Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๒๖

คำตอบใน facebook

dungtrin"คำตอบใน facebook"
เป็นหนังสือเล่มล่าสุดของผม
ที่คุณจะได้เห็นวางแผงพร้อมกันทั่วกรุงเทพฯ
โดยมีซีเอ็ดเป็นผู้จัดจำหน่าย
ก่อนจะกระจายออกต่างจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ
ในวันศุกร์ หรืออย่างช้าวันเสาร์ครับ
ตามร้านหนังสือทั่วไปก็น่าจะเห็น

ถ้าจะให้คนยุคไอทีอยากอ่านหนังสือเล่มไหน
หนังสือเล่มนั้นต้องเร้าใจและได้คำตอบที่ต้องการ
หนังสือดารา ต้องเผยความลับที่คนอยากเมาท์
หนังสืออาหาร ต้องมีสูตรทำง่ายอร่อยจริง
หนังสือเลี้ยงลูก ต้องทำตามแล้วลูกเป็นอัจฉริยะ
หนังสือธรรมะ ต้องอ่านแล้วเป็นสุขจากการคลายใจทันที

แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้ ผมอยากให้ไปไกลกว่านั้น
คือนอกจากจะอ่านแล้วมีความสุข
มีความยึดมั่นเหนียวแน่นน้อยลง
ยังน่าจะมีคำตอบต่อข้อสงสัยที่ทำให้วุ่นวายใจ
ตลอดจนมี "เสียง" พาทำสมาธิให้ได้ผลทุกครั้ง
หรือได้ผลบ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย

ไม่ว่าแวดวงไหนก็รู้กันหมดแล้วว่า
สิ่งที่จะเปิดใจคนได้เร็วที่สุด

คือคำถามอันเกิดจากใจเขาเอง
หากเราทำให้พุทธศาสนาอยู่ในรูปของคำตอบเรียบง่าย
โดนใจ ใช้ได้จริง ไม่ใช่อยู่ในรูปของวิชาการขึ้นหิ้ง
พุทธศาสนาก็น่าจะเข้าถึงใจของคนยุคไอทีได้ทันที

คำถามคาใจอันดับหนึ่งของชาวโลก
ก็เห็นจะไม่มีอะไรเกินเรื่องของความรัก
สิ่งที่คนถามหาจากความรักที่สุด
ก็คือเมื่อไหร่จะได้พบรักที่เป็นสุข
ชวนให้เต็มใจอยู่กับความสุขนั้นด้วยกันไปจนตาย

หาไปหามา รอมารอไป
ไม่ค่อยมีใครเจอความรักชนิดนั้นกันเสียที
รอบด้านมีแต่ข่าวหย่าร้างหรือตบตีกันหัวหูฉีก
จึงเกิดเป็นคำถามใหม่ในใจคนใกล้หมดความหวัง
คือ รักแท้มันมีอยู่จริงหรือเปล่า?
สมัยนี้ยังหวังอยู่อีกหรือว่ารักแท้จะมีจริง?

จากพุทธพจน์ พระพุทธเจ้าท่านยืนยันว่ามีจริงครับ!
รักแบบที่ยั่งยืนไปจนตาย และได้เจอกันอีกในชาติหน้า
แต่รักแท้ที่ว่านั้นไม่ใช่ลอยมาเอง ต้องไหลมาจากเหตุ
หากปราศจากเหตุอันสมควรแล้ว รักแท้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย

แล้วที่คนส่วนใหญ่เกือบร้อยทั้งร้อยหารักแท้ไม่เจอ
ก็มีเหตุผลเช่นกัน ไม่ใช่ความบังเอิญด้วย
อันนี้ผมสังเกตเอาจากความจริงที่เห็นด้วยตาเปล่านะครับ
ไม่ต้องหาหลักฐานเป็นพุทธพจน์ก็ได้

หลายคนหาเนื้อคู่ไม่เจอ เพราะมัวเฟ้นหาคนมาเอาใจ
หรือไม่ก็หาคนที่ทนตัวเองได้ตลอดไป!

ในทางปฏิบัติ ในทางความจริง คนเราหากันอย่างนี้
แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเจอ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็จ้องอยู่
ว่าจะเจอคนรูปร่างหน้าตาและฐานะถูกใจด้วย
เป็นหน้าเป็นตาในสังคมให้ได้ด้วย
แถมยอมทำตัวเป็นข้าทาสด้วย Smile
หาไปเถอะ คงมีอยู่หรอก

คำถามเกี่ยวกับความรักใน facebook
ก็คือคำถามที่เราได้ยินได้ฟังจากคนรอบข้าง
แต่พอมาเรียบเรียงตามลำดับเพื่อให้ได้คำตอบแบบพุทธ
ก็อาจเกิดมุมมองอีกแบบหนึ่งที่คุณคาดไม่ถึง

พ้นจากจุดร่วมของคำถามที่เกิดขึ้นในใจคนทั่วโลก
มาถึงคำถามสามัญของชาวพุทธ
คือชาวพุทธถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าอะไรๆเป็นไปตามกรรม
นับวันคำสอนทำนองนี้ดูเหมือนแผ่วลงทุกที
ทุกคนเคยได้ยินคำสอนนี้ แต่ไม่ค่อยมีใครย้ำให้ฟัง
เพราะคนย้ำเองก็ชักไม่ค่อยแน่ใจ
ในเมื่อเกิดมุมมองต่อต้านผุดพรายทั่วไป
นั่นคือ... ถ้ากรรมมีจริง
ทำไมทำดีไม่ได้ดี ทำไมคนชั่วยังลอยนวล?

