Print

แง่คิดจากหนัง - ฉบับที่ ๙๙

Coco Avant Chanel โคโค่ ก่อนโลกเรียกเธอ ชาเนล

โดย เมเปิ้ล

 

movie099-01

ภาพยนตร์ที่เข้าฉายเพียงบางโรงภาพยนตร์เมื่อช่วงปลายปี ๒๐๐๙ ที่ผ่านมา เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เนื้อเรื่องอ้างอิงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของโคโค่ ชาเนล เรื่อง L'irreguliere ou mon Itineraire Chanel เขียนโดย เอ็ดมอนด์ ชาร์ลส-โรซ์ (เนื้อหามีการนำเสนอตอนจบของภาพยนตร์ อาจทำให้เสียอรรถรสได้)

เรื่องเริ่มต้นตั้งแต่สมัยที่โคโค่หรือชื่อจริงที่พ่อแม่ตั้งให้คือ กาเบรียล ยังเป็นเด็ก หลังจากที่แม่ตาย พ่อส่งตัวเธอพร้อมพี่สาวไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ และไม่เคยกลับมาหาเธอทั้ง ๒ คนอีกเลย กาเบรียลเสียใจมากจนทำให้เกิดปมขึ้นในใจที่ส่งผลให้เธอมีมุมมองและบุคลิกภาพที่แข็งกร้าวในเวลาต่อมา

วันเวลาผ่านไป เมื่อทั้งสองเติบโตขึ้นก็หาเลี้ยงชีพในตอนกลางวันด้วยการเป็นช่างเย็บผ้าซ่อมผ้าในร้านที่มีชื่อเสียง ส่วนในตอนกลางคืนก็ไปเต้นระบำโชว์อยู่ในผับเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพอีกทาง ทั้งคู่มีชีวิตอย่างยากลำบาก พี่สาวของกาเบรียลนั้นหลงรักอยู่กับบารอนคนหนึ่งในขณะที่กาเบรียลไม่เคยเชื่อมั่นในความรักระหว่างหญิงชายเลย

วันหนึ่งในขณะที่แสดงโชว์เสร็จแล้วนั้นบารอนซึ่งคบอยู่กับพี่สาวก็พาเพื่อนซึ่งเป็นเศรษฐี ชื่อ บัลซาน (Etienne Balsan) มาเที่ยวด้วย บัลซานสนใจในตัวกาเบรียลและเป็นคนแรกที่เรียกกาเบรียลว่า "โคโค่" ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากชื่อลูกสุนัขในการแสดงของเธอนั่นเอง กาเบรียลไม่ได้ชอบชื่อนี้นัก

ต่อมาพี่สาวผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมยากมาด้วยกันตัดสินใจจะไปอยู่กับบารอนที่เป็นคู่รักเพื่อชีวิตที่สุขสบายขึ้นแม้ว่าจะยังไม่มีการแต่งงานกันก็ตาม ทำให้กาเบรียลต้องแสดงโชว์เพียงคนเดียว ทำให้โชว์ของเธอไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เธอจึงมีอาชีพเหลือเพียงแค่เป็นช่างเย็บผ้าเท่านั้น ฐานะทางการเงินก็แย่ลง และเมื่อบัลซานมาบอกลาเธอในวันหนึ่งเพื่อกลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ที่ปารีส คืนนั้นกาเบรียลก็ตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าและใช้เงินเก็บที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดเป็นค่ารถม้าไปหาบัลซาน โดยทำทีว่าไปหาพี่สาวที่ย้ายมาอยู่บ้านในละแวกนั้น แต่หาไม่เจอเลยแวะมาเยี่ยมบัลซาน

กาเบรียลได้รับการต้อนรับอย่างดีในฐานะแขก แต่เมื่อวันรุ่งขึ้นบัลซานจะให้รถไปส่งที่บ้านพี่สาว เธอกลับไม่ยอมไป ทำให้บัลซานเข้าใจในทันทีว่ากาเบรียลจะมาเกาะเขากิน เขาจึงวางกฎเกณฑ์เอาไว้ เช่น ให้กาเบรียลอยู่แต่ในห้องเวลาเพื่อนเขามา เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขาเลี้ยงผู้หญิงเอาไว้ในบ้าน พวกคนรับใช้ก็ไม่ให้เกียรติเธออีกต่อไป

กาเบรียลมีชีวิตที่ทุกข์ใจแสนสาหัส แม้ว่าจะอยู่ในคฤหาสน์ที่แสนสบาย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่เธอปรารถนามาตลอด แต่เธอก็ไม่ได้รักบัลซานเลยแม้แต่น้อย เธอมาอยู่กับเขา เป็นนางบำเรอให้เขาเพียงเพราะไม่อยากลำบากเหมือนที่ผ่านมา และต้องการแสดงให้พี่สาวและคนภายนอกเห็นว่าเธอมีความเป็นอยู่ที่ดีและสุขสบายกว่าแต่ก่อน

เพียงเพราะความอยากได้ อยากมี อยากเป็นในสิ่งที่ตนไม่มี หลีกหนีไม่ยอมรับอดีตของตนเอง เธอจึงต้องฝืนทนกล้ำกลืนเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของบัลซาน แต่ด้วยนิสัยที่เป็นคนแข็ง ไม่ยอมใคร ออกจะติดหยิ่งและเชื่อมั่นในตัวเองสูง กาเบรียลจึงทำทุกวิถีทางให้ตัวเองเด่นขึ้นมา เช่น ทำเป็นบังเอิญให้เพื่อนๆของบัลซานเห็น แม้ว่าแรกๆจะไม่เป็นที่พอใจของบัลซานที่กาเบรียลฝ่าฝืนคำสั่ง แต่ก็จำเป็นต้องแนะนำให้ทุกคนรู้จักเธอ แต่เพื่อนๆของบัลซานหัวเราะเยาะเธอ เพราะเธอไม่มีเสื้อผ้าสวยๆทันสมัยใส่ และมักทำตัวแปลกแยก ด้วยการตัดเสื้อผ้าแปลกๆใส่เอง

เวลาผ่านไป กาเบรียลเริ่มหัวแข็งและไม่ยอมบัลซานง่ายๆ จนเขาเริ่มไม่พอใจเธออยู่เสมอ ด้วยความอึดอัดวันหนึ่งเธอก็เก็บเสื้อผ้าหนีออกจากคฤหาสน์ของบัลซานไปหาพี่สาว แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า พี่สาวก็กำลังลำบาก เพราะครอบครัวของคนรักไม่เคยยอมรับเธอเลยที่มีฐานะยากจนและเป็นเด็กกำพร้า เมื่อเห็นอย่างนั้นกาเบรียลเลยตัดสินใจกลับมาหาบัลซานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กาเบรียลได้พบชายผู้ที่เปลี่ยนชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอไป

อาร์เธอร์ คาเปล หรือ บอย เป็นเพื่อนใหม่ของบัลซาน ที่กาเบรียลรู้สึกถูกชะตามาก เพียงไม่กี่ครั้งที่พบกัน ทั้งสองก็แอบมีอะไรกัน และความรู้สึกที่ปิดไม่มิดของทั้งสองทำให้บัลซานรับรู้ว่ากำลังจะเสียกาเบรียลไป

บอยเคยออกปากขอยืมตัวกาเบรียลไปเที่ยวสองต่อสองที่ชายทะเล และบัลซานก็อนุญาต เป็นช่วงเวลาที่กาเบรียลมีความสุขมาก เขาไม่เคยบังคับกาเบรียลเลย ปล่อยให้กาเบรียลทำทุกอย่างได้ดังใจต้องการ ไม่ว่าจะแต่งตัวแปลกๆแค่ไหนเขาก็มักจะสนับสนุนและมองเธอด้วยสายตาชื่นชมอยู่เสมอ กาเบรียลมีความหวังอยู่ในใจลึกๆว่าจะลงหลักปักฐานกับชายคนนี้ ชายคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่ารักแท้มีจริง คนที่ทำให้คนมองโลกในแง่ลบอย่างกาเบรียลเห็นมุมมองใหม่ๆว่าโลกนี้ก็ยังมีอะไรที่สดใสอยู่

ทั้งๆที่แต่แรกบัลซานไม่ได้รักกาเบรียล แต่เมื่อกำลังจะสูญเสียเธอไป คืนหนึ่งบัลซานก็ตัดสินใจบอกความจริงกับกาเบรียลว่าที่จริงแล้วบอยไม่ได้รวยเลย แต่เพราะบอยกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวมหาเศรษฐีถ่านหินต่างหากที่ทำให้บอยมีฐานะที่ดี มีคนยอมรับ กาเบรียลไม่เชื่อ คิดว่าบัลซานใส่ร้ายบอย ดังนั้นเมื่อบัลซานขอเธอแต่งงานพร้อมจะมอบชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เธอจึงปฏิเสธไปและว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาใครทั้งนั้น

เมื่อผิดหวังจากความรัก กาเบรียลจึงเริ่มวางแผนสร้างเนื้อสร้างตัว ทำงานเลี้ยงตัวเอง แต่บัลซานไม่ชอบใจนัก ผู้ชายในสมัยนั้นมีความคิดว่าผู้หญิงมีหน้าที่แค่ดูแลบ้าน รับแขก และสร้างความบันเทิงเท่านั้น บัลซานเชื่อว่าคนที่ทำงานคือพวกยากจนกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว แต่เขามีมรดกอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องทำงานก็มีกินมีใช้อย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งเป็นสิ่งที่กาเบรียลรับไม่ได้ เพราะชีวิตที่ผ่านมาเธอมีงานทำมาตลอด

บอยลงทุนเปิดร้านขายหมวกให้กับกาเบรียล ธุรกิจไปได้สวย ต่อมาเธอได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นที่ในยุคนั้นผู้หญิงจะนิยมใส่คอร์เซ็ทและรัดให้แน่นโดยเฉพาะเอวเพื่อทำให้เอวเล็กที่สุดเท่าที่จะเล็กได้ แต่นั่นกลับทำให้อึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก บางคนถึงขั้นเป็นลมเลยทีเดียว เสื้อผ้าของกาเบรียลจึงเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบายๆไม่มีคอร์เซ็ท และส่วนใหญ่เป็นแนวทำงานที่ดูเรียบๆแต่คล่องตัว

เมื่อธุรกิจไปได้ดี ความรักก็ไปได้สวยเพราะบอยยังคงแวะเวียนมาหาเธออยู่เสมอแม้จะแต่งงานไปแล้วก็ตาม จนทั้งสองวางแผนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกัน สวรรค์กลับลิขิตให้บอยต้องประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตไป กาเบรียลเสียใจมาก เธอจึงหันไปทุ่มเทชีวิตทั้งหมดให้กับงานจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต

ถ้ามองลึกเข้าไปในเรื่องราวชีวประวัติของเธอจะพบว่า การที่เธอไม่รู้จักให้อภัยพ่อที่ทิ้งเธอไป ทำให้ชีวิตเธอต้องพบกับความทุกข์อย่างแสนสาหัส แม้ว่าที่จริงแล้ว ความทุกข์ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากตัวเธอเองทั้งนั้น เพราะถ้าเพียงเริ่มแรกเธอรู้จักให้อภัยในความผิดของพ่อที่ถึงอย่างไรก็เป็นผู้ให้กำเนิดเธอ เธอก็จะไม่ต้องทุกข์ใจ ตกอยู่ในนรกที่มีแค่ในใจเธอเท่านั้นไปตลอดชีวิตอย่างนี้ จนเป็นตัวผลักดันให้เธอทำอะไรที่ผิดศีลธรรมในเวลาต่อมา

ดังเช่นที่เรามักจะได้ยินคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่กล่าวว่าการให้อภัยเป็นหนึ่งในบุญที่ทำยากเพราะถ้าเราไม่ลดทิฐิ มานะ อัตตาตัวตนของเรา ความอาฆาต พยาบาท ก็คงยากที่จะสามารถให้อภัยใครก็ตามที่ทำร้ายเราไม่ว่าทางกายหรือใจได้ ทั้งๆที่การให้อภัยเป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลงทุนเลย ทำได้ทั้งคนยากคนจน หรือแม้กระทั่งคนร่ำรวยล้นฟ้า แต่กลับเป็นการทำบุญที่น้อยคนนักจะทำได้ เพราะความเจริญทางวัตถุที่เข้ามาทำให้เราคิดว่าการใช้เงินทำทุกอย่างแทนเรามันแสนจะสะดวกสบาย และเราก็ได้บุญด้วย ไม่ว่าที่จริงแล้วบุญที่เกิดจากการทำอย่างนั้นจะได้มากหรือน้อย เราก็ไม่เคยที่จะไปใส่ใจ

การให้อภัยแม้ว่าเริ่มต้นจะทำได้ยาก แต่เมื่อเราฝืนทำไปสักระยะ เราจะสามารถปล่อยวางความโกรธได้มากขึ้น บางคนเมื่อเริ่มหัดให้อภัยอาจจะทำได้เพียงคำพูดว่า ฉันให้อภัยเธอนะ แต่ในใจอาจจะยังมีความเจ็บแค้นอยู่ แต่เพียงแค่ได้เริ่มต้น นั่นก็เป็นนิมิตหมายที่ดีแล้วว่าในวันหนึ่ง คุณจะสามารถให้อภัยคนๆนั้นได้ทั้งกาย วาจา และใจ

ทุกอย่างต้องการเพียงการเริ่มต้น วันนี้คุณเริ่มแล้วหรือยังที่จะให้อภัยใครสักคนที่ทำให้คุณเจ็บ ผิดหวัง อาฆาตแค้น ไม่ว่าเขาคนนั้นจะยังอยู่ในโลกนี้หรือไม่ ไม่ว่าเขาจะรับรู้หรือเปล่า แต่เมื่อคุณให้อภัยใครสักคน ใจของคุณเองจะได้รับการปลดปล่อย มันจะเบาสบายขึ้น มีความทุกข์ลดน้อยลง ใครที่ไหนก็ไม่สามารถช่วยทำเรื่องนี้แทนคุณได้ นอกจากตัวของคุณเอง

แม้สุดท้ายกาเบรียลจะพบกับความร่ำรวยสุขสบายทางกาย แต่เธอทุ่มเทชีวิตให้กับงานจนไม่อยากจะมีวันหยุด เพียงเพราะเวลาเธออยู่คนเดียวหรือพักจากงาน เธอจะเฝ้าคิดถึงอดีต จมอยู่ในความทุกข์ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้เธอไม่คิดถึงมันก็คือ การไม่มีเวลาว่างนั่นเอง

ในวันสุดท้ายของชีวิต เธอจากไปเพียงลำพังกับความทุกข์ที่แบกมาตลอดชีวิต แต่เรื่องราวอันเป็นตำนานของเธอและห้องเสื้อของเธอยังคงอยู่และยังเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกที่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้หญิงทั่วทุกมุมโลก