ไดอารี่หมอดู - ฉบับที่ ๘๔

ไดอารี่หมอดูประจำฉบับที่ ๘๔
หมอพีร์
ธันวาคม ๒๕๕๒

สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่านไดอารี่หมอดู

สำหรับอาทิตย์นี้มีเรื่องราวน่าปลื้มมากเลยค่ะ ลูกค้าเก่าๆ ที่เคยดูดวงผ่านไปประมาณหนึ่งปีกลับมาดูดวงอีกรอบ ที่พวกเขากลับมาหาคราวนี้ ส่วนหนึ่งคือตั้งใจมาบอกว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ในลักษณะที่มีความสุขจากตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาความสุขจากคนอื่น แต่ละคนเริ่มปฏิบัติธรรมเป็น การปฏิบัติที่ถูกทางจะมุ่งเน้นการเรียนรู้ร่างกายและจิตใจของตัวเอง เมื่อเข้าใจจิตใจตัวเองได้บ้างแล้ว จะทำให้เกิดความเข้าใจในตัวตนของคนอื่นได้ จะไม่อยากให้คนอื่นเป็นอย่างที่ตัวเองคิดอีกแล้ว ลองสังเกตชีวิตดูนะคะ ส่วนหนึ่งคนเรามักจะเกิดความทุกข์เพราะแต่ละสิ่งไม่เป็นอย่างที่เราคิด พอไม่เป็นอย่างที่เราคิด จิตใจเลยทรมาน ดังนั้นพอเริ่มเข้าใจตัวเองเข้าใจคนอื่น ความทุกข์เลยน้อยลง ความสุขก็เพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา ความสุขที่แท้จริงต้องเกิดจากตัวเอง เมื่อไหร่พบความสุขที่เกิดขึ้นเองได้ในใจ อย่างน้อยจะมีตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ และพร้อมที่จะเป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้

จุดสูงสุดของการเป็นหมอดูของพีร์นั้น พีร์ไม่ได้อยากให้ใครกลับมาดูดวงซ้ำๆ หรือยึดถือว่าดวงต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ไม่ให้ดวงมากำหนดเส้นทางเดินชีวิตของตัวเราเอง อยากให้แต่ละคนมีความสุขได้จากตัวเอง มีธรรมะเป็นที่พึ่ง จิตใจจะไม่หวั่นไหวกับอนาคตแม้จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อจิตใจมีธรรมะเป็นที่พึ่งได้จริงๆ จะไม่กลัวที่ต้องเจอกับความโชคร้าย ไม่กลัวความทุกข์ที่จะเกิดขึ้น เพราะความทุกข์ความสุขแต่ละสิ่งล้วนผ่านมาและผ่านไปในที่สุดไม่เคยอยู่กับเราได้นาน

เวลาบนโลกผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยค่ะ อายุกำลังจะเพิ่มขึ้นอีกปีแล้ว สังเกตกันไหมคะว่าโลกเดินไปข้างหน้า ไม่เคยหมุนทวนย้อนเข็มนาฬิกาเลย ดั้งนั้นชีวิตของพวกเรากำลังเดินไปสู่อนาคต ไม่เคยย้อนกลับไปหาอดีต ดังนั้นอดีตไม่ว่าใครจะทำผิดพลาดอะไรไปแล้ว ให้สำนึกผิดแก้ไขปรับปรุงตัว เพิ่มความดีที่เป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยทำ อดีตไม่ได้มีไว้ตอกย้ำซ้ำเดิมให้ตัวเองเลวร้ายลงหรือเป็นการลงโทษจิตวิญญาณซ้ำ ๆ เพื่อให้ปัจจุบันเศร้าหมอง ไม่มีมนุษย์คนไหนที่ไม่เคยผิดพลาด อดีตที่ผิดพลาดจะสอนให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ดังนั้นต้องขอบคุณความทุกข์ทั้งหลายที่ผ่านเข้าในชีวิตนะคะ

