Print

แง่คิดจากหนัง - ฉบับที่ ๑๑๓

Die Sterntaler – เหนือกว่าคำว่า รัก

ชลนิล

movie-133-1

รูปภาพประกอบจาก http://pyjclub.com/board/lofiversion/index.php?t567.html

 

ในวัยหนุ่มสาว เรามักคิดว่า ความรักสำคัญที่สุด
รักสร้างโลกสดใส งดงาม
รักทำให้หัวใจเบ่งบาน พองฟู
ความรักคือทุกสิ่ง...
และ เรา...มักทำ ทุกสิ่งเพื่อหา ความรัก

ผมไม่รู้ว่าความรัก สำคัญขนาดนั้นจริงหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่ามีบางสิ่ง เหนือกว่าคำว่ารัก

Die Sterntaler หรือชื่อไทย สวรรค์ลำเอียงเป็นซีรีย์ญี่ปุ่นที่โด่งดังมาก ๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อน มีความยาวสองภาคจบสมบูรณ์

ผมเพิ่งมีโอกาสหยิบซีรีย์เรื่องนี้มาดูใหม่อีกครั้ง แล้วประทับใจกับคำพูดที่เป็นบทสรุปในภาคสอง จนนึกอยากเขียนถึงซีรีย์เรื่องนี้ขึ้นมา

สวรรค์ลำเอียงในภาคแรก เล่าถึงอายะ เด็กสาวกำพร้า พิการหูหนวก เป็นใบ้ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่มีจิตใจงดงาม เอื้อเฟื้อ เป็นที่รักของทุกคนรอบตัว

อายะพบรักกับชูอิจิ คุณหมอหนุ่มใจอารีที่มาทำงานเป็นหมอบ้านนอก (เมืองฮอกไกโด) เขาสัญญากับเธอว่า พอไปทำธุระที่โตเกียวเสร็จแล้ว จะรีบกลับมาแต่งงานกับเธอ

อายะรอคอยชูอิจิอยู่นาน โดยไม่ทราบข่าวคราว เธอจึงออกเดินทางจากฮอกไกโด เพื่อตามหาชูอิจิที่โตเกียว ตระเวนหาจนกระทั่งได้พบอย่างลำบาก แต่ทว่า...ทุกสิ่งกลับไม่เป็นอย่างที่เธอคาดหวังไว้

คุณหมอชูอิจิที่เคยใช้ชีวิตเรียบง่าย สมถะในบ้านนอก กลับเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองหลวง และเขาไม่อาจจดจำอายะได้เลย เพราะเมื่อตอนเดินทางกลับมาถึงโตเกียวนั้น ชูอิจิเกิดอุบัติเหตุ ความจำเสื่อม หนำซ้ำ ช่วงเวลานั้น ก็มีผู้หญิงอีกคนสวมรอยเป็นคนรัก เข้ามาปรนนิบัติ ดูแล จนชูอิจิเชื่อ และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว

อายะเฝ้ารอคอยให้ความทรงจำของเขากลับคืน เพื่อต้องการคำยืนยันจากเขาว่าไม่ต้องการเธออีก...ระหว่างนั้น ก็มีทาคุมิคุณหมอหนุ่ม น้องชายต่างมารดาของชูอิจิ ได้มาใกล้ชิด ดูแล และหลงรักอายะอีกคน

ไม่ว่าหมอทาคูมิจะมีความจริงใจ และดีต่อเธอแค่ไหน อายะก็ไม่สามารถรับความรักจากเขาได้ จนกระทั่งชูอิจิความจำกลับคืน จดจำความรักที่มีต่ออายะได้

เรื่องราวน่าจะสมหวังแต่กลับพบอุปสรรคสำคัญยิ่ง

ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายชูอิจิมาตลอดตอนเขาความจำเสื่อม กำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา แต่ชูอิจิก็พร้อมที่จะทอดทิ้งทุกสิ่งแล้วกลับฮอกไกโดพร้อมกับอายะ

ถึงเวลานี้อายะต้องเลือกระหว่าง ความรัก และคุณธรรม

ความรักที่เธอตามหามาตลอดชีวิต
การได้อยู่ร่วมกับผู้ชายที่เธอรัก และเขาก็รักเธอมาก
แต่...
เธอต้องทิ้ง คุณธรรมและ สำนึกดีไป

