Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๑๓

ช่วยคนอื่นแล้วตัวเองจะรอด

dungtrinช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยมีกะจิตกะใจทำอะไร
แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดมากนัก
เข้าใจว่าคงเป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยกับภารกิจต่างๆ
ตามประสาธรรมดาชาวโลกคนหนึ่งที่ต้องทำโน่นทำนี่

กระทั่งผมไปเจอกระทู้หนึ่งในเว็บนอก
เจ้าของกระทู้โพสต์ในวันที่ ๑๒ มกราคม ปีนี้
หัวข้อกระทู้ประมาณว่า
"
ฉันรู้สึกไปเองหรืออะไรๆมันผิดปกติอยู่จริงๆ"
ใจความสรุปคือเขารู้สึกอึดอัด ไม่สบาย
เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวแปลกไป
อะไรที่เคยดึงดูดใจได้ก็เหมือนหมดแรงดึงดูดไปเฉยๆ
คุยกับคนรอบตัว ทุกคนก็ให้การตรงกันหมด
ว่ารู้สึกแบบนั้นเช่นกัน

เจ้าของกระทู้ดังกล่าวอยากทราบว่าในเว็บบอร์ด
ซึ่งมีคนมาชุมนุมกันทั่วโลกนั้น
รู้สึกตรงกันบ้างหรือเปล่า
หรือจะเป็นเฉพาะเขาและคนรอบตัวละแวกใกล้
ผลปรากฏว่ามีผู้เข้ามาร่วมตอบกระทู้ท่วมท้น
ประสานกันเกือบเป็นเสียงเดียว
ว่ารู้สึกเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดใดของโลก
หลายคนรายงานว่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กับเพื่อนไปหยกๆด้วยซ้ำ
ก่อนจะมาเห็นกระทู้และเข้ามาตอบอยู่นั่น

ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตช่วยเรารายงานข้อเท็จจริง
อันเกิดขึ้นแบบโลกาภิวัตน์ได้ทันใจ
ก่อนเขียนบทความนี้
ผมสืบหาจากทวิตเตอร์โดยใช้คำค้นว่า
feel something wrong
ผลปรากฏว่ามีคนบ่นทำนองเดียวกันมากมาย
เช่น ๓ รายดังต่อไปนี้ในหน้าผลลัพธ์เดียวกัน
เวลาที่ส่งข้อความใกล้เคียงกันไม่กี่วินาที

WatercolorMush (Quinn)

Something's wrong. I feel really....empty. :/

lyssawissa (Alyssa Macias)

There's something wrong with me,
i don't know what but I just don't feel right,
I think I need to go to the doctors.

S1nfully_Sweet (.Heather.Michelle.)

I did something bad last night...
But I don't even feel bad about it.
I said it was bad, not wrong.

ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าโลกกำลังกลายเป็นแดนสนธยา
ถ้าผู้คนไม่มีกะจิตกะใจจะเคลื่อนไหว
หรือพร้อมใจกันเห็นผิดเป็นชอบ
ก็คงไม่น่าถามเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แดนสนธยาคงได้กลายเป็นแดนมิคสัญญีเท่านั้นเอง

สัญญาณอันตรายจากภัยธรรมชาตินับว่าเป็นเรื่องเล็ก
ที่ผ่านมาผมเห็นหลายสัญญาณอันตราย
คนที่ร้ายอยู่ก่อนก็ร้ายสุดขีดแบบไม่ต้องเกรงใจใคร
คนครึ่งดีครึ่งร้ายก็หันไปร้ายมากกว่าดี
คนกำลังจะดีก็ท้อแท้ไปไม่ถึงจุดหมาย
คนดีกลายเป็นคนร้าย
แม้แต่คนมีธรรมะก็ทำลายคนมีธรรมะอย่างขาดความยั้งคิด

ข่าวที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันก็กระหน่ำให้ผู้คนจิตใจย่ำแย่ลงทุกที
ไหนจะข่าวคนฆ่ากันด้วยเหตุผลเพียงเล็กน้อย
ไหนจะข่าวคนฆ่าตัวตายด้วยความน้อยใจชั่ววูบกันมากขึ้น
ไหนจะข่าวคนผิดศีลผิดธรรมโดยไม่อายฟ้าดิน
เกือบทุกข่าวมันฉุดเราให้รู้สึกแย่กันไปหมด

สื่อมวลชนครับ ทดลองดูไหม
ที่ผ่านมาคุณอาจขายข่าวไม่ได้ถ้าไม่ลงข่าวร้าย
แต่ช่วงนี้ผู้คนอาจโหยหิวข่าวดีกันมากขึ้นแล้ว
ถ้าประโคมข่าวดี ยอดขายอาจพุ่งก็ได้นะ

สภาพจิตใจคนในโลกไปถึงไหนกันแล้ว
เดี๋ยวนี้ไม่ต้องพยายามสืบค้นมากครับ
แค่หาในทวิตเตอร์จะพบคนติดใจวลีนี้กันครึกโครม...

How can something so wrong make me feel so right?