สำหรับคำตอบของคำถามนี้ พูดยาวๆไม่มีประโยชน์ครับ
ไม่มีคำตอบยาวๆที่น่าฟังหรอก
ต้องตอบสั้นๆเป็นกลางๆตามหลักการไปก่อนว่า

ทําดียังไม่ได้ดีเพราะเคยชั่ว!
ทําชั่วยังไมได้ชั่วเพราะเคยดี!

จากนั้นจึงค่อยจาระไนกันต่อ
ให้ทราบว่าตามหลักธรรมชาติแห่งกรรมวิบาก
เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ก่อนเข้าท้องพ่อท้องแม่
แล้วก็ไม่ได้นับหนึ่งกันในท้องพ่อท้องแม่
อีกทั้งไม่ได้สิ้นสุดลงเองในโลงศพด้วย

ทั้งธรรมชาติไม่ได้พยายามให้เรารู้ตัว
ว่าที่รูปร่างหน้าตา ฐานะ สติปัญญาของเราเป็นอย่างนี้
ก็เพราะกรรมเก่าที่สะสมมานาน
ตรงข้าม ธรรมชาติจะแกล้งให้เรา "ไม่อยากเชื่อ"
โดยล้างความทรงจำของเราเกลี้ยง
แล้วก็สลับฉากดีร้ายไม่ให้เราตั้งข้อสังเกตได้ถูก
ว่าความขึ้นลงของชีวิตมันควรมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร
โยงใยกับต้นเหตุแบบไหนได้บ้าง
เปิดโอกาสให้ด้นเดาหรือวิพากษ์วิจารณ์กันตามสบาย
ว่าน่าจะเกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลบ้าง
หรือไม่ก็คงเพราะความบังเอิญ
เกิดอย่างบังเอิญ แล้วตายดับด้วยความบังเอิญเท่านั้น
ใครอยากว่าอย่างไร ธรรมชาติจะไม่ลุกขึ้นมาคัดค้านเลย

แม้แต่หมอทำคลอดที่เอาเด็กออกจากท้องทุกวัน
ก็ไม่ทราบว่าทำไมเด็กจึงมาเกิดกับพ่อแม่คู่นี้ วันเวลานั้น
และแม้แต่สัปเหร่อเก็บศพที่เอาคนตายไปเผาวันละหลายครั้ง
ก็ไม่ทราบว่าที่กลายเป็นขี้เถ้า เขาเหล่านั้นพากันไปไหนบ้าง

ต่อเมื่อเราเอาข้อสงสัย "ระหว่างมีชีวิต" หลายๆข้อมารวมกัน
แล้วอาศัยคำตอบแบบพุทธมาปะติดปะต่อเรื่องราว
จึงค่อยเกิดความเข้าใจเป็นเค้าเป็นเงาได้ว่า
ไม่มีสิ่งใดบังเอิญ มีแต่เหตุผลที่เราไม่รู้
กำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตา

สุดท้าย... คำถามสามัญของทั้งชาวโลกทั่วไป
คือทำอย่างไรจะเลิกฟุ้งซ่าน
ทำอย่างไรจะไม่ปล่อยให้ความโกรธบงการชีวิต
ทำอย่างไรจะสงบอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายในหน้าที่การงาน
หรือพูดง่ายๆว่า "จะอยู่ในโลกร้อนอย่างไรให้ใจเย็น?"

ถามอีกแบบก็ได้ นิพพานขณะยังมีชีวิตเป็นเรื่องจริง
หรือเป็นแค่คำปลอบที่พิสูจน์ไม่ได้?
ถ้านิพพานมีจริง จะทำอย่างไรให้เข้าถึงก่อนตาย?
ในหนังสือ "คำตอบใน facebook" นี้
คุณอาจต้องฉงนว่าคำถามเกี่ยวกับการเข้าถึงนิพพาน
เริ่มต้นจากอะไรง่ายๆที่คนเราขอกันอยู่ทุกวัน เช่น
เครียดจัง ทำยังไงดี?
แค้นจัง กรวดน้ำให้สิบตุ่มยังไม่หายอีกหรือนี่?
ไม่มีสมาธิเล้ย จะสอบอยู่พรุ่งนี้แล้ว ทำไงให้เกิดสมาธิได้?
อยากไปปฏิบัติธรรม ทำไงจะเปลี่ยนที่ทำงานให้เป็นวัด?
ฯลฯ

ผมเกิดไอเดียรวมคำตอบเกี่ยวกับความรัก
วิบากกรรม และนิพพาน ไว้ในเล่มเดียวกัน
หลังจากพูดคุยทางเฟสบุ๊คกับคุณๆได้พักหนึ่ง
และรู้สึกว่าเป้าคำถามไม่ได้เจาะจงจุดใดจุดหนึ่ง
คำถามคำตอบไม่ได้เป็นความแปลกแยกจากกัน
ทุกคนอิ่มใจกับคำตอบอันครอบจักรวาลของพุทธศาสนาได้

เพื่อให้หนังสือออกมาดูดีที่สุด
เข้ากับแนวคิดสื่อสารในแบบเห็นหน้าเห็นตา
ทั้งคนถามและคนตอบในเฟสบุ๊ค
ผมเลือกใช้กระดาษอาร์ตมัน สี่สีทั้งเล่ม
เพื่อให้รูปและสีสันออกมาสดแจ่ม สวยกว่าดูจากจอคอมพ์
เติมเต็มให้ทุกคำถามดูมีค่าเสมอกันหมด
ในส่วนของคำตอบ
จะเป็นแบบที่ผ่านการกลั่นกรองให้เหลือหน้าเดียว
ด้วยวิธียิงตรงประเด็นแบบให้ได้คำตอบในเวลาสั้นที่สุด
แต่ขณะเดียวกันก็เรียบเรียงคำถามเป็นเรื่องราวต่อกัน
เช่น คำถามเกี่ยวกับความรักที่เกิดจากบุญกรรม
ความรักที่ผิดหวัง ความรักที่ผิดธรรมดา
ตลอดจนการทำความรักชั่วคราวให้เป็นความรักถาวร
ทุกแง่มุมของความรักถูกตีแผ่ด้วยคำตอบ
ซึ่งนำมาร้อยเรียงเป็นเปลาะๆผ่านคำถามของหลายๆคน

และที่พิเศษคือสำหรับส่วนของ "นิพพานมีจริง" นั้น
ผมได้ขยายผลให้เลยขอบเขตตัวหนังสือออกไปเป็นเสียง
กล่าวคือแทนการเขียนบอกวิธีทำสมาธิ
แผ่เมตตา และเดินจงกรมตามปกติในหน้ากระดาษ
ผมได้บันทึกเสียงบอกเป็นแนวทางตามลำดับ
ชนิดฟังแล้วทำตามได้ทันที
แก้ปัญหาของผู้เริ่มฝึกส่วนใหญ่
ที่หลับตาแล้วหลงเข้าป่าแห่งความฟุ้งซ่านกันหมด
หรือพอเข้าทางเดินจงกรมก็จับจด
จดๆจ้องๆไม่ทราบว่าเขาเดินกันอย่างไรแน่

เพื่อความเข้าใจและเกิดความมั่นใจ
ที่จุดเริ่มต้นผมได้บอกกล่าวจุดประสงค์
จะได้เป็นการทบทวนกันทุกครั้ง
ว่าเรานั่งสมาธิกันไปเพื่ออะไร แผ่เมตตาไปทำไม
ผลของการเดินจงกรมที่เราจะเอาไปต่อยอดใช้งานได้จริงนั้น
ต้องมีลักษณะของจิตแบบไหน
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะต้องการนั่งสมาธิเพื่อคลายเครียด
หรือต้องการสร้างสมความพร้อมจะอ่านหนังสือเตรียมสอบ
หรือคิดเอาไปเจริญสติเพื่อเห็นกายใจเพื่อความเป็นที่สุดทุกข์
ก็จะไม่หลงทิศหลงทาง หรือฝึกไปแล้วไม่เข้าใจวิธีใช้

ที่เหลือมีอะไรก็เข้าไปคุยกันนะครับ

http://facebook.com/AskDungtrin

ดังตฤณ
สิงหาคม ๕๔

editor-126 facebook


~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินการพูดถึงสัตว์บางจำพวกว่าไม่มีวิญญาณ
เท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น คุณดังตฤณมีคำอธิบายในคอลัมน์ "ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ
ค่ะ

ส่วนใครที่ชอบเรื่องราวแนวสืบสวนสอบสวน
ขอเชิญร่วมตามสืบพฤติกรรมน่าสงสัยของใครบางคน
ใน รถเข็นคันนั้น จะมีอะไรซ่อนอยู่
พบคำตอบสุดท้ายจากจากคุณธีระวัฒน์ ในคอลัมน์ เรื่องสั้นอิงธรรมะ ฉบับนี้นะคะ

ฝนตกติดต่อกันหลายวัน มีใครป่วยบ้างไหมคะ 
คอลัมน์ ธนาคารความสุข ฉบับนี้
คุณ aston27 มีธรรมะเพื่อคนป่วยมาฝาก ในตอน ธรรมะจากความป่วยไข้ ค่ะ

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^__^)