ไม่ว่าอายะจะรักชูอิจิมากแค่ไหน เธอก็ไม่อาจทำร้ายหัวใจผู้หญิงคนหนึ่ง และเด็กที่กำลังจะเกิดมาอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้

เธอจึงยอมตัดใจจากชูอิจิ เดินทางกลับฮอกไกโดเพียงผู้เดียว ด้วยจิตใจเด็ดเดี่ยวที่รู้ว่าตนเองได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง สมควรแล้ว

ภาคนี้จบลงตอนที่ทาคุมิยอมทิ้งความก้าวหน้าของการเป็นหมอในเมืองหลวง ตามอายะไปเป็นหมอบ้านนอกอยู่ที่ฮอกไกโด พร้อมกับบอกเธอว่า...เขาจะอยู่ที่นี่ และรอเธอ...รอวันที่เธอหันมารักเขา...โดยให้เวลาแก่อายะ...ไม่เกินร้อยปี...

ในภาคนี้สรุปชัดเจนถึงบางสิ่ง ที่เหนือกว่าคำว่า รักนั่นคือ คุณธรรมถึงอายะจะรักชูอิจิมากแค่ไหน เธอก็กล้าสละเขาออกไปได้ ถ้าเห็นว่ามันขัดต่อคุณธรรมในใจ

ตอนท้ายเธอก็ได้รับรางวัลตอบแทน ด้วยการมีผู้ชายที่ดีไม่แพ้กันอีกคนมาอยู่ใกล้ ๆ ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อไปเยียวยาหัวใจให้เธอ

อาจเป็นเพราะกระแสของซีรีย์ชุดนี้มันแรงมาก ทำให้ต้องมีภาคสองตามออกมาเพื่อให้ผู้ชมหลายคนได้ดูบทสรุป ซึ่งตอกย้ำถึงประเด็นเดิมอีกครั้ง...ว่ามีอะไรที่มั่นคง และมีค่ากว่าความรักอีกหรือไม่?

ภาคสอง เป็นเหตุการณ์อีกเกือบปี หลังจากจบภาคแรก...
ทาคุมิทำงานเป็นหมอที่ฮอกไกโดอย่างมีความสุข โดยมีอายะเป็นพยาบาลผู้ช่วย
ถึงอายะจะยังไม่รับรักเขา แต่ความผูกพันระหว่างกันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งสองมีเหตุให้ต้องมาที่โตเกียว... และเป็นจุดเริ่มต้นของอุปสรรค เหตุการณ์วัดใจ ในรักสามเส้าอีกครั้ง...

ภรรยาของชูอิจิเสียชีวิตจากการคลอดลูก ทำให้เขาเป็นโสด พร้อมที่จะกลับไปหาอายะได้อย่างไม่มีพันธะ ส่วนอายะก็ลังเลใจ ระหว่างความรัก ความดีที่หมอทาคุมิมีให้ กับความรักที่ตนยังไม่อาจลืมต่อชูอิจิ

ทาคุมิกลับเป็นฝ่ายเลือก เดินออกจากสมรภูมิรัก เขายินดีให้พี่ชายตน ตามอายะไปอยู่ฮอกไกโด ส่วนตนเองจะรับผิดชอบดูแลโรงพยาบาลในโตเกียวเอง

แต่อุปสรรคก็ยังไม่หมดแค่นี้ ทาคุมิโดนผู้ร้ายกลั่นแกล้งจนเกิดอุบัติเหตุ ต้องนั่งรถเข็น ไม่สามารถเดินได้ อายะต้องตัดใจจากชูอิจิอีกครั้ง เพื่อมาอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจให้ทาคุมิยืนหยัดได้อีกครั้ง

หลังจากที่ทาคุมิเข้มแข็ง ยอมรับสภาพตนเองได้แล้ว เขาก็รู้ว่าถึงอย่างไร อายะก็ไม่อาจมอบหัวใจให้ เขาจึงเป็นฝ่ายผลักไสเธอให้กลับไปหาพี่ชายของตนเอง

เรื่องราวน่าจะจบลงได้ แต่ก็ยังมีอุปสรรคอื่นอีก สมกับชื่อเรื่อง สวรรค์ลำเอียง

อายะได้รับอุบัติเหตุที่ดวงตา ทำให้มองไม่เห็น คนที่หูหนวก เป็นใบ้เช่นเธอ พอสูญเสียประสาทสัมผัสทางตา ก็เหมือนถูกตัดขาดจากโลก เธอปิดกั้นตัวเอง ไม่เปิดรับใคร นั่งนิ่งเสมือนคนไม่มีวิญญาณ

เวลานี้มีเพียงชูอิจิคนเดียว ที่สามารถเข้าไปฉุดดึงอายะให้ออกมาสู่การรับรู้ต่อผู้คนได้ และด้วยความรัก ความจริงใจของเขา ทำให้อายะยอมก้าวออกมาจากโลกที่ปิดสนิท มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน จนพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์

งานแต่งงานนี้ น่าจะเป็นบทส่งท้ายอันแสนสุข ถึงแม้อายะจะตาบอด หูหนวก และเป็นใบ้ แต่เธอก็ได้รับความรักอย่างล้นเหลือจากผู้ชายที่แสนดี และสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ผ่านการสัมผัสมือ

ระฆังวิวาห์ดังกังวาน เจ้าสาวยืนคอยเจ้าบ่าวอยู่เนิ่นนาน กว่าเขาจะเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับบาดแผลฉกรรจ์!

หมอชูอิจิโดนผู้ร้ายที่คิดว่าจมน้ำตายไปแล้ว กลับมาแทงเขาก่อนที่จะไปเข้าโบสถ์ งานที่น่าจะมีความสุขกลายเป็นวันวิปโยค รอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นทะเลน้ำตา

ไม่มีใครกล้าบอกอายะว่าชูอิจิตายแล้ว ทุกคนบอกแค่ว่า...งานแต่งงานต้องเลื่อนออกไป เพราะมีดวงตามาบริจาค พร้อมจะเปลี่ยนให้เธอโดยด่วน

อายะเข้าผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา โดยไม่อาจรู้เลยว่า เจ้าของกระจกตานั้นคือชูอิจิ!

หลังจากมองเห็นอีกครั้ง อายะจึงได้รับข่าวเศร้าสะเทือนใจอย่างที่สุด...ซึ่งเธอคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกเลย ถ้าหากไม่รู้ว่า ในครรภ์ของตน มีลูกของชูอิจิอยู่

สุดท้ายอายะก็เดินทางกลับฮอกไกโดแต่เพียงผู้เดียว โดยทาคุมิไม่อาจติดตามไปได้ เพราะเขารู้แล้วว่า...จากนี้ไป หัวใจของอายะย่อมไม่มีที่ว่างสำหรับเขาอีก

ถึงอย่างนั้น คำพูดของทาคุมิในตอนจบ ก็บอกว่าเขาได้พบกับบางสิ่งที่สำคัญกว่าความรักแล้ว

บางครั้ง ก็มีสิ่งที่มั่นคงกว่าความรัก เพราะเมื่อเรารักใคร ก็อาจจะเรียกร้องการตอบสนองเข้าสักวัน...แต่ ความปรารถนาดีนั้นไม่ใช่ มันไม่จำเป็นเลย เพราะเพียงแค่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขอยู่ห่าง ๆ ก็พอแล้ว...เป็นเสมือนดาวบางดวง ที่ไม่ยอมตกจากฟ้าลงมาง่าย ๆ

ความรักมักต้องการ ให้ตอบสนอง ความรักตอบ
เมื่อไม่ได้รับ...มักเป็นทุกข์...กระวนกระวายใจ

ส่วน ความปรารถนาดีกลับไม่เป็นเช่นนั้น
มันดูคล้ายก้อนเมฆที่ลอยอยู่ไกล ๆ คอยบังแดด กันความร้อน
เป็นเสมือนดวงดาวที่แลลิบ ๆ คอยบอกทางในคืนแรม

ใจที่ปรารถนาดีอย่างแท้จริง ย่อมไม่อาจเป็นทุกข์ง่ายดาย
เพราะเมื่อไม่คาดหวัง ก็ย่อมไม่ผิดหวัง...

เหนือกว่าคำว่ารัก...คือมีหัวใจอันเปิดกว้าง ไม่แปดเปื้อนด้วยกิเลส
หัวใจเช่นนั้น ย่อมกว้างขวาง ไร้ขอบเขต ด้วยเมตตา...ความปรารถนาดี...