จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๒๗
อคติ
อคติเป็นอาการที่จิตเอียงข้างกะเท่เร่
มองไม่เห็นคนอย่างที่เขาเป็น
แต่เห็นเขาอย่างที่เราคิด
และถ้ามองอะไรด้วยอคติ
คุณก็แทบไม่มีทางพูดถึงสิ่งนั้นด้วยเหตุผล
อคติมีรากหรือที่ยืนเป็นรักเกินไป
เกลียดเกินไป ไม่รู้แล้วอยากแสดงว่ารู้
หรือกลัวจนขลาดเกินกว่าจะแสดงออก
ความคิดและคำพูดที่ยืนพื้นอยู่บนอะไรที่ "เกินไป" เหล่านี้
นับเป็นอคติได้ทั้งสิ้น
ทุกคนรู้ว่าอคติเป็นสิ่งไม่ดี
แต่ขณะเดียวกันก็อดมีไม่ได้
เนื่องจากอคติเปรียบเสมือนเงาดำติดตัวมาแต่ไหนแต่ไร
จะให้สลัดทิ้ง หรือสั่งตัวเองว่าจงอย่าเกิดอคติอีกเลย
ก็คงเป็นไปไม่ได้
เอาแค่วิธีตีค่าใครให้ตรงตามที่เขาเป็น
เราก็บวกลบคูณหารตามความชอบใจส่วนตัวเข้าไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
และความจริงประจำโลกนี้ก็ตลกดีครับ
มนุษย์รักที่จะตัดสินคนอื่นด้วยอคติ
แต่เอาเป็นเอาตายเรียกร้องให้คนอื่นตัดสินตนด้วยความเป็นธรรม
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาช้านาน และจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปไม่สิ้นสุด
เมื่อเกิดอคติ คุณไม่มีทางหยุดคิดทันที
แต่มีทาง "รู้สึกถึงเงาดำของอคติ" ได้ทันใด
เมื่อรู้สึกได้ถึงเงาดำ ก็จะเห็นว่าดำมากหรือดำน้อย
เวลาผ่านไปก็จะรู้สึกว่ามันไม่มากไม่น้อยเท่าเดิม
นั่นแหละ จะค่อยคลายคืนความรู้สึกยึดมั่นในอคติเสียได้
พอจับได้ไล่ทัน
เห็นบทบาททางความคิดอันเป็นเงามืด
อันเกิดจากความรักมากไป เกลียดมากไป
ไม่รู้มากไป ตลอดจนกลัวมากไป
จิตคืนสู่ความเป็นกลางอย่างมีเหตุผล
รับฟังทุกสิ่งด้วยใจปลอดโปร่ง
อคติก็หายไปเกินครึ่งหรือทั้งหมดได้จริงๆครับ
ดังตฤณ
สิงหาคม ๕๔
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ
ใครที่สงสัยเรื่องชาตินี้และชาติหน้าว่าเชื่อมโยงกันอย่างไร
“คุณดังตฤณ” ได้ตอบไว้คอลัมน์ "ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ”
ตอน “อะไรเชื่อมโยงชีวิตในชาตินี้กับชาติหน้า”
“คุยกันเรื่องกรรม ตอนที่ ๔” จากคอลัมน์ “เพื่อนธรรมจารี”
ฉบับนี้ “คุณงดงาม” ได้เสนอวิธีพิจารณาแก้ไขปัญหาชีวิต
ใครที่กำลังมีเรื่องให้ขบคิดจนหนักใจ คลิกอ่านได้เลยค่ะ
เรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่เราสามารถเรียนรู้จากสิ่งนั้นได้เช่นกัน
ดังที่ “คุณ aston27” บอกเล่าไว้ใน “ธนาคารความสุข”
ตอนที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า “เข็มขัดสั้น” ค่ะ (^__^)
พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^__^)