Print

ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๙๖

morpeeหมอพีร์
มิถุนายน ๒๕๕๓


สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู

อาทิตย์ที่ผ่านมามีอีเมล์มาขออโหสิกรรมพีร์ ซึ่งก็อโหสิกรรมให้ ไม่ได้ติดค้างอะไรในใจอยู่แล้วค่ะ แต่ข้อความของสิ่งที่เขาขออโหสิกรรมน่าสนใจดีค่ะ คือประมาณว่าเขาคงเคยมาดูดวงกับพีร์ และคงได้รับคำแนะนำอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนได้ หรือไม่อีกกรณีหนึ่งคืออาจจะได้ยินคนอื่นพูดต่อๆกัน เลยทำให้เชื่อว่า พีร์อาจสามารถช่วยเพื่อนเธอได้เหมือนกัน เธอเลยแนะนำเพื่อนคนหนึ่งให้มาดูดวงกับพีร์ พอเพื่อนมาดูดวงเสร็จก็กลับไปต่อว่าเธอสารพัดประมาณว่าไม่น่าแนะนำหมอดูคนนี้เลย ทำให้เธอเกิดอคติคิดไม่ดีกับพีร์ พอเวลาผ่านมาเธอเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่เธอรู้สึกเกิดจากการฟังความข้างเดียว เลยส่งอีเมล์มาขออโหสิกรรม

ความจริงพีร์เคยเขียนไว้ครั้งหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าฉบับไหนนะคะ ว่ามีคนที่ได้รับคำแนะนำจากพีร์ไป เมื่อกลับไปก็ปฏิบัติตามก็เห็นผลว่าสามารถเปลี่ยนตัวเองได้เร็ว มีชีวิตที่ดีขึ้นมาก ยอมรับอะไรหลายสิ่งในชีวิตได้ ภาพรวมชีวิตที่สว่างขึ้นกว่าเดิมจริง ๆ ทีนี้เมื่อตัวเราเองดีขึ้น ธรรมชาติของคนเราก็มักอยากจะแนะนำให้คนใกล้ตัวดีขึ้นตาม ๆ กัน เลยเล่าสู่กันฟังว่าเป็นเพราะไปดูดวงมาเลยทำให้ชีวิตเป็นแบบนี้ หรือหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเข้าใจคำแนะนำที่พีร์แนะนำไปมาก ๆ ก็อยากจะบอกต่อ แต่หลายคนอาจจะลืมนึกไปว่าภูมิธรรมของแต่ละคนไม่เสมอกัน ฟังแบบเดียวกันอาจจะคิดไม่ได้เหมือนกัน และที่ใหญ่กว่าตรงนั้นคือกรรมวิบากของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วยค่ะ

ก่อนหน้านี้เคยพบกับความทุกข์อย่างบอกใครไม่ถูกค่ะ ดวงบางคนเข้าใจง่าย สามารถุให้คำแนะนำแก้ไขได้ง่ายมาก แต่บางคนมองเข้าไปมืดทึบเหมือนมีกำแพงกั้นไม่ให้เข้าไปดูอะไรเขาเลย พอเจอสภาวะแบบนี้บ่อย ๆ ใจก็เกิดความทุกข์มากว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมดูเข้าไปข้างในยากมาก หรือเวลาพยายามจะพูดธรระมสอดแทรกเข้าไป เขาก็มีอาการเหมือนรำคาญ เมื่อแนะนำอะไรไปก็เหมือนฟังไปอย่างนั้น ดูกลับไปก็ไม่ทำตามหรอก เลยได้ข้อสรุปว่ารายนี้ช่วยยากมาก รู้สึกทุกข์ใจ พยายามรีบพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นอีกอย่างรีบร้อน ร้อนใจว่าความสามารถตกต่ำลงหรือเปล่า เลยโทรไปหาพี่ดังตฤณเพื่อปรึกษา เรื่องเวลาดูเข้าไปแล้วมันเหมือนมีกำแพงกั้นไว้ พี่ดังตฤณบอกว่าดีแล้วที่เห็นแบบนี้ เพราะเป็นการเห็นกำแพงกรรมของคนอื่น บางคนก็ไม่ถึงเวลาของเขา เราก็ไม่สามารถที่จะช่วยได้เหมือนกัน พีร์นึกว่าความสามารถมันตกไป พยายามเค้นตัวเองให้ดูให้ได้ บางทีแทบสลบเลยเหมือนกัน พอได้คำตอบเลยเข้าใจ