มีอยู่วันหนึ่งขับรถไปกับน้องสาว อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า เคยเสียใจกับอดีตที่ผ่านมาไหมอยากกลับไปแก้ไขอะไรหรือเปล่า พีร์นั่งเงียบไปนิดหนึ่ง ค่อยๆ คิดย้อนกลับไป มองตัวเองที่ผ่านมาว่าโชคชะตาเหมือนเล่นตลกส่งให้ชีวิตเจอความเลวร้ายสารพัด ทั้งด้านการงาน การเงิน ความรัก โดนทุกเรื่อง ในใจตอนนั้นกลับไม่รู้สึกเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิตหรืออยากกลับไปแก้ไขอะไรเลย ใจรู้สึกว่าขอบคุณความเลวร้ายต่างๆ ที่ต้องพบเจอความทุกข์ และผลักดันให้เกิดจิตใจที่สนใจศาสนาเพราะถ้าชีวิตไม่มีความทุกข์ก็คงไม่สนใจที่จะศึกษาธรรมะเร่งทำความดีอะไรเลย คงจะปล่อยชีวิตไปวันๆ ทำงานหาเงิน ใช้เงินมีลูกมีครอบครัว แก่ตัวลงก็มานั่งเลี้ยงหลาน หลังจากนั้นก็รอให้ลูกหลานมาเลี้ยง ถ้าบังเอิญบุญมากลูกหลานก็ไม่บ่นเรา ถ้ากรรมมากก็อยู่อย่างลำบาก เห็นภาพแบบนี้แล้วขอทุกข์และเจอธรรมะตั้งแต่ต้นชีวิตดีกว่า เดี๋ยวแก่ไปไม่มีแรงเดินจงกรมอีก ตอบน้องไปสั้นๆ ว่าไม่มีอะไรที่อยากกลับไปแก้ไขเลย ถ้าไม่มีวันนั้นก็ไม่มีวันนี้

คนเราส่วนใหญ่มีชะตาที่จะเดินตามดวง หรือปล่อยให้ตัวเองเดินตามดวง ไม่ค่อยมีใครที่จะเหนือดวงได้ น้อยคนมากที่จะมีดวงที่เหนือดวงได้ แต่เท่าที่เป็นหมอดูมา คนส่วนใหญ่จะเหนือดวงได้ ตอนที่ดวงพาให้เจอะเจอความโชคร้าย เจอความทุกข์ สุดท้ายเริ่มมารักษาศีล เริ่มทำทาน เริ่มภาวนา ทำได้ตามนี้กรรมใหม่ก็จะเริ่มเหนือดวงเก่าได้แล้ว จะมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด จะมีน้อยคนมากที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เหนือดวงโดยไม่ผ่านความทุกข์มาก่อน

ดวงไม่เคยกำหนดชีวิตเราได้นะคะ ดวงเป็นแค่รหัสไขวิบากที่ผ่านมาเท่านั้น ว่าช่วงชีวิตไหนจะมีบุญให้ผล ช่วงชีวิตไหนบาปที่ทำมาจะให้ผล ล่าสุดมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสี่สิบต้นๆ มาดูดวงเพราะว่าเพื่อนเห็นพีร์ออกรายการทีวีวันก่อนนั้น เลยแนะนำพี่คนนี้ว่าเธอต้องไปดูดวงให้ได้นะ เพื่อนเห็นว่าเธอกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติของชีวิตอย่างใหญ่หลวงเลยแนะนำให้เธอมาดูดวง

วันที่เธอมานั่งที่โต๊ะความรู้สึกในตอนนั้นบอกได้ว่าเธอใจร้อนนิสัยเหมือนผู้ชาย คำนวณวันเดือนปีเกิดออกมา เห็นดาวเคราะห์สี่ตัวชนฐานทรัพย์สินทั้งหมดเลย ซึ่งแปลออกมาได้ง่ายๆ ว่าเป็นคนที่เก็บเงินไม่อยู่เลย ดวงไม่ได้ตกอับเรื่องการงาน เธอเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถในการทำงานหาเงิน เป็นผู้หญิงที่เก่งฉลาดไหวพริบดี ฐานการเงินเสียในดวงเธอมาจากวิบากเก่าๆ เรื่องเงินแค่นิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้มีเหตุการณ์หนักๆ อะไรทำให้ต้องเสียทรัพย์สินเลย นอกจากตัวเธอเองเป็นคนทำมันพังเองตลอด

พอเริ่มทายออกไปว่าดวงเธอมีปัญหาเรื่องการเงิน มีความทุกข์เรื่องเงิน เธอรีบพูดขึ้นมาว่าที่มาดูดวงวันนี้เพราะเรื่องเงินโดยตรงค่ะ อยากรู้ว่าเมื่อไหร่ชีวิตของพี่จะดีขึ้น หลุดพ้นจากการเป็นหนี้เสียที พี่ทุกข์มากกับการที่ต้องทำงานหาเงินหมุนเงินเพื่อให้ผ่านไปวันๆ พี่เขาบอกว่าอยากจะรู้ว่าไปทำบาปอะไรมานักหนาถึงทำให้ต้องเดือดร้อนเรื่องเงินขนาดนี้

ในตอนนั้นฉันนั่งเงียบไปสักพักสำรวจเข้าไปในดวง ในสิ่งที่เป็น พบว่าวิบากเรื่องเงินของเธอไม่ค่อยหนักเลยเพราะหาเงินเข้ามาได้ตลอด ตราบใดที่หาเงินได้อยู่แสดงว่ากรรมวิบากที่ทำมาเรื่องเงินไม่ได้เลวร้าย ถ้าเลวร้ายมาเธอต้องหาเงินเข้ามาไม่ได้เลยสินั่นแหละถึงจะน่ากลัว

สำรวจมาสุดทางได้ข้อสรุปอยู่อย่างหนึ่งคือเธอเป็นคนใจร้อน ใจใหญ่ อยากได้อะไรก็ซื้อไปหมด และสิ่งที่เธออยากได้ดันไม่ใช่ที่ดิน เครื่องเพชรเครื่องทองอะไรเลย จิตใจดีมากชอบช่วยเหลือคนอื่น ใครเดือดร้อนก็ช่วยแม้ตัวเองยังใช้หนี้ไม่หมด ไม่ประมาณกำลังตัวเอง ถลำลงไปในบุญ ตามใจลูกตามใจสามี ญาติพี่น้องใครอยากได้อะไรให้หมด บอกเธอไปตรงๆ ว่า ถ้าพี่มีพฤติกรรมการใช้เงินแบบนี้นะ ต่อให้พี่หาได้ร้อยล้านก็ไม่หมดหนี้หรอกค่ะ ดวงไม่ได้มีปัญหาจากวิบากเดิม แต่ดวงการเงินมีปัญหาเพราะการกระทำในปัจจุบัน ดังนั้นทางออกของปัญหาคือพี่ต้องทำระบบบัญชีใหม่ให้ได้ เริ่มต้นจากการควบคุมรายจ่ายที่ไม่จำเป็นให้ลดลง ไม่ตามใจคนในบ้านให้ซื้อของฟุ่มเฟือย ไม่ทำบุญเกินตัวเด็ดขาดคือไม่ให้คนอื่นยืมในสภาวะที่ตัวไม่มีแถมยังเป็นหนี้อยู่ หักห้ามใจตัวเอง ไม่ใช่อยากได้อะไรก็ซื้อไปหมด ให้เดินสักสามรอบค่อยซื้อของ พี่เขาทำหน้างงนิดๆ ว่านี่คือทางออกของดวงพี่เหรอคะ ไม่ใช่ต้องไปทำบุญที่นั่นที่นี่หรือต้องไหว้อะไรหรือคะถึงจะทำให้การเงินพี่ดีขึ้นใช้หนี้หมด ตอบไปว่าพี่ไม่ได้มีกรรมหนักเรื่องเงินขนาดหาเงินไม่ได้เลย เพราะการหาเงินไม่ได้เกิดจากความตระหนี่จึงต้องหัดทำทาน พี่ใจสปอร์ทเกินไป ทำบุญเกินตัวจนเบียดเบียนตัวเองด้วยซ้ำ ต่อไปนี้ถ้าตัวเองยังเดือดร้อนไม่ควรช่วยคนอื่น และต้องไม่ถลำลงไปในการทำบุญเกินตัว ไม่ใช่ใครมาชวนทำก็ทำหมดไม่ยั้งคิดเลย หรือทำเพราะเกรงใจเพื่อน ไม่ต้องใส่ซองเยอะๆ ทั้งที่ยังเป็นหนี้ ทำไปเพื่อรักษาหน้าตัวเองอย่างนี้ก็ไม่เอา ควรจะเบรกตัวเองเมื่อทำบุญเกินตัว ลองกลับไปแก้ไขตัวเองแบบนี้ถึงจะถูกทาง ถ้าแก้ไขจุดนี้ไม่ได้ พี่ก็ลุกขึ้นมาไม่ได้ พี่เค้ายังทำหน้างงๆ เพราะจริงๆ ต้องการคำแนะนำที่จะให้ไปแก้ดวง โดยทำพิธีแบบต่างๆ ที่แกคิดว่าจะช่วยเสริมบารมีให้ใช้หนี้ได้หมด

ความเป็นจริงการแก้พฤติกรรมที่ไม่ดีในชีวิตบางอย่างก็จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ในปัจจุบัน แต่มันเหมือนเส้นผมบังภูเขา มักจะไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเอง โทษคนอื่นตลอดทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดมีต้นตอมาจากตัวเองแท้ๆ

เพื่อนพีร์สองสามคน เงินเดือนของตัวเองกับแฟนน่าจะไม่เกินสองหมื่นห้า ทั้งคู่มีบ้านหลังเล็กหนึ่งหลัง รถหนึ่งคัน ส่งแม่ทุกเดือน มีลูกหนึ่งคน การดำรงชีวิตดีมาก คือข้าวของเครื่องใช้มักจะมียี่ห้อทั้งนั้นแต่ไม่ได้ซื้อบ่อย เป็นคนดูแลของดีมาก สวัสดิการส่วนตัวใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนตลอด ส่วนหนึ่งจะจัดไว้เที่ยวต่างจังหวัดพร้อมกับทำบุญ เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้รู้สึกดีค่ะ

ส่วนบางคนเงินเดือนเยอะกว่าเพื่อนพีร์อีกนะคะ แต่ไม่มีเงินเลี้ยงพ่อแม่เลย ฟังแล้วน่าหดหู่ใจมากเลยค่ะ เคยเห็นคนที่เงินเดือนไม่ถึงหมื่นยังดูแลพ่อแม่ได้ เขาดูแลตามฐานะทำให้ดำรงชีวิตได้ดี

เคยบอกน้องคนหนึ่งซึ่งเธอค่อนข้างลำบาก อายุประมาณยี่สิบห้านี่แหละค่ะ เธอเงินเดือนไม่ถึงหมื่น ดวงเธอการเงินเสีย ทรัพย์รั่วง่ายเพราะขาดสติในการใช้เงิน เลยแนะนำให้เธอเก็บเงินเป็นอะไรที่มั่นคงโดยให้หักไว้ตั้งแต่ต้นเดือน เช่นสลากออมสิน ฝากประจำ ให้แบ่งเงินเดือนหนึ่งเป็นสี่ส่วน หนึ่งแบ่งไว้ใช้ สองแบ่งไว้เก็บ สามแบ่งไว้ทำบุญเริ่มจากที่บ้านก่อน สี่แบ่งไว้ใช้หนี้เก่าภาระเก่าที่ติดค้างถ้าไม่มีก็ตัดออก หนี้เก่าไม่ได้หมายถึงหนี้ในอดีตชาติ เชื่อไหมค่ะว่าล่าสุดเธอมาเล่าให้ฟังว่าเธอมีเงินเก็บห้าหกหมื่นบาทแล้ว และคราวนี้เธอบอกว่าขอจ่ายค่าดูห้าร้อยบาทโดยไม่ต้องลดให้เธอนะ คราวก่อนเคยลดค่าดูให้เธอเพราะเห็นว่าเป็นเด็กดีเงินเดือนน้อย เลยคิดแค่สามร้อยหรือสองร้อยนี่แหละค่ะไม่แน่ใจเหมือนกัน เธอค่อนข้างขยันด้วยนะคะหาอาชีพเสริมมาทำเรื่อยๆ โดยไม่เกี่ยงว่าอาชีพนั้นจะต่ำต้อยในสายตาคนอื่น น่ารักมากค่ะ นึกถึงเขาพีร์จะยิ้มแก้มปริตลอดเพราะมาเจอกันทีไรเธอพัฒนาขึ้นทุกครั้งค่ะ

ชีวิตยามลำบากนั้นต้องอดทน ประหยัด จ่ายออกให้น้อยที่สุด ค่อยๆ สะสมเก็บออม หาทางเพิ่มรายได้ที่ใช้เงินลงทุนน้อยหรือไม่ใช้เงินลงทุนเลยก็ยิ่งดี ลองเทียบตัวเองกับคนที่ด้อยกว่าให้มากๆ ทำยังไงก็ได้อย่าเพิ่งอยากสร้างหนี้อะไรทับถมตัวเองให้เครียด ยิ่งเครียดยิ่งดึงดูดเรื่องไม่ดีให้เข้ามาหาได้ง่ายอีก ไม่มีหนี้ตัวจะเบาที่สุด เวลาอยากได้อะไรที่เกินฐานะตอนนั้นให้สอนตัวเองว่าอย่าเพิ่งใช้จ่ายเกินฐานะ คนรวย ๆ บางคนเขายังไม่ซื้อเลยเขาถึงรวย อย่าทำบุญเพื่อคิดว่าจะทำให้มีฐานะดีขึ้น เพราะจิตใจจะหวังผลตลอดเวลาที่ทำบุญ การทำบุญในตอนนั้นให้คิดว่าเป็นเพื่อช่วยคนที่ด้อยกว่าเรา หรือต้องการทำนุบำรุงศาสนา ไม่อย่างนั้นจังหวะที่ลำบากจะคิดว่าเมื่อไหร่บุญที่ทำมาจะให้ผลสักทีอุตสาห์ทำมาตั้งเยอะแล้ว

เหตุที่ทำให้การเงินมั่นคงนั้นมาจากปัจจัยหลายอย่างค่ะ แต่ส่วนหนึ่งคือต้องอดทน อดกลั้น ประหยัดอดออม คำนี้ยังใช้ได้ดีอยู่ค่ะ ต้องเริ่มถามตัวเองได้แล้วค่ะว่าคุณมีเงินเก็บบ้างหรือยัง อย่ารอเก็บเป็นก้อนทีเดียวนะคะ เท่าที่เห็นคนที่คิดว่ารอเก็บเป็นก้อนไม่มีใครเก็บได้สักทีมันยาก แค่ทีละนิดยังทำไม่ได้เลย ตอนนั้นมีเป็นก้อนจะรักษาได้เหรอ อย่ารอเก็บตอนที่มีมากๆ ให้เริ่มทีละน้อย เหมือนสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่ามีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท การเก็บทีละน้อยจะทำให้รู้จักการรักษาหวงแหน ทำให้ไม่เอาเงินออกมาใช้ง่าย และเงินเก็บต้องไม่เอามาใช้นะคะ ต้องฝึกหักห้ามใจไม่ใช้เงินเก็บให้ได้ ไม่อย่างนั้นเก็บเมื่อไหร่ก็หมดทุกทีค่ะ

**************************************************************

ต้องขออภัยแฟน ๆ รายการวิทยุออนไลน์ "คุ้ยแคะแกะกรรมกับหมอพีร์" ด้วยนะคะ
ฉบับนี้อัพไฟล์ใหม่ไม่ทันค่ะ ^ ^! แต่ถ้าท่านใดยังไม่เคยฟังไฟล์เก่าล่ะก้อ
ขอเชิญแวะไปฟังกันได้ที่ http://www.goodfamilychannel.com นะคะ

ส่วนท่านที่สนใจพูดคุยกับหมอพีร์ในรายการ
ส่งคำถามมาได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ค่ะ

หรือติดต่อดูดวงกับหมอพีร์ได้ที่
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๐๘๗-๙๓๔-๗๘๗๑ และ ๐๘๖-๓๐๔-๑๙๒๔
๓๗๙๘/๘๓ หมู่บ้านสรานนท์ ซอยลาดพร้าว ๑๐๑
ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ
กรุงเทพมหานคร