อย่าไปโมโหเขา
อย่าโมโหคนอื่นที่นินทาคุณ
ถ้าไม่รู้สึกว่าคุณนินทาคนอื่นเป็นเรื่องน่าโมโห!
ยอมรับเถอะ ตอนเราพูดเรื่องไม่ดีของคนอื่น
จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เป็นไร
หรือกระทั่งเป็นเรื่องน่าให้พูด
เขาหรือเธอสมควรโดนต่อว่าลับหลังแล้ว
วงเล็บว่าอย่าให้เจ้าตัวรู้ก็แล้วกัน
รู้ๆกันว่าเจ้าตัวคงหน้าหงิกแน่
ถ้าไปรู้มาว่าเราโดนใครเล่นงานเอา
ด้วยคำอันมีมูลบ้าง ด้วยคำอันไม่มีมูลบ้าง
เราเองคงใจแป้ว และไม่มีทางแกล้งรู้สึกดีได้
ฉะนั้น ก็ลองนึกถึงความสนุกของคนเม้าท์เรา
เราเคยสนุกปากกับการเม้าท์คนอื่นอย่างไร
ก็ความรู้สึกเดียวกัน
กับที่เขายำใหญ่ใส่สารพัดพริกเกี่ยวกับเรื่องของเรา
แล้วในที่สุด เราจะเข้าใจครับโลกธรรม ๘ เป็นอย่างนี้เอง
ต้นกำเนิดมันมาจากความชอบความชัง
ความได้อย่างใจหรือไม่ได้อย่างใจ
ความรู้สึกว่าไม่เป็นไรถ้าจะชมหรือด่าใครเขา
คนถูกสรรเสริญอย่างเดียวไม่มี
ว่าไปแล้ว เสียงสรรเสริญนั่นแหละ
แม่เหล็กดึงดูดเสียงนินทาชั้นดีเลย
มีใครได้รับการยกย่องที่ไหน
ย่อมต้องมีความหมั่นไส้หรือริษยาจากคนไม่คุ้นเคย
ขณะเดียวกัน มีใครถูกรุมสะกรัมอย่างไม่เป็นธรรมที่ใด
ก็ย่อมมีใครสักคนสงสารคิดอยากช่วย
มองดีๆจะเห็นว่าทั้งคำสรรเสริญและคำนินทา
แท้จริงแล้วเป็นของกลวง ว่างเปล่าจากแก่นสาร
พลิกไปตามอารมณ์ชอบชังของใครต่อใครตามสถานการณ์
ถ้าจะยินดีหรือยินร้ายให้หมด
ก็คงเหน็ดเหนื่อยน่าดูชม
ต่อเมื่อเข้าใจเสียได้ว่ามันเป็นของว่าง ของกลวง
ก็จะปล่อยผ่าน ไม่ต่างจากเราเป็นต้นหญ้า
และเสียงนินทาเป็นสายลมแสงแดดครับ
ดังตฤณ
สิงหาคม ๕๕
ถ้าไม่รู้สึกว่าคุณนินทาคนอื่นเป็นเรื่องน่าโมโห!
ยอมรับเถอะ ตอนเราพูดเรื่องไม่ดีของคนอื่น
จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เป็นไร
หรือกระทั่งเป็นเรื่องน่าให้พูด
เขาหรือเธอสมควรโดนต่อว่าลับหลังแล้ว
วงเล็บว่าอย่าให้เจ้าตัวรู้ก็แล้วกัน
รู้ๆกันว่าเจ้าตัวคงหน้าหงิกแน่
ถ้าไปรู้มาว่าเราโดนใครเล่นงานเอา
ด้วยคำอันมีมูลบ้าง ด้วยคำอันไม่มีมูลบ้าง
เราเองคงใจแป้ว และไม่มีทางแกล้งรู้สึกดีได้
ฉะนั้น ก็ลองนึกถึงความสนุกของคนเม้าท์เรา
เราเคยสนุกปากกับการเม้าท์คนอื่นอย่างไร
ก็ความรู้สึกเดียวกัน
กับที่เขายำใหญ่ใส่สารพัดพริกเกี่ยวกับเรื่องของเรา
แล้วในที่สุด เราจะเข้าใจครับโลกธรรม ๘ เป็นอย่างนี้เอง
ต้นกำเนิดมันมาจากความชอบความชัง
ความได้อย่างใจหรือไม่ได้อย่างใจ
ความรู้สึกว่าไม่เป็นไรถ้าจะชมหรือด่าใครเขา
คนถูกสรรเสริญอย่างเดียวไม่มี
ว่าไปแล้ว เสียงสรรเสริญนั่นแหละ
แม่เหล็กดึงดูดเสียงนินทาชั้นดีเลย
มีใครได้รับการยกย่องที่ไหน
ย่อมต้องมีความหมั่นไส้หรือริษยาจากคนไม่คุ้นเคย
ขณะเดียวกัน มีใครถูกรุมสะกรัมอย่างไม่เป็นธรรมที่ใด
ก็ย่อมมีใครสักคนสงสารคิดอยากช่วย
มองดีๆจะเห็นว่าทั้งคำสรรเสริญและคำนินทา
แท้จริงแล้วเป็นของกลวง ว่างเปล่าจากแก่นสาร
พลิกไปตามอารมณ์ชอบชังของใครต่อใครตามสถานการณ์
ถ้าจะยินดีหรือยินร้ายให้หมด
ก็คงเหน็ดเหนื่อยน่าดูชม
ต่อเมื่อเข้าใจเสียได้ว่ามันเป็นของว่าง ของกลวง
ก็จะปล่อยผ่าน ไม่ต่างจากเราเป็นต้นหญ้า
และเสียงนินทาเป็นสายลมแสงแดดครับ
ดังตฤณ
สิงหาคม ๕๕