Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๑๖

โลกกำลังจะแตกหรือ?


dungtrinผมรู้สึกเสียใจกับภัยพิบัติของชาวญี่ปุ่นไม่น้อยกว่าทุกคน
ขอไว้อาลัยด้วยการระลึกถึงบุญกุศลที่ทำมาเท่าที่จะนึกออก
และอธิษฐานให้ความสว่างแห่งบุญ
อันปรากฏในห้วงมโนทวาร จะมีประมาณใด
ขอเจาะจงอุทิศให้ผู้ล่วงลับทั้งหมดทั้งสิ้น

ความสะเทือนของแผ่นดินญี่ปุ่นครั้งนี้
นับเป็นความสะเทือนใจของคนทั่วโลกพร้อมกัน
อาจจะเป็นเพราะญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญที่ผู้คนรู้จักดี
มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเคยผ่านไปเยือนมาแล้ว
หรืออาจจะเป็นเพราะภาพชวนสลดที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
เห็นว่าภัยจากน้ำและไฟล้างเมืองน่าสยดสยองเพียงใด
หรืออาจจะเป็นเพราะเพิ่งเกิดแผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์มาไม่นาน
ชวนให้หวั่นใจกันว่าครั้งหน้าจะเป็นที่ใดอีก

ห้วงแห่งการนึกถึงความเป็นไปได้ที่จะตาย
เข้ากันได้ดีกับการฝึกความเป็นพุทธ
เพราะพุทธเราสรรเสริญการเตรียมความพร้อมที่จะตาย
และติเตียนความประมาท นึกอยู่ว่าจะมีชีวิตเรื่อยๆร่ำไป

พุทธเราสรรเสริญจิตที่ผ่องแผ้ว
เพราะย่อมเป็นเหตุให้ตายสว่าง ขึ้นไปสู่สุคติ
คือมีมนุษยภูมิ เทวภูมิ และพรหมภูมิเป็นที่หวังได้
กับทั้งติเตียนจิตที่เศร้าหมอง
เพราะย่อมเป็นเหตุให้ตายมืด ไหลลงสู่ทุคติ
คือมีนรกภูมิ เดรัจฉานภูมิ และเปรตภูมิเป็นที่เหมาะสม

ชาวพุทธและศาสนิกชนในศาสนาต่างๆ
ที่มีศรัทธาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
นับว่าได้เปรียบคนไร้ศาสนา
เพราะในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม เจียนอยู่เจียนตาย
ย่อมเกิดความอบอุ่นใจ
สามารถระลึกถึงบุญกุศลที่ทำมา
หรือนึกถึงศาสดาอันเป็นที่ตั้งของศรัทธาเฉพาะตน
ได้ด้วยความมั่นคงแห่งใจ
ไม่ใช่นึกอะไรไม่ออก เคว้งคว้าง และหวาดกลัวท่าเดียว
คำว่า "แค่มั่นใจในตัวเองก็พอแล้ว" ที่ท่องมาทั้งชีวิต
ดูเหมือนเอาไปใช้ตอนใกล้ตายไม่ได้เลยสำหรับคนไร้ศาสนา

สรุปคือถ้ามีศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญา
คุณไม่ต้องกลัวตาย ไม่ต้องหวาดผวาว่าภัยจะมาถึงตัวเมื่อไร
แต่หากขาดศรัทธา ก็ควรเร่งหาไว้ก่อนสาย

คราวนี้มาคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้
เราคงได้ยินเสียงแห่งความตื่นภัยจากรอบด้านระงมดังขึ้นเรื่อยๆ
แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่เป็นการ "เมาท์" กันตามความเชื่อ
หรือไม่ก็เจอใบสั่งอุดปาก
ไม่ใช่พูดคุยกันตามข้อเท็จจริงตามที่ควรจะเป็น

ธรรมชาติของการเมาท์นะครับ
คนรู้ครึ่งๆกลางๆ กับคนไม่รู้อะไรเลย
จะพูดจาคล้ายๆกัน คือเชื่ออย่างไรก็พูดอย่างนั้น
หวังเอาอารมณ์ร่วมเป็นหลัก
ซึ่งถ้าเล่นกันแบบนี้ล่ะก็
อย่าว่าแต่เรื่องข้างหน้าที่ยังไม่เกิดขึ้นเลยครับ
ขนาดเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
คนยังเอามาเป็นข้อถกเถียง
แสดงความเห็นหลากๆกันได้ไม่มีที่สิ้นสุด
เป็นเหตุปัจจัยหนึ่งของการบั่นทอนสติ
ไม่เป็นไปเพื่อความเจริญแห่งสติ

ตอนนี้คนในโลกมีอยู่สามพวก
พวกแรกยืนกรานกระต่ายขาเดียวไม่เชื่อเรื่องโลกแตก
แม้กระทั่งเกิดภัยพิบัติขึ้นถี่ๆที่โน่นที่นี่ในช่วงหลัง
แต่เมื่อยังมาไม่ถึงตัว
ก็จะยังคงย้ำคิดย้ำพูดอยู่ว่าไม่มีอะไรหรอก
ทุกอย่างจะเหมือนเดิม
กลุ่มนี้จะปฏิเสธทุกสิ่ง
เสียงแข็งว่าไม่ต้องเตรียมตัว ไม่ต้องเตรียมใจ
แถมไปด่าคนที่เขาอยากรับรู้ความจริงเพื่อเตรียมตัว
หาว่าโง่งมงายหรือเป็นกระต่ายตื่นตูม

พวกที่สองเชื่อเรื่องโลกแตกมากเกินไป
ไม่ว่าเกิดข่าวร้ายที่ไหน
ก็เอามาผสมกันจนกลายเป็นจินตนาการหลอนไปหมด
คล้ายทุกอย่างจะจบสิ้นในไม่กี่วันข้างหน้า
ไม่เป็นอันทำอะไร เตรียมตัวเตรียมใจไม่ถูก
เอาแต่หดหู่เศร้าหมองกัน
แม้ใครจะพยายามอธิบายว่าโลกจะยังไม่แตก
มีแต่การเปลี่ยนแปลงที่อาจไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด
ก็จะปิดกั้น ไม่รับฟังใดๆทั้งสิ้น
ปักใจยึดอยู่กับความสิ้นหวังท่าเดียว

พวกสุดท้ายคือยอมรับว่าตัวเองรู้อะไรบ้าง ไม่รู้อะไรบ้าง
พวกนี้ยังแบ่งย่อยออกไปได้อีก
คืออยากศึกษาหาข้อเท็จจริงเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจ
กับไม่ได้อยากค้นคว้าอะไรเพิ่มเติม
เพราะรู้สึกว่าตัวก็พร้อม ใจก็พร้อมจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอยู่แล้ว

คนพวกสุดท้ายนี้ ถ้ามีความเป็นนักวิทยาศาสตร์เสียหน่อย
ไม่มีใจเอียงไปทางเชื่อสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่งไว้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง
กับทั้งขยันค้นคว้าหาความจริงมานานพอ
ก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการกลับมาบอกต่อแก่เพื่อนๆได้เป็นอย่างดี

เท่าที่ผมอ่านๆมาและเข้าข่ายดังกล่าว เอาแบบไกลตัวหน่อย
น่าจะได้แก่ชาวออสเตรเลียนามว่า โรเบิร์ต บาสต์ (Robert Bast)
ซึ่งทำตัวเหมือนเหมือนพวกเราสักคน
ที่สงสัยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่
แล้วใช้เวลานับสิบปีไปรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาทั้งหมด
เพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างเป็นกลาง
ตัดเรื่องเหลวไหลทิ้ง เหลือไว้แต่เรื่องที่มีมูลมาให้อ่านกัน
แบบกระชับสั้น เอาแต่เนื้อๆ ไม่เอาน้ำ
ทุกบรรทัดให้ความกระจ่าง
คลายปมสงสัยที่มักเกิดขึ้นในใจคนที่ฟังทางโน้นทีทางนี้ทีจนสับสน
เขาเขียนเป็นหนังสือแจกฟรี
เป็นการเขียนแบบไม่ได้อวดตัวว่ารู้อนาคต
แต่ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่ารู้ปัจจัยต่างๆในปัจจุบันมากพอ
ความยาวแค่ ๑๕ หน้า แต่เนื้อหาหลักโยงใยกับคำพยากรณ์ดังๆ
ตลอดจนข้อเท็จจริงอันเป็นวิทยาศาสตร์ไว้ครบ
เป็นฐานความรู้ที่เอาไปต่อยอดได้ทันที
ข้อสรุปที่ได้หลังจากอ่านหนังสือขนาดสั้นของเขา คือ
"
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และไม่มีการทำนายใดๆบอกไว้ชัดเจน
มีแต่ความประจวบกันของคำพยากรณ์ที่ลงตัวทางเวลา และต้องตีความ"
ดาวน์โหลดได้หลังจากให้อีเมลรับลิงก์ที่
http://survive2012.com/index.php/2012-facts-ebook.html

ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์อยากร่วมกับกลุ่มที่เชื่อเรื่องมหาหายนะ
และคุยกันแบบทำนายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
เพื่อให้ได้ข้อสรุปหลังจากอ่านเนื้อหาทั้งหมด คือ
"
หลักฐานจากพิบัติภัยทางธรรมชาติหลังๆ คือลางแห่งโลกาวินาศ"
เข้าไปอ่านได้อย่างจุใจที่
http://blog.2012pro.com/
หรือแบบเป็นวิทยาศาสตร์น้อยลงที่
http://www.december212012.com
(
ข้อควรระวังคือบางกระทู้อาจเหน็บแนมพวกไม่เชื่อเรื่อง 2012
หาว่าดื้อด้าน ไม่ยอมลืมตาดูความจริงที่กำลังปรากฏต่อหน้าต่อตา)

ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์อยากด่าพวกเชื่อเรื่องโลกแตก
ยืนพื้นความคิดอยู่ที่ว่า
"2012
คงเหมือนกับอดีตคำทำนายครั้งแล้วครั้งเล่าที่เป็นหมันหมด"
ไม่ว่าจะเป็นสงครามนิวเคลียร์ 1999
คอมพิวเตอร์รวน Y2K
ตลอดจนอุกาบาตชนโลก 2003 ฯลฯ
ก็เข้าไปอ่านเพื่อความสบายใจยิ่งขึ้นได้ที่
http://www.2012hoax.org/
(
ข้อควรระวังคือเว็บนี้อาจมีเนื้อหาเอียงไปในทางกระทบกระเทียบ
ด่าทอคนเชื่อเรื่องโลกแตก 2012 ว่าหลอกง่าย โง่เง่าเต่าตุ่น)

ลิงก์ทั้งหมดที่ผมคัดมาข้างต้น ล้วนคุยกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล
ไม่ใช่เอะอะจะเชื่อๆ แบบไม่ต้องมีข้อมูลอะไรมายันกัน
อย่างน้อยก็ดีกว่าเปิดสภากาแฟเมาท์กันแบบเลื่อนลอย

แต่ถ้าไม่อยากอ่านอะไรรุงรังแบบโลกๆ
อยากรู้สึกว่าได้เตรียมตัวแบบพุทธไว้พร้อมแล้ว
ขอแนะนำหนังสือ "เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว" ฉบับ อยู่สบาย ไปสบาย
ดาวน์โหลดอ่านได้ทั้งเล่มที่
http://dungtrin.com/prepare/LiveWellToDieWell.pdf

ส่วนจินตนาการเกี่ยวกับโลกก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ขอแนะนำนวนิยายเรื่อง "จิตจักรพรรดิ"
ตอนมาเฟียพลังจิต http://dungtrin.com/EmperorMind/Vol1.pdf
ตอนลายเซ็นจักรพรรดิ http://dungtrin.com/EmperorMind/Vol2.pdf
และตอนโลกาวินาศ http://dungtrin.com/EmperorMind/Vol3.pdf

แล้วคุณคงพบในที่สุดว่าโลกภายนอกหวั่นไหวกัมปนาทขนาดไหน
จะมีผลน้อยมากหากโลกภายในของเรามั่นคงสงัดเงียบดีพอแล้วครับ

ดังตฤณ
มีนาคม ๕๔

------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ

คอลัมน์ แง่คิดจากหนังฉบับนี้ อ่านแง่คิดจากหนังสยองขวัญ
“Drag me to hell…
ใครไล่...ใครล่า…” โดย คุณทรรศศรัณย์
จะน่าตื่นเต้นขนาดไหน หาคำตอบได้ในฉบับนะคะ

จากนั้นมาเปลี่ยนบรรยากาศ อ่านนิทานเบาๆ แต่ทั้งสนุกและเรียกรอยยิ้ม
จาก
คุณวิลาศินี ที่คอลัมน์ ยารักษาใจ
ตอน
พรหมไม่ได้ลิขิต ค่ะ

คอลัมน์ ธนาคารความสุขฉบับนี้
เชิญคุณผู้อ่านร่วมสนุกด้วยการ
เติมคำในช่องว่าง ให้กับโจทย์ชีวิต
ส่วนคำเฉลยคืออะไรนั้น ถ้าอ่านจนจบ
ครู aston27” มีคำตอบให้แน่นอนค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และบ้านเรือนของประชาชนเสียหายหนัก สภากาชาดไทยและกระทรวงต่างประเทศขอเชิญชวนชาวไทยร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย รายละเอียดตามเว็บไซต์ด้านล่างค่ะ

http://www.redcross.or.th/news/information/6215

------------------------------------------------------------------------------------------------------

พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^_^)