Print

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๐๒

{audio}audio/dm01_editor/dm01_102.mp3{/audio}

ทำยังไงดี - อยากดัง

dungtrin

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากดัง แต่ไม่มีใครยอมให้ความร่วมมือ ไม่ช่วยกันยอมรับว่าคุณดัง งั้นทำยังไงดี? เมื่อหาป๋าดันหรือแม่ยกไม่เจอ ก็เหลือทางเดียวคือคุณต้องช่วยดันตัวเองแล้วล่ะ ใครจะหาว่าอยากดังจนหน้ามืดก็ยอม ใครจะอยากทนเป็นคนที่ไม่มีใครจำหน้าได้ก็ช่าง คุณคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอม

การเป็นคนดัง คนพิเศษ ในสมัยนี้ ที่จะให้นึกถึงก่อนเพื่อน คือดารา นักร้อง และถ้ายิ่งเป็นได้ทั้งดาราและนักร้องที่ประสบความสำเร็จ ก็ยิ่งดังแบบถึงใจพระเดชพระคุณชาวโลกเข้าไปใหญ่

ดาราเป็นพวกที่มีรัศมีฉายจับตา ฝรั่งเรียกว่า "คาริสม่า" (charisma) เป็นที่ทราบกันว่าแก่นของรัศมีที่ดึงดูดสายตาและความสนใจจากคนอื่นได้ อยู่ที่ความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นความเชื่อมั่นชนิดสูงเกินมนุษย์ธรรมดา กระทั่งพลังความเป็นตัวตนเข้มข้นพอจะก่อกระแสแม่เหล็ก เบี่ยงเบนความสนใจใครต่อใครให้หันเหจากสิ่งอื่นมาจดจ่อกับตัวตนของเขาหรือเธอได้

พูดให้ฟังง่ายที่สุด อัตตาของคุณยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ แนวโน้มคือคาริสม่าของคุณจะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่นั่นก็เป็นข้อถกเถียงกันระหว่างคนทำวิจัย เพราะบางคนอัตตาโต มั่นใจในตนเองระดับฮิตเลอร์เรียกพี่ ก็ไม่ได้น่าสนใจ ไม่ได้สะดุตาชวนมองเสมอไป

บางครั้งคุณก็รู้สึกว่าตัวตนของคุณเข้มข้น ดึงดูดความสนใจชาวบ้านขึ้นมาได้เป็นครั้งเป็นคราวเหมือนกัน อย่างถ้าชนะเลิศในเกมการแข่งขัน หรือง่ายกว่านั้นเช่นตื่นเช้าไหนสดชื่นเป็นพิเศษ พลังความสดชื่นนั้นก็ก่อให้เกิดกระแสความเชื่อมั่นในตน เดินโฉบไปทางไหนก็เหมือนมีอำนาจชักจูงสายตาให้มาสนใจคุณได้ เป็นต้น

แต่คนธรรมดาจะมีคาริสม่าแบบกระเส็นกระสาย กะปริบกะปรอย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ส่วนดาราจะมีคาริสม่าฉายแรง เหมือนมั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าปรากฏตัวทีไร คนก็ให้ความสนใจข้าพเจ้าทุกที บ่อยเข้าก็ปักใจมั่นอยู่กับภาพที่ตนเป็นโคตรเพชร โคตรแม่เหล็กถาวร

พลังเข้มข้นในตัวจะตกแต่งให้กิริยาท่าที แววตา น้ำเสียง ตลอดจนรายละเอียดทั้งหมดดูตั้งมั่น มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่โอนเอนตามใครง่ายๆ ทุกคนต้องหันมาสนใจและพยายามเอาตามข้าพเจ้าแต่ผู้เดียว หัวใครก็ไม่น่าเห็นเท่าหัวของข้าพเจ้าเลย

นอกจากพลังความเชื่อมั่น อันเป็นคาริสม่าแล้ว รูปร่างหน้าตาก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ได้เปรียบชาวบ้าน ต่อให้ใครมีกระแสดึงดูดสายตามาจับ แต่รูปร่างหน้าตาดูตลก เตี้ยล่ำดำกร้าน คนจับตามองก็อาจจ้องไปขำไป นินทาไปด้วย ต่างกับพวกหน้าตาชวนฝันแล้วมีความมั่นใจด้วย นั่นแหละแจ้งเกิดในวงการมายากับเขาได้

สรุปคือถ้าคุณอยากดังด้วยการเป็นดาราดัง ก่อนเกิดก็จำเป็นต้องกดปุ่มเลือกกันนิดหนึ่ง ต้องสวยสุดหล่อสุดกันหน่อย หรือถ้าจะขี้ริ้วก็ขี้ริ้วบันลือโลก ชนิดเห็นแล้วขำขี้แตกไปเลย นั่นแหละถึงจะเป็นดาราได้อีกแบบ

แต่ถ้าสำรวจตัวเอง ยอมรับแล้วว่ารูปก็ไม่หล่อ พ่อแม่ไม่ค่อยให้กำลังใจ คิดการใหญ่ไม่เคยสำเร็จ แต่รวบรวมเบ็ดเสร็จแล้วยังอยากดังอยู่ดี อย่างนี้จะทำอย่างไร?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าโลกนี้ไม่มีใครฉายรัศมีจับตาได้ด้วยความอ่อนแอ คุณต้องฝึกให้ตัวเองเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง กล้าคิดกล้าทำอะไรดีๆแตกต่างจากคนอื่นโดยไม่ต้องถามใครให้แน่ใจเสียก่อน ว่าจะเอาดีไหม เริ่มเมื่อไหร่ ใครจะว่าทำตัวแปลกหรือเปล่า

ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ สมมุติว่าผู้คนเยอะแยะนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ เห็นคนตาบอดกำลังจะข้ามถนน โบกไม้เท้าขอทางข้ามจากรถราเก้ๆกังๆ ทุกคนนั่งดูกันหมดว่าจะข้ามสำเร็จไหม จะมีใครอาจหาญลุกขึ้นมาพาคนตาบอดไปสู่จุดหมายอีกฝั่ง แล้วมีคุณคนเดียวเดินอาดๆไปพาเขาข้าม แน่นอนคุณย่อมเป็นจุดรวมสายตา รัศมีที่ฉายออกมาคือฉันลุกก่อน ตัดสินใจก่อน โดดเด่นเป็นที่ชื่นชมของใครๆ

อันที่จริง กระแสความเป็นคนพิเศษฉายตั้งแต่ตอนที่คุณทําอะไรต่างจากคนอื่น เพียงแต่พิเศษนั้นมีทั้งดีเป็นพิเศษกับแย่เป็นพิเศษ เช่น คนส่วนใหญ่พอโกรธแล้วจะอยากแสดงอารมณ์ร้าย ใครกระโชกโฮกฮากได้ถมึงทึงน่ากลัวกว่า ก็น่าลำพองกระหยิ่มใจเป็นพิเศษ อย่างนี้เรียกแย่เป็นพิเศษ

แต่แค่คุณฉุกคิดว่าโกรธแล้วทําไมต้องทำหน้าบึ้ง ทำไมต้องอยากตะคอก ทำไมต้องเหมือนคนอื่น เปลี่ยนให้ต่างจากคนทั้งโลกไม่ได้หรือ? และแล้วคุณก็เลือกที่จะเป็นพวกโกรธแล้วเลือกที่จะไม่ขู่กันด้วยกิริยา ไม่ทำตากร้าวจ้องกันแทบถลน อดทนเปลี่ยนคำหยาบในหัวให้เป็นคำสุภาพไม่ระคายโสตกัน เท่านี้คุณได้ชื่อว่า "แน่" แล้ว ทำดีที่ใครๆทำได้ยากแล้ว

เมื่อกระแสของคุณเข้มข้นมากเข้า เชื้อของความเป็นคนดังจะเริ่มส่องประกาย คือสุกสว่างโดดเด่นแตกต่างจากชาวบ้านได้ สมนัยกับที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงหอมหวนเป็นที่ร่ำลือได้ ก่อนอื่นต้องอาศัย "ฐานกรรม" ที่สำคัญ คือเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ในศีล หักห้ามใจในสิ่งที่ชาวโลกทั้งหลายเขาหักห้ามกันยากนั่นเองครับ

ดังตฤณ
จากบทความ "ทำยังไงดี?"
นิตยสาร Miracle of Life ฉบับ เดือนกันยายน ๕๓


--------------------------------------------------------------

เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ

  • คอลัมน์ "แง่คิดจากหนัง" ฉบับนี้
    แฟนๆ ซีรี่ย์เกาหลีไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ^_^
    เพราะ "คุณชลนิล" มีมุมมองดีๆ จากหนังรักฉบับเกาหลีมาฝาก
    ในชื่อตอนสุดเก๋ "Pick the star - ในน้ำเน่าก็ยังมีเงาจันทร์" ค่ะ
  • คอลัมน์ "ธนาคารความสุข"
    ฉบับที่แล้ว เรายังรู้จักกับเพื่อนๆ ของคุณ "คุณ aston27" ไม่ครบนะคะ
    ฉบับนี้มาต่อกันในตอน "เพื่อนแท้ของผมและ "เรา" (ตอนที่ ๒)" ค่ะ
  • จากนั้น มาอ่านเรื่องยิ้มๆ จาก "คุณวิลาศินี"
    ที่คอลัมน์ "ยารักษาใจ"
    มาดูกันค่ะว่าความไม่เดียงสาของนกน้อย สอนอะไรเราได้บ้าง
    ในตอน "คำตอบของเกี๊ยวซ่า" ค่ะ
  • และขอแนะนำคอลัมน์ใหม่ "เพื่อนธรรมจารี"
    โดย "คุณงดงาม" นักเขียนรับเชิญจากลานธรรม 
    ฉบับนี้ ขอประเดิมตอนแรกด้วยคำถามที่หลายคนยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่พบ
    ในตอน "อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา" ค่ะ ^_^

--------------------------------------------------------------

ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ

  • ขอเชิญร่วมฟังธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วันอาทิตย์ที่ ๑๙ ก.ย. ๒๕๕๓

    ศาลาลุงชินค่ะ (^/\^)   (แผนที่)
  • เชิญร่วมบุญโครงการ "สังฆทานยาคุณภาพสูงทาง EMS ครั้งที่ ๒"
    เพื่อวัดและสำนักสงฆ์ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
    ผู้สนใจ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
    http://bit.ly/cAz2O5

--------------------------------------------------------------

พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^_^)