บางสิ่งกำลังเกิดขึ้นในโลกนี้
และอะไรนั้นก็กระทบกับจิตใจผู้คนโดยตรง
ผมคิดว่าเรื่องโลกแตกหรือสงครามนิวเคลียร์ดูจิ๊บจ๊อยไปเลย
คล้ายธรรมชาติไม่เพียงอยากกวาดล้างผู้คนด้วยภัยธรรมชาติ
แต่ยังไม่อยากให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์กันต่อด้วย
โดยกดดันให้ไหลลงต่ำกันไปเลย
เอาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อวาน (เสาร์ที่ ๒๙ มกราคม ๕๔)
ผมเขียนลงเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
ใจความ (ขัดเกลานิดหน่อย) มีอยู่ว่า

ช่วงเวลานี้ ถ้าคุณรู้สึกผิดปกติ
เหมือนพร้อมจะตัดสินใจผิด คิดพลาด
จุดมุ่งหมายในชีวิตพร่าเลือนไป
หรือเหมือนเห็นอะไรแปลกไปกว่าเคยในทางไม่ดี
จะเพราะสาเหตุรบกวนจากภายนอกใดๆก็ตามแต่
ให้หวนกลับไปหาสิ่งที่แน่ใจว่าถูกต้อง
และนำไปสู่จุดหมายอันประเสริฐ เช่น

๑) ทำจิตใจให้อยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
วิธีง่ายที่สุดคือเปล่งเสียงสวดอิติปิโสฯเต็มปากเต็มคำซ้ำไปซ้ำมา
จนกว่าจิตจะรู้สึกถึงความอบอุ่นสว่างไสวในแบบของพุทธ
รู้สึกถึงที่พึ่งทางใจว่าไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าพระรัตนตรัย
จนเกิดความรู้สึกมั่นคง
ที่ได้สัมผัสถึงซึ่งความเป็นพุทธ
ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้ไม่สำคัญผิด
ไม่คิดพลาดก่อบาปก่อกรรมอีกต่อไป

๒) ถ้าไม่มีแก่ใจทำดี
โดยเฉพาะท่านที่มีปัญหาเกาะกินใจคาราคาซัง
ให้เร่งทำดีกว่าที่เคยคิดได้ พูดได้ และทำได้
จะเกิดความเข้มแข็ง และรู้สึกแตกต่างในทางดีขึ้นมาบ้าง
เป็นกำลังใจและแรงหนุนให้อยากเคลื่อนไหวในทางดีได้อีก
อย่ายอมหยุดนิ่งและทอดธุระ เพราะจะทำให้จิตใจยิ่งย่ำแย่ลงไป
อย่าลืมว่าแม้แต่ดีเท่าเดิมก็ต้องเซ็งเท่าเดิม
คุณต้องดีกว่าเดิมถึงจะหายเซ็งได้

๓) เมื่อใดเกิดความรู้สึกอยากงอมืองอเท้า
อยากทอดธุระในหน้าที่การงาน
เหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก
ให้เร่งเคลื่อนไหวและลงแรงทำงานมากกว่าที่เคย
จนกว่าความรู้สึกเฉื่อยชาที่ภายใน
จะถูกแทนที่ด้วยพลังชีวิตอันเกิดจากความกระตือรือร้น
ผลประโยชน์ที่ได้ไม่ใช่เพื่องาน แต่เพื่อตัวคุณเอง

หลังจากโพสต์ข้อความข้างต้นไป
ผลก็เป็นตามคาด
คือหลายคนให้การว่ากำลังรู้สึกย่ำแย่เช่นเดียวกัน

ส่วนตัวผมเอง รู้สึกว่ากลับมาขยันกว่าเดิม
ตั้งใจทำอะไรดีๆได้มากขึ้นกว่าหลายวันที่ผ่านมา
ความรู้สึกรบกวนจิตใจให้ไม่อยากทำอะไรหายไป

ตัดสินใจนะครับว่าเกิดเรื่องผิดปกติแล้วจะเอาอย่างไร
สิ่งที่ผมเห็นประจักษ์ทันตาเห็นเดี๋ยวนี้ คือ
หนึ่ง "เคลื่อนไหวแล้วจะหายเฉื่อยชา"
อย่างน้อยที่สุดก็จะได้ไม่จมดิ่งลงสู่อาการงอมืองอเท้า
สอง "ช่วยคนอื่นแล้วตัวเองจะรอด"
อย่างน้อยที่สุดแม้ช่วยไม่ได้จริง
มันก็ทำให้คุณขึ้นจากหล่มของการอยากงอมืองอเท้า
กับทั้งไม่หาที่พึ่งอื่น
รู้สึกว่าตนเท่านั้นเป็นที่พึ่งแห่งตนได้
และไม่นึกอยากเบียดเบียนใครด้วยประการใดๆอีกแล้ว

ดังตฤณ
กุมภาพันธ์ ๕๔

------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ

คอลัมน์ แง่คิดจากหนัง ต้อนรับเดือนแห่งความรัก
ด้วยหนังรัก “ ‘Die Sterntalerเหนือกว่าคำว่ารัก’ ”
และด้วยมุมมองดีๆ จาก คุณชลนิล
หนังเรื่องนี้ก็แตกต่างจากหนังรักทั่วไปอย่างน่าทึ่งค่ะ

คอลัมน์
สัพเพเหระธรรม ฉบับนี้
อ่านเรื่องสบายๆ แต่ไม่ไร้สาระจาก คุณ Pat
ที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ ใช่สติช่วยเก็บสตางค์อย่างได้ผล
ในตอน ถ้าคุณไม่เคยมีเงินพอใช้

และคอลัมน์ ธนาคารความสุข
คุณ aston27” เก็บความสุขระหว่างการเดินทางสู่ถ้ำผาปล่องมาฝาก
ในตอน ก้าวหนึ่งก็ถึงได้ ค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^_^)