สำหรับคนที่เปลี่ยนตัวเองขึ้นมาแล้วอยากให้คนอื่นมาดูดวงบ้าง ทางที่ดีที่สุดคือ ให้เขาอ่านไดอารี่หมอดูที่พีร์เขียนไว้ในนิตยสารธรรมะใกล้ตัวก่อนจะเกิดประโยชน์กว่าค่ะ เพราะเขาจะเข้าใจแนวทางว่าพีร์ดูดวงแบบไหน พอเขาอยากมาดูเขาจะติดต่อมาเอง แบบนี้ก็มีเยอะนะคะ แนะนำแบบนี้จะไม่ต้องบาดเจ็บกับการแนะนำคนค่ะ

บางคนอาจจะคิดว่าพีร์เป็นหมอดูเกินธรรมดา แบบขั้นที่เห็นกรรมเป็นตัวบุคคลเลย ว่าเคยเป็นใครมาจากอดีตชาติ หรือมีตาทิพย์ที่เห็นทะลุทะลวงหมดทุกอย่าง หรืออาจจะเป็นเหมือนหมอดูอุปการะในหนังสือกรรมพยากรณ์แน่นอนเลย ซึ่งตอนนี้ฝึกตัวเองอยู่และยังไม่ถึงขั้นตาทิพย์ค่ะ สมมุติว่ามีสิบแต้มนะคะ พีร์ผ่านมาแค่สามแต้มเองค่ะ ยังอีกนานโขเหมือนกัน แต่ก็คงไม่นานเกินจนแก่งั่กค่ะ มันอยู่ที่ความเพียรส่วนตัวเหมือนกัน การที่จะต้องต่อสู้กับความขี้เกียจขี้คร้าน มันยากลำบากแสนเข็ญจังเลยนะคะ เวลามีความทุกข์พีร์ชอบมากค่ะ ขยันทุกที พอสุขใจทีไรชอบหลงเพลิดเพลิน บางทีก็เพลินนานไปหน่อย พอล้มลงไปต้องตั้งสัจจะขึ้นมาใหม่ทุกทีเลยค่ะ ไม่ยอมแพ้ตราบใดที่ไฟยังไหม้หัวเราอยู่ มันจะล้มลุกคลุกคลานก็ต้องทำต่อไปค่ะ

คนส่วนใหญ่เห็นวิบากของตัวเองอยู่แล้วนะคะ แต่ธรรมชาติของใจ มันไม่ค่อยจะยอมรับว่าเป็นกรรมของตัวเองเท่าไหร่ ต้องให้คนไม่รู้จักที่ไหนไม่รู้มาพยากรณ์ว่าตัวเองมีนิสัยแบบนั้นแบบนี้ ถึงจะยอมอ่อนข้อลงหน่อยหนึ่ง ก็จะไม่ค่อยเพ่งโทษว่าเป็นการกระทำของคนอื่น


จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เกิดมาเจอวิบากหลายอย่างที่ค่อนข้างจะหนักเอาการเลย จิตใจตอนเด็กจะคิดแต่ว่า เทวดาทำไมใจร้ายจังเลยเล่นงานผิดคนหรือเปล่า ทำไมลำเอียงจังถึงทำให้ทุกข์แบบนี้ หนูไปทำกรรมอะไรกับใครมาหนักหนา ชีวิตพีร์นี่แทบจะเรียกได้ว่า เรื่องความทุกข์พีร์เจอมาเกือบหมด ถ้าเล่าก็เหมือนนิยายน้ำเน่าค่ะ ถูกนางร้ายกลั่นแกล้งตลอดเวลา ทุกข์ใจมาตลอดตอนไม่เข้าใจหลักของกรรม โทษแต่คนอื่นว่าเขาเป็นคนทำร้ายเราก่อน เราไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะ บางครั้งก็ตอบโต้กลับ บางครั้งเก็บมาแค้นฝังหุ่น

