้มแข็งพอในการที่จะปฏิเสธเพื่อนกลุ่มนี้ สุดท้ายพอถึงเวลาที่ดวงร่วง ก็มีเหตุโดนจับติดคุกไปหลายปี อนาคตในการเรียนต่อก็ดับวูบลงทันที มีเหตุให้ต้องไปใช้ชีวิตในคุกตั้งแต่วัยรุ่นเลย พอวันหนึ่งผ่านไปถึงเวลาที่เขาได้รับการอภัยโทษทำให้ได้พ้นโทษเร็วกว่ากำหนด มันเป็นวันที่เขารอคอยมาหลายปี เชื่อไหมคะว่าเขากลับมาที่บ้านได้แค่สองเดือนกลับไปคบเพื่อนที่กินเที่ยวเสพยาอีก คราวนี้แค่เดือนกว่าเขาต้องโทษโดนคดียาเสพติดอีกเหมือนเดิม ทำให้พ่อแม่ร้อนใจมาก เพิ่งออกมาจากคุกแค่สองสามเดือนยังไม่ถึง ลูกติดคุกอีกแล้ว 

สองคนพ่อแม่ที่มาดูดวงแทบอยากร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด จากชีวิตที่ต้องลำบากอยู่แล้ว ต้องขายทรัพย์สินวิ่งเต้นคดีให้ลูกอีก เขามาดูดวงด้วยความหวังว่าจะหลุดคดีได้หรือเปล่า คราวนี้เห็นแล้วก็น่าสงสารพ่อแม่จริง ๆ จิตใจเด็กคนนี้อ่อนแอจริง ๆ การจะหลุดออกมาได้เขาต้องเลือกที่จะปฏิเสธเพื่อนแบบนี้ให้ได้ เขาถึงจะพ้นจากคุกตารางได้ 
พ่อแม่เขาสงสัยว่าลูกตัวเองทำไมชีวิตถึงมีแต่ดวงติดคุกติดตารางแบบนี้ คิดว่าไปทำกรรมอะไรมามากมาย ซึ่งความเป็นจริงดวงลูกไม่ได้แสดงออกมาในเรื่องของดวงคุกอะไรหรอก ดวงน้องแสดงออกมาในลักษณะของการที่เคยพาคนอื่นเละเทะมาก่อน ทำให้ปัจจุบันจะเจอสังคมเพื่อนที่ไม่ดีได้ง่าย จิตใจไม่เข้มแข็งพอที่จะดึงตัวเองออกจากเพื่อนอย่างนี้ เลยทำให้มีดวงคุกมาเพราะการคบคน แม่เขาก็รำพันออกมาว่า ทำไมเพื่อนคนอื่นของเขาก็ทำ ไม่เห็นค่อยโดนกันเลย ทำไมลูกชายเขาแค่ไปจับมันนิดเดียวไม่ได้เยอะอะไรมากมาย ทำไมต้องแย่กว่าคนอื่น เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ค่ะว่ารักลูก เลยพูดอะไรไม่ออกเท่าไหร่ ตอนนั้นเงียบไปพักหนึ่ง 

ชีวิตของคนที่มีวิบากเรื่องคนเรื่องเพื่อนนั้น ถ้าเริ่มต้นไม่หัดที่จะปฏิเสธเพื่อนไม่ดี ต่อไปจะอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ จะปฏิเสธยาก ยอมอ่อนแอตามเพื่อนไปเรื่อย ๆ แต่ไม่มีอะไรที่มนุษย์จะทำไม่ได้ เหมือนโฆษณาอยู่อันหนึ่งชอบมากเลยค่ะ ที่บอกว่าบุหรี่เลิกยาก แต่เลิกได้ 

คนเราไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้ ยกเว้นแต่ไม่ทำ ก่อนจะเลิกต้องตั้งเจตนาอย่างเข้มแข็งก่อนว่าจะเลิก ยังไงก็จะเลิก หัดมันไปเรื่อย ๆ ยังไงวันหนึ่งย่อมทำได้แน่นอน ล้มลงไปก็ต้องตั้งเจตนาใหม่ว่าจะทำอีก สุดท้ายต้องทำได้

ชีวิตคนเราเกิดมามันต้องฝืนใจตัวเอง ไม่ให้ทำตามใจตัวเองบ้าง เพราะเมื่อตามใจตัวเองมากไปมันจะฝืนยาก ความทุกข์มันเหมือนจะมาก มันจะยอมแพ้ตามใจตัวเองง่าย และก็จะมีชีวิตที่ตกต่ำลงได้เรื่อย ๆ การฝึกที่จะฝืนใจตัวเองนิดหนึ่ง จะรู้สึกว่าทุกข์มากในตอนแรก ๆ หลัง ๆ จะทุกข์น้อยลงเอง 

ถ้าเราไม่ยอมฝืนใจตัวเองมันจะไหลลงต่ำเรื่อย ๆ ธรรมชาติของจิตมนุษย์เราไหลลงต่ำ เหมือนปลาจะมีชีวิตอยู่ได้ต้องว่ายทวนน้ำ เหนื่อยหน่อยลำบากหน่อยแต่ก็มีชีวิตที่ดำรงอยู่ได้ดี ไม่อย่างนั้นเพื่อนในนรกจะบอกว่าฉันรักแกไปอยู่ด้วยกันนะ

********************************************************* 

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์" 
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม 
ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ http://www.goodfamilychannel.com นะคะ 

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ 
ส่งคำถามมาได้ที่  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ 

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่ 
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔ 
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑ 
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ 
กรุงเทพมหานคร