Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๗๔

ผมพบว่าวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราฉลาดขึ้น
คือหัดยอมรับความจริงตรงหน้า
หรือไม่ก็ศึกษาให้รู้ความจริงอย่างเป็นเหตุเป็นผล

อย่างไรก็ตาม
ความไม่รู้และความสำคัญผิดจะติดตามเราต่อไป
ตราบเท่าที่เรายังไม่รู้จริงให้ทั่วถึง
หรือยังถูกครอบงำอยู่ด้วยความเข้าข้างตัวเองบางอย่าง

เร็วๆนี้ผมเพิ่งเจอเป็นประสบการณ์ตรง
ว่าคนเราสามารถหลงตัวได้เพียงใด
และมีอะไรได้บ้างที่เป็นเครื่องสนับสนุนความหลงตัว
บางทีวิชาที่สนับสนุนให้เราศึกษาหาความจริง
เพิ่มพูนสติปัญญาความรู้ความฉลาดให้มากขึ้น
ก็อาจแปรเป็นเครื่องครอบงำใจให้หลงคิดอะไรเลยเถิด
เห็นตัวเองยิ่งใหญ่เกินจริงไปได้อย่างเหลือเชื่อ

เรื่องมีอยู่ว่าผมได้รู้จักกับนักเทคนิคคอมพิวเตอร์คนหนึ่ง
ซึ่งเขากับทีมงานกำลังศึกษาวิจัย
เกี่ยวกับเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกระจาย
(Distributed Computing)
มาสร้างเป็นปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence)
จุดมุ่งหมายโดยสรุปคือ
สร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ระดับโลก
ขึ้นทำเทียมเลียนแบบปัญญาเหนือมนุษย์
ซึ่งในความรับรู้ของเขาก็คือพระเจ้าตามคัมภีร์ไบเบิ้ล

วิธีพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์มีความสามารถเทียบเท่าพระเจ้า
ก็คือจำลองจักรวาลขึ้นมาทั้งจักรวาล
โดยอาศัยซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ที่สามารถคำนวณระดับ ๑๐ ยกกำลัง ๑๒๐ บิตต่อวินาที
บนหน่วยความจำขนาด ๑๐ ยกกำลัง ๑๒๐ บิต

ขอให้เข้าใจว่าตรงนี้เขาไม่ได้ทำกันเล่นๆ
แต่เอาจริงเอาจังอย่างจะให้เป็นรูปธรรม
ไม่ใช่แค่เพื่อให้เกิดความเข้าใจจักรวาลอย่างที่มันเป็น
แต่เน้นสร้างจักรวาลขึ้นมาอีกจักรวาลหนึ่ง
ถ้าสำเร็จก็แปลว่ามนุษย์สามารถสร้างปัญญาเทียม
ที่มีระดับเทียบเท่ากับปัญญาของพระเจ้า
เมื่อใดสร้างได้ ก็แปลว่าไม่มีอะไรที่ปัญญาเทียมนั้น
จะคิดไม่ออกหรือให้คำตอบเราไม่ได้
และที่สำคัญคือถ้าทำสำเร็จ
ก็จะยืนยันได้ถึงความไม่มีพระเจ้า

ประเด็นคือเมื่อวิทยาการก้าวล้ำไปถึงจุดหนึ่ง
ที่มนุษย์กลุ่มหนึ่งเห็นทางจำลองจักรวาลขึ้นมาได้
ก็ก่อให้เกิดความปักใจเชื่อจริงๆว่าพวกเขา
สามารถทำตัวเป็นพระเจ้าได้
เข้าใจอะไรๆเกี่ยวกับจักรวาลได้หมดแล้ว

ความรู้สึกนึกคิดของคนกลุ่มนี้
แสดงตัวผ่านร่องรอยทางคำพูด
ที่ออกไปในทางดูถูกคนทั้งโลก
และทำตัวเป็นผู้พิพากษาใหญ่
ชี้ว่าใครคิดผิดใครคิดถูกโดยไม่เกรงใจหน้าไหน
ตลอดจนรู้สึกว่าตนรู้ทั่วถึงถูกต้องอยู่คนเดียว

นับว่าน่าตกใจครับที่วิทยาศาสตร์
อาจพาให้คนอาการหนักได้ขนาดนั้น
ขอให้คุณนึกถึงมนต์สะกดอะไรสักอย่าง
ที่สะกดจิตให้ใครสักคนหลงเชื่อไปว่าตนเองเป็นพระเจ้า
และคนๆนั้นจะไม่มีทางคลายจากมนต์ได้เลย
เพราะเมื่อใดติดอยู่ในมนต์ดังกล่าวแล้ว
ทั่วทั้งจักรวาลก็ปรากฏแต่สิ่งมีชีวิตเล็กจิ๋ว
หาใครไปเทียบเทียมเขาไม่ได้ เตือนเขาไม่ได้อีก

ผมไม่ได้คุยกับเขาด้วยเรื่องทางศาสนา
แต่เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมอภิปราย
ก็ซักถามตามที่น่าจะเป็นประเด็นให้ถาม เช่น

๑) ถาม - คุณจะสร้างจิตขึ้นมาอย่างไร?

ตอบ - จิตคือสมอง สมองคือจิต
ถ้าสร้างเครือข่ายประสาทเทียมขึ้นมาเทียบเท่าสมอง
ก็หมายความว่าสร้างจิตขึ้นมาแล้ว

๒) ถาม - สมองไม่น่าจะใช่จิต
เพราะตอนที่คุณรัวนิ้วพิมพ์ข้อความเร็วๆ
สัญญาณไฟฟ้าจากสมองก็ส่งมาไม่ทันความเร็วของนิ้วแล้ว
แล้วอะไรเป็นตัวสั่งนิ้วอยู่ล่ะ?

ตอบ - ความจำของกล้ามเนื้อ (muscle memory) ไงล่ะ

๓) ถาม - ถ้าในทางกอล์ฟหรือการออกกำลัง
ความจำของกล้ามเนื้อเป็นศัพท์เทคนิคที่อาจเข้าใจได้
แต่ในเรื่องการพิมพ์
ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความคิดในสมองออกมาเป็นกลุ่มคำ
อันมีความหลากหลายซับซ้อนและแตกต่างไปอยู่ตลอดเวลา
จะเอาส่วนไหนของประสาทกล้ามเนื้อมาจำ?

ตอบ - เอาเป็นว่ามันเป็นสิ่งที่ทำความเข้าใจได้ถ้าเราจะทำความเข้าใจ
อย่าหลงไปเชื่อเรื่องลึกลับ ขอมองให้เป็นวิทยาศาสตร์เข้าไว้
เดี๋ยวมันก็มีคำตอบไปเอง
อีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการจำลองจักรวาลเลย

๔) ถาม - แปลว่าคุณต้องการจำลองจักรวาลที่ไร้จิตใจ?

ตอบ - เราใส่ "อารมณ์" หรือความชอบชังให้ชีวิตจำลองก็ได้
อย่างถ้าจะสร้างเกมมาริโอ้
เราเพิ่มความสงสัย ความหนักใจ ความตื่นเต้น ความสมหวัง
ให้กับตัวเล่นได้ไม่ยากเลย

๕) ถาม - การรับรู้เป็นความสามารถขั้นพื้นฐานของชีวิต
ต่างกันกับ "อารมณ์จำลอง" ซึ่งเรากำหนดขึ้นมาให้กับชีวิตจำลอง
เราจะเลียนแบบจักรวาลได้อย่างไรถ้าขาดการรับรู้ในจักรวาลนั้น?

ตอบ - มุมมองของคุณจะออกแนวลึกลับ จับต้องไม่ได้
วิทยาศาสตร์จะตอบโจทย์ให้กับมุมมองที่จับต้องได้เท่านั้น

๖) ถาม - ในการสร้างจักรวาลใหม่เลียนแบบจักรวาลเก่า
เราหลีกเลี่ยงสิ่งลึกลับไม่ได้
จักรวาลที่เรารู้จักอยู่นี้ ที่เราจับต้องได้จากการแผ่รังสี
วัตถุที่มองเห็นได้มีส่วนอยู่แค่ ๔%
นอกนั้นเป็นสสารมืด (dark matter) ๒๒%
และพลังงานมืด (dark energy) ๗๔%
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่มืดๆไม่แผ่รังสีนั้นคืออะไร เกิดจากอะไร
ทราบแต่จากหลักฐานต่างๆว่าพวกมันมีอยู่จริงเท่านั้น
อย่างนี้คุณจะจำลองจักรวาลที่ไม่ลึกลับ
เลียนแบบจักรวาลที่ลึกลับอย่างไรได้?

ตอบ - เราเข้าใจสสารมืดดี ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจทั้งหมด
แต่เราก็จำลองมันได้

๗) ถาม - ทุกวันนี้ยังถกเถียงกันไม่จบ
ว่าก่อนเกิดบิ๊กแบงก์ ก่อนกำเนิดจักรวาล
ก่อนที่จะมีเวลาและอวกาศ
มันมีหรือไม่มีอะไรอยู่กันแน่
คุณจะให้ความรู้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ถึงจุดเริ่มต้นของจักรวาลได้อย่างไร?

ตอบ - เราเข้าใจเรื่องบิ๊กแบงก์ดี
เอาอย่างนี้ เราไม่ได้จะจำลองละเอียดลึกลงไปถึงอะตอม
แต่เรากำลังจะจำลองจักรวาล
คุณต้องมองเห็นภาพเดียวกับเราให้ได้ก่อน

---

สิ่งที่ผมไม่ได้กล่าวต่อคือข้อสรุปว่าเขา
ซึ่งเป็นนักเทคนิคทางไอทีระดับโลกคนหนึ่ง
สำคัญว่าตนเองมีปัญญาเทียบเท่าผู้สร้างจักรวาลแล้ว
และไม่จำเป็นต้อง "เห็นด้วย" หรือ "เข้าใจ" ผู้สร้างทั้งหมด
เอาเป็นว่าถ้าจะท้าทายความสามารถของมนุษย์ว่าสร้างจักรวาลได้ไหม
เขาจะยืดอกตอบด้วยความภาคภูมิใจทันทีว่า "ได้!"

นี่คือส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่หัวเด็ดตีนขาด
จะไม่ยอมเชื่อว่าจักรวาลเป็นอะไรอื่นมาไปกว่าเครื่องจักรกล
ที่ผ่านมาผมเคยเยี่ยมๆมองๆ พูดคุยกับหลายกลุ่มมาแล้ว
และยังต้องคุยกับคนอีกหลายกลุ่มต่อไป
เพื่อมองหาแนวทางที่เหมาะที่สุด
ที่จะใช้ HowfarBooks ในการเข้าถึงกลุ่มคนต่างประเทศ
ดังประกาศเจตนารมณ์ไว้แต่วันแถลงข่าวจัดตั้งสำนักพิมพ์

วันนี้ผมเห็นช่องทางเหมาะที่สุด
คืออาศัย
http://twitter.com/howfarbooks
ในการแปลวาทะคำคมจาก
http://twitter.com/dungtrin
ซึ่งเป็นแง่คิดเกี่ยวกับชีวิต
ที่ทุกคนน่าจะรับได้โดยไม่ต่อต้าน
ไม่ว่าจะฝักใฝ่วิทยาศาสตร์หรือศาสนาอื่นใด
หากมีเพื่อนชาวต่างประเทศที่บอกว่าสนใจพุทธศาสนา
ก็ขอฝากบล็อกใหม่นี้ไว้ด้วยแล้วกันนะครับ

ดังตฤณ
สิงหาคม ๕๒


• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ

เป็นเด็กภาวนาได้ไหม? และต้องเริ่มอย่างไร
ร่วมฝึกภาวนาไปพร้อมกับเด็กๆ ได้
ที่คอลัมน์ "ธรรมะจากพระผู้รู้" ค่ะ _/\_

"สัพเพเหระธรรม" ขอเอาใจนักเล่นเกม
ด้วยการแนะนำเทคนิคการเล่นเกมชีวิตแบบฉลาดๆ
โดย "คุณวิทวัชร์" ในตอน "เริ่มที่หนึ่ง จบที่ศูนย์" ค่ะ

พักสายตาชมภาพสวยแฝงข้อคิดสำหรับนักภาวนา
กับภาพชุด "ชีวิตนักปฏิบัติ" โดย "คุณคำกลาง"
ที่คอลัมน์ "รูปชวนคิด" ค่ะ

ใครที่เคยคิดว่าการมีสมบัติมากจะนำความสุขมาให้
อ่าน "เรื่องสั้น" ของ "คุณธีระวัฒน์" แล้วอ่านเปลี่ยนใจ
"เรื่องของลุง" จะเปลี่ยนความคิดเราได้อย่างไร
ติดตามได้ในฉบับค่ะ

"แง่คิดจากหนัง" ขอเปลี่ยนบรรยากาศพูดถึงหนังการ์ตูนกันบ้างนะคะ
หลายท่านที่เคยติดใจกับ "รถด่วนอวกาศ กาแล็กซี่ 999" เมื่อสิบกว่าปีก่อน ;-)
ครั้งนี้คงได้หายคิดถึง เพราะ "คุณอิกคิว" ได้นำบรรยากาศนั้นกลับมาอีกครั้ง
พร้อมแง่คิดดีๆ เช่นเคยค่ะ

• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ

  • เสาร์ที่ ๘ สิงหาคมนี้ ใครอยากทราบรายละเอียดของ "คู่มือกรรมพยากรณ์"
    ติดตามได้ในรายการ
    "ดังตฤณ Talk" ที่ http://goodfamilychannel.com/ ค่ะ
    พบกับคำถามและคำตอบที่น่าสนใจ เช่น
    "จะใช้ชีวิตคู่ให้กลายเป็นคู่แท้ของกันและกันอย่างไร",
    "ทำกรรมไม่ดีไว้กับแม่ตั้งแต่เด็ก ตอนนี้กรรมตามทันแล้ว ต้องทำอย่างไรดี"
    และอีกหลายคำถามที่น่าสนใจค่ะ ^^*
  • วันแม่ ๑๒ สิงหาคมปีนี้ ใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน
    พบกันที่สถาบัน enconcept เวลา ๑๔.๓๐ - ๑๖.๓๐ น.
    ร่วมงานเสวนาในหัวข้อ
    "ธรรมะที่ลูกพึงมีเพื่อแม่"
    โดย ครูพี่แนน จากสถาบัน enconcept และครูพี่ซุป จากซุปเคเซ็นเตอร์
    พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ พี่ตุลย์ ดังตฤณ ค่ะ _/\_
    เสียงหัวเราะและน้ำตาแห่งความรู้คุณจะผสมกันได้อย่างไร
    ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นนะคะ ^^*
    ท้ายรายการ ร่วมกราบขอขมาและแสดงความระลึกในพระคุณแม่พร้อมกันค่ะ
    พิเศษสุด คุณแม่ที่จูงคุณลูกมาเรียนในวันหยุดพิเศษเช่นนี้
    รับสิทธิพิเศษแบบ VIP ทุกท่านค่ะ

    แผนที่ :
    http://i605.photobucket.com/albums/tt133/Yaowalak_K/15430ec1.jpg

• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •

พบกันใหม่พฤหัสหน้ากับฉบับ Lite ที่ http://www.dlitemag.com
สวัสดีค่ะ