พอเข้าใจหลักของกรรมวิบากใจมันยอมรับโดยศิโรราบมาก ๆ เลยค่ะ ว่ามาจากวิบากของตัวเองทั้งนั้น เพราะรู้ว่าตัวเองทำกรรมอะไรมาบ้าง เลยไม่โทษใครเลย

ตอนแรกที่รู้แอบคิดในใจว่าฉันมันชั่วขนาดฆ่าสัตว์มาเลยหรอ เคยเจ้าชู้มาด้วย เคยลักทรัพย์คนอื่น เคยกินเหล้าและโกหกมาขนาดนั้นเลยเหรอ เป็นไปไม่ได้นางฟ้าอย่างฉันจะทำความชั่วเช่นนั้นมาได้อย่างไร ความเป็นจริงมันฟ้องนะคะ ความจริงนี่มันจริงยิ่งกว่าจริงค่ะ คำว่ากฎแห่งกรรม ก็หมายถึงกฎแห่งความจริง ถ้าไม่เคยทำไว้จะโดนทำได้ยังไง

หลักการสำรวจง่ายมาก ๆ มันฟ้องมาโดยรูปร่างเราอยู่แล้ว เช่น ถ้าสวยมากแสดงว่ารักษาศีลมาดี แต่บางคนก็สวยมากเพราะชอบทำทานก็มี ประมาณว่าความสวยเกิดมาได้จากการทำดีหลายแบบ แต่มันก็แยกออกได้นะคะ ถ้าผิดศีลข้อหนึ่งเคยฆ่าสัตว์มา จะเกิดความเจ็บป่วยไม่สบาย ผิวพรรณมีแผลตามร่างกายไม่เรียบสวย เคยเจอคนที่รักษาศีลข้อนี้มาดีมากมักจะผิวสวยไม่มีตำหนิแม้แต่นิดค่ะ บางคนขี้โกหกกระแนะกระแหนคนมามาก ฟันก็จะเรียงไม่ค่อยเท่ากัน ใช้อำนาจมามากตัวก็จะไม่สูง ขี้โมโห ขี้อิจฉามามากกว่าทำทาน ผิวก็จะคล้ำไม่ขาว บางคนขี้โมโหมาแรงดุแรง หน้าตาจะดูดุเพื่อให้มีศัตรูแรกพบ กินเหล้ามามากทำให้ความจำไม่ค่อยจะดีเรียนหนังสือไม่ค่อยเก่ง ความจริงพี่ตุลย์เขียนไว้ในเสียดายคนตายไม่ได้อ่านฉบับปฏิรูปซึ่งมีเนื้อหาที่ละเอียดมากเลยค่ะ ลองอ่านดูนะคะละเอียดกว่านี้อีก

ความจริงอีกอันหนึ่งคือไม่มีใครรู้จักตัวเองเท่าตัวเอง แต่ต้องไม่ลำเอียงกับสิ่งที่เห็นที่เป็น บางคนเห็นกันได้ง่ายว่าชาตินี้ก็ทำผิดมันซ้ำ ๆ เหมือนในอดีตเลย หลวงพ่อท่านว่า มนุษย์เราหมื่นชาติยังไม่เปลี่ยนนิสัยเลยค่ะ ยังไงชาตินี้จะมีร่องรอยให้เห็นบ้าง แต่บางคนก็น่าสงสารนะคะ ของเก่ามีดีมาอลังการงานสร้าง กลับเอาบุญเก่าไปก่อกรรมใหม่อีกเยอะแยะ ส่วนคนที่มีกรรมติดตัวมาเจอความทุกข์เพราะผลของกรรม เร่งสร้างความดีขึ้นมาใหม่ก็มีเยอะ ดังนั้นอย่ามัวแต่ไปกังวลกับวิบากในอดีตให้มากเลยค่ะ มันจะฟุ้งซ่านเอาเปล่า เอาเป็นว่า วันนี้คุณทำความดีมากกว่าที่ผ่านมาหรือยัง อันนี้สำคัญที่สุดค่ะ


*********************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร