Print

ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๘๗

morpeeหมอพีร์
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓


สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู เป็นยังไงบ้างคะ ต้นปีมานี้มีเรื่องมากระทบใจให้เกิดทุกข์เยอะจังเลยค่ะ ดีนะที่ได้ฝึกวิปัสสนามา ทุกข์มีไว้รู้ทัน ทุกข์มีไว้ผลักดันว่าอย่าขี้เกียจ ขยันภาวนาไว้นะ โลกมีแต่สิ่งไม่คาดไม่ฝันเกิดขึ้นเสมอ โลกมีแต่เรื่องที่ไม่ถูกใจเราตลอดเวลา หลังจากมีเรื่องทุกข์ ๆ สติค่อนข้างตื่นออกจากการติดสุขติดความสบาย กลายเป็นความขยันเพราะกลัวว่าตัวเองจะมืดบอดไปเสียก่อนค่ะ

เมื่อวานไปทานข้าวกับที่บ้านมา ระหว่างทางขับรถไปเจอคนขับรถปาดหน้า ก็ไม่ถูกใจ พอไปร้านอาหารริมทะเลคาดหวังไว้ว่าจะเจอร้านอร่อย ๆ พนักงานเสริฟบริการดีบ้างไม่ดีบ้างก็ไม่เป็นไร แต่พอไปถึงร้านริมทะเลเลือกว่าจะเอาร้านไหนดีที่กับข้าวพอจะอร่อย วัดดวงแล้วกัน เดินเข้าไปในร้านนั่งรอพักหนึ่ง พนักงานเดินมาถามว่าจะสั่งอะไรดี สั่งไปมีแกงส้ม ทอดมันไข่เค็ม ผัดกะเพราทะเล คิดว่าสามอย่างก่อน เดี๋ยวเผื่อว่าไม่อร่อยจะได้ไม่ต้องสั่งเยอะ พนักงานเสิร์ฟมองหน้าเหมือนไม่พอใจในการสั่งเท่าไหร่ เริ่มมีคำพูดกวน ๆ ใจเริ่มขัดใจหงุดหงิดขึ้นมา พอกับข้าวมาถึงไม่อยากจะบอกเลยค่ะ ผัดเองที่บ้านอร่อยกว่านี้อีก แกงส้มก็ไม่ได้เรื่องเลยกินเข้าไปได้ไงเนี่ยะไม่อร่อยเลย สั่งข้าวไว้ก็ไม่มาเสิร์ฟ รอนานมาก ๆ กับข้าวจะหมดแล้ว คิดกันว่าสงสัยจะไปทำนาอยู่ ในวงสนทนาเริ่มพูดกันว่า รู้สึกว่าวันนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้ขัดใจตลอดเลย สติของพวกเราตื่นแว๊บหนึ่ง เห็นขึ้นมาว่าโลกเรานี่มันมีแต่เรื่องขัดใจตลอดเวลาจริง ๆ เลย ไม่มีใครทำให้ได้ดั่งใจเท่าไหร่ รับประทานกันเสร็จเรียกเช็คบิล รอประมาณครึ่งชั่วโมงยังไม่มาอีก พนักงานมีน้อยเลยลืมไปต้องไปตามถึงแคชเชียร์ ดีนะที่ไม่หลุดทางวจีกรรมเผลอด่าออกไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงพลาดไปกันเยอะเลยค่ะ เดี๋ยวนี้รู้ทันที่ใจทำให้สำรวมทางกายวาจาไปมาก บาปทางกายก็เลยน้อยลง สรุปวันนั้นทั้งวันขัดใจตลอดค่ะ

ลืมบอกบุญค่ะ สำหรับอาทิตย์ที่ผ่านมาไปเที่ยวระยองกับที่บ้าน เลยแวะสวนสันติธรรมกันก่อน และก็ติดสังฆทานไปทำบุญวัดที่ผ่านข้างทาง พร้อมถวายหนังสือที่เหลืออยู่ค่ะ เอาบุญมาฝากให้ทุกคนอนุโมทนานะคะ

อาทิตย์นี้มีเรื่องราวที่น่าประทับใจเยอะมากเลยค่ะ คือว่ามีคนกลับมาดูดวงซ้ำ คราวนี้เป็นปลี้มที่สุดคือมีคนเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้หลายคนมาก ๆ อันดับแรกจะเห็นเลยว่า ทุกคนที่เปลี่ยนแปลงตนเอง หน้าตาจะสวย หล่อขึ้นชัดเจนก่อนเลย ความจริงจิตใจเปลี่ยนไปก่อนเลยทำให้หน้าตาเปลี่ยนไป บางคนเปลี่ยนทั้งหน้าและจิต จำไม่ได้เลย คนเก่าตายไปแล้ว ไม่รู้จะเริ่มเล่าเรื่องคนไหนก่อนดี เอาคนที่ประทับใจที่สุดก่อนเลยดีกว่าค่ะ เพราะขนาดพีร์ถึงขั้นทึ่งตะลึงงันก็ว่าได้ ขอตั้งเรื่องตามหนังสือกรรมพยากรณ์ของคุณดังตฤณ "ตอนชนะกรรม" ซึ่งเรื่องนี้มีความละม้ายคล้ายคลึงกันนิดหนึ่งค่ะ ส่วนที่แตกต่างก็คือพี่เขาเป็นผู้ชายแค่นั้นเอง

ตอนแรกพี่เขาเดินเข้าในห้องเป็นคิวสุดท้ายนั่งลงตรงหน้า พีร์ก็งงนิด ๆ พร้อมกับคิดว่าเหมือนจะเคยเจอกันมาแล้ว แต่หน้าไม่คุ้นเลย พอพี่เขาพูดออกมาก็จำได้ ตอนนั้นที่ว่าจำได้แล้วนะ พีร์ตกใจมากเลยนะคะ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เมื่อสองปีที่แล้วพี่เขาไม่เป็นแบบนี้เลย เพราะว่าพี่เขามีโหงวเฮ้งหน้าตาจะเหมือนผู้หญิง เสียงเหมือนผู้หญิง จิตชอบเพศเดียวกัน นิสัยใจคอจะค่อนไปทางผู้หญิงมาก ๆ จิตใจจะโลเลไปมา พูดเยอะในทางฟุ้งซ่าน พูดออกมาจะติดท่าทางผู้หญิงเยอะ มีลักษณะจริตที่ถูกดัดออกมาตามจิตมีอาการจีบปากจีบคอนิดหน่อย หงุดหงิดง่าย เหงาเศร้าว้าเหว่ จิตจะมีลักษณะอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้ ชีวิตต้องมีเพื่อน มีชีวิตไปเรื่อย ๆ เหมือนไม่ค่อยมีเป้าหมาย คาดหวังในรักแท้

สิ่งที่พีร์ตกใจคือ หนึ่งหน้าตาพี่เขาที่เหมือนผู้หญิงตอนนี้กลายเป็นผู้ชายเต็มตัวไปแล้ว มีลักษณะอ้วนขึ้นกว่าเดิมแต่ไม่ได้หมายถึงเป็นคนอ้วน โหงวเฮ้งปรับในลักษณะทำให้หน้าตามีบารมีในการเป็นหัวหน้า ผิวขาวผ่องใสดูดี ไม่หลงเหลือภาพลักษณ์เดิมเลย อึ้งมาก พีร์พูดไปชมพี่เค้าไปว่าไม่น่าเชื่อว่าพี่จะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ บอกเขาอีกว่า รู้ไหมคะว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ มันเป็นเพราะจิตใจพี่เปลี่ยนไปหมดเลย

ผลของมันเลยโชว์มาที่ใบหน้าให้เห็น จิตใจจากโลเล กลายเป็นหนักแน่นชัดเจนไม่โลเลแบบเดิมเลย มีความเป็นผู้ชายมาก เพราะผู้ชายมีโครงสร้างทางจิตใจที่เป็นเหตุและผล ผู้หญิงจะมีโครงสร้างทางจิตใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์นำหน้า พี่เค้าไม่ค่อยมีลักษณะการพูดที่ฟุ้งหรือเพ้อเจ้อแบบเดิม น้ำเสียงเป็นผู้ชาย เพราะใจเป็นชาย เสียงที่เปล่งออกมาจากการมีสติไม่ติดความเป็นผู้หญิงออกมา กลับสู่ความเป็นธรรมชาติมาก ๆ โดยไม่มีความทุกข์ใจที่เป็นแบบนี้ ทางร่างกายไม่มีจริตทางผู้หญิงหลุดมา จิตใจยังมีความสุขจากตัวเองชัดเจน มีตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ดี จิตใจไม่ติดเพื่อนแบบเก่า ประมาณว่าถ้าไม่เพื่อนฉันอยู่ไม่ได้ นอกจากนั้นความสุขใจที่พี่เขามีตอนนี้ พร้อมที่จะมีเสน่ห์กับผู้หญิง แถมยังมีแรงดึงดูดผู้หญิงเข้ามา และจิตใจพี่เขาตอนนี้ไม่ได้รักเพศเดียวกันแล้ว เขาสามารถรักผู้หญิงได้ ตายแล้วพี่ร์อึ้งมาก มหัศจรรย์แห่งธรรมะ เปลี่ยนมนุษย์กันได้เห็น ๆ ค่ะ พี่เขายอมรับว่าใจตอนนี้ชอบผู้หญิงแล้วไม่ได้รักเพศเดียวกันเหมือนเมื่อก่อน และตอนนี้กำลังคบหาดูใจผู้หญิงคนหนึ่ง อาจจะมีแผนแต่งงานเร็ว ๆ นี้ พี่ขอดูวันเดือนปีเกิดของพี่ผู้หญิง ซึ่งก็เหมาะสมกันเหมือนกัน ตรงที่ว่าพี่ผู้หญิงมีใจเข้าหาธรรมะเหมือนกัน

ถามพี่เขาว่าไปทำอะไรมาถึงเปลี่ยนได้เยอะขนาดนี้ พี่เขาบอกพีร์ว่า เพราะซีดีแผ่นเดียวที่ให้ไปไง พีร์นึกขึ้นได้ว่าเคยให้ซีดีหลวงพ่อปราโมทย์กับพี่เขาไปหนึ่งแผ่น หลังจากนั้นพี่เขาก็หาดาวน์โหลดเพิ่มจากเว็บไซด์ พี่เขาบอกว่าฟังมาตลอด มีตั้งแต่แผ่นที่หนึ่งยันสามสิบเลย และเขายังบอกอีกว่าเมื่อก่อนคิดว่าปฏิบัติธรรมต้องสวดมนต์ทุกวัน ต้องนั่งสมาธิทุกวันถึงจะมีสิทธิ์ก้าวหน้าทางธรรม แต่พอมาฟังธรรมของท่านไปเรื่อย ๆ จิตใจมีสติระหว่างวัน รู้ตัวได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งฟังและปฏิบัติตามยิ่งทำให้เปลี่ยนนิสัยไปหมดเลย หลังจากนั้นจิตใจจะชอบนั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ได้โดยไม่รู้สึกทรมานเหมือนเมื่อก่อน สติพี่เขาตื่นมาก ๆ ค่ะ รู้ตัวได้ดีมากทีเดียว

ธรรมชาติของกรรมข้อกาเมเมื่อผิดมาก ๆ จะส่งผลให้จิตใจรักเพศเดียวกัน พอรักเพศเดียวกันแล้วตอนแรกบางคนอาจจะเป็นลักษณะที่หญิงก็ได้ชายก็ดี พอหนักขึ้นกว่านั้นจะไม่สามารถรักเพศตรงข้ามได้เลย พอบอกว่าจะมีแฟนเป็นเพศตรงข้ามจะทุกข์ใจมาก ๆ และกลัวที่จะรักเพศตรงข้าม อันนี้ไม่แปลกค่ะ มันเป็นแบบนี้เองเป็นธรรมดา แต่ถ้าวันหนึ่งภาวนาเข้าถึงแก่นได้จริง ๆ จิตคุณจะคืนกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้เอง สุดท้ายไม่มีผู้หญิงไม่มีผู้ชาย

พีร์สังเกตลักษณะการหลุดออกจากการรักเพศเดียวกันของพี่เขาคือ สติเขาค่อนข้างไวในการรู้ตัวค่ะ เช่น พอเขาจะบ่น เขาเห็นความอยากจะบ่น เขาก็ไม่บ่นออกไป และเมื่อมีอาการอยากจะพูดออกไป จะเห็นสัญญาของการคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงผุดขึ้นมา แต่ไม่ทำตาม เช่นต้องพูดออกมาให้เป็นเสียงผู้หญิงตาม พี่เขาคงไปเห็นมันพอดีว่าจิตมันสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา ทำให้ไม่ได้ทำตามแบบเดิม เกิดเสียงพูดที่เป็นผู้ชายปกติขึ้นมาแทนที่ พีร์อาจจะอธิบายออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นะคะ ไม่รู้จะพูดแบบไหนดี รู้แต่ว่าเจอคนที่รักเพศเดียวกันค่อนข้างเยอะ บางคนลักษณะเหมือนผู้ชายหมดเลยนะ แต่จิตมันไม่ใช่เลยเห็นกันได้ง่าย ๆ เลย มีบางบ้านถ้าไม่อยากให้ที่บ้านรู้ห้ามมาดูด้วยกันนะคะ เพราะบางคนความลับอาจจะแตกได้ค่ะ หรือบางคนที่มีลักษณะกำลังสับสนว่าจะรักผู้หญิงหรือรักผู้ชายดี มันก็โชว์มาให้เห็นกันนะคะ

เคยบอกกับรุ่นพี่ทางธรรมคนหนึ่งที่เขารักเพศเดียวกันเหมือนกัน ประมาณว่า เห็นไหมจิตที่คิดว่าตัวเองรักผู้ชายมันเป็นแค่สัญญา เดี๋ยวถ้าวันไหนพี่ภาวนารู้ทันสัญญาทำงานได้ วันนั้นพี่ก็จะกลับมาเป็นปรกติ เพราะเคยสัมผัสกับคำว่าสัญญามากับตัวเองเลย ทำให้เข้าใจระดับหนึ่ง เหมือนกับคำพูดที่ว่า ตัวเราเมื่อวานมันคืออดีต ส่วนตัวตนของเราวันนี้เป็นคนละคนกัน ไม่ใช่คนเดียวกัน ตอนแรกที่เริ่มภาวนาจะงงกับคำพูดนี้มากค่ะ ไม่เคยเข้าใจสักที

พอวันหนึ่งไปเห็นความจริงเข้าว่าเรื่องราวในอดีต ที่ผ่านไปเมื่อวาน เวลาที่ต้องนึกถึงขึ้นมามันจะอาศัยการรู้ผ่านสัญญา และสัญญาจะทำงานโดยการย้อนเอาข้อมูลเก่าขึ้นมา คำว่าสัญญาแปลว่าความจำได้หมายรู้ค่ะ เมื่อก่อนไม่เข้าใจเหมือนกัน วันนั้นเลยถึงบางอ้อขึ้นมาว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง จำได้สนิทใจเลยว่าวันนั้นกำลังนั่งสมาธิอยู่ จิตเกิดการระลึกถึงเรื่องของตัวเราในวันก่อนขึ้นมา ตอนนั้นจิตถอยกลับไปนึกถึงกลับไม่พบกับตัวตนอะไรเลย เจอแต่ความว่าง ไม่มีอะไรเลย จิตตกใจสะดุ้งแรงมาก คิดทวนไป ไม่มีตัวเราเลยเหรอ ทำไมไม่มีใครเลยล่ะ (ไม่ได้มีความหมายถึงบรรลุธรรมนะคะแค่ไปเห็นขณะเดียวว่าไม่มีใครในอดีต) ใจตอนนั้นตกใจค้างอยู่นิด ๆ คิดขึ้นมาว่า เฮ้ยตัวเราเมื่อวานมันหายไปไหน

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นว่า ตัวตนปัจจุบันที่เราคิดว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ ถูกสร้างขึ้นมาจากจิตเรานี่แหละ อาศัยสัญญาเดิมที่จำได้ว่าเคยเป็นแบบนั้นเคยเป็นแบบนี้ สร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาตลอด เช่นตัวเราวันนี้ต้องเป็นคนเดิมเหมือนเมื่อวาน ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งจิตมันสร้างขึ้นมา หรืออย่างเช่นคิดว่าเราเคยรักผู้หญิง เราเคยรักผู้หญิง พรุ่งนี้ตื่นมาเจอผู้ชายหล่อ ๆ เธอต้องห้ามรักเพราะเธอรักผู้หญิงไม่ใช่รักผู้ชาย

ก่อนหน้าพี่ผู้ชายคนนี้ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเป็นทอม พอมาภาวนาในลักษณะเดียวกันกับพี่ผู้ชายคนนี้ ใจเขาหายจากการรักเพศเดียวกันเยอะมาก อีกนิดเดียวจะเป็นปรกติแล้ว และหน้าตาโหงวเฮ้งถูกปรับเหมือนกัน สวยขึ้นทุกวัน จิตใจเริ่มกลับมาชอบ ๆ ผู้ชายได้แล้ว สัญญาทำงานก็จำได้ว่าลักษณะว่าผู้หญิงเป็นแบบนั้นแบบนี้จะคอยทำตาม

เรื่องราวของพี่เขาเป็นสิ่งที่บอกได้ว่ากรรมสามารถชนะได้จากการกระทำจริงๆ นึกถึงพี่เขาทำให้อิ่มอกอิ่มใจจริง ๆ ค่ะว่าเปลี่ยนได้ขนาดนี้ วันนั้นใจปีติตามตลอด ชีวิตยิ่งทำดีถูกทาง ยิ่งวิ่งหนีวิบากได้ไว การทำทานเปรียบเสมือนขี่มอเตอร์ไซค์ ถือศีลห้าเปรียบเหมือนขี่รถเก๋ง ภาวนาเปรียบเหมือนขี่เครื่องบิน เริ่มต้นขี่มอเตอร์ไซค์ก่อน หลังจากนั้นขยับขึ้นมาขับรถเก๋ง บางคนเคยทั้งขี่มอเตอร์ไซค์และขับรถเก๋งมาแล้ว ชาตินี้เกิดมาเลยเจอเครื่องบินเกิดความฉลาดขึ้นมาว่าถึงไวกว่าอย่างอื่นเลยถึงเร็วกว่าหน่อย ดังนั้นชาตินี้เกิดมาเจอศาสนาพุทธแล้ว เปรียบเสมือนเจอเครื่องบินแล้วไม่ขึ้นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะคะ

**************************************************************

รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์"
ขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน แวะไปร่วมฟังหมอพีร์พูดคุยและคุ้ยแคะแกะกรรม
ในบรรยากาศสบาย ๆ กับตอนใหม่ล่าสุดกันได้ทุกสองสัปดาห์
ที่ www.goodfamilychannel.com นะคะ

สำหรับฉบับนี้ ของดก่อนนะคะพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ

ท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. นะคะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร

?