ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๙๕

หมอพีร์
พฤษภาคม ๒๕๕๓


สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู
อาทิตย์นี้จิตใจของหลาย ๆ คนคงดีขึ้นบ้างแล้วใช่ไหมคะ หลังจากต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เศร้าสลดกันทั้งเมือง ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ปรากฏการณ์ และปรากฏการณ์นั้นเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สุดท้ายก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา เหมือนบรรพบุรุษของเราที่ผ่านมา เหตุการณ์แต่ละอย่างล้วนคงเหลือเป็นแค่ประวัติศาสตร์ อย่าปล่อยให้จิตใจของตัวเองจมอยู่ความหดหู่ หรือหนักถึงขั้นเจ็บใจพยาบาท เคียดแค้น ชิงชังขึ้นมา อันนี้จะยิ่งอันตราย เพราะอาจจะนำกระแสมารเข้ามาครอบงำใจเราแทนได้ไม่ยากค่ะ ตอนที่ติดตามข่าวสารชั่วโมงต่อชั่วโมง จิตก็เศร้าหมองมาก ๆ เหมือนกัน สังเกตคนที่รายล้อมอยู่สภาวะเดียวกันเลย จนกระทั่งลูกชายพีร์รับรู้เรื่องตาม เขาพูดออกมาว่าแม่ครับ แล้วต้นเข็มจะได้โตไหมเนี่ย เขากลัวว่าต้นเข็มจะไม่ได้โตต้องตายแน่ ๆ คราวนี้ พอเหตุการณ์สงบลง เขาก็มาบอกว่า หนูจะได้โตแล้วแม่ ฟังแล้วก็ขำ ๆ แต่เขาคงเห็นเหตุการณ์แล้วเศร้าใจตาม หลังจากนั้นพวกเราเลยเปลี่ยนกิจกรรมไปทำอย่างอื่นแทน ไม่ให้จิตตกไปกันมากกว่านี้ค่ะ

สำหรับปีนี้เป็นปีขาลไทย ตามโหราศาสตร์ปีขาล ดาวอังคารจะตกช่องมรณะพอดี ซึ่งดาวอังคารในตำราโหราศาสตร์หมายถึงดาวสงครามอยู่แล้ว และนอกจากนั้นยังหมายถึงความชั่วร้าย ความมืด ปีศาจ จอมมารด้วยนะคะ อย่างที่บอกไป ถ้าใครปล่อยใจให้จมอยู่กับเรื่องเจ็บใจพยาบาท คิดเคียดแค้น ปองร้ายนาน ๆ จะเป็นช่องว่างให้กระแสเงาของมารครอบงำได้ค่ะ ทำให้เรากลายเป็นมารกันเองได้ง่าย ๆ เลย กระแสมารหมายถึงจิตด้านมืดของเราจะพาให้เราทำชั่วได้เยอะนั่นเองค่ะ เคยดูดวงว่าปีนี้จะเกิดสงครามนึกว่าจะเกิดที่ประเทศอื่น

ส่วนหนึ่งพีร์เองก็มีประสบการณ์ตรงมากับดวงตัวเองถึงสองครั้งเหมือนกัน ว่าเวลาโดนกิเลสด้านมืดครอบงำจิตไว้นาน ๆ จะเปิดช่องว่างให้กับกระแสที่มืด และล่าสุดเพิ่งเจอลูกค้าคนหนึ่งที่เขาโดนกระแสนี้เหมือนกัน สองสามวันก่อนมีพี่คนหนึ่งเป็นผู้ชายวัยกลางคนมาดูดวง จิตใจของพี่เขามีลักษณะของพลังชีวิตที่อ่อนแอ เหมือนไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเท่าไหร่ จิตใจมีสภาวะเบลอ ๆ ใจลอย หัวหนัก หนืด จิตใจวนอยู่กับความคิดเดิม ลักษณะเทียบเคียงที่คิดออกง่ายสุดก็คือ เหมือนหัวมีหมวกกันน็อคใส่ตลอดเวลา อาจจะไม่หนักเท่าใส่จริงแต่จะเทียบเคียงได้ประมาณนี้

จากประสบการณ์ที่พีร์เจอมาเองสองครั้ง เห็นว่ามันคล้ายกันเลย และทุกครั้งที่เจอจะหนักขึ้นจนเป็นป่วยเรื้อรังไม่ค่อยหาย และพอเริ่มสังเกตว่าไม่ใช่อาการป่วยธรรมดาแล้ว เพราะป่วยธรรมดาทั่วไปหายไว แต่อาการที่เป็นจะเหมือนพลังชีวิตหายไป ไม่มีเรี่ยวแรง พออาการหนักมาก ๆ ก็โทรไปปรึกษาพี่ดังตฤณ พี่ดังตฤณจะแนะให้สวดมนต์บทอิติปิโสกับอันล่าสุดที่พี่เขาแนะนำคือให้สวดบท

?สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ?

พี่เขาแค่สอนสวดมนต์ แต่จิตพีร์จากที่หนักมันสว่างขึ้นทัน โล่งโปร่งเบาสบายไร้น้ำหนักขึ้นอย่างเห็นกันได้ชัด ๆ เลย จึงแนะนำให้พี่คนนี้เขากลับไปสวดด้วย

ดวงเก่าของพี่เขามีดวงธรรมชนวินาศ ซึ่งจะหมายถึงการที่เคยใช้คุณไสยมาด้วย ในขณะที่โลกไม่ปรกติมีกระแสมารครอบงำ พี่เขาอาจจะโดนเอี่ยวไปด้วยแบบประมาณว่าลมเพลมพัดได้ง่าย พี่เขาบอกว่าเห็นพี่ดังตฤณเขียนไว้ฉบับก่อนเหมือนกันเกี่ยวกับบทสวดมนต์ พีร์เลยเข้าไปอ่านดู พี่ดังตฤณเขียนไว้ละเอียดมากเลยค่ะ ลองเข้าไปอ่านกันดูที่ จากใจบก.ใกล้ตัว ฉบับที่ ๒๕ คำถามหาปัญญา นะคะ กรณีของพี่คนนี้ถ้าปล่อยให้สภาวะแบบนี้ครอบนานเกินไปจะป่วยได้ง่าย บวกกับวิบากเดิมของพี่เขามีกรรมเรื่องฆ่าสัตว์อยู่แล้ว เลยยิ่งมีอันตรายเพิ่มขึ้น

ถ้าใครสังเกตตัวเองว่ามีอาการเข้าข่ายนี้ ก็ลองสวดมนต์ดูนะคะ แต่ยังไงที่สำคัญอย่าปล่อยให้ใจถูกครอบงำโดยจิตที่มีความมืด เช่น ความเกลียด ความแค้น ความพยาบาท เจ็บใจ ชิงชัง อิจฉา ให้เจริญเมตตาซึ่งเป็นด้านตรงข้ามแทนให้มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคิดในแง่บวกว่า คิดว่าใช้กรรมแล้วกัน ถือว่าเป็นบาปที่ทำมา หรือคิดว่าอภัยไปเหอะโกรธไปก็หนักหัว สุดท้ายก็ตายกันทั้งหมด บางคนอาจจะใช้การสวดมนต์กำกับไว้ก็ได้ค่ะ ทำได้ตามนี้โอกาสที่กระแสมารจะเข้ามาครอบได้ก็จะน้อยลงค่ะ

*********************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร