Print

แสงส่องใจ - ฉบับที่ ๓๘๐

 sungaracha

 sangharaja-section

๔๕ พรรษาของพระพุทธเจ้า

 เทศนานิพนธ์

ใน

สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก

 

ธรรมะประดับใจ

 

๗.การอบรมจิตใจตนเอง

                   ทุกคนอยากเป็นคนดี น่าจะเชื่อได้ว่าเป็นความจริงเช่นนี้อย่างแน่นอน แต่ก็มีปัญหาแย้งได้ว่าทำไมเมื่อทุกคนอยากเป็นคนดีแล้วไฉนจึงยังมีคนไม่ดีอยู่อีกเป็นจำนวนไม่น้อย จะว่าทุกคนไม่รู้ว่าการทำอย่างไหนจึงจะเป็นคนดี การทำอย่างไหนจะเป็นคนไม่ดี ก็ไม่น่าเป็นไปได้ ทุกคนรู้ว่าการทำเช่นไรเป็นการทำของคนดี ที่จะทำให้เป็นคนดี การทำเช่นไรเป็นการกระทำของคนไม่ดีที่จะทำให้เป็นคนไม่ดี แต่ทั้งรู้ก็ยังมีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่ไม่หลีกเลี่ยงการทำไม่ดี และทำแต่ที่ดี ปัญหาว่าทำไมจึงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ แม้ว่าจะมีการแก้ปัญหานี้อยู่แล้วเสมอก็ยังมี ผู้ตั้งปัญหาเช่นเดิมอยู่นั้นเอง

                   คงจะได้ยินกันมาแล้วที่ท่านกล่าวไว้ว่า คนดีทำดีได้ง่าย ทำชั่วได้ยาก แต่คนชั่วทำชั่วได้ง่าย ทำดีได้ยาก และคนเรานั้นปกติไม่ชอบทำอะไรที่ยาก มักชอบทำแต่ที่ง่าย ดังนั้นคนที่ทำดีกันอยู่จึงเป็นคนดีแท้ ๆ นั่นเอง ส่วนคนที่ทำไม่ดีนั้น ก็เป็นคนที่อยากเป็นคนดี อยากทำดีเหมือนกัน แต่เมื่อการทำไม่ดีสำหรับเขาเป็นการทำง่าย เขาจึงทำไม่ดีทั้ง ๆ ที่อยากจะทำดี เป็นความแตกต่างของคนดีคนชั่วเช่นนี้ แต่การทำได้ง่ายหรือทำได้ยากนั้นไม่สำคัญไปกว่าความตั้งใจจริงที่จะทำ แม้การทำดีจะยากสำหรับบางคน แต่ถ้ามีความตั้งใจจริงที่จะทำแล้ว ทุกคนย่อมทำได้ฉะนั้น ความตั้งใจจริงนั่นแหละสำคัญ ความตั้งใจจริงนั่นแหละที่จะทำให้สามารถทำความดีได้ไม่ว่าจะเป็นการลำบากเพียงใด การฝึกอบรมก็คือการพยายามตั้งใจไว้ให้แน่วแน่ว่าจะทำดีทุกอย่าง จะไม่ทำอะไรก็ตามที่ไม่ดี ตั้งใจไว้ให้มั่นคงเข้มแข็งเช่นนี้แล้วจะสามารถทำดีได้ มีหนทางง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถจะได้ก็คือทุกเช้าให้ตั้งใจสัญญากับตัวเองนั่นแหละ ว่าตลอดวันนั้นจะทำทุกอย่างเป็นการดี จะไม่ทำทุกอย่างที่เป็นการไม่ดี และตลอดวันนั้น หรือตลอดทุกวันนั่นเอง ให้มั่นนึกถึงความตั้งใจที่ตนได้สัญญาไว้กับตนเองในตอนเช้านั้น แล้วมีสติรักษาความตั้งใจไว้ให้ได้ อย่าให้แปรเปลี่ยนไปเสียไม่ว่าจะมีอะไรมาล่อใจเพียงไรก็ตาม เพียงเท่านี้ก็สามารถจะทำดีไม่ทำไม่ดีตลอดไปได้ชั่ววันหนึ่ง ๆ นับเป็นการฝึกจิตโดยตรงที่ทุกคนไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กก็ตาม สามารถทำได้ จึงน่าจะทำ และน่าจะเริ่มทำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทีเดียว ไม่ต้องผัดวันประกันพรุ่งต่อไป การทำดีนั้นทำเมื่อใดจะให้ผลดีแก่ผู้ทำเมื่อนั้นทันที ผู้ใดจะเห็นชัดหรือไม่เห็นเลยก็ตาม แต่ผลของการกระทำคือกรรมเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คือให้ผลแก่ผู้ทำทันทีเช่นนั้นจริง ๆ การเชื่อในเรื่องของกรรมและการให้ผลของกรรมให้ถูกต้อง ให้ตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ นับเป็นการฝึกจิตที่สำคัญที่สุด จะก่อให้เกิดผลดีอย่างกว้างขวางและเป็นผลล้ำเลิศอย่างที่เปรียบมิได้ จึงขอแนะนำให้พยายามเชื่อว่าผู้ทำกรรมดีจักได้รับผลดีและผู้ทำกรรมชั่วจักได้รับผลชั่วแน่นอน

                   อนึ่ง บรรดาผู้ที่อยากเป็นคนดี คืออยากทำความดีไม่อยากทำความชั่วทั้งหลายและต้องการจะทำเช่นนั้นให้ได้จริง ขอแนะนำว่าควรอบรมจิตให้เชื่อในเรื่องของกรรมดังกล่าวแล้วให้มั่นคง เชื่อว่ากรรมดีจักให้ผลดี กรรมชั่วจักให้ผลชั่ว ผู้ใดทำกรรมใดไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น แล้วความเชื่อมั่นนั้นจะทำให้ดำเนินไปสู่ความสำเร็จสมปรารถนาคือสามารถเป็นคนดีได้ด้วยการทำแต่กรรมดีไม่ทำกรรมชั่ว แม้ว่าในระยะต้นจะยังไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยตนเองว่ากรรมดีจักให้ผลดี กรรมชั่วจักให้ผลชั่ว การอบรมจิตโดยตรงก็ต้องพยายามเชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าไว้ก่อนพระพุทธเจ้าทรงสอนไว้เช่นนี้ เชื่อพระพุทธเจ้าไว้ก่อน ให้แน่วแน่มั่นคง นั่นแหละจะช่วยให้เป็นคนดีได้สมปรารถนาแน่นอน.